Chapter 237 เครื่องขายสินค้าศิษย์.
ก่อนหน้านี้จุนซ่างเซียวที่คิดที่จะให้ศิษย์เข้าร่วมประลองต่าง ๆ เพื่อยกระดับวิถียุทธ์ ทว่าเขากับสามารถรีเฟรชหอคอยเก็บประสบการณ์ได้ก่อนจึงเลิกล้มไป.
ด้วยเวลาที่กระชั้นชิด ต้องการกลั่นร่างกายให้กับศิษย์ให้แข็งแกร่ง จึงไม่ได้คิดจะเข้าร่วม.
ทว่าหลังจากที่ภารกิจสนับสนุนเปิดขึ้น ถึงแม้นว่าไม่สนใจก็ต้องเข้าร่วม ต้องไม่ลืมว่า มันหมายถึงคะแนนสนับสนุน.
ระบบเอ่ย “ในภารกิจมหากาพย์แรกก่อนหน้านี้ ต่อสู้เพียงสำนักเดียว ตอนนี้มีสำนักมากมายเข้าร่วม จึงเป็นภารกิจระดับสูง ไม่ง่ายที่จะสำเร็จ.”
“ยิ่งยาก ก็ยิ่งท้าทาย.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
อ้ายซางหนี่เอ่ย “เท่าที่ข้ารู้ สำนักที่เข้าร่วมงานประลองครั้งนี้ส่วนมากเป็นสำนักระดับหกและเจ็ด ความแข็งแกร่งสูงสุดของผู้เข้าร่วมคือศิษย์ยุทธ์ขั้นที่เก้า.”
ระบบ: “......”
ที่ข้าพูดก่อนนี้ ไม่นับแล้วกัน!
ทำไมนะรึ? เพราะว่าสำหรับศิษย์สายในของสำนักไท่กู่เจิ้ง ในระดับศิษย์ยุทธ์ด้วยกันนั้น พวกเขาถือว่าไร้เทียมทาน.
การเข้าร่วมงานประลองของมนทลปิงหยาง มีระดับสูงสุดคือศิษย์ยุทธ์ขั้นที่เก้า ไม่ใช่ว่าตำแหน่งผู้ชนะเลิศถูกกำหนดไว้แล้วรึ?
จุนซ่างเซียวอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น.
การที่ระบบมอบภารกิจสนับสนุนเช่นนี้ ก็เท่ากับส่งมอบรางวัลให้กับเขาไปแล้ว!
“ประมุขอ้าย.”
เขาเอ่ย “แล้วรางวัลล่ะ?”
ในเมื่อต้องส่งศิษย์เข้าร่วม เขาต้องคาดหวังในรางวัลแน่นอน.
อ้ายซางหนี่เอ่ย “หากศิษย์สำนักใดได้สิบอันดับแรก จะได้รับศิลาวิญญาณคนล่ะ 10 ก้อน และผู้ชนะเลิศจะได้ทักษะระดับสูงและศิลาวิญญาณ 100 ก้อน.”
“ร่ำรวยขนาดนั้นเลยรึ?”จุนซ่างเซียวที่ตื่นตะลึง.
ก่อนหน้านี้งานประลองยุทธ์สำนักที่เมืองลี่หยาง เซียวจุ้ยจื่อได้ชัยชนะเลิศได้รับทักษะระดับสามัญขั้นสูงและ 10 ศิลาวิญญาณเท่านั้น.
หากแต่งานประลองของมลทนปิงหยาง สิบอันดับแรก ได้ศิลาวิญญาณคนล่ะ 10 แล้ว นี่มันแตกต่างราวกับสวรรค์และปฐพีแล้ว.
หากชนะเลิศไม่เพียงแค่คะแนนสนับสนุน ยังได้ 100 ศิลาวิญญาณด้วย.
......
หลังจากออกจากร้านยาตระกูลอ้าย จุนซ่างเซียวก็กลับสำนักทันที และเริ่มคิดที่จะส่งใครเข้าร่วมงานประลองมนทลปิงหยาง ถึงจะได้ชัยชนะเลิศ?
เพื่อรางวัลที่มากมาย แน่นอนต้องเลือกศิษย์สายใน.
มีเพียงเย่ซิงเฉินและลี่เฟยที่ไม่ได้เข้าร่วมประลองสำนักเมืองลี่หยาง ดังนั้นเขาต้องเลือกหนึ่งในทั้งสอง.
“เลือกเย่ซิงเฉินก็แล้วกัน.”
หลังจากนั้นเย่ซิงเฉินที่รู้เรื่อง ภายในใจที่ต้องการปฏิเสธเป็นอย่างมาก.
ต้องไม่ลืมว่านี่เป็นการประลองของเหล่าเด็ก ๆ เขาฝึกฝนอยู่ในสำนักยังดีซะกว่า.
