ตอนที่แล้วChapter 255 ชีวิตเจ้าสำนักช่างลำบาก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 257 ได้รับวิชายุทธ์อีกครั้ง

Chapter 256 มลทนเหอหยางที่คึกคักเล็กน้อย.


อาหารที่หลิวหว่านซีศึกษา แม้นว่าจะช่วยยกระดับพลังให้แข็งแกร่งขึ้น ทว่าสมุนไพรที่ผสมกันนั้นเกิดเป็นพิษ ทำให้เจ้าสำนักจุนติดพิษไป.

แน่นอน.

2-3 เดือนที่ต้องพักฟื้นที่เหล่าเหว่ยเอ่ยนั้น เป็นในมุมมองของคนทั่วไป.

ส่วนจุนซ่างเซียวที่กลั่นร่างกายมาจนแข็งแกร่ง พัก 2-3 วันก็ฟื้นฟูกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว.

นี่หมายความว่าอย่างไร?

ไม่ผิด ดวงแข็ง ตายยาก!

“เจ้าสำนัก.”

หลิวหว่านซีที่พุ่งเข้ามา ก้มหน้ากล่าวตำหนิตัวเอง “ข้าขอโทษ ข้าผิดไปแล้ว ข้ายินดีที่จะรับโทษ.”

จุนซ่างเซียวจะใจร้ายลงโทษโลลิน่ารักเช่นนี้ได้อย่างไร?

หนำซ้ำ อาหารที่นางวิจัยยังช่วยยกระดับพลังขึ้นได้ ความตั้งใจดี เพียงแต่กระบวนการผิดพลาดก็เท่านั้น.

“ศึกษาเรื่องสมุนไพรกับเหลาเหว่ยให้ดี นั่นคือการลงโทษ.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

โชคดีที่เกิดเรื่องกับเขาแทน หากว่าเป็นศิษย์คนอื่น ๆอาจจะไม่รอด เด็กสาวคนนี้คงรู้สึกผิดตลอดไป.

“อืม.”

หลิวหว่านซีที่รู้ว่านี่ไม่ใช่การลงโทษ ดังนั้นนางจึงได้เตือนตัวเองซ้ำ ๆ ว่าจะต้องศึกษาเรียนรู้เรื่องสมุนไพรให้มากกว่านี้.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “อาหารที่ช่วยยกระดับความแข็งแกร่งไม่ต้องหยุด ศึกษาให้ดีต่อไป.”

อาหารที่ช่วยยกระดับความแข็งแกร่ง แม้แต่ไม่ได้ด้อยกว่ายันต์แห่งพลัง ไม่จำเป็นต้องใช้แต้มสนับสนุน เรื่องใหญ่ขนาดนี้ เขาต้องสนับสนุน.

“เจ้าสำนัก.”

หลิวหว่านซีเอ่ย “ข้ากลัวว่าจะพบปัญหาอีก.”

จุนซ่างเซียวที่ลุกขึ้นนั่ง มือทั้งสองที่ยกถ้วยซุปขึ้นดื่ม “อย่าได้กลัวความล้มเหลว อย่ายอมแพ้ ตั้งใจมาก ๆ แล้วจะประสบความสำเร็จเอง.”

“เข้าใจแล้ว!”

ได้รับการสนับสนุนจากเจ้าสำนัก หลิวหว่านซี่ที่กับมามั่นใจอีกครั้ง!

นอกจากนี้ นางยังมีความมั่นใจที่จะศึกษามากขึ้น ว่าอาหารของนางจะปลอดภัยอย่างแท้จริง.

เพราะว่านางศึกษาเกี่ยวกับวัตถุดิบจากเหล่าเหว่ย เพียงแค่ฟังไม่กี่วัน ก็เข้าใจเกี่ยวกับวัตถุดิบยามากมายหลากหลาย!

“ข้าต้องตั้งใจ ข้าจะต้องศึกษาให้เชี่ยวชาญ.”

“ó ó ó!”

หลิวหว่านซีที่มุ่งตรงไปยังสวนสมุนไพร ศึกษาวัตถุดิบยากับเหล่าเหว่ยทันที.

จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา กล่าวเสียงเบา “เพียงแค่สมุนไพรทั่วไปทำอาหาร ก็สามารถยกระดับความแข็งแกร่งได้ สาวน้อยผู้นี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ.”

นาง.

นางเป็นใครมาจากใหนกัน?

จุนซ่างเซียวรู้เพียงว่าหลิวหวานซีถูกคนร้ายไล่ตามที่เมืองชิงหยาง จากนั้นตัวเองก็ช่วยเอาไว้.

ไม่ใช่สิ.

ยังมีอีกเรื่อง.

ลู่เชียนเชียนเคยบอกว่านางอาจจะเกี่ยวข้องกับตระกูลโอวหยาง เมืองหลวงเทียนหยู ที่ศึกษาเกี่ยวกับอาหาร แม้แต่ช่วยยกระดับวิถียุทธ์ได้.

“ตู้ตู้เป็นไปได้ว่าเป็นทายาทของตระกูลโอวหยางเมืองหลวงเทียนหยูหรือไม่?”

จุนซ่างเซียวที่กล่าวเสียงเบา.

แต่นางก็ใช้ชื่อหลิวหว่านซี ไม่ใช่โอวหยางหวานซี่ไม่ใช่รึ?

“เฮ้อ.”

จุนซ่างเซียวที่ถอนหายใจ “ศิษย์ของข้าดูเหมือนมีแต่คนไม่ธรรมดา ข้าที่เป็นเจ้าสำนัก คาดไม่ถึงจะไม่รู้อะไรกับพวกเขาเลย.”

ยกตัวอย่างลู่เชียนเชียน หรือจะเป็นเย่ซิงเฉิน.

ที่จริง เขาสามารถส่งคนไปสืบที่เมืองหลวงเทียนหยูได้ ซึ่งก็จะทำให้เขารู้เรื่องเกี่ยวกับหลิวหว่านซีขึ้นมาบ้าง.

ทว่าตัวเขาก็ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตของศิษย์นัก ไม่ว่าจะเป็นใครย่อมมีความลับเป็นของตัวเอง ในเมื่อพวกเขาเข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้งแล้ว ก็ถือว่าเป็นศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งแล้ว.

ขอเพียงพวกเขาภัคดีต่อสำนัก เขาย่อมเป็นร่มเงาให้กับศิษย์ทุกคน มีเพียงอย่างเดียวที่เขาต้องการคือ ต้องแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น.

เจ้าสำนักเช่นนี้ในทวีปชิงหยุน นับว่าหาได้ยากมาก!”

อย่างไรก็ตาม.

สำนักไท่กู่เจิ้งในเวลานี้อาจจะไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยเหมือนกัน.

เพราะว่าในเวลานี้ในมนทลเหอหยางได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น เจ้าสำนักฉีซาน หลังจากงานประลองจบ ผ่านมาเครื่องเดือนแล้ว ยังไม่กลับสำนัก.

เจ้าสำนักเหลียวและตัวตนระดับสูงของสำนักหายไปพร้อม ๆ กัน.

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา.

จะต้องมีเรื่องไม่ถูกต้องซ่อนอยู่อย่างแน่นอน.

“ข้าได้ยินมาว่า หลังจากงานประลองจบลง มียอดฝีมือหลายคนที่ไล่ตาม ศิษย์ของสำนักระดับแปดต่างมนทลไป.”

“เจ้าสำนักเหลียวและคนของอีกหลายสำนัก บางทีได้ไปยังมนทลชิงหยางแล้วหรือไม่?”

“เป็นไปไม่ได้ ข้าได้ยินข่าวมาว่า พวกเขาขวางศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งเอาไว้ที่มนทลเหอหยาง.”

“เซียวจุ้ยจื่อแม้นว่าจะมีความแข็งแกร่งไม่เลว ทว่าก็มีระดับศิษย์ยุทธ์เท่านั้น ต่อหน้าเจ้าสำนักเหลียวที่มีระดับบรรพชนยุทธ์ แน่นอนว่าไม่มีพลังต่อต้านอย่างแน่นอน.”

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ไม่ใช่ว่าควรกลับมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?”

“เจ้าคิดว่าศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งคนเดียวจะสังหารเจ้าสำนักเหลียวและคนอื่น ๆ ได้อย่างงั้นรึ?”

“เวลานี้อาวุโสใหญ่ของสำนักได้สั่งให้ศิษย์จำนวนมากลงเขาไปสืบข่าวแล้ว.”

“ด้วยจำนวนและเส้นสายของพวกเขาคงจะได้ข่าวเร็ว ๆนี้.”

เรื่องของเจ้าสำนักระดับหกที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย ทันใดนั้นกลายเป็นเรื่องที่ทุกคนในมนทลเหออยางพูดคุยกันอย่างออกรส

ทว่าจะพูดคุยกันมากมายเพียงใด แต่ก็ไม่มีใครคิดว่า คนเหล่านั้นจะตายไปด้วยสำนักไท่กู่เจิ้ง.

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจุนซ่างเซียวจะทำลายศพจนไม่เหลือหลักฐานแล้ว ทว่าโลกนี้ยังมีอะไรที่พวกเขาไม่รู้ ผู้ฝึกยุทธ์ย่อมมีวิธีที่แปลกประหลาด ไม่ช้าก็เร็วจะต้องมีคนรู้ความจริงเป็นแน่.

และด้วยเหตุนี้ จุนซ่างเซียวจึงได้เตรียมแผนการเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้ว.

ขณะที่เหล่าคนมากมายที่ตามหาตัวเจ้าสำนักเหลียววุ่นวายไปหมด คนของหอฝนพรำก็แพร่ข่าวลือออกไป.

ข่าวลืออะไร?

ที่ป่าเขาของมนทลเหอหยาง เกิดเหตการณ์บางอย่างขึ้นในทันที มีของวิเศษที่น่าสงสัยปรากฏขึ้น.

ข่าวดังกล่าวนี้ได้ปรากฏขึ้น ปรากฏผู้ฝึกยุทธ์มากมายที่บ้าคลั่ง แม้แต่มีคนนำเรื่องของเจ้าสำนักเหลียวและคนอื่น ๆที่หายไปมาเกี่ยวข้องกัน.

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่ปรารถนาความแข็งแกร่ง ปรากฏการณ์ของ สุดยอดของวิเศษที่ปรากฏขึ้นนั้น เหล่าผู้ฝึกยุทธ์มากมายย่อมไล่ตามไปในทันที.

หลาย ๆ ครั้ง ผู้คนมากมาย ไม่ลังเลที่จะสังหารกันและกัน.

มียอดฝีมือมากมาย ที่ต้องพบกับความโชคร้ายในการไล่ล่าค้นหาของวิเศษ.

คนเหล่านี้ ปรารถนาคามแข็งแกร่ง ต้องการของวิเศษ แม้นว่าด้านหน้าจะเป็นหุบเขาลึกไร้ก้นบึ้ง ก็พร้อมจะกระโดดลงไปอย่างไม่ลังเล.

กล่าวอีกอย่างหนึ่ง.

จุนซ่างเซียวปล่อยข่าวลือเช่นนี้เพื่ออะไร?

แน่นอนว่าต้องการให้คนของมนทลเหอหยางเชื่อว่า เจ้าสำนักเหลียวและคนอื่น ๆที่หายไปเกี่ยวข้องกับการปรากฏตัวของ สมบัติวิเศษ.

เป็นเช่นนั้นจริง ๆ.

เมื่อข่าวดังกล่าวแพร่ออกไป เหล่าชาวยุทธ์มากมายต่างก็คาดเดากันไปว่า ว่าเจ้าสำนักฉีซานและผู้ฝึกยุทธ์อีกหลายคนที่ไม่กลับมานั้น เป็นไปได้ว่าต้องการค้นหาสมบัติวิเศษ?

“ข้าได้ยินมาว่าสมบัติวิเศษนั้นปรากฏขึ้นที่หุบเขาแห่งหนึ่ง ปรากฏเป็นรอยแยกบนพื้นปรากฏอุโมงค์ขึ้น เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นก็หายไป!”

“เช่นนั้น เจ้าสำนักเหลียวและคนอื่น ๆ พบทางเข้า เลยเข้าไปหาของวิเศษ ดังนั้นจึงไม่สามารถกลับมาออกมาได้งั้นรึ?!”

“มีความเป็นไปได้ 80%”

เหล่าชาวยุทธ์ไม่น้อยที่คล้อยตามแผนการปล่อยข่าวลือของจุนซ่างเซียว.

บางคนถึงกับพูดเป็นตุเป็นตะ ราวกับเห็นกับตาตัวเอง นั่นไม่เท่ากับยอมรับข่าวลือว่าเป็นความจริงรึ?

ต้องขออภัย ในเมื่อจุนซ่างเซียวลงมือแล้ว ย่อมหาทางแก้ไขวางแผนเอาไว้อย่างดีแล้ว ไม่เช่นนั้นจะหลอกลวงคนเหล่านั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบได้อย่างไร?

ไม่ว่าของวิเศษนั้นจะมีจริงหรือไม่ การให้คนของมนทลเหอหยางพูดกันไม่หยุด ท้ายที่สุดก็จะมีคนเชื่อเช่นนั้น.

หลังจากที่มีหลากหลายคนได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเจ้าสำนักฉีซานและคนจากหลากหลายสำนัก แม้นว่าจะเต็มไปด้วยความสงสัย ทว่าพวกเขากับมุ่งมั่นที่จะหาสมบัติวิเศษนั่นแทน แม้แต่ระดมกำลังค้นหาในป่าเขากันอย่างแข็งขัน.

จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เรื่องราวจะเป็นดั่งพวกเขาคาดเดาว่าเป็นจริงตามนั้นหรือไม่? แต่คงไม่มีใครคิดได้ว่า สำนักระดับแปดที่อยู่นอกมนทล เป็นคนลงมือสังหารเจ้าสำนักเหลียวและคนของสำนักต่าง ๆ ได้อย่างแน่นอน.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด