Chapter 233 คมวิญญาณที่น่าอัศจรรย์!
เจ้าหอรุ่นแรกของหอเหยี่ยวดำนั้นได้รับวิชาบ่มเพาะระดับสูงและทักษะหมัดระดับสูงมาด้วย.
วิชาบ่มเพาะมีชื่อว่าพระสูตรมารโลหิต สามารถที่จะกระตุ้นโลหิตฝึกฝน ยกระดับพลังบ่มเพาะให้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว.
ด้วยวิชาบ่มเพาะนี้ หากไม่ เพราะทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด ศิษย์ของพวกเขาจะต้องมีระดับที่สูงกว่านี้แน่.
เหล่ยเห่ยซาที่ฝึกฝนพระสูตรมารโลหิตได้อย่างลึกซึ้ง ดังนั้นจึงก้าวไปถึงระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลาย.
นอกจากนี้ยังมีหมัดระเบิดโลหิตอีกด้วย.
วิชาดังกล่าวนี้ต้องใช้ควบคู่กับพระสูตรมารโลหิต ด้วยการกระตุ้นโลหิตภายในร่างกาย พร้อมกับรวบรวมพลังไปที่หมัด โจมตีออกไปด้วยพลังที่หนักหน่วงรุนแรง.
แต่กระนั้นก็มีข้อบกพร่องชัดเจน นั่นก็คือต้องใช้เวลาในการรวบรวมพลังระดับหนึ่ง.
ขณะที่ศิษย์ของตัวเองถูกล่าสังหาร เหล่ยเหอซาก็รวบรวมพลัง จนสามารถใช้ทักษะดังกล่าวได้.
ด้วยพลังบ่มเพาะของตัวเองในเวลานี้ ได้สร้างหมัดโลหิตขนาดใหญ่ พลังของมันมีพลังกว่า 100,000 จิน!
ในเวลานั้น เขาที่โจมตีออกไปยังฝั่งศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งรวมตัวอยู่มากที่สุด แม้แต่เตรียมจัดการศิษย์ของตัวเองไปด้วย.
ในชั่วระยะวิกฤติ เซียวจุ้ยจื่อก็พุ่งออกมา ยกโล่เหล็กกล้าขึ้นปกป้องหมัดโลหิต เพื่อป้องกันศิษย์น้องคนอื่น ๆ.
ทุกคนที่ตื่นตกใจ ก่อนที่จะเห็นศิษย์พี่ก้าวออกมาปกป้อง ทันใดนั้นก็สัมผัสได้ถึงความปลอดภัย.
ก่อนหน้านี้เขาเคยยืนต่อหน้ามังกรเพลิง รับการโจมตีการโจมตีหลายแสนจินมาแล้ว ต่อหน้าหมัดระเบิดโลหิต แววตาของเขาที่เผยท่าทางเหยียดหยัน.
ตอนนี้แม้แต่ไม่จำเป็นต้องเปิดม่านพลังป้องกัน.
ไม่ใช่ว่าไม่เคารพคู่ต่อสู้ ทว่ามันไม่ได้แข็งแกร่งพอที่เขาจะให้ค่า!
ตูมมมม-
ท้ายที่สุด หมัดอากาศที่ขนาดใหญ่โต กระแทกโล่ดังสนั่น ปราณปิศาจที่ลอยฟุ้งสาดกระจายออกไป.
เซียวจุ้ยจื่อที่ยืนอย่างมั่นคงราวกับภูเขาไท่ซาน พลังความแข็งแกร่งที่ระเบิดออกมาทั้งหมด.
ถึงแม้นว่าพลังหมัดที่มากกว่าหนึ่งแสนจิน แต่ก็ไม่สามารถเทียบได้กับพลังของมังกรเพลิง ไม่สามารถสั่นคลอนเขาได้เลย เป็นไปไม่ได้เลยที่จะผลักให้เขาถอยไปได้แม้แต่ก้าวเดียว!
เหล่ยเห่ยซาที่มั่นใจเป็นอย่างมาก กับพลังของหมัดโลหิตที่เป็นไม้ตายก้นหีบ สายตาของเขา เวลานี้แทบไม่อยากเชื่อเลย.
หมัดของเขาที่แม้แต่ระดับอาจารย์ยุทธ์ยังยากจะรับได้ ผู้เยาว์คนนี้น่าจะมีระดับศิษย์ยุทธ์ เพียงแค่โล่ก็สามารถต้านทานได้เลยอย่างงั้นรึ?!
