Chapter 230 หนึ่งก้าวสังหาร
ศิษย์ของหอเหยี่ยวดำไม่ได้ใช้เชือกใด ๆ พวกเขากระโดดลงมาจากบนหน้าผา ทำให้จุนซ่างเซียวตื่นตะลึง.
ไม่อยากเชื่อว่า พวกเขากระโดดลงมาโดยไม่ใช้อุปกรณ์ป้องกันใด ๆ การกระทำที่เกินคาดนี้ ทำให้เขาใช้กล้องส่องทางไกลแปดเท่าจับจ้องอย่างระมัดระวัง.
เป็นความจริง.
เมื่อพวกเขาลอยอยู่กลางอากาศ แขนทั้งสองข้างของพวกเขาก็กางออก ปรากฏอุปกรณ์บางอย่างคล้ายปีก ที่ใช้ร่อนลงพื้น.
ที่มุมปากของจุนซ่างเซียวถึงกับกระตุก “ที่แท้ก็มีปีกร่อนนี่เอง.”
สิ่งที่เคยมีในโลกเดิมของเขา กลับมาปรากฏในต่างโลก ดูเหมือนว่าโลกนี้จะมีเทคโนโลยีเหมือนกัน.
เห็นชัดเจนว่าพวกเขาไม่ใช่ว่ากระโดดเป็นครั้งแรก การใช้ปีกร่อนนี้คงจะมีการฝึกอย่างหนัก จนสามารถควบคุมทิศทางตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ ในการลงสู่พื้น.
“นกมากมายขนาดนี้ คิดว่าจะยิงไม่โดนรึอย่างไร ก็ดี.”
จุนซ่างเซียวที่ตั้งท่าเล็งไรเฟลรูปแบบ 88 เปิดโหมดเพิ่มความแข็งแกร่ง ล๊อกเป้าที่ศีรษะของคนเหล่านั้นทันที.
“ฟิ้ว-”
พริบตาที่ลั่นไก กระสุนเก็บเสียง พุ่งออกไปทะลวงศีรษะของคนหอเหยี่ยวดำทันที.
เมื่อไม่มีสมองความควบ ร่างกายก็เสียหลัก สมดุลเสีย ทันใดนั้นก็ล่วงหล่นหมุนเคว้งพุ่งหล่นไปยังแม่น้ำใหญ่ทันที.
คนอื่น ๆ ที่ไม่สามารถตระหนักได้ถึงเพื่อนร่วมทีมถูกสังหาร คิดว่าควบคุมปีกร่อนไม่ดีเลยเสียการควบคุมล่วงหล่นไปเอง.
“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวยังคงลั่นไกติดต่อกันอีกหลายนัด สังหารสมาชิกของอีกฝ่ายหลายสิบคน จากนั้นพวกเขาก็ล่วงหล่นทีละคน ๆ หล่นไปยังทิศทางต่าง ๆ กัน.
บางคนล่วงหล่นลงพื้น บางคนล่วงหล่นลงแม่น้ำ ถูกสังหารด้วยการยิงที่แม่นยำ ไม่พลาดเป้าแม้แต่นัดเดียว.
จุนซ่างเซียวไม่ได้สังหารไปทั้งหมด เขายังคงเหลือไว้ให้ศิษย์ตัวเอง ดังนั้นหลังจากที่สังหารไปกว่าสิบคนแล้วจึงหยุด.
“วิ้ง วึ่ง วึ่ง!”
รองเจ้าหอและหัวหน้าหน่วย เห็นศิษย์ของตัวเองหลุดการควบคุมก็ยังคงสุขุมอยู่.
อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นคนที่หลุดการควบคุมมากกว่าสิบคน ก็ตื่นตกใจขึ้นมาเหมือนกัน.
“รองเจ้าหอ.”
หัวหน้าหน่วยเอ่ยเสียงเบา “ควบคุมผิดพลาด เลยหล่นลงแม่น้ำอย่างงั้นรึ?”
“ก็คงงั้น.”
รองเจ้าหอเอ่ย “ไม่ต้องสนใจ พวกเราต้องหาคนที่ซ่อนไว้ก่อน หลังจากนั้นก็ส่งสัญญาณแจ้งเจ้าหอ เพื่อล้อมกรอบอีกฝั่ง.”
รองเจ้าหอรึ?
ค้นหาคน ส่งสัญญาณ?
ล้อมกรอบโจมตีรึ?
ด้วยความสามารถในการดักฟังของกล้องส่องทางไกลแปดเท่า ทำให้ได้ยินทุกอย่าง จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา เอ่ยออกมาว่า “แผนการกระจ้อยร่อย.”
รองเจ้าหอ.
ปลาตัวใหญ่เลยไม่ใช่รึ?!
จุนซ่างเซียวนั้นที่ใช้กล้องส่องทางไกลแปดเท่าล๊อกเป้าหมายเอาไว้ จ้องมองไปยังทิศทางของพวกเขาที่กำลังร่อนไป จากนั้นก็ให้คำแนะนำต่อศิษย์ของเขา.
วูซซ วูซซ วูซซ!
หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อและอีกหลายคนที่นำอาวุธพร้อมโล่เหล็กกล้าออกมา.
สำนักไท่กู่เจิ้งที่เขานำมามีทั้งหมด 23 คน ไม่นับเย่ซิงเฉินกับโจวหง.
ส่วนหอเหยี่ยวดำนั้นมีอยู่ 20 คน รองเจ้าหอมีระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่สอง หัวหน้าหน่วยสี่คนมีระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่หนึ่ง.
เขาเหลือไว้ให้ฝ่ายตัวเองได้ฝึกฝนเก็บประสบการณ์.
อย่างไรก็ตาม จุนซ่างเซียวก็มั่นใจในศิษย์ของตัวเอง ว่าจะสามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย เพราะว่าคนเหล่านี้คงไม่แข็งแกร่งกว่าสัตว์ร้ายระดับสูงอย่างแน่นอน.
......
“รองเจ้าหอ เป็นใครกันที่ลอบโจมตีหอเหยี่ยวดำของพวกเรา.”
ระหว่างเส้นทาง หัวหน้าหน่วยส่งเสียงออกไป.
หัวหน้าหน่วยเอ่ย “หัวหน้าทีมซุนก่อนหน้านี้ถูกสังหารไป ฝ่ายตรงข้ามย่อมไม่ธรรมดา.”
“ชิ.”
รองเจ้าหอแค่นเสียงเย็นชา “กล้าที่จะสังหารคนของพวกเรา ในถิ่นของพวกเราเช่นนี้ ไม่ว่ามันจะเป็นใครต้องจัดการให้สิ้น!”
ซ่า! ซ่า! ซ่า!.
พริบตานั้น มีเสียงบางอย่างดังขึ้นในหูของพวกเขา.
“มีคน!”
รองเจ้าหอที่กล่าวเสียงเบา.
พริบตานั้น พวกเขาและศิษย์กว่าสิบคน กวาดตามอง หากแต่ไม่สามารถมองเห็นใครได้.
เข้าใจผิดรึ?
ซ่า! ซ่า! ซ่า!!
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว.
เสียงที่กรีดอากาศดังขึ้นมัน ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ.
คนของหอเหยี่ยวดำที่กวาดตามองอย่างระมัดระวัง.
ทว่ากลับไม่สามารถมองเห็นคนได้!
ในเวลาค่ำคืน แม้นว่าจะได้ยินเสียง ทว่าการที่ไม่สามารถมองไม่เห็นได้เลย ทำให้พวกเขารู้สึกสงสัยขึ้นมา.
หัวหน้าหน่วยเอ่ยออกมาเสียงเบา “เป็นเพียงเสียงลมหรือไม่?”
“เป็นไปไม่ได้.”
รองเจ้าหอที่กล่าวหนักแน่น “เห็นชัดเจนว่าเป็นเสียงการก้าวเท้า!”
“ฟิ้ว-”
พริบตานั้น ริ้วแสงของกระบี่ที่ตัดผ่านไปในเวลากลางคืน.
เมื่อพวกเขาเห็นปราณกระบี่ พริบตาที่หันกลับไปมอง ก็หายไปแล้ว.
“พรึด โครม.” ในเวลานั้นศิษย์ของเขาที่อยู่ใกล้ ๆ ก็ล่วงหล่นลงบนพื้นทันที ศีรษะที่ไม่รู้ว่าหายไปใหน.
“ตรงนั้น!”
หัวหน้าหน่วยที่ชี้ไปยังทิศทางที่เงาหายไป.
ซ่า! ซ่า! ซ่า!
เพียงไม่นาน เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของพวกเขาอีกคนก็สูญเสียการควบคุม.
อาวุธลับของพวกเขาหลากหลาย ทุกคนที่ยิงอาวุธลับออกไป.
เคร้ง!เคร้ง!เคร้ง!
ซูเซียวโม่ที่สังหารไปหนึ่งคน แล้วก็วิ่งหลบไปอยู่ในโล่เหล็กกล้า ที่ป้องกันอาวุธลับได้อย่างสมบูรณ์.
ไม่ว่าลูกดอกจะถูกยิงออกมาราวกับห่าฝน ทว่าต่อหน้าโล่เหล็กกล้าแล้วไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน.
ซ่า ซ่า ซ่า!
ลี่เฟยที่ใช้ก้าวปิศาจอ้อมไปด้านหลัง ก่อนที่จะกระโดดพร้อมกับเตะก้อนหินพุ่งออกไปด้วยความเร็ว.
“ฟิ้ว-”
ก้อนหินพิเศษ ถูกเตะลอยออกมาด้วยความเร็วสูง เป้าหมายคือรองเจ้าหอ.
“ฟิ้ว ฟิ้ว!”
รองเจ้าหอที่เห็นอะไรตะคุ่ม ๆ พุ่งลอยมาด้วยความเร็ว พลังวิญญาณบนแขนทั้งสองข้างระเบิดออกมาก่อนต่อยออกไป.
ตูมมมม!”
ก่อนหินที่ระเบิดออกมาทันที.
รองเจ้าหอที่กระเด้งถอยหลัง ใบหน้าตื่นตะลึงตกใจ.
ก้อนหินธรรม ๆ แต่กับพุ่งมาด้วยพลังที่สูงล้ำ เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร!
หลังจากกลับสำนักเมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว ลี่เฟยก็ตัดผ่านระดับไปถึงศิษย์ยุทธ์ขั้นที่แปด พร้อมกับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นจากการใช้หอคอยเก็บประสบการณ์ ทำให้เท้าชั่งทองของเขามีพลังถึง 25,000 จิน!
เทียบได้กับระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่หนึ่ง ซึ่งมีพลัง 25,000 จินเช่นกัน.
ผลที่ได้หมายความว่าอย่างไร?
ก็หมายความว่า เพียงแค่ระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นแปด ก็มีพลังเท่ากับอาจารย์ยุทธ์ขั้นหนึ่งได้แล้ว!
คนอื่น ๆ ก็เช่นกัน ซูเซียวโม่ที่เวลานี้มีรากวิญญาณขั้นสุดยอดแล้ว สามารถที่จะลอบสังหารศิษย์ของหอเหยี่ยวดำได้อย่างไม่มีใครรู้.
ซ่า! ซ่า! ซ่า!.
หลังจากที่ทั้งสองลงมือไม่ได้จบเพียงเท่านั้น ได้ยินเพียงเสียงของก้าวปิศาจที่เคลื่อนไหว ล้อมกรอบคนของหอเหยี่ยวดำในทันที.
“ลงมือ.”จุนซ่างเซียวกล่าวเสียงเบา.
การลอบโจมตีได้เริ่มขึ้นแล้ว
พวกเขาที่ได้กระจายกันออกไปก่อนแล้ว เมื่อศัตรูร่อนลงพื้น ก็ล้อมกรอบตีวงเข้าโจมตีทันที.
หลี่ชิงหยางไม่ได้ใช้มือเปล่าแล้ว เขานำกระบี่หานเฟิงออกมา พร้อมกับพุ่งเป้าไปยังรองเจ้าหอ วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว.
เซียวจุ้ยจื่อที่กำหมัดแน่ จ้องมองไปยังหัวหน้าหน่วยอีกคนที่แข็งแกร่งสอง-สามคน.
คนของหอเหยี่ยวดำพบกับพวกเขาแล้ว ตอนนี้ได้นำอาวุธออกมา แม้แต่ยิงอาวุธลับออกไปอย่างบ้าคลั่ง.
น่าเสียดาย ด้วยโล่เหล็กกล้าและผนึกเจี่ยหยินที่คุ้มกันร่างกาย อาวุธลับที่มีพลังเพียงหมื่นจิน ไม่มีทางที่จะทำอะไรพวกเขาได้.
“ซ่า!”
หลี่ชิงหยางที่โผล่มาใกล้.
เพลงกระบี่เก้าทบที่ปล่อยออกไป ตัดผ่านอากาศ โจมตีไปยังรองเจ้าหอทันที.
เซียวจุ้ยจื่อก็เช่นกัน ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าศัตรูพร้อมกับฝ่ามือสะบั้นภูผาออกไป
หัวหน้าหน่วยที่แค่นเสียงเหยียดหยัน แผ่พุ่งพลังวิญญาณไปที่คมกระบี่เพื่อรับการโจมตี.
แม้นว่าฝ่ามือจะทรงพลัง แต่จะเทียบได้กับกระบี่ที่แหลมคมของเขาได้อย่างไร!
“ตูมมมมม!”
ฝ่ามือที่ทรงพลัง ทันใดนั้นก็ถูกสะบั้นขาดออกเป็นสองท่อนทันที.
รอยยิ้มของหัวหน้าหน่วย ที่แข็งค้างไปในทันที.
เคร้ง!
ฝ่ามือของเซียวจุ้ยจื่อที่กวาดม้วนออกไปราวกับใบดาบที่ตัดฟัน.
ฝ่ายตรงข้ามที่เสียหลัก เห็นเพียงริ้วแสงสีขาวพุ่งผ่านลำคอของตัวเองอย่างโหดร้าย.
“กึก.”
ทันทีที่ตั้งหลักได้ เซียวจุ้ยจื่อก็ไปอยู่ด้านหลังแล้ว.
“พรึด ซี่!”
ศีรษะของหัวหน้าหน่วยที่ล่วงลงพื้น แววตายังตื่นตะลึงไม่หาย.
แม้นแต่กำลังจะตายเขาก็ยังไม่เข้าใจว่า ฝ่ามือเปล่า ๆ แต่สามารถตัดกระบี่ของเขาได้เลยรึ?
ที่เป็นเช่นนั้นเพราะกลายเนื้อที่ยกระดับขึ้นไปจนถึงขีดสุด ทำให้ฝ่ามือของเขานั้นแข็งแกร่งไม่ต่างจากใบกระบี่แล้วนั่นเอง!
นอกจากนี้การชะงักชั่วครู่ได้เปิดช่องว่าง เพียงเท่านั้นศีรษะของเขาก็ขาดออกจากกันแล้ว.
กระบวนท่าของเซียวจุ้ยจื่อ ที่เหนือกว่าหลายขั้นจัดการอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย!