ตอนที่แล้วChapter 42 ภารกิจสำนัก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 44 ส่งอ้อยเข้าปากช้าง.

Chapter 43 เวลาแห่งความสุข


หลังจากที่หลี่ชิงหยาง ลู่เชียนเชียนพร้อมกับศิษย์คนอื่นที่ได้รับมอบหมายภารกิจ ก็เดินทางไปยังหมู่บ้านชิงหยาง กระจายตัวออกไปจัดการภารกิจต่าง ๆ ที่ตัวเองได้รับ.

“ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง?”

“โกว...เจ้าเด็กเหลือขอจุนซ่างเซียว รับศิษย์มามากมายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

“พวกเขาลงเขามาหลายคน ที่ใต้ต้นไทร มีแม่นางน้อยคนหนึ่งรับคำสั่งเจ้าสำนัก มาเสนอเขียนจดหมายให้กับพวกเราด้วย.”

เหล่าชาวบ้านหมู่บ้านชิงหยางที่รวมตัวกันพูดคุยกัน.

หลี่ชิงหยางที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ได้ยินชาวบ้านเอ่ยถึงตนว่าเป็น แม่นางน้อย ถึงกับรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันที.

ตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้ เขาก็เป็นบุรุษทั้งแท่ง ทุกคนจะมองเขาเป็นหญิงสาวได้อย่างไร หรือจะเป็นเพราะชุดที่เจ้าสำนักออกแบบมันดูดโดดเด่นฉูดฉาดกัน.

ไม่นานหลังจากนั้น หญิงชราผมขาวค้ำไม้เท้าก้าวเดินเข้ามาช้า ๆ.

หลี่ชิงหยางกล่าวทักทาย “ท่านยาย ต้องการเขียนจดหมายอย่างงั้นรึ?”

หญิงชราผมขาวที่เอียงคอเอ่ยกล่าวออกมาว่า “เจ้าหนู เมื่อกี้เจ้าพูดอะไรอย่างงั้นรึ?”

“ข้าบอกว่า ท่านต้องการเขียนจดหมายอย่างงั้นรึ?”หลี่ชิงหยางที่เพิ่มเสียงขึ้นอีก.

ยายผมขาวที่ยังได้ยินไม่ชัดเจน นางยกมือเหี่ยวขึ้นแคะหูของตัวเองอีกครั้ง “ยายแก่แล้ว ไม่ค่อยได้ยิน.”

หลี่ชิงหยางที่ไม่รู้จะทำอย่างไร เขาที่นำพู่กันออกมาเขียนอักษร “ท่านต้องการเขียนจดหมายใช่ใหม่”

ประจวบเหมาะกับเซียวจุ้ยจื่อที่กำลังแบกถังอุจจาระผ่านมาจากด้านในหุบเขา เห็นศิษย์พี่รองกำลังแสดงท่าทางเก้ ๆกัง ๆ ยกกระดาษชูขึ้น.

หลี่ชิงหยางที่ได้ยินเสียงคนก้าวผ่านมาก็เงยหน้าขึ้นและเอ่ยออกมาว่า “ศิษย์น้อง เจ้าเป็นอย่างบ้าง?”

เซียวจุ้ยจื่อที่พยุงร่างกายรักษาสมดุล ไม่ให้ถังอุจจาระหล่น ก่อนจะหยุดยืนนิ่ง “ศิษย์พี่ ท่านคิดว่านางอ่านหนังสือออกงั้นรึ?”

ทันใดนั้นหลี่ชิงหยางยกมือขึ้นตบกบาลตัวเอง “ลืมไปเลย ชาวบ้านหมู่บ้านชิงหยางอ่านเขียนหนังสือไม่ออก ข้าเขียนอักษรก็ไม่มีใครเข้าใจ.”

เขาที่รวมรวมพลังวิญญาณ และตะโกนออกมา “ท่านต้องการเขียนจดหมายใช่ไหม?”

หญิงชราเวลานี้ได้ยินแล้ว นางถึงกับเคาะไม้เท้าลงเสียงดังและเอ่ยออกมาว่า“ไอ้หนู เจ้าพูดเสียงเบา ๆ ไม่เป็นรึ? หูข้าจะหนวกเร็ว ๆนี้แล้ว.”

“พรึด.” หลี่ชิงหยางแทบทรุดลงไปกับโต๊ะของเขา.

......

ลานบ้านแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยเศษใบไม้ร่วงกระจายเต็มพื้นไปหมด.

ลู่เชียนเชียนในชุดขาวราวกับนางฟ้า แขนขาของนางที่เรียวเล็กแต่กลับเปี่ยมไปด้วยพลังวิญญาณ.

“วูซซซ!”

นางที่สะบัดข้อมือเบา ๆ.

เพื่อจะคว้าไม้กวาดขึ้นมา ทว่าด้วยพลังที่นางมี ได้ทำให้มันหักไปในทันที.

ลู่เชียนเชียนที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย “แค่นี้ก็หักแล้วรึ?”

ไม้กวาดที่หักพุ่งออกไป ปักลงบนพื้น เศษชิ้นส่วนที่ราวกับอาวุธ แหลมคมดูน่าเกรงขามไม่น้อย.

“กู่....กู่เหนียง....”ที่ไกลออกไป ป้าหวังที่ยกที่ตักขยะขึ้นป้องกันตัวเอง พร้อมกับเอ่ยออกมาเสียงดัง “เจ้า...เจ้ามากวาดพื้น หรือสังหารคนกัน หา!”

(姑娘 (อ่านว่า กูเหนียง) ในจีน มักใช้เรียกผู้หญิงที่เราไม่รู้จัก หรือรู้จักแล้วแต่ให้เกียรติ เป็นคำเรียกรวมๆ ที่ใช้ง่ายในโบราณ คล้าย ๆกับ มาดามในภาษาอังกฤษ.)

“ฮึ.”

ลู่เชียนเชียนเก็บเศษชิ้นส่วนของไม้กวาด พร้อมกับกล่าวอย่างไม่แยแส : “ข้าทำไม่เป็น แต่เจ้าสำนักก็สั่งให้ข้ามา.”

เจ้าสำนัก?

ป้าหวังที่คิดถึงจุนซ่างเซียวในทันที.

นางที่ดุด่าในใจ “เจ้าเด็กเหลือขอนั่น ต้องการทำอะไร?”

“ฟู่ ฟิ้ว!”

สายลมที่โบกพัดหมุนวนอย่างรุนแรง.

ป้าหวังที่ยกที่ตักขยะขึ้นอย่างรวดเร็ว และจ้องมองไปด้านข้าง เห็นเด็กสาวคนดังกล่าวที่ราวกับเป็นนางเซียน กำลังโบกมือไปบนอากาศ ใบไม้รอบ ๆ ก็มารวมกันยังสถานที่เดียวกัน.

“ง่ายกว่าใช้ไม้กวาดอีก.”

ลู่เชียนเชียนที่สายตาไร้อารมณ์เอ่ยกล่าวออกมาว่า.“แล้วจะให้เอาไปทิ้งที่ใหน?”

“ประตู....ด้านนอกประตูเลย.....”ป้าหวังที่เร่งรีบชี้ไปยังด้านนอก.

“ฟิ้ว!”

ลู่เชียนเชียนที่ก้าวไปด้านหน้าแต่ก้าวพลาดก้าวหนึ่ง นางที่ลื่นไถลไปด้านหน้า ลมหมุนที่ลอยโด่งโยนเศษใบไม้กิ่งไม้ลอยออกไปไกลทันที แม้แต่กำแพงบ้านก็หลุดลอยไปด้วย.

“ฟิ้ว ซูมๆ.”

ที่ด้านนอกหมู่บ้าน ซูเซียวโม่ ที่เพิ่งก้าวออกมาด้านนอกหมู่บ้าน ลมหมุนที่ลอยมาจากที่ไกล ๆ ล่วงหล่นลงใส่บนศีรษะของเขาทันที เขาที่ตกอยู่ในสภาพเลือกเปื้อน น่าอนาถเป็นอย่างมาก.

“พรึด ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

ศิษย์อีกสองคนที่ทำอีกภารกิจ ขณะจ้องมองเห็นศิษย์พี่ถูกใบไม้ล่วงหล่นใส่ศีรษะหอบใหญ่ ถึงกับหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้.

“หลบไป หลบไป!”

ในเวลานั้น กับสายลมที่รุนแรงอยู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นนั้น เซียวจุ้ยจื่อที่ลงมาจากเนินเขา เพราะว่าไม่สามารถทรงตัวได้ ถังอุจจาระสองถังที่กำลังแบกเหวี่ยงไปมา อุจจาระที่พุ่งกระเซ็นไปรอบ ๆ ก่อนจะกระฉอกลงไปบนใบหน้าของศิษย์สองคนที่กำลังหัวเราะ.

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

เห็นศิษย์น้องทั้งสองที่ใบหน้าเปื้อนไปด้วยอุจจาระ ซูเซียวโม่ก็หัวเราะออกมาเสียงดัง.

หลังจากที่ถังอุจจาระเหลือน้อยลง เซียวจุ้ยจื่อก็กลับมารักษาสภาพสมดุลได้ ก่อนที่จะเอ่ยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอักอ่วน “ศิษย์พี่ ข้าขอโทษ......”

“ฮือ ฮือ!”

ศิษย์ทั้งสองที่ใบหน้าเปื้อนไปด้วยอุจจาระ ดวงตาเวลานี้เป็นประกายและเริ่มกลายเป็นสีแดง.

เซียวจุ้ยจื่อเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดีก่อนจะเร่งรีบหนีไปในทันที.

“อย่าหนีนะ!”

ศิษย์ทั้งสองที่วิ่งไล่ ยังก้าวไปไม่ถึงครึ่งก้าวด้วยซ้ำ เร่งเร็วไปหน่อย พุ่งเข้าชนถังอุจจาระทั้งสองเสียงดังโครม ถังอุจจาระที่อาบไปทั่วร่าง มองเห็นแต่ไรฟัน.“อ๊าก ๆ.”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

ซูเซียวโม่ที่หัวเราะน้ำตาร่วง.

“ปัง!”

กำแพงที่มาพร้อมกับกองใบไม้ ทันใดนั้นก็ล่วงหล่นกระแทกซูเซียวโม่ จากนั้นเขาก็ลงไปนอนบนพื้นทันที.....

......

ชาวบ้านในหมู่บ้านชิงหยางนั้นมีไม่มากนัก ไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น เหล่าคนหนุ่มสาวส่วนมากออกไปทำงานกันหมด ในหมู่บ้านจึงมีเพียงแค่คนเฒ่าคนแก่ ดูค่อนข้างเงียบเหงาทีเดียว.

ทว่าหลังจากที่ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งมาถึง ทำภารกิจช่วยเหลือชาวบ้านต่าง ๆ ทำให้หมู่บ้านดูครึกครื้นขึ้นมาในทันที.

เหล่าชาวบ้านค่อย ๆ เข้าใจทีละน้อย ๆ โกวเซิ่ง(หมาจรจัด) ได้ส่งเหล่าศิษย์มาช่วยทุกคนทำงาน จากนั้นจึงตอบรับด้วยความยินดี.

“เซียนเซิงหลี่ ข้าต้องการเขียนจดหมาย.”

ใต้ต้นไทรขนาดใหญ่ ชายชราวัย 70 กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “ข้าต้องการส่งถึงเจ้าหนูสองที่อยู่ในเมือง ให้เขาตั้งใจศึกษาเรียนหนังสือให้ดี อย่าเอาแต่เล่น.”

หลี่ชิงหยางที่เริ่มเขียนจดหมายฉบับแล้วฉบับเล่า.

ไม่กี่ชั่วยาม เขาก็เขียนจดหมายให้ชาวบ้านไปถึงห้าฉบับแล้ว.

พวกเขาที่เขียนถึงบุตรชาย เขียนถึงญาติพี่น้อง เรื่องราวทั้งหมดมักจะเกี่ยวข้องกับกิจกรรมต่าง ๆในครอบครัว  แม้นว่ามันจะแสนธรรมดามาก ทว่ากลับเต็มไปด้วยคุณค่าอย่างสุดซึ้ง สำหรับพวกเขา.

ท้ายที่สุดการเขียนจดหมายวันนี้ก็จบลง แววตาของหลีชิงหยางก็เปลี่ยนไป “ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าสำนักต้องการให้ข้าได้รับฟัง รับรู้ความรู้สึกของพวกเขา เพื่อที่จะได้เข้าใจเกี่ยวกับวิถีชีวิต.”

......

“แปะ แปะ!”

ภายในลานบ้าน ลู่เชียนเชียนปรบมือพร้อมกับกล่าวออกมาว่า “ก็แค่งานง่าย ๆ”

บนพื้นที่ไร้ซึ่งใบไม้ แม้แต่ฝุ่นสักนิดก็ยังไม่มี ทุกอย่างสะอาดเอี่ยมหายไปหมด แม้แต่รั้วไม้ไผ่.

ป้าหวังแทบล้มทั้งยืน ใบหน้าเหยเกอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา.

ลานบ้านสะอาดไร้ฝุ่นของแท้ ต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกเอาไว้ ใบทุกใบ กิ่งทุกกิ่งได้หายไปหมดแล้ว ดูไม่ต่างจากตอไม้ที่ชี้โด่ โง่ ๆ เท่านั้น.

แต่นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรื่องใหญ่คือผักหลากลายชนิดที่เพิ่งปลูกไว้....ในเวลานี้มันโล่งเตียน ลอยหายไปหมดแล้ว.

“ห้องสะอาดหรือยัง?”

“ฟิ้ว!”

ป้าหวังที่ดีดตัวพุ่งเข้าไปยังหน้าประตู ขวางกั้นนางเอาไว้ “กู่เหนียง ข้าจะจัดการเอง ไม่ต้องรบกวนเจ้าหรอก.”

“ไม่ได้ ไม่ได้.”

ลู่เชียนเชียนเอ่ย “เจ้าสำนักเอ่ยว่า ต้องช่วยท่านทำงานบ้านด้วย.”

นางที่โบกมือ ให้ป้าหวังถอยออกไป ก่อนที่จะก้าวเข้าไปในห้อง จากนั้นป้าหวังก็ได้ยินเสียง เคร้ง คร้าง ถ้วยน้ำชาที่กระแทกกัน แม้แต่เสียงแตกหักขึ้นเป็นระยะ ๆ.

“อ๊าก ๆๆ!”

ป้าหวังที่กุมศีรษะ ใบหน้าที่เงยขึ้นมองท้องฟ้าโอดครวญ “เจ้าเด็กเหลือขอนั่น จงใจส่งคนมาทำร้ายเหล่าเหนียง(หญิงชรา)!”

......

จวนถึงเวลาพลบค่ำ.

ภายในห้องโถงเสียงดังเจี้ยวจ้าวก็ดังขึ้น จุนซ่างเซียวที่เงยหน้าขึ้นมอง “รีบไปอาบน้ำกันรึ?!”

“ฟิ้ว! ฟิ้ว!”

เซียวจุ้ยจื่อและคนอื่นที่หายไปอย่างรวดเร็ว.

หลี่ชิงหยางที่ก้าวเข้ามา “เจ้าสำนัก เหล่าศิษย์น้องทำภารกิจได้อย่างยอดเยี่ยมในวันนี้.”

จุนซ่างเซียวที่ตกใจและกล่าวออกมาว่า “ทำไมเสียงถึงได้แหบแห้งขนาดนี้?”

หลี่ชิงหยางได้ยิน น้ำตาแทบร่วงและกล่าวออกมาว่า “คนที่มาให้ข้าเขียนจดหมายวันนี้ มีแต่คนอายุมาก หูไม่ค่อยดี.”

“เฮ้อ!”

จุนซ่างเซียวที่ตบบ่าของเขาเบา ๆ “เจ้าทำงานได้ดี.”

“หืม?”

เขาที่กวาดตามองไปยังศิษย์คนอื่น ๆ.“เชียนเชียนล่ะ? ไม่ได้กับมากับเจ้ารึ?”

“ตึง! ตึง! ตึง!”

ราวกับแผ่นดินไหว.

จุนซ่างเซียวที่เงยหน้า จ้องมองไปที่ทางออกที่ฝุ่นฟุ้งลอยขโมง กล่าวออกมาว่า “แผ่นดินไหวงั้นรึ?”

“เจ้าเด็กเหลือขอ!”

จากนั้น ที่ด้านนอกห้องโถงก็ได้ยินเสียงคำรามดังก้อง.

“ป้าหวัง?”

จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกไปในทันที ทว่าต้องผงะถอยหลังหนึ่งก้าว ขณะออกมาหน้าประตู.

บนลานยุทธ์ ป้าหวังที่ถือมีดทำครัว พร้อมกับยกมีดชี้ไปยังเขา ขณะก้าวมาพร้อมกับคนอื่น ๆ.

“เจ้าสำนัก.”

ลู่เชียนเชียนที่ยืนอยู่บนหลังคาประตู เอ่ยออกมาว่า “นางต้องการขอบคุณท่าน ศิษย์ห้ามแล้วแต่ก็ห้ามไม่ได้.”

“อึก อึก.”

จุนซ่างเซียวกลืนน้ำลายคำโต เร่งรีบเอ่ยออกมาว่า “ป้าหวัง หากมีอะไร....อ๊าก ป้าหวังจะฆ่าคนแล้ว!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด