Chapter 42 ภารกิจสำนัก
หลังจากที่จุนซ่างเซียวเห็นรายระเอียดภารกิจ ถึงกับพูดไม่ออกไปเหมือนกัน.
ทำความสะอาดหลังบ้านป้าหวังหมู่บ้านชิงหยาง ช่วยแบกอุจจาระไปรดผัก เขียนจดหมายให้กับชาวบ้าน...และยังมีช่วยทำของหวาน? เนื้อหามันเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปใหม?
ระบบเอ่ย “โฮสน์หากรู้สึกว่าภารกิจไม่ยาก สามารถที่จะเปลี่ยนรายการภารกิจใหม่ แทนที่ของเดิมได้.”
“ใช้แต้มสนับสนุนอีกอย่างงั้นรึ?”
“10 แต้ม.”
“ไม่ต้องแนะนำเลย.”
จุนซ่างเซียวที่กวาดตามองภารกิจ พร้อมกับสีคางไปมา “กวาดพื้น แบกอุจจาระ ก็ไม่ใช่งานยากอะไร.”
“แต่ว่า......”
“ภารกิจมากขนาดนี้ ข้าเพียงคนเดียวคงต้องใช้เวลาไม่น้อยเลย.”
ระบบกล่าวเตือน “ภารกิจสำนักสามารถมอบให้ศิษย์ทำ โฮสน์เป็นเพียงคนมอบหมายจัดการ ภารกิจที่โฮสน์ต้องทำเองคือภารกิจหลัก ภารกิจสนับสนุน ภารกิจลับและภารกิจมหากาพย์.”
“เป็นเช่นนี้นะเอง.”
ภารกิจสำหรับเขาแยกต่างหาก ภารกิจสำหรับศิษย์ก็แยกอีกส่วน ดูเหมือนว่าระบบจะแบ่งแยกกันอย่างชัดเจน.
จุนซ่างเซียวกล่าว “ตามการจำแนกภารกิจสองดาวหนึ่งดาว มีรางวัลที่แตกต่างกันอย่างงั้นรึ?”
“ไม่ผิด.”
ระบบกล่าวเพิ่ม “ภารกิจยิ่งมีดาวมากเท่าไหร่ ก็จะมีความยากมากขึ้นเท่านั้น.”
“เข้าใจแล้ว.”
จุนซ่างเซียวที่ลุกขึ้น ก่อนที่จะก้าวออกไปยังลานยุทธ์ “ชิงหยาง ให้ศิษย์ทุกคนมารวมกันที่ลานยุทธ์ เปิ่นจั้วมีภารกิจจะแจกจ่าย.”
“ครับ.”
หลี่ชิงหยางที่รับคำ หากแต่ภายในใจเต็มไปด้วยความสงสัย “ภารกิจอย่างงั้นรึ?”
......
บนลานยุทธ์.
ศิษย์ทุกคนที่มารวมตัวกัน.
เซียวจุ้ยจื่อ เขาได้ชำระล้างร่างกาย และเปลี่ยนเป็นชุดสำนักไท่กู่เจิ้งเรียบร้อยแล้ว.
ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นสุดยอดพรสวรรค์ ผมยาวที่ปล่อยสลวย ปลิวไปตามแรงลมเล็กน้อย ใบหน้าของเขาที่คมกริบ นับเป็นคนที่หล่อเหล่าและฉลาดเฉลี่ยว.
ทว่าห้าปีที่ต้องประสบกับการเปลี่ยนแปลง ในแววตาของเขาจึงมีท่าทีไม่แยแส และเหนื่อยล้าอยู่ด้วย ทำให้เขาดูแตกต่างจากศิษย์คนอื่น ๆ.
จุนซ่างเซียวรู้ดี คำพูดของเขาก่อนหน้านี้ ช่วยให้เขาได้สติมีความมั่นใจในวิถียุทธ์ชั่วคราวเท่านั้น หากต้องการให้เขากลับมาเป็นเช่นนั้น จำเป็นต้องใช้เวลาสักหน่อย.
“เจ้าสำนัก.”หลี่ชิงหยางเอ่ย “ศิษย์มาครบทุกคนแล้ว.”
“แค๊ก แค๊ก.”
จุนซ่างเซียวที่ยืนมือขัดหลังก้าวออกมา กล่าวออกไปว่า “พวกเจ้าได้เข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้งระยะหนึ่งแล้ว เปิ่นจั้วได้จัดเตรียมสิ่งดำเนินชีวิตเบื้องต้น วิชาบ่มเพาะ พวกเจ้าพอใจหรือไม่?”
“พอใจ!”
ศิษย์ทุกคนที่กล่าวตอบรับเสียงดัง.
มีกินมีดื่ม มีวิชาบ่มเพาะที่ทรงพลัง ไม่ใช่แค่พอใจ แต่พอใจเป็นอย่างมาก.
ทว่าทันใดนั้นจุนซ่างเซียวก็กลายเป็นจริงจังและเอ่ยออกมาว่า “แต่ว่า เปิ่นจั้วยังมีสิ่งที่ยังไม่ได้บอกพวกเจ้า.”
ศิษย์ทุกคนที่ตะลึงงัน จ้องมองหน้า กัและกันด้วยท่าทางหวาดหวั่น.
ลู่เชียนเชียนเอ่ย “เจ้าสำนัก มีสิ่งใดก็กล่าวมาตามตรงเถอะ.”
ผู้หญิงคนนี้ขัดคอข้าอีกล่ะ อ๊าก!
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ในเมื่อพวกเจ้าได้เป็นส่วนหนึ่งของสำนักไท่กู่เจิ้งแล้ว จะต้องทำเพื่อสำนักให้ดีที่สุด.”
“ข้ายินดีที่จะบุกน้ำลุยไฟเพื่อสำนัก!”ศิษย์ทุกคนที่กล่าวออกมาพร้อม ๆ กัน.
จุนซ่างเซียวพยักหน้า และเอ่ยออกมาว่า “เมื่อเร็ว ๆ นี้หมู่บ้านชิงหยางมีปัญหาเล็กน้อย เปิ่นจั้วตัดสินใจที่จะช่วยพวกเขา เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับสำนักไท่กู่เจิ้งของพวกเรา.”
“รับทราบ!”
ศิษย์ทุกคนที่ตะโกนเสียงดังตอบรับพร้อม ๆ กัน.
“ชิงหยาง.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ในหมู่บ้านชิงหยางคนส่วนมากไม่ค่อยรู้หนังสือ เจ้าจงไปช่วยพวกเขาเขียนจดหมาย.”
“เอ๋?”
หลี่ชิงหยางถึงกับตื่นตระหนก.
เขาเป็นคนที่มาจากตระกูลใหญ่ แน่นอนว่าย่อมสามารถเขียนหนังสือได้ ภารกิจที่เจ้าสำนักมอบ ก็คือ ให้เขาไปช่วยเขียนจดหมายให้กับชาวบ้านอย่างงั้นรึ?
“ไม่ยินดีรึ?”
“ยินดี!” หลี่ชิงหยางที่เร่งรีบกล่าวตอบรับทันที.
“ติ๊ง!”
“รับภารกิจสำนัก.”
“รายระเอียดภารกิจ : ชาวบ้านของหมู่บ้านชิงหยางที่มีความกังวลอยู่ในใจ มีชาวบ้านบางคนต้องการเขียนจดหมายหาคนอื่น ระยะเวลาภารกิจ 0 / 3 วัน [ยังไม่สำเร็จ]
“ศิษย์ที่รับภารกิจ : หลี่ชิงหยาง.”
“รางวัลภารกิจ : หากภารกิจสำเร็จจะได้คะแนนความสำเร็จ 1 คะแนนสนับสนุน 1.”
“ได้รับคะแนนสนับสนุนด้วยรึ?”
ภายใจของจุนซ่างเซียวที่ดีใจเป็นอย่างมาก พร้อมกับกล่าวออกมาว่า “ชิงหยาง ในหมู่บ้านชิงหยาง ชาวบ้านกำลังเป็นกังวล ต้องการเขียนจดหมายถึงคนอื่น เจ้าจงไปช่วยพวกเขาเป็นเวลาสามวัน.”
“สามวัน?”
หลี่ชิงหยางที่มุมปากกระตุก.
“เชียนเชียน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ป้าหวังหมู่บ้านชิงหยางช่วยเหลือเปิ่นจั้วอยู่เป็นประจำ เจ้าไปช่วยนางทำความสะอาดลานบ้าน และช่วยทำงานบ้านด้วย.”
หลี่ชิงหยางที่รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาทันที ศิษย์พี่หญิงใหญ่ที่รับหน้าที่กวาดบ้านและทำงานบ้าน เขาสบายกว่า เห็น ๆที่ทำหน้าที่เพียงเขียนจดหมายเท่านั้น.
“ข้าทำไม่เป็น.”
ลู่เชียนเชียนที่ใบหน้าเย็นชาเอ่ยออกมาทันที.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ฝึกหัดไม่ได้รึ?.”
“ฝึกหัด?”
“เจ้าต้องไป นี่เป็นภารกิจของเจ้า เป็นคำสั่งของเปิ่นจั้ว.”
“ก็ได้.”ลู่เชียนเชียนที่ทำได้แค่ตอบรับ.
“ติ๊ง!”
“รับภารกิจสำนัก.”
“แนะนำภารกิจ: ป้าหวังหมู่บ้านชิงหยางต้องการคนช่วยทำความสะอาดลานบ้าน และช่วยเหลืองานบ้าน 0/5 วัน [ยังไม่สำเร็จ]
“ศิษย์ที่รับภารกิจ : ลู่เชียนเชียน.”
“รางวัลภารกิจ : ภารกิจสำเร็จ โฮสน์จะได้รับ 1 คะแนนความสำเร็จสำนัก และ1 คะแนนสนับสนุน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้าต้องไปช่วยป้าหวังทำความสะอาดลานบ้านและงานบ้านเป็นเวลาห้าวัน.”
“ห้าวัน?”
ลู่เชียนเชียนที่ขมวดคิ้วแน่น.
จุนซ่างเซียวกวาดตามองศิษย์ทุกคน ก่อนที่จะไปหยุดที่เซียวจุ้ยจื่อ “จุ้ยจื่อ ป้าซุนหมู่บ้านชิงหยาง เจ็บขาเดินเหินไม่สะดวก เจ้าจงไปช่วยนางแบกอุจจาระรดผัก.”
ศิษย์ทุกคน : “.....”
“ครับ.”
เซียวจุ้ยจื่อที่กล่าวตอบรับ.
หลังจากที่จัดแจงภารกิจ ระบบบันทึกเรียบร้อยแล้ว จุนซ่างเซียวกล่าวต่ออีก “เจ้าไปช่วยป้าชุนเป็นเวลาห้าวัน ถือว่าเป็นการฝึกฝนร่างกายไปในตัวด้วย.”
ศิษย์ทุกคนถึงกับพูดไม่ออก.
การฝึกฝนร่างกายนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ยกตัวอย่างแบกน้ำ ผ่าฟื้น แต่การเลือกวิธีนี้....ไม่ค่อยมีใครใช้กันนัก.
การแบกอุจจาระ สำหรับเหล่าศิษย์ที่มาจากตระกูลใหญ่พวกเขาไม่มีใครต้องการทำ เพราะเป็นงานที่ถือว่าสกปรกและมีกลิ่นเหม็น ทว่าเซียวจุ้ยจื่อนั้นหาได้สนใจ “เจ้าสำนัก ข้าเข้าใจ.”
“ซูเซียวโม่.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้าไปช่วยเสี่ยวตาน หมู่บ้านชิงหยางหาเสี่ยวหวงที่หายไป.”
ซูเซียวโม่ คือศิษย์ลำดับสามต่อจากหลี่ชิงหยาง.
แม้นว่ารูปร่างจะผอมไม่สูง ทว่าก็เป็นคนที่มีความฉลาดเป็นอย่างมาก การมอบหน้าที่ให้เขาไปหาของ จึงเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุด.
“ครับ!”
ซูเซียวโม่รับคำสั่งในทันที.
หลังจากนั้นระบบก็แสดงรายระเอียดภารกิจ จุนซ่างเซียวกล่าวเพิ่มเติม “เสี่ยวหวงเป็นสุนัขตัวหนึ่ง ไม่มีใครเห็นสองวันแล้ว หาภายในหมู่บ้านแล้วไม่มีใครเจอ เจ้าควรจะลองไปดูบนภูเขา.”
“ครับ!”
......
เจ้าสำนักจุนที่แจกจ่ายภารกิจแก่ศิษย์คนแล้วคนเล่า.
เป็นเรื่องที่แปลกมาก ภารกิจสำนักในหมู่บ้านชิงหยางนั้น มีหนึ่งภารกิจที่มีระดับสามดาว ส่วนภารกิจอื่น ๆ นั้นมีเพียงหนึ่งและสองดาวเท่านั้น.
จากนั้นไม่นาน.
จุนซ่างเซียวที่แจกจ่ายภารกิจไป 20 ภารกิจแล้ว.
