Chapter 77 อย่ามีความเมตตา
ชายชุดดำกว่าสิบคนที่ปกปิดใบหน้าเอาไว้ ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ทว่าหลังจากที่พวกเขาก้าวออกมา มองมายังเซียวจุ้ยจื่อที่ไร้อารมณ์ จิตสังหารของพวกเขาก็ปะทุขึ้นมาในทันที.
จากสิ่งที่เห็น จุนซ่างเซียวสามารถมองได้ว่าคนเหล่านี้ต้องเป็นคนของเมืองลี่หยาง ไม่ใช่ตระกูลเซียวก็เป็นตระกูลเป่ย.
ความแค้นของตระกูลเซียว ลูกหลานที่ถูกไล่ออกจากตระกูล ได้รับชัยชนะเลิศการแข่งขันประลองยุทธ์สำนัก ทำให้ตัวเองกลายเป็นขี้ปากของคนทั้งเมือง จึงทำให้ต้องการสังหาร เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาเลย.
“มารดาเถอะ.”
จุนซ่างเซียวที่ลอบคิดในใจ “ตอนนี้ไม่ใช่ว่า ควรจะมีภารกิจสนับสนุนถูกเปิดหรอกรึ?”
“ฆ่า!”
หัวหน้าชายชุดดำที่เอ่ยกล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม.
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
ชายชุดดำชักกระบี่ที่แหลมคม แต่ละคนมีระดับศิษย์ยุทธ์ พลังวิญญาณที่ถ่ายอาบไปทั่วกระบี่ส่องประกายแสงวับวาว จิตสังหารที่คละคลุ้ง.
ทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขาที่หมายเอาชีวิตฝ่ายตรงข้ามในทันที!
“เคร้ง! เคร้ง!”
ลู่เชียนเชียนและหลี่ชิงหยางที่ยกกระบี่รับการโจมตีของเหล่าคนชุดดำ เสียงของอาวุธปะทะกัน เกิดประกายแสงสว่างจ้าในทันที.
แม้นว่าทั้งคู่จะมีพลังบ่มเพาะเพียงระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่ 1 เท่านั้น ทว่าพลังวิญญาณที่แผ่พุ่งอาบไปทั่วกระบี่ของพวกเขาก็สามารถรับมือกับศิษย์ยุทธ์ อย่างไม่เสียเปรียบแม้แต่น้อย.
ซูเซียวโม่ที่ชักกระบี่ไม้ ยืนอยู่ด้านหน้าปกป้องเจ้าสำนัก.
เซียวจุ้ยจื่อและเถียนซี เพราะว่าไม่มีอาวุธ ทำได้แค่เพียงยืนอยู่กับที่ จ้องมองไปด้านหน้าด้วยความจริงจัง.
แม้นว่าในงานประลองยุทธ์สำนัก พวกเขาจะแสดงความสามารถได้อย่างโดดเด่น.
ทว่าต่อหน้าอาวุธ และคนชุดดำที่มีพลังระดับศิษย์ยุทธ์ ด้วยร่างกายและพลังวิญญาณ เห็นชัดเจนว่ามันยังไม่พอ.
พวกเขาไม่ได้มีวิชายุทธ์ที่สูงถึงขนาดต่อสู้กับอาวุธได้ด้วยมือเปล่า.
“ติ๊ง!”
“โฮสน์ใช้ 30 แต้มสนับสนุน ได้รับกระบี่หานเฟิงสามัญขั้นต้น 3 ถูกส่งเข้าสู่แหวนมิติแล้ว.”
“ติ๊ง!”
“แต้มสนับสนุนสำนัก: 282 / 500.”
“รับนี้ไป!”
จุนซ่างเซียวที่โบกมือ ส่งกระบี่หานเฟิงสามเล่มออกไป.
“กึก!”
ซูเซียวโม่เป็นคนแรกที่ก้าวออกไปรับ สัมผัสได้ถึงความเย็นที่แผ่ออกมาจากตัวกระบี่ แววตาของเขาเวลานั้นแผ่จิตสังหารที่รุนแรงออกมาในทันที.
“ฆ่า!”
