ตอนที่แล้วChapter 242 ชนะเลิศอย่างง่ายดาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 244 เจ้าสำนักจุนซ่างให้ความสำคัญกับผู้คน

Chapter 243 วิธีรับทรัพยากร.


“พยัคฆ์หนุ่มสายฟ้าม่วงรึ?”

“โอ้วสวรรค์ นั่นมันสัตว์ร้ายธาตุสายฟ้าที่หายากมาก ๆ!”

“เจ้าสำนักระดับแปด มีสัตว์ขี่เช่นนี้ได้อย่างไร?!”

เหล่าศิษย์ของสำนักอี้โชวต่างก็ตื่นตะลึง.

สำหรับสำนักที่ฝึกฝนเกี่ยวกับการควบคุมสัตว์ร้าย แน่นอนย่อมเข้าใจว่าสัตว์ร้ายธาตุสายฟ้านั้นล้ำค่าและยากจะทำให้เชื่อฟังได้!

เพื่อที่จะไม่ให้เป็นที่จุดสนใจ เมื่อเขาเดินทางมาถึงเมืองสุ่ยหยาง จุนซ่างเซียวได้เก็บพยัคฆ์หนุ่มสายฟ้าม่วงเข้าไปในบอลเจ้าสำนัก.

เมื่อการประลองยุทธ์สำนักแข่งขันจบแล้ว ก่อนที่จะกลับมนทลชิงหยางเขาได้นำมันออกมาขี่ คาดไม่ถึงว่าจะบังเอิญมาเจอกับเจ้าสำนักน้อยของสำนักอี้โชวระหว่างทาง.

“เฮ้อ.”

จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา กล่าวออกมาว่า “การไม่เป็นจุดสนใจยากจริง ๆ.”

“โฮกกกกกก!”

พยัคฆ์หนุ่มสายฟ้าม่วงที่รับรู้ถึงความคิดของเจ้านาย ตะเบ็งเสียงคำรามดังกึกก้อง ทำให้สัตว์ใหญ่สัตว์น้อยในป่าขวัญกระเจิง.

ไม่เป็นจุดสนใจอย่างงั้นรึ? บัดซบ!

เจ้าสำนักมีสัตว์ขี่ เขากับต้องวิ่งตาม โดยใช้ท่าเท้ามังกรข้ามสมุทร.

อีกทั้งยังต้องส่งมอบรางวัลที่ได้ออกไปหมด.

“น่ารังเกียจ อ๊าก!”

เขาที่กล่าวคำรามในใจด้วยความโกรธ “หากรู้ก่อนหน้านี้ กลั่นร่างกายในหอคอยเก็บประสบการณ์ดีกว่า.”

ระหว่างทางกลับนั้น จุนซ่างเซียวที่เปิดร้านค้าระบบ ด้วยคะแนนสนับสนุนล้นอยู่ เขาควรจะซื้อน้ำยาเปลี่ยนพรสวรรค์กี่ขวดดี?

“เอาล่ะ ค่อยเป็นค่อยไป.”

เขาซื้อน้ำยาเปลี่ยนพรสวรรค์ไปสี่ขวด คะแนนสนับสนุนลดลงจาก 1155 เหลือ 955 แต้ม.

ภารกิจลับ ภารกิจสนับสนุน.

การที่คะแนนสนับสนุนอยู่ในขีดบน ทำให้จุนซ่างเซียวรู้สึกอุ่นใจ และปลอดภัยเป็นอย่างมาก.

“การเดินทางมายังมนทลปิงหยางเพื่อเข้าร่วมแข่งขันครั้งนี้ ได้รับ 500 แต้มและหนึ่งร้อยศิลาวิญญาณ.”

จุนซ่างเซียวที่พอใจมาก “คุ้มค่า.”

ทักษะยุทธ์ระดับสูงล่ะ?

กล่าวตามจริง เขาไม่ แลเลยแม้แต่น้อย ต้องไม่ลืมว่ามันไม่สามารถเทียบได้กับทักษะยุทธ์ที่ซื้อจากร้านค้าระบบได้เลย.

ยิงเป็นทักษะยุทธ์ที่ได้มาจากมนทลปิงหยางนำมาทำกระดาษชำระ ยังมีประโยชน์ซะกว่า.

ระบบเอ่ย “ในทวีปชิงหยุนหลากหลายดินแดน มีการจัดแข่งขันประลองยุทธ์สำนัก โฮสน์สามารถส่งศิษย์เข้าร่วม เพื่อรับทรัพยากรได้.”

“ฮึ!”

จุนซ่างเซียวมองบน กล่าวออกมาว่า “เจ้าไม่ได้สนใจให้ข้าผลาญคะแนนสนับสนุนอย่างเดียวอย่างงั้นรึ เป็นไปได้อย่างไร ที่จะแนะนำข้าให้หาทรัพยากรจากที่อื่น?”

ระบบเอ่ยอย่างจริงจัง “ภารกิจของข้านั้นคือช่วยเหลือโฮสน์สร้างสำนักที่แข็งแกร่งที่สุดขึ้นมา.”

“ก็ดี.”

จุนซ่างเซียวสีคางไปมา ครุ่นคิด“ส่งศิษย์ไปร่วมประลองสำนัก ไม่เพียงได้ศิลาวิญญาณ ทว่ายังได้เก็บประสบการณ์การต่อสู้ เป็นคำแนะนำที่ไม่เลว.”

อย่างไรก็ตาม.

ตัวเขาไม่สามารถที่จะเดินทางตามไปด้วยได้ทุกที่.

ระบบเอ่ย “ในเงื่อนไขทั่วไป การประลองยุทธ์สำนักไม่จำเป็นต้องให้เจ้าสำนักไปด้วยตัวเอง ขอแค่ให้ศิษย์ที่มีใบรับรองจากสำนัก ก็สามารถลงทะเบียนได้.”

“หลังจากกลับไปแล้ว ไปถามประมุขอ้ายดีกว่า ว่ามีพื้นที่มนทลใดบ้างที่จัดการแข่งขันประลองยุทธ์สำนัก.”

สองวันหลังจากนั้น.

จุนซ่างเซียวก็กลับมาถึงมนทลชิงหยาง.

ทว่าไม่ได้กลับสำนักทันที เขาแวะหยุดที่เมืองฮู่หยางก่อน.

“เจ้าสำนักจุนไปเข้าร่วมงานประลองยุทธ์สำนักที่มนทลปิงหยางมาอย่างงั้นรึ?”

“อืม.”

“ผลเป็นอย่างไรบ้าง?”

“บังเอิญได้ชนะเลิศมานะ.”

กึก.

อ้ายซางหนี่ที่ตี่นตกใจ.

บังเอิญได้ชนะเลิศมา กล่าวราวกับว่ามันเป็นเรื่องง่าย ๆ สบาย ๆ!

“ประมุขอ้าย.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ท่านรู้หรือไม่ ว่ามีพื้นทีใดที่จัดงานประลองยุทธ์สำนักและได้รางวัลเป็นศิลาวิญญาณบ้าง?”

อ้ายซางหนีที่มุมปากกระตุก กล่าวออกมาว่า “เจ้าสำนักจุนต้องการส่งศิษย์เข้าร่วมประลองอย่างงั้นรึ?”

“จุนโหมวมีศิษย์ที่ไม่ค่อยได้เรื่องกลุ่มหนึ่ง ไม่อยากให้ฝึกฝนอยู่ในสำนักตลอดทั้งวัน ควรจะให้พวกเขาออกไปเดินเล่นหาประสบการณ์ในยุทธภพบ้าง.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

อ้ายซางหนี่ “......”

กลุ่มศิษย์ไม่ได้เรื่องที่เอาชนะศิษย์สายในสำนักเห่าฉีซะยับเยิน พวกนี้นะรึคือกลุ่มไม่ได้เรื่อง!

“ไม่ผิด.”

อ้ายซางหนี่ที่เห็นด้วยกล่าวออกมาว่า “การบ่มเพาะ จำเป็นต้องควบคู่กับหาประสบการณ์ การส่งไปประลองยุทธ์ถือว่าเป็นการเปิดหูเปิดตาช่วยยกระดับประสบการณ์ได้อย่างแท้จริง.”

เขาหยุดและเอ่ยออกมาว่า “ที่มนทลฮวยหยิงอีกไม่กี่วันจากนี้ มีการจัดประลองยุทธ์ขึ้นเช่นกัน มีสำนักหลากหลายเข้าร่วม และมีรางวัลที่ไม่ธรรมดา.”

“จริงรึ?”

จุนซ่างเซียวแสดงท่าทางสนใจ.

อ้ายซางหนี่ที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม “มนทลฮวยหยิงนั้นมีสำนักมารมากมาย ก่อนหน้านี้มีผู้ฝึกยุทธ์ไม่น้อยที่ต้องตายไป อ้ายโหมวไม่แนะนำให้เจ้าสำนักจุน ส่งศิษย์เข้าร่วม.”

“และอีกเรื่อง”

อ้ายซางหนี่ที่หยุดและกล่าวเสียงเบา “อ้ายโหมวเพิ่งได้รับข่าวมาว่า มีสำนักระดับเจ็ด หอเหยี่ยวดำ ถูกทำลายไปเพียงแค่คืนเดียวเท่านั้น สถานการณ์ที่นั่นไม่ค่อยสงบนัก.”

ครึ่งเดือนแล้ว เพิ่งได้รับข่าวอย่างงั้นรึ? ดูเหมือนว่าข้อมูลยุคสมัยนี้จะค่อนข้างช้า!

“โอ้ว.”

จุนซ่างเซียวพยักหน้ารับ และกล่าวออกมาว่า “แล้วมนทลอื่นล่ะ?”

“เท่าที่อ้ายโหมวรู้มา.”

อ้ายซางหนี่ที่ครุ่นคิด จากนั้นก็กล่าวถึงพื้นที่สี่มนทล.

บางแห่งใกล้ บางแห่งไกล ทว่าทุกแห่งล้วนกำลังจะจัดงานประลองยุทธ์สำนักทั้งนั้น.

หลังจากได้ข้อมูลที่ต้องการแล้ว จุนซ่างเซียวยกมือประสานเอ่ยออกมาว่า “ในสำนักมีเรื่องให้ต้องจัดการ จุนโหมวขอลา.”

ประมุขอ้ายที่ออกมาส่ง ก่อนที่จะส่ายหน้าไปมา ลอบคิดอยู่ในใจ “เจ้าสำนักจุน บังเอิญได้ชัยชนะเลิศงานประลองยุทธ์สำนักจริง ๆ รึ?”

“ประมุข.”

อ้ายซางเกอที่เดินเข้ามา เอ่ยออกมาว่า “พี่รองที่ไปซื้อสมุนไพรที่มนทลปิงหยาง ได้ส่งพิราบสื่อสารเกี่ยวกับเรื่องราวงานประลองยุทธ์สำนักที่มนทลปิงหยางมา.”

“หืม?”

อ้ายซางหนี่ที่รับสาร ที่เขียนเกี่ยวกับรายระเอียด หลังจากอ่านเสร็จแล้ว ดวงตาของเขาที่เพ่งพิศตะลึงงัน “นี่...นี่มันบังเอิญชนะจริง ๆ!”

......

หลังจากออกจากเมืองฮู่หยางแล้ว จุนซ่างเซียวที่ขี่พยัคฆ์หนุ่มสายฟ้าม่วงกลับสำนักไท่กู่เจิ้ง.

เย่ซิงเฉินที่เข้ามาในสำนัก ในเวลานั้นศิษย์กลุ่มหนึ่งที่เข้ามารุมล้อม และสอบถามผลการต่อสู้.

“เป็นอย่างไรบ้าง!”

ซูเซียวโม่ที่ตะโกนออกมาเสียงดัง “ศิษย์น้องเย่ลงมือเอง ได้ตำแหน่งชัยชนะเลิศ!”

“ศิษย์น้องเย่ทรงพลังจริง ๆ!”ศิษย์คนหนึ่งที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.

เย่ซิงเฉินที่ไม่สนใจ ตรงไปยังหอคอยเก็บประสบการณ์ในทันที.

ในความเห็นของเขา การเข้าร่วมประลองยุทธ์สำนักที่มนทลปิงหยาง นับเป็นเรื่องที่เสียเวลาเป็นอย่างมาก.

อย่างไรก็ตาม การที่มีคนจำนวนมากมายืนส่งและยืนรับ ก็ทำให้เขารู้สึกสั่นไหวเล็กน้อยเช่นกัน.

“ชิงหยาง.”

จนซ่างเซียวที่นั่งอยู่บัลลังก์ไม้หนานมู่ในห้องโถงเอ่ยออกมาว่า “อีกไม่กี่วันหลังจากนี้ จะมีงานประลองยุทธ์ที่มนทลฮวยหยิง ข้าจะส่งเจ้าเข้าร่วม.”

“เจ้าสำนัก.”

หลี่ชิงหยางที่กล่าวเสียงเบา “ให้ศิษย์น้องไปเถอะ ข้าต้องการบ่มเพาะในสำนักสักระยะ.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “คนอื่น ๆ ก็จะถูกส่งไปร่วมมนทลอื่น ๆเช่นกัน.”

“รับทราบ.”

หลี่ชิงหยางเอ่ย “ศิษย์จะไม่ทำให้เจ้าสำนักผิดหวัง!”

จุนซ่างเซียวที่เคาะนิ้วบนพนักพิงเอ่ยออกมาว่า “เปิ่นจั้วขออย่างเดียว จะต้องได้รับชนะเลิศกลับมา.”

“ครับ!”

หลี่ชิงหยางกล่าวอย่างจริงจัง “จะต้องเป็นไปตามที่เจ้าสำนักคาดหวัง อย่างแน่นอน.”

จากนั้นจุนซ่างเซียวก็เรียกเซียวจุ้ยจื่อ ซูเซียวโม่และอีกหลายคน ให้เข้าร่วมงานประลองยุทธ์สำนัก.

คำขอของเขามีเพียงอย่างเดียวคือชนะเลิศและนำรางวัลกลับมา.

แน่นอน.

เพื่อความปลอดภัย แม้นว่าคู่ต่อสู้จะอ่อนแอกว่า แต่การจะได้ชัยชนะเลิศก็ไม่ง่าย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา เขาตัดสินใจส่งคนไปจับตาด้วย.

เป็นคนของหอฝนพรำที่คอยดูแลความปลอดภัยพวกเขาในที่ลับ.

เพื่อที่จะให้ศิษย์สายในออกไปหาประสบการณ์อย่างไม่มีปัญหาไร้กังวล จึงต้องคิดถึงความปลอดภัยของพวกเขาด้วยนั่นเอง.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด