ตอนที่แล้วChapter 4: เสียงปืน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 6: ได้พัก

Chapter 5: ลอบลงมือ


ฉินหรานตะลึงมองเธอถลาออกไป

ตอนที่เธอแนะนำให้ใช้กลยุทธ์เบี่ยงเบนความสนใจและจู่โจมนั้น ฉินหรานแอบคิดว่าเธอจะขอให้เขาเป็นเหยื่อล่อ ตรงข้ามกับที่เขาคาดคิดเอาไว้ เธอเป็นฝ่ายรับผิดชอบส่วนที่มีความเสี่ยงสูงของแผนการและพุ่งตัวออกไปอย่างกล้าหาญ

"ฮะฮ่า... ดูซิว่าพวกเราเจออะไรตรงนี้!" เสียงกรีดร้องของผู้หญิงและเสียงหัวเราะของมือปืนทำให้ฉินหรานหลุดออกจากภวังค์

ความรู้สึกผิดชอบแรงกล้าของเขาไม่ยอมให้เขาใช้โอกาสนี้ในการหลบหนี แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะปล่อยโอกาสทิ้งไปง่าย ๆ เหมือนกัน ฉินหรานกระโจนออกจากจุดซ่อนตัว กำกริชเอาไว้ในมือแน่น

มือปืนทั้งสองคนเดินเข้ามาในระยะสายตาของเขา ทั้งสองคนนั้นยืนทีมในลักษณะ หนึ่งหน้าหนึ่งหลัง คนที่อยู่ด้านหน้าดูเหมือนจะถูกเสียงกรีดร้องของผู้หญิงดึงความสนใจไป แต่คนที่อยู่ด้านหลัง ยังคอยมองสำรวจรอบตัว ตอนที่ฉินหรานกระโดดออกมาจากจุดซ่อนตัว คนที่อยู่ด้านหลังเห็นเขาและยกปืนขึ้นเล็งมาที่เขา พร้อมที่จะยิง

"เชี่ยละ!" พอเห็นปืนเล็งมา หัวใจของฉินหรานก็เย็นเฉียบ เขารู้ดีว่าตัวเขาไม่ได้คงกระพันยิงไม่เข้า และผู้ชายคนนั้นก็ยืนห่างเขาออกไปแค่ไม่ถึงสามเมตร ระยะห่างสั้นมาก แต่ยังคงมากพอให้ฉินหรานไม่สามารถเข้าถึงตัวและหยุดมือปืนคนนั้นจากการลั่นกระสุนได้

เข้าตาจนแล้ว

ฉินหรานได้กลิ่นความกลัวของตัวเอง ความเย็นเยียบไต่ลงไปตามแนวสันหลังของเขา  แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงความอุ่นสายหนึ่งที่จุดขึ้นในร่างของเขา อุ่นร้อนขึ้นราวกับน้ำเดือด

คือความตั้งมั่นที่จะมีชีวิตรอด

คือความตั้งมั่นนี้ที่ทำให้เขายังมีชีวิตอยู่ในโลกจริง ทำงานหนักเพื่อจ่ายค่ารักษา และไม่ยอมแพ้ต่อความจริงอันโหดร้าย

เขาก็จะไม่ยอมแพ้ในตอนนี้เช่นกัน

ฉินหรานไม่ได้หยุดเท้า เขาเบิกตากว้างจ้องไปที่ผู้ชายถือปืนสองคนนั้น หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเขาสู้ เขาก็มีโอกาสที่จะรอดไปได้ ผู้ชายหนึ่งในสองคนนั้นหัวเราะ เสียงหัวเราะของมันเต็มไปด้วยสำเนียงเยาะเย้ยและเหยียดหยัน มันเคยพบเห็นผู้คนมากมายที่สู้สุดชีวิต เคยฆ่าผู้คนเช่นนั้นมานักต่อนัก จำนวนเพิ่มมากขึ้นจนมันนับไม่ถูกแล้วว่าฆ่าคนไปมากน้อยเท่าใดกันแน่ แต่ก็ช่างมันเถอะ มันก็แค่กำลังจะเพิ่มผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้เข้าไปอีกคน มันแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากอย่างตื่นเต้น ท่าทางดูถูกอย่างเต็มที่ขณะเตรียมเหนี่ยวไก

ทว่า ในพริบตานี้เอง ฉินหรานกระโจนไปทางขวาก้าวใหญ่ โจรที่อยู่ด้านหลังหันตามการเคลื่อนไหวของเขาตามสัญชาตญาณ แต่ตำแหน่งที่คู่หูของเขายืนอยู่บังสายตาเขาเอาไว้พอดีและโจรที่ด้านหน้าก็ตั้งตัวไม่ทัน

"ตอนนี้แหละ!" ฉินหรานรีบพุ่งตัวด้วยความเร็วสูงสุด เขาพุ่งเข้าใส่โจรคนด้านหน้าที่ถูกผู้หญิงดึงความสนใจไว้ กริชในมือของเขาขยับอย่างไหลลื่น เลี่ยงกระดูกซี่โครงของเป้าหมายและแทงเข้าไปในหัวใจอย่างแม่นยำ

[แทง: โจมตีถึงตาย ก่อความเสียหาย 100 แต้มต่อเป้าหมาย (อาวุธมีคม (กริช) (พื้นฐาน) 50x2) เป้าหมายเสียชีวิต…]

ฟุ่บ!

พอเขาชักกริชออก เลือดสีแดงสดอุ่นร้อนก็ทะลักตามออกมา เลือดกระฉูดใส่ใบหน้าเขาอีกครั้ง แต่หลังจากประสบการณ์ครั้งก่อน คราวนี้เขาฉลาดพอที่จะหลับตาลงตอนดึงกริชออก ฉินหรานไม่ได้หยุดเท้าตอนที่เป้าหมายล้มลง เขารู้ดีว่าศัตรูที่แท้จริงนั้นคือโจรคนด้านหลัง

"ย๊ากกก" ฉินหนานคำรามเสียงดังและใช้แรงทั้งหมดคว้าเอาศพตรงหน้ามาเป็นเกราะมนุษย์ เขายกศพขึ้นแล้วพุ่งเข้าใส่ศัตรูที่เหลืออยู่

ปัง!

พร้อมกับเสียงดังก้อง ฉินหราน เกราะเนื้อมนุษย์ของเขา และคนร้ายที่เหลืออยู่ล้มไปกับพื้น เกราะมนุษย์นั่นกระแทกใส่คนร้ายและทับลงบนร่างของเขาในขณะที่ฉินหรานล้มลงไปข้าง ๆ ฉินหรานรีบลุกขึ้นมาแล้วพุ่งเข้าใส่ศัตรู ตอนที่อีกฝ่ายรับรู้ได้ถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามามันก็ดิ้นรนจะลุกขึ้นแต่ว่าศพที่ทับอยู่บนร่างนั้นก็หนักกว่าที่คิด และฉินหรานก็เข้าถึงตัวมันก่อนที่มันจะผลักศพออกไปได้

ฉินหรานไม่ปรานี เขาทุ่มน้ำหนักทั้งตัวลงทับซากศพ กดทับคนร้ายมากขึ้นให้คนร้ายต้องดิ้นรนรุนแรงกว่าเดิม เขาใช้กริชในมือแทงไปที่มือขวาของคนร้าย

ปืน

อาวุธที่อันตรายที่สุดของคนร้ายและความกังวลใหญ่หลวงที่สุดของฉินหราน

ฉีก!

ปลายกริชปักเข้าที่ข้อมือขวาของคนร้ายแล้วกรีดยาวลงมา

"อ๊ากกกก!" คนร้ายร้องลั่นและปล่อยให้ปืนหล่นลงไปข้าง ๆ ฉินหรานไม่ได้หยุดมือ เขาเปลี่ยนเป้าหมายของกริชไปที่ลำตัวส่วนบนและลำคอของคนร้าย เมื่อคิดถึงว่าตอนนี้ส่วนหน้าอกของคนร้ายนั้นถูกทับไว้ด้วยศพ ลำคอของเขาจึงเป็นตัวเลือกเดียวที่เหลืออยู่

ฉัวะ!

กริชแทงเข้าไปยังลำคอของคนร้าย ทำให้เสียงร้องเงียบไปด้วย

[ตะครุบ: ก่อความเสียหาย 2 แต้มต่อเป้าหมาย ติดสภาวะหยุดนิ่ง 1 วินาที...]

[แทง: ก่อความเสียหาย 12 แต้มต่อเป้าหมาย เป้าหมายพิการ...]

[แทง: โจมตีถึงตาย ก่อความเสียหาย 86 แต้มต่อเป้าหมาย (อาวุธมีคม (กริช) (พื้นฐาน) 43x2) เป้าหมายเสียชีวิต...]

เมื่อบันทึกการต่อสู้เด้งขึ้นมา ฉินหรานก็ทิ้งตัวลงไปน่งกับพื้นและสูดหายใจลึกหลายครั้ง การต่อสู้ทั้งหมดใช้เวลาไม่เกิน 5 วินาที แต่ว่ามันผลาญพลังงานและสมาธิของฉินหรานไปมากมาย เขาใช้ความได้เปรียบจากตำแหน่งการยืนของทั้งสองคนและฆ่าคนทั้งคู่ทีละคน ฉินหรานพยายามสุดความสามารถทุกครั้ง และผลลัพธ์ก็คือโจรทั้งสองเสียชีวิต

ฉินหรานตาลายและหน้ามืดไป ความรู้สึกเหมือนจะเป็นลมครอบงำเขาและทำให้เขาต้องนอนลงกับพื้น แม้จะรู้สึกรังเกียจกลิ่นคาวเลือดแต่เขาก็ไม่ขยับแถมยังเริ่มชินกับกลิ่นนี้

"เป็นเรื่องน่ากลัวที่จะเคยชินกับของแบบนี้!"