เวลานี้เหลือเพียงภารกิจสามดาวเพียงภารกิจเดียวเท่านั้น.
การสังหารหมาป่าเพลิงปฐพี ดูเหมือนว่าจะยากเล็กน้อย เขาวางแผนว่าจะเป็น คนนำศิษย์ไปทำภารกิจให้สำเร็จเอง.
“แปะ ๆ.”
จุนซ่างเซียวที่ปรบมือเสียงดัง “ศิษย์ที่ได้รับภารกิจ เริ่มออกเดินทางได้ ส่วนคนที่ไม่ได้รับภารกิจ ให้กลับไปบ่มเพาะพลังในสำนักต่อไป.”
“รับทราบ!”
ศิษย์ทุกคนที่กล่าวตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน.
“จุ้ยจื่อ ตามข้าเข้ามาในตำหนักก่อน.”
ขณะที่ศิษย์ทุกคนแยกย้าย จุนซ่างเซียวก็เรียกเซียวจุ้ยจื่อเข้ามาในห้องโถง.
คนทั้งสองที่ก้าวเข้าไปในห้องโถง.
“เจ้ามีความเห็นใดกับภารกิจของเปิ่นจั้วหรือไม่?”จุนซ่างเซียวนั่งอยู่บนเก้าอี้หนานมู่พลางสอบถามออกไป.
เซียวจุ้ยจื่อตอบกลับ “ไม่มีความเห็นใด.”
จุนซ่างเซียวที่นั่งเอนหลังพร้อมกับยกมือสีคางกล่าวออกมาว่า “ชีวิต แม้นว่าจะต้องก้าวผ่านจุดที่ลำบากสกปรก แต่ก็ควรจะจดจำมันเอาไว้อย่างจริงใจ เมื่อสวรรค์คิดจะมอบภาระกิจอันยิ่งใหญ่ให้กับคนผู้หนึ่ง อย่างแรกคนผู้นั้นจะต้องผ่านความทุกข์ใจแสนสาหัส เหนื่อยล้าเข้าไปถึงเอ็นและกระดูก.”
“ศิษย์จะจดจำอย่างจริงใจ.”เซียวจุ้ยจื่อเอ่ย.
จุนซ่างเซียวที่นำคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นออกมา และกล่าวกับเขาว่า “นี่คือวิชาบ่มเพาะระดับเทวะ นำไปบ่มเพาะ หากมีส่วนใหนไม่เข้าใจให้มาถามเปิ่นจั้ว หรือปรึกษากับเหล่าศิษย์พี่ของเจ้าได้.”
“วิชาบ่มเพาะระดับเทวะ?”เซียวจุ้ยจื่อที่รับตำรามา แววตาที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อ.
“โปรดจำเอาไว้ให้ดี วิชาบ่มเพาะที่ข้ามอบให้นี้ ห้ามเปิดเผยให้คนนอกรู้โดยเด็ดขาด.”
“ศิษย์เข้าใจ!”
“ไปยังหมู่บ้านชิงหยาง ช่วยป้าชุนแบกอุจจาระรดผักได้.”
“ครับ!”
เมื่อเซียวจุ้ยจื่อก้าวออกจากห้องโถง ก็จ้องมองตำรา เปลี่ยนเส้นเอ็น เขาที่ยากจะสงบใจได้ “นี่คือวิชาบ่มเพาะระดับเทวะจริง ๆ รึ?”
*****
天将降大任于是人也,必先苦其心志,劳其筋骨,饿其体肤,空乏其身,行拂乱其所为,所以动心忍性,曾益其所不能
天将降大任于是人也 เมื่อสวรรค์คิดจะมอบภาระกิจอันยิ่งใหญ่ให้กับคนผู้หนึ่ง
必先苦其心志 อย่างแรกคนผู้นั้นจะต้องผ่านความทุกข์ใจแสนสาหัส
劳其筋骨 เหนื่อยล้าเข้าไปถึงเอ็นและกระดูก
饿其体肤 อดอยากจนผ่ายผอม
空乏其身 ยากจนข้นแค้นไม่มีจะกิน
行拂乱其所为 จะกระทำการใดก็ไม่ราบรื่น ไม่สมดั่งใจหวัง
所以 แต่พอผ่านพ้นไปแล้ว 动心忍性,ภายในจิตใจจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความเข้มแข็ง
ที่มา https://www.zhongtai.org/forum/index.php?topic=337.5;wap2