Chapter 23 เปิดชีพจรต่อไปจากขั้นห้า!
หนึ่งขวดน้ำยาเปลี่ยนพรสวรรค์ใช้แต้มสนับสนุนห้าสิบแต้ม ทำให้จุนซ่างเซียวตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แม้แต่ระมัดระวังในการเปิดขวด ควบคุมตัวเอง “อย่าหล่นนะ ห้ามหล่น.”
เขาที่ค่อย ๆ กุมขวดยาขนาดเล็กเมื่อนำมันออกมาจากแหวนมิติ.
“แก๊ก!”
ฝ่าขวดที่ถูกเปิดออก กลิ่นอายสีแดงที่เป็นระลอกคลื่นอบอวลแผ่ไปทั่วอากาศ.
จุนซ่างเซียวที่สูดเข้าจมูก รู้สึกแสบจมูกในทันที พร้อมกับกล่าวออกมาด้วยความกังวล “ไม่ใช่ว่ามีพิษอยู่หรอกนะ?”
“โปรดระวังคำพูด.”
“โปรดให้ความเคารพต่อระบบ!”
จุนซ่างเซียวที่เงยหน้าขึ้นก่อนที่จะกรอกขวดยาที่มีของเหลวสีแดงลงไปในปาก ของเหลวไหลผ่านเข้าไปในร่างกาย.
ขมเล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะมีกลิ่นหอมนิดหน่อย รสชาติกลมกล่อมเหมือนกัน.
“มา!”
จุนซ่างเซียวที่นั่งสมาธิ จ้องมองรอคอยอย่างคาดหวัง.
เพราะอะไรนะรึ?
เมื่อยาผสานรวมเข้ากับร่างกาย เขาเตรียมแบกรับความเจ็บปวดนั่นเอง!
ในความคิดของจุนซ่างเซียวนั้น การเปลี่ยนพรสวรรค์ร่างกาย ก็เท่ากับการชำระล้างไขกระดูก แน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับความเสี่ยง.
“ซู่ ซู่!”
ในเวลานั้น ยาที่กระจายไปทั่วร่างกาย กลิ่นอายที่มากมายมหาศาลปะทุออกมาในทันที.
จุนซ่างเซียวที่กำหมัดแน่น แววตาที่หนักแน่นมั่นคง พร้อมกับกล่าวออกมาว่า “ถึงจะเจ็บปวดสักเท่าใด เปิ่นจั้วก็จะทนให้ได้......”
“ติ้ง!”
“โฮสน์ใช้ยาเปลี่ยนพรสวรรค์ 1 กำลังเปลี่ยนรากวิญญาณ!”
“รากวิญญาณได้รับการเปลี่ยนแปลงแล้ว!”
“......”
มุมปากของจุนซ่างเซียวที่กระตุกไปมาอย่างรุนแรง.
ตัวเขาเตรียมแบกรับความเจ็บปวดแล้ว คาดไม่ถึงเลยว่าการเปลี่ยนพรสวรรค์กลับรวดเร็วขนาดนี้ ง่ายดาย แทบไม่รู้สึกอะไร!
วินาทีต่อมา.
จุนซ่างเซียวสัมผัสได้ว่า พลังวิญญาณจากสวรรค์และปฐพีที่ฟุ้งกระจายอยู่รอบ ๆ คล้ายกับว่าเป็นมิตรกับเขามากขึ้น!
พรสวรรค์สูงขึ้น จะสามารถสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณจากสวรรค์และปฐพีได้ดีขึ้น.
เช่นนั้นพรสวรรค์ระดับสูงเช่นหลี่ชิงหยาง ขอเพียงโคจรวิชาบ่มเพาะ ก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณจากสวรรค์และปฐพีได้มากกว่าเขาหลายเท่า พร้อมทั้งสามารถดูดซับพลังวิญญาณได้มากกว่าด้วย.
จุนซ่างเซียวที่คิดย้อนกลับไป.
ก่อนหน้านี้ ขณะเขาบ่มเพาะ โคจรวิชาบ่มเพาะ มันแทบจะไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณจากสวรรค์และปฐพีเลย.
ตอนนี้?
ด้วยพรสวรรค์ที่เปลี่ยนไป เขาสามารถบอกได้ถึงความความแตกต่างชัดเจน!
จุนซ่างเซียวอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นดีใจ “ด้วยราคา 50 แต้ม ถือว่าคุ้มค่า!”
“ติ๊ง!”
“ยินดีกับโฮสน์ รากวิญญาณระดับต่ำได้เลื่อนเป็นระดับสามัญแล้ว!”
จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา และกล่าวออกมาว่า “เป็นความจริง ก่อนหน้านี้พรสวรรค์ระดับต่ำของข้ามันโคตรน่าผิดหวังเลย ไม่สงสัยเลยว่า ทำไมมันแทบจะไม่สามารถสัมผัสพลังวิญญาณในอากาศได้เลย.”
“ฟิ้ว!”
เขายกมือทั้งสองขึ้น ราวกับว่ากำลังดื่มด่ำ ปรับตัวให้เข้ากับสัมผัสของตัวเองที่กำลังเปลี่ยนไป.
“ติ้ง!”
“โฮสน์ตัดผ่านระดับไปยังเปิดชีพจรขั้นที่หก!”
“ติ้ง!”
“โฮสน์ตัดผ่านระดับไปยังเปิดชีพจรขั้นที่เจ็ด!”
เขาที่ได้ยินเสียงที่ดังขึ้นที่ในหู ใบหน้าของเขาเผยท่าทางประหลาดใจ “ถึงกับตัดผ่านระดับได้ถึงสองขั้นเลยรึ?”
ระบบอธิบาย “ด้วยพรสวรรค์ของโฮสน์ยกระดับ ทำให้รากฐานของการบ่มเพาะยกระดับขึ้นด้วย.”
“เป็นเช่นนี้นั่นเอง.”
จุนซ่างเซียวเข้าใจได้ในระดับหนึ่ง.
เขาเลื่อนระดับพรสวรรค์จากระดับต่ำไปยังระดับสามัญ ทำให้รากฐานของร่างกายเปลี่ยนไป แม้แต่ทำให้ตัดผ่านพลังบ่มเพาะ เช่นนี้หากเปลี่ยนพรสวรรค์ไปยังระดับกลาง เขาก็ควรจะตัดผ่านระดับได้อีกเช่นกัน.
......
หลังจากรากวิญญาณยกระดับแล้ว ต่อไปต้องทำอย่างไร?
แน่นอนว่าต้องบ่มเพาะไงล่ะ!
ด้วยสำนักเวลานี้ศิษย์ลำดับสองของเขากำลังฟื้นฟูสำนัก เขาที่เป็นเจ้าสำนัก อยู่ในห้องเฉย ๆ จะให้ศิษย์ของเขารู้ได้อย่างไรว่าตัวเองไม่ได้ปิดด่านบ่มเพาะ.
“วิชาลับจิงซิน(ใจสงบ)น่าจะเป็นวิชาบ่มเพาะระดับสามัญ ข้าควรจะนำมาใช้บ่มเพาะ.”
วิชาลับจิงซินนั้นเป็นวิชาบ่มเพาะที่เขาได้มาจากอาวุโสนิกายเขาชางซานที่มาขอคำชี้แนะ ด้วยการใช้ยันต์รู้แจ้ง ไม่เพียงแต่ช่วยชี้แนะอีกฝ่าย เขายังนำมันมาใช้ประโยชน์ได้ด้วย.
จุนซ่างเซียวนั่งสมาธิและโคจรวิชาบ่มเพาะดังกล่าวในทันที.
“ฟู่ ฟู่!”
เพียงไม่นาน ทั่วห้องพลังวิญญาณจากสวรรค์และปฐพีก็หลั่งไหลเทเข้ามา มันกำลังไหลเข้ามาในร่างกายของเขาไม่หยุด.