ฉินหรานหัวเราะขื่น เขาไม่มีทางเลือก มันเป็นสถานการณ์คุกคามชีวิต เขายังคงยิ้มได้เมื่อมองหน้าต่างสถานะ

[กำลังกาย: 20}

ค่ากำลังกายของเขาลดลงจาก 100 เหลือ 20 ในระหว่างการต่อสู้ แต่เมื่อเขาสูดหายใจลึก ๆ เรื่อย ๆ เขาก็จะค่อย ๆ ฟื้นฟูค่ากำลังกายได้ 1 แต้มต่อ 1 วินาที หลังจากพักครู่สั้น ๆ ฉินหรานก็ลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง เขารีบค้นศพตรงหน้าว่ามีของมีค่าอะไรให้เก็บเกี่ยวบ้าง

[ชื่อ: M1905]

[ชนิด: ปืน]

[สภาพ: เสียหาย]

[พลังโจมตี: ปกติ]

[ความจุกระสุน: 7 นัด]

[คุณสมบัติ: ไม่มี]

[การเสริมสถานะพิเศษ: ไม่มี]

[การนำออกจากดันเจี้ยน: ได้]

[หมายเหตุ: นี่เป็นปืนสั้น 11 มิลลิเมตรที่ไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ดี ระวังกระสุนขัดลำกล้อง!]

[ชื่อ: กระสุนปืน]

[ชนิด: อาวุธยุทธภัณฑ์]

[สภาพ: ปกติ]

[คุณสมบัติ: ไม่มี]

[การเสริมสถานะพิเศษ: ไม่มี]

[การนำออกจากดันเจี้ยน: ได้]

[หมายเหตุ: กระสุนสำหรับปืนสั้น 11 มิลลิเมตร กระสุนไม่ด้าน]

ปืนสั้น  M1905 สองกระบอกและกระสุนหกนัดคือสิ่งที่ดีที่สุดที่ฉินหรานพบ นอกจากนั้นก็เป็นของที่ไม่มีค่าพอจะแบกไป ฉินหรานรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเมื่อถือ M1905 ไว้ในมือ เขาหันกลับไปมองด้านหลัง

"เรียบร้อยแล้ว!" เขาพูด เขาวิ่งตรงไปที่ผู้หญิงที่ซ่อนอยู่ด้านหลังไม่ไกลนัก ให้เธอรู้ว่าตรงนั้นปลอดภัยแล้ว แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ออกมาหาเขา การอยู่รอดมาได้ถึง 4 เดือนในภาวะสงครามไม่เพียงทำให้เธอระแวดระวัง แต่ยังฉลาดขึ้นมาก

ตอนที่เธอรับหน้าที่เบี่ยงเบนความสนใจศัตรูนั้น เธอมีอีกหลายเหตุผลมากกว่าที่เธอบอกเขาไป เธอเกรงว่าถ้าให้ฉินหรานเป็นคนเบี่ยงเบนความสนใจ มิตรภาพที่ยังไม่ทันก่อตัวระหว่างเธอและเขาจะแตกหัก แล้วทั้งคู่ก็จะลงเอยด้วยการถูกคนร้ายฆ่าตาย

ฉินหรานเข้าใจเหตุผลของเธอ นั่นคือเหตุผลให้เขาอยากคุยกับเธอ และถ้าเป็นไปได้ ก็อยากร่วมมือกับเธอ เขาชอบทำงานกับคนฉลาด แน่นอนว่า เขาต้องตรงไปตรงมาเพื่อที่จะโน้มน้าวใจเธอ

"คุณก็รู้ พวกเราเจอกันสองครั้งแล้วและเราก็ร่วมมือกันอย่างดีทั้งสองครั้ง ผมว่าเราร่วมมือกันเพื่อเอาชีวิตรอดได้ในวันเวลาแบบนี้นะ!"

ผู้หญิงคนนั้นยังลังเลที่จะลดความระมัดระวังตัวลง ฉินหรานเสียบปืนทั้งสองไว้ที่ข้างเอว และยกมือขึ้น เขาอยากให้เธอเห็นว่าเขาไม่ได้มาร้าย คำพูดของเขาก็ทำให้เธอหวั่นไหวได้เล็กน้อย ผ่านไปสองสามวินาที เธอเดินออกมา

"ฉันมีส่วนช่วยด้วยเหมือนกัน ฉันต้องการส่วนแบ่งของที่ลูทมาได้!" เธอพูด

"ได้แน่นอน" ฉินหรานพยักหน้ารับว่าเธอมีส่วนร่วมจริง ๆ เธอควรจะได้รับเครดิตส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ ถ้าไม่เป็นเพราะเธอเบี่ยงเบนความสนใจของคนร้ายคนแรกได้ ไม่ว่าฉินหรานจะพยายามแค่ไหน ก็คงไม่สามารถหนีพ้นเงื้อมมือคนร้ายทั้งสองได้แบบนี้ ดังนั้น ฉินหรานจึงไม่รู้สึกเสียดายที่ต้องแบ่งของที่ลูทได้กับเธอ เขากะว่าจะยก M1905 ให้เธอกระบอกหนึ่ง แต่กลายเป็นว่าเธอพุ่งตรงไปที่ศพที่ถูกโจรยิงแทน

ฉินหรานอึ้งไปแต่ก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว การเผชิญหน้ากันของสองคนนี้คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญคงจะมีเหตุผลอะไรอยู่เบื้องหลัง ฉินหรานพยายามต่อสู้กับความอยากรู้อยากเห็นของตัวเอง เขารับปากแล้วว่าจะแบ่งของที่ลูทได้ให้เธอ และเขาควรจะรักษาสัญญา เขายืนนิ่งอยู่ที่เดิม ตามองสำรวจไปรอบ ๆ เผื่อมีอันตรายรอให้เธอค้นตัวศพเสร็จ ไม่นาน เธอก็กลับมาพร้อมกับกระเป๋าสะพายหลังใบหนึ่ง

"ผมคิดว่าเราต้องการที่ซ่อน ที่นี่ไม่ปลอดภัย!" ฉินหรานพูด

เสียงปืนเมื่อครี้ต้องดึงดูดความสนใจที่ไม่ได้อยากได้แน่ ๆ พูดโดยสัตย์จริง ฉินหรานรู้สึกถึงสายตาที่จ้องมาที่เขาและของที่เขามี แม้จะมีเสียงปืนหลายนัด แต่คนก็คงยังเข้ามาดู และคนที่มาไม่น่าจะมีแค่พวกชาวเมืองที่ไร้อาวุธแน่ ๆ เขาอาจจะมีปืนสองกระบอก แต่มีกระสุนเพียงหกนัด และเขายังไม่อยากเผชิญหน้ากับศัตรูมากน้อยแค่ไหนก็ไม่รู้หรอก

"ตามฉันมา!" ผู้หญิงคนนั้นพูด ให้สัญญาณมาที่ฉินหราน

เมื่อคิดถึงว่าเธออยู่รอดปลอดภัยในเมืองมาได้นานถึงสี่เดือน เธอย่อมต้องคุ้นเคยกับสภาพรอบ ๆ มากกว่าเขา และเธอย่อมรู้ดีกว่ามากว่าพวกเขากำลังจะเผชิญหน้ากับอะไร การต่อสู้ไม่ได้เป็นเรื่องน่ากลัว แต่พอคิดถึงการต่อสู้โดยไม่ได้หยุดพักนั้นน่ากลัว เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องนั้น เขาต้องจบการต่อสู้แต่ละครั้งให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ และรีบออกจากสถานที่เกิดเหตุให้เร็วที่สุดเมื่อการต่อสู้จบสิ้นลง

ฉินหรานวิ่งซอกแซกตามผู้หญิงไปแม้ว่าจะเริ่มมีตุ่มพุพองที่เท้า เขาไม่ยอมหยุดวิ่งเลยสักวินาที หลังจากวิ่งกันมาราว ๆ 20 นาที พวกเขามาถึงซากปรักหักพังอีกแห่ง ผู้หญิงหยุดเท้า ฉินหรานก็หยุดด้วย และมองไปรอบ ๆ ตามสัญชาตญาณ เขาไม่เห็นอะไรน่าสงสัย

ซากปรักหักพังตรงหน้านี้แทบจะเหมือนกันกับที่เดิมที่เพิ่งผละมาเลย กำแพงที่ถล่มลง เศษอิฐ เศษไม้หัก... แต่ฉินหรานแน่ใจอย่างหนึ่ง ตอนที่พวกเขาวิ่งมา เสียงที่ได้ยินจากด้านหลังนั้นห่างออกไปเรื่อย ๆ พวกเขาสลัดคนที่จับตามองอยู่ทิ้งได้สำเร็จ

เขาปลอดภัยแล้ว

ณ ตอนนี้น่ะนะ

.

.

.

.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด