Chapter 44 ส่งอ้อยเข้าปากช้าง.
ขณะที่เหล่าศิษย์ออกไปทำภารกิจที่หมู่บ้านชิงหยาง จุนซ่างเซียวเองก็ไม่ได้ว่างเหมือนกัน เวลานี้เขาได้นำหนังสือคู่มือติดตั้งค่ายกลระดับสามัญขั้นต่ำมาศึกษา หัวข้อด้านบนมีอักษรที่เขียนเอาไว้ว่า “คำสอนสำหรับคนโง่”.
“คนโง่รึ?”
ขณะที่เขากวาดตามอง จากนั้นก็สามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว ค่ายกลพลังวิญญาณ จำเป็นต้องปักธวัชในตำแหน่งต่าง ๆจำนวน 36 ตำแหน่งก็สามารถใช้งานได้แล้ว.
“ลองดู.”
จุนซ่างเซียวก้าวออกจากห้องโถง ก้าวไปยังพื้นที่ลานยุทธ์ด้านซ้าย ก่อนจะเริ่มติดตั้งค่ายกลตามคำแนะนำ ปักธวัชไปยังจุดต่าง ทั้ง สามสิบหกจุด.
“วูซซซซ!”
เมื่อปักธวัชชิ้นสุดท้ายลงบนพื้น ธวัชทั้งหมดก็สั่นไปมาเล็กน้อย ก่อนที่รอบ ๆ ชายธวัชจะเปล่งแสงสีน้ำเงินพร้อมกับลากเส้นเชื่อมต่อกับธวัชที่อยู่ข้าง ๆ กัน.
“ฟิ้ว ฟิ้ว!”
ลำแสงสีเขียวที่ลากเส้นเชื่อม ปรากฏเป็นม่านพลังสูงห้าเมตร เป็นเหมือนกับฉากน้ำปิดกั้นผุดขึ้นมาระหว่างเส้นแสงที่เชื่อมกัน ควบรวมสร้างพื้นที่เล็ก ๆ ที่คลุมเอาไว้ด้วยค่ายกล.
“ง่ายสำหรับคนโง่จริง ๆ.”
จุนซ่างเซียวที่ยื่นมือออกไปสัมผัสม่านค่ายกล ฝ่ามือของเขาที่ผลุบเข้าไปในทันที จากนั้น เขาก็ก้าวเข้าไปด้านใน.
พื้นที่ภายในค่ายกลนั้นมีขนาดเล็กมาก เพียงแค่สิบตารางเมตรเท่านั้น เพียงแต่พลังวิญญาณด้านในและด้านนอกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง.
ตามคู่มือ นี่เพียงแค่เริ่มต้นค่ายกลเท่านั้น เขาสามารถกระตุ้นเปิดใช้งานด้วยตัวเองตลอดเวลา ทว่าจุนซ่างเซียวไม่ต้องการทำเช่นนั้น ต้องไม่ลืมว่ามันจะหักคะแนนสนับสนุนของเขาออกด้วย.
“ค่ายกลรวบรวมพลังวิญญาณจะช่วยเหล่าศิษย์ได้มาก รอให้พวกเขาทำภารกิจสำนักเสร็จ ค่อยเปิดให้บ่มเพาะก็แล้วกัน.”
“นอกจากนี้มันยังใช้แต้มสนับสนุนเป็นเชื้อเพลิง คงไม่สามารถเปิดได้ทุกวัน.....”
จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิดครู่หนึ่ง และตัดสินใจว่าจะเปิดทุกเจ็ดวัน ให้ศิษย์แต่ละคนได้บ่มเพาะคนล่ะสองสามชั่วยาม.”
“เฮ้อ.”
“ขาดแต้มสนับสนุนสินะ.”
“ไม่เช่นนั้น คงเปิดได้ทุกวัน ด้วยสภาพแวดล้อมที่ทำให้บ่มเพาะได้เร็วขึ้นสองเท่า พลังบ่มเพาะของทุกคนจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแน่นอน.”
จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกมา เมื่อเขาเดินจากไป ม่านค่ายกลสีน้ำเงินก็ซ่อนตัวเองแทบจะในทันที.
......
เช้าวันถัดมา.
หลี่ชิงหยางและลู่เชียนเชียนพร้อมศิษย์คนอื่น ๆ ก็เดินทางไปทำภารกิจต่อที่หมู่บ้านชิงหยาง จุนซ่างเซียวที่เริ่มบ่มเพาะโคจรวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็น ต้องการจะทะลวงเชื่อมชีพจรเส้นสุดท้ายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้.
เขาตรวจสอบร้านค้าระบบสำนักตลอดทั้งคืน แต่ก็ไม่พบสินค้าใดที่จะช่วยเขาตัดผ่านระดับได้ ทำให้เขาต้องนั่งบ่มเพาะด้วยตัวเอง.
แต่ด้วยการบ่มเพาะด้วยตัวเอง โดยการโคจรวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นมาหลายวัน ทำให้ร่างกายของจุนซ่างเซียวแข็งแรงขึ้น เส้นชีพจรของเขาขยายใหญ่ขึ้นมาก กายเนื้อที่เหนือกว่าผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปในระดับเดียวกันมาก.
“ตลอดหลายวันมานี้ ข้าควรจะแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นเท่าใดกัน?”เขาที่เอ่ยออกมาเสียงเบา.
ระบบตอบ “มีเครื่องตรวจสอบความแข็งแกร่งในร้านค้ามือใหม่ สามารถทดสอบความแข็งแกร่งได้อย่างระเอียด แนะนำโฮสน์ซื้อ ความสำคัญห้าดาว.”
“ฮึ.”
จุนซ่างเซียวที่มองบนและกล่าวออกมาว่า “ต้องการให้ข้าใช้แต้มสนับสนุนอีกแล้วละสิ.”
ระบบกล่าว “เครื่องตรวจสอบความแข็งแกร่ง สามารถใช้ได้ทั้งเจ้าสำนักและศิษย์ เป็นสิ่งที่แต่ละสำนักมีกัน หากว่าหายไปเพราะว่ารีเฟรชครั้งต่อไป อาจไม่สามารถซื้อได้”
“ไม่อาจซื้อได้อีกอย่างงั้นรึ?”
จุนซ่างเซียวมุมปากกระตุกและเอ่ยออกมาว่า “เจ้ากำลังจะบอกว่าเมื่อรู้ตัวก็สายไปแล้วอย่างงั้นรึ?”
“แตกต่างกันอย่างไร?”
แม่งมันเถอะ อ๊าก......
จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา “ระดับพลังบ่มเพาะเรื่องหลัก ความแข็งแกร่งเรื่องรอง การซื้อเครื่องทดสอบความแข็งแกร่งก็ยังถือว่าจำเป็น และยังได้ตรวจสอบความก้าวหน้าของศิษย์ด้วย.”
“วิ้ง!”
เขาที่เปิดคอนโซนหน้าจอระบบ ก่อนที่จะเลือกร้านค้ามือใหม่ พร้อมกับเลื่อนหาเครื่องตรวจสอบความแข็งแกร่ง.
สินค้าดังกล่าวมีราคาสิบแต้มสนับสนุน รายระเอียดแนะนำที่ดูเรียบง่ายมาก เพียงแค่รวบรวมพลังวิญญาณและโจมตีออกไป ก็จะสามารถวัดพลังโจมตีได้อย่างแม่นยำ.
“ซื้อ.”
“ติ้ง!”
“โฮสน์ใช้ 10 แต้มสนับสนุน ได้รับเครื่องทดสอบความแข็งแกร่ง ถูกส่งไปยังแหวนมิติแล้ว.”
“คะแนนสนับสนุนสำนัก : 24 / 100.”
......
“ครืนนน!”
จุนซ่างเซียวที่ออกมา ด้านหน้าลานยุทธ์ก่อนที่จะนำเครื่องทดสอบพลังออกมา สิ่งดังกล่าวนี้ดูเหมือนกับกระสอบทรายที่ตั้งได้ เขาลองผลักดูแล้วแต่กลับไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย.
ระบบกล่าว “สิ่งนี้มีเพียงโฮสน์ที่สามารถเรียกออกมาและเก็บเข้าแหวนเก็บของได้เท่านั้น ไม่มีใครสามารถขยับเขยื้อนมันได้.”
“เป็นเช่นนี้.”
จุนซ่างเซียวที่กำหมัดแน่น ส่ายหน้าไปมา “ข้าจะลองดู ข้ามีความแข็งแกร่งขนาดใหน.”
หลังจากอุ่นร่างกายเสร็จ เขาสูดหายใจลึก หมัดขวาที่กำแน่น วงแสง 11 วงปรากฏขึ้นที่ข้อมือ.
“ย๊าก !”
จุนซ่างเซียวที่ก้าวไปด้านหน้า พลังวิญญาณที่อาบไปทั่วหมัด ก่อนจะเหวี่ยงหมัดออกไป เกิดเสียงดังกึกก้องขึ้นที่เครื่องทดสอบความแข็งแกร่ง.
“ตูมมมม”
กระแสอากาศที่แผ่ออกไปเป็นระลอกคลื่น...........
อย่างไรก็ตาม ที่ด้านล่างเครื่องทดสอบความแข็งแกร่ง ปรากฏตัวเลขขึ้น 1800 ซึ่งมีหน่วยเป็นจินนั่นเอง.
“1800 จินรึ?”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ก็ไม่เลว.”
ระบบกล่าว “ในทวีปชิงหยุนนั้น ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเปิดชีพจรขั้นที่ 11 มีความแข็งแกร่งโดยเฉลี่ยที่ 1500 จิน โฮสน์มีระดับเหนือกว่าปรกติ 300 จิน.”
“300 จิน?”จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา.
หากผู้ฝึกยุทธ์ได้เห็นท่าทางไม่พอใจของเขา คงคำรามด่าออกมา “เฮ้ย เหนือกว่าปรกติถึงสามร้อย จะเกินไปแล้ว!”
ระบบทำการวิเคราะห์และกล่าวออกมาว่า “ร่างกายของโฮสน์แข็งแกร่งขึ้น ถึงจะมีพรสวรรค์ขยะ แต่ก็สามารถเหนือกว่ามาตรฐาน 300 จิน นั่นเป็นเพาะบ่มเพาะพลังด้วยวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็น.”
“งั้นก็ต้องบ่มเพาะต่ออีก.”
จุนซ่างเซียวที่นั่งสมาธิ เริ่มโคจรพลัง.
“ติ๊ง!”
“ภารกิจสนับสนุนถูกเปิด!”
ภารกิจสนับสนุนอย่างงั้นรึ?
เสียงระบบที่ดังขึ้นในหูของจุนซ่างเซียว ก่อนที่เขาจะเร่งรีบเปิดคอนโซนหน้าจอระบบขึ้นมาในทันที รายการภารกิจสนับสนุน ปรากฏรายระเอียด สั่งสอนอาวุโสตระกูลอ้ายที่มาหาเรื่อง 0/1 [ภารกิจระดับสูง]
“อาวุโสตระกูลอ้าย?”
เขาที่นึกได้ทันที หลายวันก่อนหน้านี้ เขาได้สั่งสอนนายน้อยสามตระกูลอ้ายไป ก่อนที่จะสีจมูกเผยยิ้มออกมา “ข้าทุบเจ้าหนูเจ้าสำราญนั่นไป ตระกูลอ้ายคงไม่ยอมอย่างงั้นรึ?.”
“ภารกิจระดับสูง.”
จุนซ่างเซียวที่ถูมือไปมา “ปลาตัวใหญ่ทีเดียว ว้าว ๆ.”
ภารกิจระดับสูงอาวุโสเหว่ย ในเมืองชิงหยาง เขาได้รับ 20 แต้มสนับสนุน ทำให้เวลานี้เค้าคาดหวังให้อาวุโสตระกูลอ้ายมาสร้างปัญหาเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะเก็บเกี่ยวแต้มสนับสนุน.
“เจ้าสำนัก!”
ศิษย์คนหนึ่งที่วิ่งเข้ามาจากด้านนอก กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงรีบเร่ง “ที่ด้านนอก มีคนที่กล่าวว่าเป็นอาวุโสของตระกูลอ้ายกำลังตะโกนเสียงดังโหวกเหวกอยู่!”
สองสามวันก่อน เขาได้ทุบคนตระกูลอ้ายไป วันนี้จึงมีคนมาหาเรื่อง นับว่าค่อนข้างเร็วเลยทีเดียว.
“ส่งอ้อยเข้าปากช้าง.”
จุนซ่างเซียวที่ลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะก้าวออกไปด้านนอก ด้วยใบหน้าไม่แยแส ศิษย์มากมายเดินตาม พร้อมกล่าวด้วยใบหน้างงงวย “ไม่ได้การ หรือเรื่องวันก่อนจะเกิดซ้ำ.”
......
ที่ด้านหน้าสำนักไท่กู่เจิ้งมีบุรุษในชุดสีแดงยืนอยู่ เป็นชายวัยกลางคนที่สวมชุดคลุมยาว ยืนมือขัดหลัง ดวงตาที่เผยความภาคภูมิและเหยียดหยันดูแคลน คนอื่น ๆ ออกมา.
เขาที่เอ่ยว่าเป็นอาวุโสตระกูลอ้าย นามอ้ายชางเกอ กับท่าทางโอหังที่แสดงออกมา แสดงให้เห็นว่าเขามีพลังบ่มเพาะระดับศิษย์ยุทธ์.
“โอ้ว.”
จุนซ่างเซียวที่ก้าวเดินออกมา พร้อมกับยกมือขึ้นประสานอก “อาวุโสตระกูลอ้าย เปิ่นจั้วต้องขออภัยที่ออกมาพบช้า ขออภัย ๆ”
อ้ายชางเกอที่มองด้วยแววตาดูแคลน กล่าวออกมาว่า “เจ้านะรึ? เจ้าสำนักจุนซ่างเซียว?”
“...”จุนซ่างเซียวกล่าว.
ก่อนหน้านี้อ้ายโจวที่ไม่เห็นตัวเขาเป็นเจ้าสำนักเลย มาวันนี้อีกฝ่ายก็สงสัยในตัวของเขาว่าเป็นเจ้าสำนักอีกงั้นรึ?
อ้ายชางเกอกล่าว “เจ้าสำนักจุน ทายาทตระกูลอ้ายถูกศิษย์ของท่านรังแกข่มเหง โปรดส่งผู้กระทำผิดมาให้ข้าด้วย.”
“เรื่องนี้......”
“โปรดวางใจ ข้าจะเห็นแก่พันธมิตรร้อยสำนัก ข้าจะทำเพียงหักขาหักแขนมันเท่านั้น ไม่ทำร้ายถึงชีวิต.”
ท่าทางของอ้ายชางเกอที่ยโสโอหัง เจ้ายศเป็นอย่างมาก.
จุนซ่างเซียวที่แสร้งเอ่ยท่าทางอักอ่วน “อาวุโสอ้าย กล่าวตามจริง ทายาทตระกูลของท่านได้มาสร้างปัญหาที่หน้าประตูสำนัก คนที่สั่งสอนเขาไม่ใช่ศิษย์ แต่เป็นเปิ่นจั้วเอง.”
“อะไรนะ?”
อ้ายชางเกอที่ตกใจ “เจ้าเองรึ?”