หลังจากที่พลังวิญญาณไหลเข้าสู่ร่างกาย ก็กระจายไปทั่วเส้นชีพจร กลั่นผสานอัดแน่นขึ้นที่จุดตานเถียน ภายใต้วิชาบ่มเพาะจิงซิน เวลานี้พลังวิญญาณได้ถูกกลั่นผสานรวมกันเท่ากับหัวนิ้วโป้งแล้ว.
ในความทรงจำของจุนซ่างเซียวรับรู้ว่า นี่คือพลังวิญญาณ.
พลังวิญญาณที่อัดแน่นในจุดตานเถียน ยิ่งมันหนาแน่นมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายแข็งแกร่งและเส้นชีพจรแข็งแรง แม้แต่ตัดผ่านไปอีกระดับพลังบ่มเพาะ.
“ต่อไป เพิ่มขึ้นอีก!”
จุนซ่างเซียวที่ทุ่มสมาธิทั้งหมดเพื่อโคจรวิชาบ่มเพาะ.
อย่างไรก็ตาม ตลอดหนึ่งคืนที่ผ่าน กลุ่มพลังงานในจุดตานเถียนเพิ่มขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น.
เขาเอ่ยด้วยท่าทางผิดหวัง “นี่คือเป็นรูปแบบทั่วไป คงต้องใช้เวลาอีกสองสามเดือนกว่าจะเลื่อนระดับ.”
สองสามเดือน ด้วยวิชาลับจิงซิน.
หากเทียบกับวิชาบ่มเพาะระดับต่ำก่อนหน้านี้ ตลอดจนรากวิญญาณระดับต่ำด้วย พลังวิญญาณที่รวบรวมได้เวลานี้ ก็ถือว่าไม่เลว.
“แต่ มันยังช้าเกินไป!”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ระบบ มีวิธีในการเพิ่มระดับเปิดชีพจรอีกหรือไม่?”
“มี.”ระบบตอบ.
จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางดีใจขึ้นมาทันที “วิธีอะไร?”
ระบบตอบ “ใช้คะแนนสนับสนุน.”
“หืม?”
จุนซ่างเซียวที่ตกใจ ขณะเปิดคอนโซนระบบขึ้นมา จ้องมองไปยังคะแนนสนับสนุน ซึ่งมันมีเมนูที่ซ้อนอยู่ด้านล่าง.
ขณะที่เขาแตะตรวจสอบ มันมีคำอธิบายว่าใช้พลังสนับสนุนแลกพลังบ่มเพาะ!
“เฮ้ย!”
จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางตื่นเต้นดีใจขึ้นมา “มันมีคำสั่งนี้ตั้งแต่แล้ว ฟังก์ชันแลกพลังบ่มเพาะ!”
ระบบกล่าวเตือน “ฟังก์ชันแลกเปลี่ยนพลังบ่มเพาะนั้นแม้ว่าจะสะดวกสบาย ทว่ามันจะผลาญคะแนนสนับสนุนของโฮสน์ทั้งหมดไปในทันที โปรดพิจารณาให้ดี ก่อนตัดสินใจ.”
“งั้นรึ?”
จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา ครุ่นคิดอย่างระมัดระวัง.
หากเขาต้องใช้คะแนนสนับสนุนทั้งหมดไป แล้วยกระดับได้แค่ระดับเดียว จะถือว่าขาดทุนครั้งมโหฬารทีเดียว!
“ไม่ใช่สิ.”
หลังจากครุ่นคิดไปมา จุนซ่างเซียวก็เอ่ยออกมาอย่างจริงจัง “พลังบ่มเพาะของข้าเตี้ยต่ำเป็นอย่างมาก นี่คือเรื่องเร่งด่วน เขาต้องยกระดับดินแดนบ่มเพาะให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้!”
หนำซ้ำ.
จากการศึกษา หลายวันมานี้ พบว่า นอกจากวิชาและอาวุธ สินค้าขั้นต้นอื่น ๆ ราคาไม่ได้สูงนัก ทว่าจำเป็นต้องเข้าเงื่อนไขถึงจะใช้ได้.