“กึก!”
เซียวจุ้ยจื่อที่ก้าวไปด้านหน้า ผลักหมัดอากาศที่ใหญ่ยักษ์ถอยห่างออกไป กล้ามเนื้อของเขาที่ปูดโปนออกมา ผลักออกไปด้วยพลังที่มีทั้งหมดสุดกำลัง.
ครืนนนนน!
พลังหมัดอากาศที่บดขยี้ศิลารอบ ๆให้แตกกระจาย พลังของมันค่อย ๆ รั่วกระจายออกไป.
เหล่ยเห่ยซาที่ตกใจเป็นอย่างมาก.
ไม่เพียงต้านหมัดระเบิดโลหิตของเขาได้ ยังผลักกลับคืนได้ด้วย นี่มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
“ฟิ้ว-”
พริบตานั้น ริ้วแสงกระบี่ที่ส่องประกาย ดวงตาที่หดเกร็ง พุ่งเข้าหาด้วยความเร็ว.
เย่ซิงเฉินที่ถือกระบี่ ก้าวเข้าไปหาด้วยความเร็ว แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา.
ก่อนหน้านี้เขาได้กล่าวว่า คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า แม้แต่รอคอยให้อีกฝ่ายใช้ทักษะการต่อสู้ออกมา หากแต่เขากับใช้มันโจมตีไปยังคนอื่นซะอย่างงั้น นี่เป็นการดูแคลนตัวเองอย่างรุนแรง?
“ไอ้เต้าหู้.”
อีกฝ่ายที่แค่นเสียงเย็นชา “แส่หาความตาย.”
“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
กระบี่ของเขาที่เหวี่ยงออกไปสามครั้ง ริ้วแสงกระบี่ที่ระเบิดพุ่งออกไป เป็นพลังของทักษะพลังวิญญาณโจมตีออกไป.
“เอ๊ะ?”
จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
การโจมตีสามครั้งที่ฟันออกไปด้วยกระบี่นั้น เป็นริ้วแสงปราณกระบี่ ที่รวมตัวเป็นริ้วแสงจันทร์เสี้ยวเหมือนกับคมวิญญาณ?
นี่คือทักษะคมวิญญาณอย่างงั้นรึ?
เย่ซิงเฉินที่ใช้วิชาดังกล่าว โดยรวมพลังวิญญาณไว้ที่คมกระบี่และโจมตีออกมา.
ทว่า ทักษะพลังวิญญาณที่โจมตีออกมานี้ไม่ใด้ปล่อยออกมาจากพลังฝ่ามือ แต่ออกมาจากอาวุธ อีกทั้งพลังวิญญาณที่รวมตัวกันนั้นยังผสานกับปราณกระบี่ด้วย ทำให้พลังโจมตียกระดับขึ้นเป็นอย่างมาก!
“ไม่ได้การแล้ว!”
ใบหน้าของเหล่ยเห่ยซาที่เปลี่ยนสี พร้อมกับกระตุ้นโลหิต ใช้ท่าเท้าพิเศษก้าวหลบทันที.
ท่าเท้าสำนักมาร หากเป็นคนทั่วไป ไม่มีทางที่จะรับมือได้ ไม่แม้แต่ไล่ตามได้ทันด้วย.
ขณะต่อสู้กับศัตรู หลี่ชิงหยางที่เห็นศิษย์น้องเย่แสดงปราณกระบี่ออกมาอย่างบังเอิญ แววตาที่ตระหนักได้ในทันที.
เดิมที คมวิญญาณก็ใช้แบบนี้ได้ด้วย!
“วูซซ!”
เขาที่รวบรวมพลังวิญญาณที่กระบี่ในทันที ก่อนที่จะใช้ทักษะคมวิญญาณออกไป ตะโกนออกไปเสียงเบา “คมวิญญาณ!”
“ฟิ้ว!”
ทักษะพลังวิญญาณและปราณกระบี่ที่ผสานกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ พลังที่ระเบิดออกมา รุนแรงและรวดเร็ว โจมตีไปยังศัตรูที่ไกลออกไป 20 เมตรทันที!
“เฮ้ย!”
ซูเซียวโม่ที่ตื่นตกใจ “ร้ายกาจเกินไปแล้ว!”
“คมวิญญาณ คมวิญญาณ คมวิญญาณ คมวิญญาณ!”
เขาที่ผสานทักษะวิญญาณและปราณกระบี่จากกระบี่หานเฟิง พลังเพิ่มขึ้นสามเท่า โจมตีออกไปในทันที.
“พรึด ซี่!”
“พรึด ซี่!”
“พรึด ซี่!”
ศิษย์ของหอเหยี่ยวดำสามคนยากจะหลบพ้น ถูกปราณกระบี่พุ่งออกไปราวกับเส้นไหมที่ไร้เทียมทานตัดขาดเป็นสองท่อน.
ลี่เฟยและเถียนซี่ตลอดจนศิษย์หลายคนที่เห็นก็เริ่มเลียนแบบเช่นกัน.
แทบจะในทันที ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง ก็เหวี่ยงกระบี่ ที่ผสานทักษะคมวิญญาณโจมตีจากระยะไกล!
การโจมตีที่ถูกปล่อยออกมาทุกครั้งที่เหวี่ยงกระบี่.
ด้วยคมวิญญาณที่ผสานกับปราณกระบี่ นี่สิถึงจะเรียกว่าคมวิญญาณที่แท้จริง!
จุนซ่างเซียวเอ่ย “คาดไม่ถึงว่าทักษะดังกล่าวนี้ จะลึกล้ำเปลี่ยนรูป แม้แต่รวมพลังวิญญาณที่อาวุธได้.”
“เหลวไหล.”
ระบบเอ่ย “ไม่เช่นนั้นจะอธิบายได้อย่างไรว่าเป็นวิชาที่เชื่อมต่อกับพลังสวรรค์และปฐพี.”
จุนซ่างเซียวที่สีคาง กล่าวออกมาว่า “เย่ซิงเฉิน เด็กคนนี้ชาญฉลาดจริง ๆ ไม่คิดเลยว่าจะคิดค้นวิธีดังกล่าวนี้ได้.”
การปรับปรุงยกระดับวิธียุทธ์ อดีตราชันย์ถือว่ามีประสบการณ์โชกโชน.
มีเพียงร่างกายที่เขามาจุติเท่านั้นที่เป็นขีดจำกัด แต่ประสบการณ์และความรู้ยังคงเหมือนเดิม.
การจะปรับปรุงและยกระดับวิชายุทธ์ถือว่าเป็นความสามารถเฉพาะ!
นอกจากจะโจมตีเช่นนั้นออกมา ด้วยท่าเท้ามังกรข้ามสมุทร ก็สามารถหลบการโจมตีของเหล่ยเห่ยซาได้ด้วย.
แม้นว่าวิชาของสำนักมารจะแปลกประหลาด ก็ไม่ใช่ปัญหา.
ทักษะยุทธ์ที่แข็งแกร่งของอีกฝ่ายนั้น ต้องใช้เวลาในการรวบรวมพลัง เขาจึงโจมตีกดดันไม่หยุด เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสได้ใช้ทักษะพลังที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาได้.
เป็นความจริง.
เหล่ยเห่ยซาที่เร่งรีบหลบการโจมตี ไม่แม้แต่ใช้วิชามารใด ๆ ออกมาได้เลย.
เย่ซิงเฉินที่ใช้โอกาสนี้ โจมตีไม่หยุด ข้อมือของเขาที่สั่นไปมา ดาบของเขาที่เปล่งประกายแสงวับวาว.
ตูมม!ตูมม!ตูมม!
ปราณกระบี่ที่โจมตีออกไปมากมาย สร้างรอยขึ้นที่ร่างกายของเหล่ยเห่ยซืออีกหลายจุด.
แม้นว่าท่าเท้าของเหล่ยเห่ยซาจะร้ายกาจแต่ก็ไม่สามารถหลบการโจมตีได้ทั้งหมด อยู่ในสภาพไม่ค่อยดีนัก.
ในเวลานี้ ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งได้ใช้ทักษะคมวิญญาณ ด้วยการรวมพลังบนอาวุธ โจมตีไปยังศิษย์หอเหยี่ยวดำที่ตั้งแนวป้องกันอย่างเหนียวแน่น.
โดยเฉพาะสมาชิกหอฝนพรำ ที่ใช้คมวิญญาณแบบพลิกแพลงนี้ออกมาด้วย พร้อมกับใช้ท้าเท้าขยับไปเรื่อย ๆ ด้วยการเหวี่ยงอาวุธออกไปไม่หยุด ทำให้กลายเป็นแหคมวิญญาณพุ่งออกไปเต็มท้องฟ้า.
เหล่าศิษย์หอเหยี่ยวดำ เวลานี้ได้แต่รอความตายเท่านั้น.
ก่อนหน้านี้กำลังใจก็แห้งเหี่ยวหดหายไปเกือบหมด ตอนนี้เมื่อเห็นปราณกระบี่วิญญาณที่ลอยว่อนบนอากาศ แววตาของพวกเขายิ่งสิ้นหวัง หวาดกลัว จน...ถูกสับและตายไปด้วยความเศร้าใจ.
หลังจากคมวิญญาณฉบับปรับปรุงถูกใช้ออกมา ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งก็ผ่อนคลายลงเป็นอย่างมาก เพียงแค่พริบตาเดียว ศิษย์ของหอเหยี่ยวดำก็ตายไปกว่า 110 คน.
“อ๊าก!”
เหล่ยเห่ยซาที่หลบเลี่ยงมาตลอด เห็นศิษย์ 300 คน เหลือเพียงไม่ถึงร้อยคน แววตาของเขาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยและคำรามออกมาเสียงดัง.
กองกำลังหลักของพวกเขา ตายเป็นจำนวนมาก ยืนยันได้ว่าสำนักของเขาเสียหายอย่างหนักแล้ว!
“ฟิ้ว-”
ริ้วแสงกระบี่อีกเส้นที่พุ่งออกมา เร็วกว่าก่อนหน้านี้อีก.
“พรึด ซี่!”
เหล่ยเห่ยซาที่หลบเลี่ยง หากแต่ไหล่ขวาของเขา ก็ถูกเฉือน โลหิตไหลซึม.
ในเวลานี้ เขาก็ตระหนักได้ว่า ไม่ใช่เวลาที่ต้องคิดถึงสำนัก สิ่งที่เขาต้องคิดตอนนี้ ควรจะเป็นชีวิตของตัวเองต่างหาก!
หนี!
ทันทีที่คิดได้เช่นนั้น เขาก็ผลาญโลหิตในร่างของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เตรียมที่จะใช้ท่าเท้าที่ทรงพลังที่สุดหลบหนี.
หากฝ่ายตรงข้ามเป็นหลี่ชิงหยาง อาจจะทำสำเร็จ.
ทว่าต่อหน้าเย่ซิงเฉิน เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันรุนแรงที่ปะทุขึ้น ร่างกายของเขาถึงกับสั่นไหว คาดเดาได้ทันที อีกฝ่ายกำลังใช้วิชาลับเพื่อเพิ่มความเร็ว!
ฟิ้ว!ฟิ้ว!ฟิ้ว!
พริบตานั้นริ้วแสงกระบี่ก็ระเบิดออกมา คมกระบี่ 35 เส้นก็ปรากฏขึ้น!
เมื่อครั้งอยู่ในหุบเขาแห่งความตาย เย่ซิงเฉินที่สามารถใช้วิชาหนึ่งลมหายใจ 30 กระบี่ ตอนนี้เพิ่มขึ้นมาห้า เนื่องจากการกลั่นร่างกายมาตลอดครึ่งเดือนที่ผ่านมา อีกอย่างเขาก็ไม่เคยหยุดตระหนักรู้ในวิชาลับเทพกระบี่เหมันตร์เลย.
เมื่อเหล่ยเห่ยซากระตุ้นผลาญโลหิต ต้องการหลบหนี ปราณกระบี่มากมายก็ถูกปล่อยออกมา ดวงตาของเขาที่ส่ายไปมาในทันที.
เสียงแห่งความไม่ยินดีโศกเศร้าได้ดังขึ้น “ไม่......”
พรึด ซี่!
พรึด ซี่!
ปราณกระบี่ 35 เส้น ที่ตัดเฉือนไปทั่วร่างของเจ้าหอเหยี่ยวดำ.
พริบตาเดียวที่เขาตกตาย ชายชราที่กำลังบ่มเพาะในห้องลับ ก็ลืมตาขึ้นมาในทันที จิตสังหารที่รุนแรงปรากฏขึ้น “ใครกล้าสังหารศิษย์รักของข้ากัน!”