Chapter 79 ข้าคือตัวตนที่เจ้าไม่อาจยั่วยุได้.
“เจ้าสำนัก ศิษย์พี่หญิงใหญ่และศิษย์พี่ทุกคนกลับมาแล้ว!”
ภายในสำนักไท่กู่เจิ้งทันทีที่เสียงดังกล่าวดังขึ้น จากนั้นก็มีเสียงตะโกนวุ่นวายกระจายไปทั่วสำนักทันที.
เมื่อศิษย์อีกมากมายได้รับรู้เรื่องราวจากปากของซูเซียวโม่ เหล่าศิษย์น้องทุกคนที่รู้ว่าไม่เพียงเซียวจุ้ยจื่อได้รับชัยชนะเลิศ เหล่าศิษย์พี่คนอื่น ๆ ต่างก็ได้สามอันดับแรก พวกเขาต่างก็ส่งเสียงเชียร์ดังสนั่น.
สำหรับสมาชิกสำนักทุกคน แน่นอนย่อมถือเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและเป็นเกียรติประวัติสำหรับพวกเขาด้วย!
“โหย ๆๆ.”
หลิวหว่านซี่ที่ยืนอยู่ด้านหน้าโรงอาหาร กล่าวเสียงสูง“ต้องใช้พลังไปมากมาย หลายวันมานี้ทุกคนจะต้องผอมลงแน่เลย.”
“เจ้าสำนัก คนผู้นี้ให้ทำอย่างไรดี?”เซียวจุ้ยจื่อกล่าวถึงเย่ชิงเฉิงที่หมดสติอยู่.
จุนซ่างเซียวครุ่นคิดและกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล “ก่อนอื่นเอาไปไว้ที่หอยาก่อนก็แล้วกัน.”
เซียวจุ้ยจื่อที่รับคำสั่ง ก่อนที่จะเดินไปยังหอยา พร้อมกับนำเย่ชิงเฉิงไปวางไว้บนเตียง ขณะกำลังออกมา ได้ยินเสียงเพ้อของเขา “ข้าจะต่อต้านสวรรค์....”
ต่อต้านสวรรค์รึ?
สวรรค์ติดหนี้เจ้ารึไง?
เซียวจุ้ยจื่อที่คิดว่าเขากำลังฝันอยู่ จึงไม่ได้สนใจ และเดินจากมา.
......
บนลานยุทธ์.
เหล่าศิษย์มากมายที่จ้องมองอย่างงงงันเมื่อเห็นสิ่งของทรงกลมที่มีสีขาวดำสลับกัน พวกเขากล่าวออกมาด้วยความสงสัย “ศิษย์พี่ สิ่งนี้คืออะไร?”
ซูเซียวโม่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “สิ่งนี่เรียกว่า ฟุตบอลแห่งความสุข เจ้าสำนักได้มอบให้ และยังกล่าวว่า หากเตะทุกวัน ไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อ ทว่ายังช่วยยกระดับความแข็งแกร่งของขาได้ด้วย.”
ศิษย์คนหนึ่งที่จ้องมองไปยังตัวอักษรที่เขียนไว้บนลูกฟุตบอล :“ปี 8018 นัดชิงชนะเลิศ ทีมฟุตบอลจีนเอาชนะทีมฟุตบอลบราซิล ในการแข่งขันชิงแชมป์โลก.”
“ศิษย์พี่ นี่หมายความว่าอย่างไร?”
“ข้าก็ไม่รู้.”
ซูเซียวโม่โบกมือไปมา “หลบไป ๆ ข้าจะเตะให้พวกเจ้าดู.”
“เยี่ยมเลย!”
ทุกคนที่เร่งรีบถอยออกมาอย่างรวดเร็ว.
ซูเซียวโม่ที่ถอยกลับมาสองสามก้าว ก่อนที่จะวิ่งเข้าไป เตะอัดด้วยพลัง ได้ยินเพียงเสียง “ฟิ้ว” จากนั้นลูกบอลก็ลอยพุ่งออกไปด้วยความแรง กระแทกเข้ากับกำแพง เกิดเป็นรอยโบ๋แตกร้าวขึ้นก่อนจะกระเด้งกลับคืนมา.
พลังขาของเขาที่ไม่ต่างจากขาคงกระพัน ไม่แตกต่างจากเส้าหลินฟุตบอลเลย!
“แปะ แปะ.”
ซูเซียวโม่ที่ปรบมือพร้อมกับกล่าวออกมาว่า “เป็นอย่างไร?”
“ร้ายกาจ!”
“ศิษย์พี่ เท้าของท่านเมื่อครู่ อย่างน้อยก็มีพลังพันจิน!”
ศิษย์คนอื่น ๆที่อุทานเสียงดังเซ็งแซ่.
ควรค่าที่จะเป็นลูกฟุตบอลปี 8018 สามารถทนพลังเตะที่รุนแรง แม้แต่กระเด้งกลับคืนมา ไม่ระเบิด หรือเสียรูปทรง.
......
จุนซ่างเซียวใช้แต้มสนับสนุน 10 แต้มเพื่อซื้อฟุตบอลแห่งความสุข เพื่อที่จะให้เหล่าศิษย์ฝึกฝนการเตะ เป้าหมายก็เพื่อพัฒนากำลังขาและการเคลื่อนไหวของพวกเขานั่นเอง.
เช้าวันถัดมา.
ในเวลานี้ ลานยุทธ์ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นสนามฟุตบอลแล้ว หลังจากได้แจ้งเกี่ยวกับกฎการแข่งขันให้กับเหล่าศิษย์รับรู้ พวกเขาก็แบ่งกันออกเป็นสองทีม ก่อนเริ่มแข่งขันกัน.
“ใบหน้าข้า ทำไมมันเจ็บอย่างนี้....”เย่ชิงเฉิงที่นอนอยู่ในหอยาก็ได้สติกลับคืนมา เขาที่ลูบไปมาที่ใบหน้าของตัวเอง แววตากลายเป็นเย็นชาเป็นอย่างมาก.
เขาจำได้อย่างคลุมเครือ เขาถูกอาวุธลับที่ปล่อยออกมา กระแทกใบหน้าจนลอยกระเด็นและหมดสติไป.
น่ารังเกียจ!
ข้า เย่ชิงเฉิง.
ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหนึ่งในราชันย์ยุทธ์ผู้ปกครองดินแดนขนาดใหญ่ คาดไม่ถึงเลยว่าจะมาเสียท่าให้กับอาวุธลับ!
หลังจากพักครู่หนึ่ง เขาก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก กวาดตามองพื้นที่รอบ ๆ กล่าวออกมาเสียงเบา “มีใครช่วยข้าไว้อย่างงั้นรึ?”
“จะเป็นใครก็ช่าง.”
“ก่อนอื่นต้องไปจากที่นี่ ค้นหาพื้นที่ ที่มีพลังวิญญาณหนาแน่น แล้วเริ่มบ่มเพาะ ให้ก้าวไปถึงระดับราชันย์ยุทธ์ให้เร็วที่สุด.”
เย่ชิงเฉิงที่เปิดประตู ทว่ายังไม่ออกมาจากหอยาด้วยซ้ำ ก็ได้ยินเสียง ปัง ที่ใบหน้าของเขาถูกลูกบอลกระแทกซ้ำอีกครั้ง ก่อนที่ล้มคว่ำไปในทันที.
“ลี่เฟย!”
ซูเซียวโม่บนลานยุทธ์กล่าวออกมาเสียงดัง “เจ้าเตะบอลไปที่ใหนกัน!”
ลี่เฟยที่เกาศีรษะไปมา กล่าวออกมาว่า “ศิษย์พี่ ข้าเพิ่งเตะครั้งแรก ไม่ได้ตั้งใจจะเตะไปที่นั่น.”
“รีบไปเก็บบอลเร็วเข้า!”
“ครับ!”
ลี่เฟยที่ที่เร่งรีบไปเก็บบอลทันที.
เหล่าศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งที่เตะฟุตบอลแห่งความสุข แม้นว่าจะเหมือนกับทีมมือสมัตรเล่น ทว่าด้วยพลังของพวกเขานั้น เตะบอลไปแต่ละที ลูกบอลก็พุ่งออกไปรวดเร็วและเต็มไปด้วยพลัง!
“น่า....น่ารังเกียจ....”เย่ชิงเฉิงที่กุมใบหน้ายืนขึ้น ความโกรธเกรี้ยวมากมายจนไม่สามารถคุมเอาไว้ได้แล้ว “ต้องการทำร้ายเปิ่นตี้(ราชันย์ผู้นี้)อย่างงั้นรึ?!”
“ปัง!”
ลูกฟุตบอลที่ลอยข้าม ลอดช่องคานหลังคา พุ่งตรงมายังหน้าผากของเขา ทำให้เขาล้มคว่ำไปอีกครั้งแล้ว.
ซูเซียวโม่ที่กอดอกกล่าวออกมาเสียงดัง “ลี่เฟย เจ้ายังจะเตะไปใหนอีก!”
ลี่เฟยที่เกาศีรษะไปมา จากนั้นก็วิ่งไปเก็บบอล.
“กึก.”เย่ชิงเฉิงที่ค้ำร่างกายคลานไปซ่อนใต้เตียง แววตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารและกล่าวออกมาว่า“ความแค้นในวันนี้ เปิ่นตี้(ราชันย์ผู้นี้)จะจำเอาไว้!”
จากนั้น หลังจากมีคนวิ่งมาเก็บบอลกลับไป ประตูก็ปิดลง เขาที่หวาดกลัวต่ออาวุธลับซ่อนตัวอย่างดี.
“คนพวกนี้เป็นใครกัน?”
“ทำไมถึงได้วางแผนที่จะทำร้ายเปิ่นตี้(ราชันย์ผู้นี้)กัน?”
เย่ชิงเฉิงที่พุ่งออกไปแอบที่ด้านข้างของกำแพงประตู ขณะลอบมองผ่านหน้าต่างจ้องมองไปยังลานยุทธ์.
“กึก โครม!”
ในเวลานั้น ประตูก็เปิดออกมาอย่างรุนแรง.
จุนซ่างเซียวที่ก้าวเข้ามา จ้องมองไปยังเตียงกับไม่มีใครสักคน เขาที่เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย “เจ้าเด็กนั่นล่ะ?”
“ตึก โครม.”ขณะปิดประกลับไป เย่ชิงเฉิงที่ร่างกายแบนไปกับประตู น้ำลายฟูมปาก ล่วงล้มลงกับไปกับพื้น.
จุนซ่างเซียวที่หันไปมอง กล่าวออกมาว่า “นี่เขาซ่อนอยู่ด้านหลังประตูหรอกรึ?”
......
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม.
เย่ชิงเฉิงก็ได้สติกลับมา ลุกขึ้นจดจ้องและกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าเป็นใคร?”
“เอ๊ะ?”
จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
คนผู้นี้ดูเล็กผอมบาง ทว่าสายตากับแข็งกร้าว ไร้ซึ่งความหวาดกลัว แม้แต่แผ่แรงคุกคามออกมาด้วย.
ไม่ธรรมดา ไม่ธรรมดาเลย.
จุนซ่างเซียวกล่าว “ข้ามีนามว่า จุนซ่างเซียว เจ้าสำนักไท่กู่เจิ้ง.”
สำนักไท่กู่เจิ้ง?
เย่ชิงเฉิงที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล“ชื่อบ้านนอกถึงเพียงนี้ คงไม่ใช่สำนักใหญ่อะไร.”
อั้ยย่ะ เฮ้ย ๆ.
ชื่อสำนักบ้านนอก แล้วมันเกี่ยวอะไรกับไม่ใช่สำนักใหญ่กันว่ะ คน ๆ นี้ดูเหมือนจะใจกล้านิดหน่อย.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้าเป็นใคร?”
เย่ชิงเฉิงที่ยืดอก กล่าวด้วยน้ำเสียงยโสโอหัง “เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ รู้เพียงว่าตัวตนของข้า เจ้าไม่สามารถยั่วยุได้.”
ดูเหมือนว่าจะไม่ได้กล้าเล็กน้อยแล้ว แต่กับกล้าหาญอหังการมาก.
“ฟิ้ว!”
เย่ชิงเฉิงที่ลุกขึ้นยืน กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล “หลังจากนี้อย่าได้ยั่วยุข้าอีก ไม่เช่นนั้น ข้า....”แววตาของเขาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร.
“ปัง!”ทันใดนั้นลูกฟุตบอลได้พุ่งมาจากด้านนอก ราวกับใบหน้าของเย่ชิงเฉิงเป็นตัวดึงดูดมันพุ่งเข้ามาหาอย่างไร้เหตุผล ทันใดนั้นเขาก็หมดสติไปอีกครั้ง.
......
และเมื่อเย่ชิงเฉิงได้สติ เขาก็พบว่าตัวเองถูกมัดเอาไว้กับเก้าอี้แล้ว.
“เจ้าสำนัก เขาตื่นแล้ว!”ซูเซียวโม่กล่าว.
จุนซ่างเซียวที่ก้าวมาจากด้านนอก กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “เจ้าหนู เปิ่นจั้วไม่รู้ว่าเจ้าจะยิ่งใหญ่มาจากใหน แต่นับจากวันนี้ เจ้าต้องเป็นคนของสำนักไท่กู่เจิ้ง.”
ด้วยสันชาติญาณของเขา กับสายตาของอีกฝ่ายที่คมกล้า คน ๆ นี้ ต้องมีสถานะที่ไม่ธรรมดาแน่.
เขายังมีโควตารับศิษย์ถึง 399 คน ก่อนอื่นก็รับคน ๆนี้เข้ามาก่อนเลยแล้วกัน.
กับโควตาที่มี หนึ่งที่ของหลิวหว่านซี หลังจากนั้นเขายังต้องเปิดรับศิษย์จากพื้นที่อื่น ๆ ที่ยังไม่รู้ว่าจะได้ศิษย์แบบใด.
ดวงตาของเย่ชิงเฉิง กลายเป็นดำมืด.
เขาที่เป็นหนึ่งในสิบสุดยอดราชันย์ยุทธ์ เพิ่งจุติกลับมา ก็ถูกคนอื่นวางแผนร้ายใส่ซะแล้ว แม้แต่ถูกจับมัด จะให้เขาทนได้อย่างไร นี่มันจะรังแกกันมากเกินไปหน่อยแล้ว.
“เด็กน้อย!”เขาที่คำรามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าจะไม่เข้าร่วมสำนักเจ้า เพราะสำนักเจ้าไม่คู่ควร.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้าเป็นราชันย์ยุทธ์รึอย่างไร ถึงจะไม่มีใครสามารถบังคับเจ้าได้?”
ใบหน้าของเย่ชิงเฉิงที่มืดครึ้มขึ้นไปอีก แววตาที่ดูน่าหวาดหวั่น.
ในเวลานั้น เขาที่ตกอยู่ในแผนการร้ายของศัตรู จนต้องหนีมาจุติใหม่ แต่กระนั้นก็ยังถูกสำนักชั่วร้ายวางแผนควบคุมเขาอีก นี่ไม่ใช่ว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดหรอกรึ?
จุนซ่างเซียวที่เอ่ยออกมาอีกครั้ง “ข้าจะให้เจ้าคิด สามลมหายใจ ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าเปิ่นจั้วโหดร้าย.”
“เจ้าขู่ข้าอย่างงั้นรึ?”เย่ชิงเฉิงเอ่ย.
จุนซ่างเซียวที่เดินล้อมรอบ พร้อมกับโบกมือ “เปิ่นจั้วไม่เพียงขู่เจ้า ทว่ายังกล้าทุบเจ้าด้วย.”
“ฟิ้ว!”
ซูเซียวโม่ที่เหวี่ยงหมัด กระแทกไปยังหน้าของเขา กล่าวออกมาด้วยความอหังการ “เจ้าสำนักชื่นชอบเจ้าถือว่าเป็นบุญวาสนาแล้ว สายตาที่น่ารังเกียจนั่นคืออะไร คิดว่าตัวเองเป็นยอดยุทธ์ไร้คู่เปรียบรึอย่างไร!”
เย่ชิงเฉิงที่เต็มไปด้วยความโกรธ มองตาขวาง.
“เจ้ากล้ามองข้าเช่นนี้เหรอ!”ซูเซียวโม่ที่ยกหมัดต่อยออกไป ซ้ายขวา ไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ใบหน้าของเขาที่เวลานี้ดำเขียวช้ำไปหมด.
เย่ชิงเฉิง ราชันย์รัตติกาล.
ไม่เพียงแต่ไม่มีคนเกรงกลัว ยังถูกทุบตีอีกด้วย.
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ต้องยอม เพราะว่าเมื่อถูกลากออกมายังลานยุทธ์ เขาสามารถมองเห็นศิษย์หลายสิบคน ที่เวลานี้กำลังตั้งท่าเตรียมเตะฟุตบอลแห่งความสุขอยู่ หากเขาไม่ยอม จะถูกเรียงหน้าเตะบอลอัดทีละคน ๆ เขาจะไม่ยอมได้อย่างไรกัน......