ยกตัวอย่าง เพลงหมัด เก้าหมัดทลายสวรรค์ในร้านค้า แม้นว่าจะใช้คะแนนสนับสนุน 10 แต้มซื้อ แต่รายระเอียดแนะนำของวิชาดังกล่าว จำเป็นต้องมีพลังฝึกตนเปิดชีพจรขั้นที่ 10.
“ฟู่!”
จุนซ่างเซียวที่พ่นลมหายใจยาว “คะแนนสนับสนุนไม่สามารถใช้อะไรให้เกิดประโยชน์ได้ หากพลังฝึกตนยังไม่ถึงเกณฑ์ อีกอย่างหากไม่แข็งแกร่งขึ้น เขาจะเอาชีวิตรอดในทวีปชิงหยุนได้อย่างไร?”
“ฟิ้ว!”
ระหว่างที่กล่าว เขาก็กดเลือกที่เมนูคำสั่ง“แลกเปลี่ยน”ทันที.
“ติ๊ง!”
“คะแนนสนับสนุนสำนัก : 0 / 100.”
“......”
เดิมทีคะแนนสนับสนุนของเขามี 47 แต้มถูกใช้หมดไปในทันที จุนซ่างเซียวกลายเป็นกระวนกระวายใจอย่างที่สุด ต้องไม่ลืมว่า นี่คือกำไรที่เขาได้มาจากเมืองชิงหยาง!
“ติ๊ง!”
“โฮสน์ตัดผ่านระดับไปยังเปิดชีพจรขั้นที่แปด!”
“ติ๊ง!”
“โฮสน์ตัดผ่านระดับไปยังเปิดชีพจรขั้นที่เก้า!”
“ติ๊ง!”
“โฮสน์ตัดผ่านระดับไปยังเปิดชีพจรขั้นที่สิบ!”
หลังจากได้ยินเสียงแจ้งเตือนที่ดังติด ๆ กันในหู จุนซ่างเซียวรู้สึกว่าพลังวิญญาณมากมายกำลังปะทุขึ้นมา พลังที่เอ่อล้นไหล่พล่านไปทั่วร่าง เขาได้ตัดผ่านระดับ ได้ถึงสามขั้น.
“เฮ้ย!”
เขาเผยท่าทางประหลาดใจดีใจขึ้นมาทันที “คาดไม่ถึงเลยว่าจะตัดผ่านระดับถึง สามขั้น!”
47 แต้มสนับสนุนกับพลังฝึกตนสามขั้น จุนซ่างเซียวพอยอมรับได้.
ระบบเอ่ย “พลังบ่มเพาะของโฮสน์ยังต่ำอยู่ การใช้แต้มสนับสนุนแลกเปลี่ยน ทำให้สามารถตัดผ่านระดับได้โดยง่าย ทว่าหากพลังบ่มเพาะ อยู่ในระดับสูงแล้ว หากคิดแลกเปลี่ยน ย่อมไม่อาจคุ้มค่าเช่นนี้ก็ได้.”
จุนซ่างเซียวไม่ได้สนใจที่จะฟังนัก หมัดของเขาที่กำแน่น ขณะที่วงแหวนสิบวงปรากฏขึ้นที่ข้อมือ เขาเผยยิ้มกว้าง “รู้สึกถึงพลังที่สุดยอดเลย!”
“ตูมมมม!”
หมัดที่ปล่อยชกอากาศ บ้านทั้งหลังของเขาพังทลายลงในทันที.
เจ้าสำนักจุนที่กรุยทางแหวกร่างออกมาจากกองอิฐที่ ทับเขาเอาไว้.
วันถัดมา.
หลี่ชิงหยางที่ยืนอยู่ที่ด้านหน้าเศษซากปรักหักพังและกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เจ้าสำนัก การทดสอบพลังหมัดของท่าน จำเป็นต้องจ่าย 200 เหรียญเพื่อสร้างมันขึ้นมาใหม่.”
จุนซ่างเซียวได้ยินคำพูดดังกล่าวแทบทรุด แต่ก็ยังคงวางมาดน่าเกรงขามเอาไว้.