Chapter 58 ราชาหมาป่าเพลิงปฐพี.
หลี่ชิงหยางที่ค่อย ๆ ทำความสะอาดกระบี่ เช็ดคาบโลหิตที่เปื้อนกระบี่หานเฟิงอย่างใส่ใจ.
กระบี่นี้เขาใช้เต็มกำลังเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่เจ้าสำนักมอบให้ เวลานี้เขารู้สึกพึงพอใจอย่างที่สุด แม้แต่ครุ่นคิดอยู่ในใจ “หากก่อนหน้านี้ข้ามีกระบี่ระดับสูงเช่นนี้ คงจะไม่ได้รับบาดเจ็บจากสัตว์ร้ายแน่นอน.”
ซูเซียวโม่ที่ขึ้นไปนั่งบนก้อนศิลา จ้องมองกระบี่หานเฟิงในมือศิษย์พี่รองด้วยความอิจฉา “ข้าจะต้องทำผลงานให้ดี เพื่อให้เจ้าสำนักยอมรับ จะได้รับกระบี่เหมือนกับศิษย์พี่รองได้!”
ลู่เชียนเชียนที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง ดวงตาของนางที่จดจ้องมอง กวาดตาซึมซับบรรยากาศและทิวทัศน์รอบ ๆด้วยความเบาสบาย ก่อนที่จะลอบมองไปยังจุนซ่างเซียว จ้องมองเขาด้วยแววตาละเหี่ยใจ กล่าวออกมาด้วยความสงสัย “เขาทำบ้าอะไร?”
เวลานี้ดูเหมือนว่าเขาจะพบปัญหาเล็กน้อย ในการโหลดแกนผลึกเป็นกระสุนเข้าไปในปืนพกอินทรีย์ทะเลทราย เขากำลังสงสัยว่ามันจะเปลี่ยนเป็นกระสุนอย่างไร?
ภายในแหวนเก็บของ เขาที่เปลี่ยนเป็นร่างจิตกำลังถือปืนในมือข้างหนึ่ง อีกด้านหนึ่งถือแกนผลึกสีแดงชาติ กำลังจ้องมองไปรอบ ๆ กำลังคิดหาทางโหลดกระสุนพร้อมกับลองหลาย ๆวิธี แต่กับไม่เป็นผลสักวิธี.
จุนซ่างเซียวถึงกับพูดไม่ออก “ไม่มีคำแนะนำเลยรึไง แล้วจะโหลดกระสุนอย่างไรล่ะ.”
ระบบกล่าว “โฮสน์จะต้องสื่อสารกับแกนผลึกนั่นด้วยพลังจิต พร้อมกับดึงพลังงานของมัน ใส่เข้าไปในตลับกระสุนปืนด้านล่าง.”
“ตลับกระสุนอย่างงั้นรึ?”
จุนซ่างเซียวที่ยกด้านล่างปืนขึ้น ที่ด้ามจับนั้นมีตลับกระสุนอยู่ เขาที่นั่งสมาธิทันที จากนั้นก็พยายามใช้สัมผัสพลังจิตเชื่อมต่อกับแกนผลึก มันสามารถผสานจิตเข้าไปได้ง่าย ๆ เขาสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่ร้อนแรงอยู่ด้านใน.
ดูเหมือนว่าภายในแกนผลึกสัตว์ร้ายนั้นจะอัดแน่นด้วยต้นกำเนิดพลังวิญญาณที่มากมาย ดูบ้าคลั่งรุนแรง เขาเพียงแค่กลั่นเพื่อใช้มั่นอย่างงั้นรึ?
โดยปรกติแกนผลึกวิญญาณนั้นสามารถใช้ประโยชน์ได้มากมาย เช่นนำมันไปกลั่นเป็นเม็ดยา แม้แต่สร้างอาวุธ ดังนั้นราคาของมันจึงสูงมาก เพียงแค่ผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปไม่สามารถซื้อมันได้อย่างแน่นอน.
จุนซ่างเซียวที่กำลังเคลื่อนย้ายพลังวิญญาณที่ร้อนแรง เคลื่อนย้ายมันเหมือนกับผลักสายน้ำ ใส่เข้าไปในตลับกระสุนด้านล่างอินทรีย์ทะเลทราย พื้นที่รอบ ที่เป็นประกายแสงสีแดงชาติสว่างจ้า.
“ติ๊ง!”ทันใดนั้นกระสุนที่รวมกันจากพลังวิญญาณ เวลานี้มันได้รวมกันเป็นรูปเป็นร่าง จุนซ่างเซียวที่พอจะคาดเดาได้ว่ากระสุนนี้อัดแน่นไปด้วยพลังวิญญาณ.
“ติ๊ง!”
“ติ๊ง!”
พลังวิญญาณที่ไหลเข้าไปในตลับกระสุนอย่างที่ไม่หยุดหย่อน ลูกกระสุนที่รวมตัวกันลูกแล้วลูกเล่า จนมีลูกกระสุนเจ็ดลูกด้านในตลับกระสุน.
ในเวลานั้น พลังวิญญาณจากแกนผลึกไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้แล้ว เห็นชัดเจนว่ามันถูกสูบและถ่ายเข้าไปในตลับกระสุนจนหมดแล้ว ในแกนผลึกไร้ซึ่งพลังใด จากนั้นมันก็ค่อย ๆ สลายหายไปกลายเป็นเถ้า.
“เจ็ดลูกอย่างงั้นรึ? น้อยมาก.”
จุนซ่างเซียวที่ดึงจิตกลับมาก่อนที่จะลอบคิดในใจ “หากว่ามีซองสะพายใส่ปืนด้วยคงจะดี.”
“ฟิ้ว!”
เขาที่นำปืนพกอินทรีย์ทะเลทรายออกมา ขณะกุมปืนเอาไว้ด้วยสองมือ เล็งไปยังทิศทางของหินก้อนหนึ่ง “อย่าขยับ ข้าคือตำรวจ!”
ลู่เชียนเชียนที่เอ่ยออกมาเบา ๆ “ปัญญาอ่อนของแท้.”
ซูเซียวโม่ ที่จดจ้องมองด้วยความสงสัย ก่อนที่จะเอ่ยกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “เจ้าสำนัก สิ่งนั้นคืออะไรอย่างงั้นรึ?”
“นี่คือปืน.”
จุนซ่างเซียวที่นำนิ้วออกจากโก่งปืนอย่างรวดเร็ว กลัวว่ามันจะลั่นยิงใส่ศิษย์ของตัวเอง.
ซูเซียวโม่ที่งงงันยิ่งขึ้นไปอีก “อะไรคือปืน?”
จากสิ่งที่เขารู้ อาวุธที่เรียกว่าปืนนั้น ไม่เคยมีชื่อเช่นนั้นในความทรงจำเขาเลย!
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ความจริงควรจะเรียกมันว่าอาวุธลับ ที่ใช้ยิงลูกดอกประมานนั้น ไว้ใช้โจมตี ทีเผลอเพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามป้องกันได้.”
เมื่อได้ยินคำอธิบาย ซูเซียวโม่ก็เข้าใจได้ในทันที พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า “เจ้าสำนัก จะยิงให้ศิษย์ดูได้หรือไม่?”
จุนซ่างเซียวส่ายหน้าไปมา และเอ่ยออกมาว่า “มันเป็นอาวุธลับที่มีลูกกระสุนจำกัด หากไม่มีอันตราย ไม่ควรจะนำมาใช้งาน.”
“เป็นเช่นนี้นะเอง.”
ซูเซียวโม่ที่เกาศีรษะก่อนที่จะถอยหลังก้าวออกไป.
ในเวลานั้นหลี่ชิงหยาง ก็เอ่ยถามออกมาด้วยเช่นเดียวกัน “เจ้าสำนัก แล้วอะไรคือตำรวจ?”
“เอ่อ.”
จุนซ่างเซียวที่กล่าวติดขัดเอ่ยออกมาว่า “เปิ่นจั้วก็แค่พูดไปเรื่อยเปื่อย อย่าได้ใส่ใจ.”
เขาที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า “เอาล่ะ พวกเรากลับสำนัก.”
ปืนพกอินทรีย์ทะเลทรายเขาที่เหน็บมันเอาไว้ที่เอว ไม่ว่าอย่างไรการมีปืนอยู่เคียงข้าง ย่อมทำให้เขาอุ่นใจ!
“โฮกกกกก!”
ในเวลานั้น ภายในหุบเขาหมาป่า มีเสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังกังวาน.
หลี่ชิงหยางที่ขมวดคิ้วไปมา “เจ้าสำนัก นี่มัน เสียงหมาป่า ด้านในนั้นมีหมาป่าเพลิงปฐพีอีกตนอย่างงั้นรึ?”
“มาแล้ว.”ลู่เชียนเชียนที่กุมไปที่ด้ามกระบี่ ดวงตาเผยประกายความเย็นชาออกมา.
หลี่ชิงหยางและซูเซียวโม่ ตั้งท่าระวังด้วยเช่นกัน.
“ฟิ้ว!”
เพียงไม่นาน ร่างสีแดงฉานที่วิ่งออกมาจากด้านใน ยืนจังก้าต่อหน้าทุกคน ห่างออกไปไม่ถึงสิบเมตร.
หมาป่าเพลิงปฐพีนั้นมีรูปร่างที่เหมือน ๆ กัน ทว่าขนาดร่างกายจะแตกต่างกัน หมาป่าเพลิงปฐพีที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาเวลานี้มีความสูงถึงสองเมตร ใต้เท้าของมันที่มีเปลวเพลิงลุกอยู่ตลอดเวลา.
หลี่ชิงหยางที่เอ่ยกล่าวออกมาอย่างจริงจัง “นี่มันราชาหมาป่าเพลิงปฐพี.”
คิ้วของลู่เชียนเชียนที่ขยับไปมาเล็กน้อย “หมาป่าระดับต่ำชั้นเจ็ด.”
สัตว์ร้ายในทวีปชิงหยุนนั้นจะแบ่งออกเป็นระดับความแข็งแกร่ง ตั้งแต่สัตว์ร้ายระดับต่ำ สัตว์ร้ายระดับกลาง สัตว์ร้ายระดับสูง เทียบกับผู้ฝึกยุทธ์ ระดับศิษย์ยุทธ์ อาจารย์ยุทธ์และบรรพชนยุทธ์.
และหากมีพลังที่สูงกว่านั้นจะถูกเรียกว่าสัตว์วิญญาณ ซึ่งแบ่งออกเป็นระดับต่ำ กลางสูงเช่นกัน ซึ่งมีพลังเทียบกับผู้ฝึกยุทธ์ กษัตริย์ยุทธ์ จักรพรรดิยุทธ์และปราชญ์ยุทธ์ และสุดท้ายสัตว์ศักดิ์สิทธิ์นั้นมีพลังเท่ากับราชันย์ยุทธ์.
สำหรับเหล่าสัตว์ร้ายแล้ว แต่ล่ะระดับจะมีอยู่ด้วยกันเก้าชั้น.
ก่อนหน้านี้ลู่เชียนเชียนและเหล่าศิษย์ทั้งสองร่วมกันสังหารหมาป่าเพลิงปฐพี เป็นเพียงสัตว์ร้ายระดับต่ำชั้นสองเท่านั้น ทว่าราชาหมาป่าเพลิงปฐพีตนนี้ เป็นสัตว์ร้ายระดับต่ำชั้นเจ็ด มีพลังไม่ได้ด้อยกว่าระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่เจ็ดเลย.
ระดับต่ำชั้นสองและระดับต่ำชั้นเจ็ด มีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก.
“เป็นปัญหาแล้ว.”
หลี่ชิงหยางที่ขมวดคิ้ว ก่อนจะชักกระบี่ก้าวออกมาอยู่ด้านหน้าทุกคน “ทุกคนไปก่อน ข้าจะถ่วงเวลาไว้เอง!”
“ไปรึ?.”
จุนซ่างเซียวที่ยกมือขึ้นตบหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะผลักเขาไปด้านหลังและเอ่ยออกมาว่า “จำเอาไว้ เป้าหมายของสำนักไท่กู่เจิ้ง ชีวิตและความตาย ไม่ได้ไร้ค่าเช่นนี้ อย่าได้ทิ้งมันไปง่าย ๆ.”
หลี่ชิงหยางที่งงงันเพราะถูกตบหน้า.
ซูเซียวโม่ที่มุมปากกระตุกเอ่ยกล่าวออกมาว่า “เจ้าสำนัก เป้าหมายสำนักของพวกเรา ไม่ใช่ว่าคนของสำนักไท่กู่เจิ้ง จะไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ หรอกรึ?”
“เพิ่งเปลี่ยน.”จุนซ่างเซียวกล่าว.
หลี่ชิงหยางและซูเซียวโม่แทบล้มลงกับพื้น เป้าหมายสำนักเปลี่ยนแล้ว นี่ไม่จริงจัง เรื่องนี้หน่อยรึ?
“ถอยออกไป วันนี้เปิ่นจั้วจะสังหารหมาน้อยนี้เอง.”จุนซ่างเซียวชักปืนพกอินทรีย์ทะเลทรายออกมาจากเอว ขณะที่ศิษย์ทั้งสามถอยห่างออกไป.
ซูเซียวโม่ที่ยืนอยู่ห่างออกมา กล่าวออกไปว่า “ลงมือแล้ว เจ้าสำนักจะเป็นไรหรือไม่?!”
จุนซ่างเซียวที่ก้าวไปด้านหน้าอย่างภาคภูมิ.
จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา กุมปืนชี้ลำกล้องไปยังราชาหมาป่าเพลิงปฐพี กล่าวออกมาด้วยความหยิ่งผยอง “ไอ้สัตว์ร้าย เวลาของแกหมดแล้ว.”
“โฮกกกกก!”
ราชาหมาป่าเพลิงปฐพีที่คำรามลั่น ผมของมันที่ชี้ชันเปลวเพลิงลุกท่วมไปทั่วร่างทันที จากนั้นมันได้ก้าวเข้ามาด้านหน้าพร้อมกับวิ่งพุ่งเพิ่มความเร็วเข้าหา.
“แส่หาความตาย!”
จุนซ่างเซียวที่เหนียวไกปืนทันที ทว่าทันใดนั้นก็ได้ยินเสียง “แก๊ก” เขายิงแล้ว ผลนะรึ?....ไม่มีเสียง ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ทำงาน!
สัด!
มาพังอะไรตอนนี้!
จุนซ่างเซียวที่เหนียวไกปืนอีกสองครั้ง ทว่าได้ยินเพียงเสียง“แก๊ก แก๊ก” ไม่ทำงาน ลูกปืนไม่ถูกยิงออกไป.
“โฮกกกก!”
ราชาหมาป่าเพลิงปฐพีที่พุ่งเข้ามาใกล้แล้ว กงเล็บของมันที่ตะวัดขึ้น เปลวเพลิงที่ลุกพรึบสว่างจ้าลูกโชน.
ความหยิ่งผยองของจุนซ่างเซียวก่อนหน้านี้ หายไปในทันที แม้แต่ใบหน้ากลายเป็นซีดขาว คำรามด่าว่าในใจ “มารดามันเถอะ ปืนกระจอก มีไว้ประดับรึไงกัน!”
ระบบกล่าว “โฮสน์ยังไม่โหลดกระสุนเข้ารังเพลิง.”
“ห่า ลืม!”
จุนซ่างเซียวที่เร่งรีบถอยห่างออกมาอย่างรวดเร็ว กงเล็บหมาป่าที่ตวัดอากาศ ผิดเป้าเฉียดฉิวห่างจากเสื้อผ้าเล็กน้อยเท่านั้น.
“ไอ้สัตว์ร้าย แส่หาความตาย!”เขาที่อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งยืน ขึ้นลำกระสุน จากนั้นก็ยิงออกไปอีกครั้ง ทว่าก็ยังได้ยินเสียงดังแก๊ก ๆ กระสุนไม่เข้ารังเพลิงอีกรึ?
อะไรอีกล่ะ?
กับสถานการณ์ที่กำลังอยู่ในความเป็นความตาย มันอะไรนักหนาว่ะ!
“เจ้าสำนักทำอะไรนะ? ยังไม่ปล่อยอาวุธลับอีก?”
“หากข้าเดาไม่ผิด เจ้าสำนักจะต้องกำลังฝึกฝน ปฏิกิริยาหลบหลีกอยู่แน่.”
“มารดาเถอะ ฝึกฝนปฏิกิริยาหลบหลีกกับสัตว์ร้ายขั้นต่ำชั้นเจ็ด เจ้าสำนักร้ายกาจเกินไปแล้ว!”
ใบหน้าของซูเซียวโม่ที่เต็มไปด้วยความเคารพเทิดทูน.
“โฮกกกก!”
ราชาหมาป่าเพลิงปฐพีที่หันหัวของมันกลับมา อ้าปากรวบรวมก่อบอลเพลิงขึ้น พร้อมยิงออกมาเหมือนกับหมาป่าเพลิงปฐพีก่อนหน้า!
อย่างไรก็ตาม บอลเพลิงที่ยิงออกมาครั้งนั้นไม่ได้รวดเร็วแต่อย่างใด สามารถที่จะหลบเลี่ยงได้.
จุนซ่างเซียวที่กลิ้งหลบ เวลานี้ถึงกับสั่นไปทั้งตัว ด่าว่าออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ระบบ มารดามันเถอะ เกิดอะไรขึ้นอีก หา!”
“โฮสน์ยังไม่ปลดสลักป้องกัน.”
ไอ้สัด......
จุนซ่างเซียวที่แทบทรุดลงกันพื้น ขณะจ้องมองไปยังตำแหน่งด้านบนโก่งปืน มีสลักเล็ก ๆ อยู่ในตำแหน่งล็อค เขาที่เร่งรีบปลดสลักการยิงทันที.
“โฮกกกก!”
ราชาหมาป่าเพลิงปฐพีที่พุ่งเข้าหาจุนซ่างเซียวด้วยความเร็ว เปลวเพลิงทั่วร่างที่ระเบิดออกมา ราวกับว่าต้องการจะพุ่งเข้าชนมนุษย์ด้านหน้าให้ตายไป.
“เจ้าสำนัก อันตราย!”ซูเซียวโม่ที่ใบหน้าเปลี่ยนสี.
“เคร้ง! เคร้ง!”
ลู่เชียนเชียนและหลี่ชิงหยางที่ชักกระบี่ออกมา ขณะกำลังจะวิ่งออกไป พวกเขาก็ได้ยินเสียงที่ดังกึกก้อง.
“ปัง!!!!!!”
เสียงที่ดังรุนแรงแม้แต่ทำให้หูพวกเขาดับไปในทันที ก่อนที่จะได้ยินเสียง วิ้ง วิ้ง ทุกคนที่หยุดชะงักนิ่งงัน ยืนอยู่กับที่ด้วยความงงงวย.
ระบบเขตแดนบ่มเพาะเทียบกับสัตว์ร้าย.
• เขตแดนเปิดชีพจร.=สัตว์ทั่วไป.
• เขตแดนศิษย์ยุทธ์ = สัตว์ร้ายระดับต่ำ.
• เขตแดนอาจารย์ยุทธ์ = สัตว์ร้ายระดับกลาง
• เขตแดนบรรพชนยุทธ์ = สัตว์ร้ายระดับสูง
• เขตแดนกษัตริย์ยุทธ์ = สัตว์วิญญาณระดับต่ำ.
• เขตแดนจักรพรรดิยุทธิ์ = สัตว์วิญญาณระดับกลาง
• เขตแดนปราชญ์ยุทธ์ = สัตว์วิญญาณระดับสูง
• เขตแดนราชันย์ยุทธ์. = สัตว์ศักดิ์สิทธิ์