เขาชักกระบี่ออกมา ก่อนที่จะพุ่งเข้าโจมตีชายชุดดำ.
เถียนซีเองก็รับกระบี่และพุ่งไปยังอีกทิศเพื่อรับมือชายชุดดำ.
แม้ว่าทั้งสองคนจะมีพลังบ่มเพาะเปิดชีพจรขั้นที่สิบสอง ทว่าด้วยกระบี่หานเฟิงสามัญระดับต้นในมือ ก็ทำให้พวกเขาไม่ได้อ่อนด้อยสามารถรับมือกับชายชุดดำได้อย่างง่ายดาย.
ในเวลานี้ สถานการณ์ดูเหมือนว่าจะแตกต่างจากที่ควรจะเป็น.
ชายในชุดดำ หกคนเผยแววตาไม่อยากเชื่อ เห็นชัดเจนว่าพวกเขาไม่คาดคิดว่าศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งจะแข็งแกร่งขนาดนี้.
พวกเขาที่บุกเข้าไปพร้อมกัน 12 คน ลู่เชียนเชียนที่รั้งเอาไว้สี่คน มีสองคนที่อ้อมไปซ้ายขวาวนเข้าล้อมกรอบรวมเป็นหกคน แววตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร.
“ฟิ้ว!”
ในเวลานั้นริ้วแสงกระบี่ที่เย็นเยือบ ก็ทะลวงเข้ามา.
เป็นเซียวจุ้ยจื่อที่โจมตีมายังด้านหลัง ในมือของเขาที่กุมด้ามกระบี่ทั้งสองข้าง พร้อมกับฟันลงมาด้วยความเร็ว.
ความเร็วและพลังจากกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งไปจนถึงขีดสุด.
“ตูมมมมมม!”
กระบี่หานเฟิงที่ไร้ซึ่งพลังวิญญาณ ฟันมายังชายชุดดำ ที่เวลานี้ยกกระบี่ขึ้นรับ ทว่าได้ยินเสียง“กึก แก๊ก”ก่อนที่กระบี่ฝ่ายตรงข้ามจะขาดครึ่ง ปลายกระบี่หมุนเคว้งลอยออกไปปักบนต้นไม้.
ชายในชุดดำที่เผยท่าทางหวาดผวาขึ้นมาทีเดียว.
แม้นว่าอาวุธของเขาจะเป็นเพียงระดับต่ำขั้นสูง แต่ก็ได้ถ่ายพลังวิญญาณอาบไล้ไปทั่ว มันควรจะแข็งแกร่งเทียบกับอาวุธระดับสามัญได้ คาดไม่ถึงเลยว่ามันกับถูกตัดขาดได้อย่างง่ายดาย!
“ฟิ้ว โครม!”ในขณะที่กำลังตื่นตะลึง เซียวจุ้ยจื่อก็เตะไปที่ใบหน้าด้านซ้ายอย่างรุนแรง.
จุนซ่างเซียวที่เอ่ยออกมาว่า “จุ้ยจื่อ การจะสังหารคนนั้น ให้ทำเหมือนกับเปิ่นจั้วนี้....”
“ฟิ้ว!”
เขาที่ก้าวไปด้านหน้า กระบี่หานเฟิงที่ถูกชักออกจากฝัก ส่องประกายแสงด้วยความเร็ว พร้อมกับกล่าวออกมาว่า“อย่าได้ใจอ่อน!”
“พรึด ซี่!”
ชายชุดดำคนดังกล่าว ล้มคว่ำลงไปในทันที.
ศีรษะที่พับลงกับที่ หน้าของเขาปรากฏรอยกระบี่ โลหิตพ่นปุดราวกับห่าฝน.
รอยกระบี่ที่ลึกล้ำ ทุ่มทะลวงเข้าจุดสำคัญ!
“พรึด โครม!”
ชายชุดดำที่ล้มลง โลหิตที่ไหลกระจายไปทั่วพื้น.
ระดับศิษย์ยุทธ์ ถูกสังหารเพียงกระบี่เดียว.
หลังจากที่ตัดผ่านระดับไปยังศิษย์ยุทธ์ขั้นที่ห้า จุนซ่างเซียวก็ได้แสดงพลังเต็มที่ออกมาครั้งแรก.
พลังของเขาที่จู่ ๆก็เผยออกมาทำให้ทุกคนได้เห็นแล้วตกใจไปตาม ๆ กัน.
เซียวจุ้ยจื่อเห็นเจ้าสำนักลงมือ สังหารศัตรูอย่างเฉียบขาด ทำให้เขาเผยแววตาตื่นตะลึง.
“เฮ้ย!”
ซูเซียวโม่ที่กำลังโรมรันรับมือกับศัตรูอยู่ เหลือบมาเห็นถึงกับอุทานออกมาด้วยความตกใจ “นี่เจ้าสำนักร้ายกาจเช่นนี้เลย อ๊าก!”
“นี่เจ้าสำนักมีระดับศิษย์ยุทธ์อย่างงั้นรึ?”หลี่ชิงหยางที่อุทานด้วยความตกใจเช่นกัน.
เขาจำได้อย่างชัดเจน ก่อนหน้านี้เมื่อครั้งเจ้าสำนักประลองกับมือดาบหม่าหยงหนิง พลังของเจ้าสำนักเพียงแค่เปิดชีพจรขั้นที่สิบเอ็ดเท่านั้นเอง!
ลู่เชียนเชียนที่ใช้เพลงกระบี่ที่ล้ำล้ำ ผลักชายชุดดำสองคนออกไป พร้อมกับลอบคิดในใจ “แท้จริงเขาก็ซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้.”
เห็นเพื่อนร่วมทีมถูกสังหาร ชายชุดดำอีกสี่คนก็โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก พร้อมกับพุ่งรุมสังหารจุนซ่างเซียวทันที.
จุนซ่างเซียวตวัดกระบี่มาด้านหลังและหันกลับคืนมา “เข้าใจรึยัง?”
“ครับ!”เซียวจุ้ยจื่อที่แววตาเปลี่ยนเป็นเย็นชา มือทั้งสองข้างกำกระบี่แน่น พร้อมกับระเบิดพลังกล้ามเนื้อ พุ่งโจมตีชายชุดดำอีกคนที่กำลังพุ่งเข้ามา.
“ตูมมมม!”
กระบี่หานเฟิงลุ่น ๆ ฟันฉับลงไปยังฝ่ายตรงข้าม.
“ฟิ้ว!”
แขนของเซียวจุ้ยจื่อที่เปี่ยมไปด้วยพลัง ความคมของกระบี่หานเฟิง ที่พริ้วไหวได้ยินเพียงเสียง พรึด ซี่ โลหิตพุ่งกระจายออกไปทันที.
“กึก กึก กึก!”
ชายชุดดำคนดังกล่าวต้องถอยกลับหลังไปหลายสิบก้าว มือข้างหนึ่งที่กุมลำคอที่มีโลหิตไหลออกมา แววตาที่ค่อย ๆไร้แสงประกายไปในช้า ๆ.
พรึด โครม ชายชุดดำคนล้มลงบนพื้น คอพับตกตายไปในที่สุด.
เพื่อนร่วมทีมตายไปอีกคน อีกสามคนที่เวลานี้ดวงตาเบิกกว้าง กลายเป็นบ้าคลั่ง ความต้องการฆ่าที่มีมากยิ่งกว่าเดิม.
เซียวจุ้ยจื่อที่ก้าวขยับอีกครึ่งก้าว เหวี่ยงกระบี่ไปด้านข้าง.
แม้นว่าจะไม่มีพลังวิญญาณ ทว่าด้วยการกระตุ้นกายเนื้อเต็มกำลัง พร้อมกับกระบี่หานเฟิงสามัญขั้นต้น ก็สามารถตวัดกระบี่ด้วยความเร็ว เห็นเป็นริ้วแสงเคลื่อนที่หาชายชุดดำ.
ชายชุดดำอีกคนที่ยกกระบี่ขึ้นรับ สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือบพัดผ่านมา.
“ตูมมมม!”
“แก๊ก แค๊ก-”
ใบกระบี่ขาดครึ่ง.
กระบี่หานเฟิงที่ไม่หยุด มันได้ตัดผ่านลงไปที่ไหล่ซ้ายของเขา แขนซ้ายที่ขาดกระเด็นออกไปพร้อม ๆ กัน.
“ตาย!”
ในเวลานั้น ชายชุดดำอีกสองคนได้จังหวะโจมตีออกมาในทันที พลังวิญญาณที่แผ่พุ่งอาบไปทั่วกระบี่ พุ่งมาด้วยความเร็ว.
“ไม่ได้การแล้ว!”เซียวจุ้ยจื่อที่ใบหน้าเปลี่ยนสี.
ในเวลานั้นเขาที่เพิ่งเหวี่ยงกระบี่ออกไป ไร้ซึ่งพลังวิญญาณและท่าเท้าหลบหลีก การจะหลบให้พ้นคงไม่มีเวลาเพียงพอแล้ว.
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
ริ้วแสงกระบี่ก็พุ่งมาด้วยความเร็ว ฉีกกระชากอากาศ!
จากนั้น เซียวจุ้ยจื่อก็เห็นเพียงโลหิตกระฉูดฟุ้งไปทั่วอากาศ.
“พรึด โครม!”
“พรึด โครม!”
ชายชุดดำสองคนที่กำลังจะโจมตีเซียวจุ้ยจื่อ ล้มลง คอเป็นรอยกระบี่ โลหิตที่ยังคงไหลออกมา.
“กระบี่ของเจ้าสำนักเร็วขนาดนี้เลย!”เซียวจุ้ยจื่ออุทานออกมาด้วยความตกใจ.
จุนซ่างเซียวที่ตะวัดกระบี่ไปเก็บกลับมา กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล “คิดจะสังหารศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง มีแค่ความตายเท่านั้นที่รออยู่.”
“พรึด ซี่!”
ในเวลาเดียวกัน ชายชุดดำอีกคนไม่สามารถหลบกระบี่ของลู่เชียนเชียน ถูกคมกระบี่ตัดขั้วหัวใจไปในทันที.
นางที่สังหารไม่กระพริบตา พร้อมกับก้าวออกไปโจมตีชายชุดดำคนต่อไปด้วยความเร็ว.
“พรึด โครม!”
ชายชุดดำสองคนที่ล่วงไปกองบนพื้น.
“พรึด ซี่!”หลี่ชิงหยางที่ใช้เพลงกระบี่เก้าทบ สร้างบาดแผลให้กับชายชุดดำอีกคน.
เพียงเวลาไม่นาน ชายชุดดำ 12 คน ตายหก บาดเจ็บอีกสาม!
ชายชุดดำอีกสามคนที่ตระหนักได้แล้วว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นแข็งแกร่งเกินไป พวกเขาตัดสินใจถอยหนีทันที.
พวกเขาหนีไปด้วยความเร็ว!
หลี่ชิงหยางและซูเซียวโม่ หรือแม้แต่ลู่เชียนเชียนก็ยากจะก้าวตามได้ทัน.
“ปัง!”
“ปัง!”
“ปัง!”
แต่เพียงเสี้ยววินาทีนั้น เสียงดังกึกก้องเหมือนกับดอกไม้ไฟก็ดังขึ้น ทำให้เหล่าหมู่มวลวิหกทั่วหุบเขาบินว่อนแตกรัง.
ชายชุดดำที่หนีไป บนร่างกลายเป็นรูและล้มลงบนพื้น เผยแววตาความหวาดหวั่นตื่นตระหนก.
จุนซ่างเซียวที่ถือปืน มีควันที่กำลังไหลออกจากปากกระบอกปืน เขากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “กล้าหาเรื่องสำนักไท่กู่เจิ้งของข้า อย่ามีชีวิตอีกเลย.”
ภายในหูของหลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆที่ได้ยินเสียงดัง หวิ่ง ๆ ที่ปากกระตุกกล่าวออกมาว่า “ปืนเจ้าสำนัก ร้ายกาจน่ากลัวเกินไปแล้ว!”