ทว่าหลังจากรู้ว่าได้รางวัลเป็นศิลาวิญญาณ เขาก็เอ่ยออกมาว่า “เจ้าสำนัก พวกเราจะเดินทางเมื่อไหร่?”
“สิบวันหลังจากนี้.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
สิบวันอย่างงั้นรึ?
ยังมีเวลาให้บ่มเพาะเล็กน้อย.
ในคืนวันนั้น.
จุนซ่างเซียวที่เข้าไปฝึกฝนในหอคอยเก็บประสบการกว่าสี่ชั่วโมง หลังจากออกมา เมื่ออาบน้ำเสร็จ เขาก็นั่งสมาธิโคจรวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็น.
สำนักจำเป็นต้องพัฒนา พลังบ่มเพาะก็ไม่สามารถละเลยได้.
หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง จุนซ่างเซียวก็เปิดร้านค้าระบบขึ้น กล่าวเสียงเบา “ถึงเวลารีเฟรชแล้ว.”
“ติ๊ง คะแนนสนับสนุนสำนัก: 770 / 1000!”
ไม่มีสินค้าที่เป็นประโยชน์เลย.
อย่างไรก็ตาม เขาได้พบสินค้าบางอย่างที่น่าสนใจเข้า “เครื่องขายสินค้าสำหรับศิษย์”
รายระเอียด สินค้า: เครื่องขายสินค้าสำหรับศิษย์.
แนะนำ : อุปกรณ์ชิ้นนี้จะสามารถขายสินค้าให้กับศิษย์โดยอัตโนมัติ เพียงแค่ใช้นิ้วกดยืนยัน หากศิษย์มีคะแนนสนับสนุนเพียงพอ สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ด้วยตัวเองได้.
ราคา : 100 แต้มสนับสนุน.
“สิ่งนี้ดี!”จุนซ่างเซียวที่เอ่ยออกมาด้วยความดีใจ.
ภารกิจสำนักที่ศิษย์ของเขาทำสำเร็จก่อนหน้านี้ ได้รับแต้มศิษย์มากมาย ทว่าเขาไม่สามารถที่จะจัดซื้อสินค้าให้กับศิษย์เป็นคน ๆ ได้ เรื่องนี้นับเป็นปัญหาใหญ่ทีเดียว.
ตอนนี้มีเครื่องขายอัตโนมัติ เมื่อภารกิจสำนักเริ่มขึ้นครั้งหน้า ศิษย์ที่ทำภารกิจสำเร็จ สามารถเลือกซื้อของได้เองอย่างไม่มีปัญหา.
“ติ๊ง! โฮสน์ใช้ 100 แต้ม ได้รับเครื่องขายสินค้าสำหรับศิษย์ 1 ถูกส่งเข้าไปในแหวนเก็บของแล้ว.”
“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุนสำนัก : 670 / 1000.”
หลังจากซื้อเสร็จแล้ว จุนซ่างเซียวก็ไม่กล้ารีเฟรชต่ออีก เกรงว่าจะอดใจใช้แต้มไปอย่างไม่รู้จักยั้งคิด.
เมื่อเสร็จสิ้น เขาก็นำมันไปวางที่หอภารกิจ.
......
ในเวลาเช้า.
ด้วยอิทธิพลของเพลงตลกเทวะ ศิษย์ทุกคนที่ออกมาเต้นอย่างมีความสุข ราวกับว่าถูกควบคุมจิตใจไปแล้ว.
คนที่เต้นได้น่าดูชม แน่นอนว่าต้องเป็นหลิวหว่านซี ที่ท่วงท่าน่ารัก น่ามองเป็นอย่างมาก.
น่าเสียดาย นางคงจะเกิดผิดที่จริง ๆ.
หากว่าอยู่ในโลกของเขา นางต้องเป็นไอดอลที่มีชื่อเสียง มีโอตาคุวิ่งตาม สนับสนุนนางอย่างบ้าคลั่งแน่นอน.
หลังจากทำกายบริหารเสร็จ จุนซ่างเซียวก็ได้อธิบายการใช้งานเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติให้กับศิษย์ทุกคนได้ฟัง ในเวลานั้นมีศิษย์มากมายมายังหอภารกิจ.
“ข้าลองเอง!”
ซุยปู่เจี้ยนที่ยืนอยู่หน้าเครื่องขายสินค้า ก่อนที่จะใช้นิ้วมือจิ้มไปยังปุ่ม ที่หน้าจอปรากฏข้อมูลบางอย่างขึ้นมาทันที.
ศิษย์ : ซุยปู่เจี้ยน.
คะแนนสนับสนุน : สามแต้ม.
จากนั้นก็มีรายการสินค้าสำหรับศิษย์เรียงรายอยู่ ยกตัวอย่าง กระบี่ไม้ ผงยารวมวิญญาณเป็นต้น.
เอ๊ะ แล้วซื้ออย่างไรกัน?
ซุยปู่เจี้ยนที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะกดเลือกผงรวมวิญญาณและซื้อไปสามชิ้น.
กล่าวได้ว่า เขาต้องการทรัพยากรในการยกระดับ ดังนั้นผงรวมวิญญาณจึงเป็นสิ่งจำเป็น ส่วนกระบี่ไม้นั้นไม่ค่อยมีคนสนใจนัก.
ศิษย์คนแล้วคนเล่าที่มาทดสอบเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติ เมื่อเห็นคะแนนสนับสนุนของตัวเองแล้ว ก็เลือกซื้อผงรวมวิญญาณในทันที.
“เจ้าสำนัก.”
หลี่ชิงหยางที่เอ่ย “เครื่องขายสินค้า แม้นว่าจะยอดเยี่ยม ทว่าภารกิจสำนักกับมีน้อยมาก ๆ ทำให้เหล่าศิษย์น้องไม่มีแต้มในการซื้อสินค้า.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ไม่ต้องรีบ หลังจากนี้จะมีเอง.”
เพื่อที่จะเปิดให้ทำภารกิจสำนักอีกครั้ง เขาจะต้องรับศิษย์มาให้คบหนึ่งพัน.
“เฮ้อ.”
จุนซ่างเซียวถอนหายใจ “หากสามารถออกภารกิจสำนักได้ทุกวันก็ดีสิ จะได้มีแต้มให้ศิษย์ได้ใช้จ่าย.”
ระบบเอ่ย “ในร้านค้านั้นมีสินค้าหนึ่งที่มีชื่อว่า อุปกรณ์ออกภารกิจ สามารถออกภารกิจได้ทุกวัน ทำให้ศิษย์มีแต้มสนับสนุนมากมาย ซึ่งตรงตามที่โฮสน์ต้องการในเวลานี้.”
“ให้รีเฟรชอีกรึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
ระบบตอบ “รีเฟรซก็ดี ทว่ามันขายที่ร้านค้าระดับกลาง.”
“ไสหัวไปเลย.”
......
ประมุขอ้ายจัดการอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่วัน ก็นำเมล็ดสมุนไพรระดับสูงกว่า 200,000 มาส่ง เฉลี่ยแล้วเม็ดล่ะ 100 เหรียญเท่านั้น.
เมล็ดเหล่านี้มีราคาไม่แพงนัก แต่ยากจะที่จะปลูกให้งอกงาม.
จ่ายไป 20 ล้าน ได้ 200,000 เมล็ด ทำให้จินซ่างเซียวเจ็บปวดอยู่เล็กน้อย.
ทว่าเมื่อคิดถึงสภาพแววล้อมของเทือกเขาไท่กู่เจิ้งที่จะเปลี่ยนไป อุดมสมบูรณ์ด้วยพลังวิญญาณ ก็ถือว่ายอมรับได้.
หลังจากได้เมล็ดพันธ์จำนวนมาก เหล่าเหว่ยออกมาว่า “ขอให้เจ้าสำนักส่งคนมาช่วยข้าปลูกด้วย.”
“อืม.”
จุนซ่างเซียวที่ส่งหลงจื่อหยาง ซือหม่าจงต้าและอีกหลายคนไปช่วยเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมสำนัก.
สิบวันหลังจากนั้น.
พื้นที่หลายลี้ โดยมีสำนักไท่กู่เจิ้งอยู่ตรงกลาง ได้มีการปลูกสมุนไพรล้อมรอบ โดยหน้าที่หลักในการดูแลนั้นคือศิษย์ของหอสมุนไพร.
ในเวลานี้ซุนปู่กงและอีกหลายคนยุ่งมากนับตั้งแต่ปลูกสมุนไพร 200,000 ต้นลงไป.
แต่กระนั้นแม้นว่าจะเหนื่อย แต่ก็ช่วยยกระดับวิถีสมุนไพรให้กับพวกเขาเป็นอย่างมาก ดังนั้นศิษย์หอสมุนไพรจึงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก.
“ไป.”
หลังจากที่กินอาหารเช้าเสร็จ จุนซ่างเซียวก็นำเย่ซิงเฉินเดินทางไปยังมนทลปิงหยาง เพื่อเข้าร่วมประลองยุทธ์สำนัก.
“ศิษย์น้องเย่.”
ศิษย์หลายคนที่มาส่ง ตะโกนออกมาเสียงดัง “เอาชนะกลับมาให้ได้นะ!”
“ฮึ.”
เย่ซิงเฉินที่แค่นเสียงเย็นชา.
ทำไมไม่รู้ จิตใจของเขากับสั่นไหวอยู่เล็กน้อย.
ในอดีตชาตินั้น เขาไม่มีเพื่อนแม้แต่น้อย ต้องต่อสู้ไม่หยุดเพื่อเอาชีวิตรอด.
ตอนนี้เพียงแค่ออกเดินทางไปร่วมการประลอง กับมีศิษย์พี่ศิษย์น้องมากมายมายืนส่ง ทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ เป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยมีมาก่อน.