Chapter 222 แบ่งเงิน.

“ป๊าบ!”

ค้อนประมูลราคาสุดท้ายก็จบลง.

ประมุขอ้ายกล่าวเสียงดัง “เม็ดยาฟื้นฟูเม็ดที่ห้าเจ้านิกายน้อยประมูลด้วยราคา 500,000 จะต้องจ่ายเงินทั้งหมด...”

“......”

เจ้านิกายน้อยเวลานี้ร่างกายสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ.

แม้นว่าเม็ดยาฟื้นฟูจะมีคุณสมบัติน่าพรั่นพรึง ทว่าก็จำกัดพลังฝึกตนที่เปิดชีพจรและศิษย์ยุทธ์ เขาซื้อมาสามเม็ด มันไม่จำเป็นขนาดนั้น.

หนำซ้ำ เพราะว่าถูกปั่นราคา เขาต้องจ่ายเงินกว่า 3 ล้านอย่างคาดไม่ถึง!

จุนซ่างเซียวเผยยิ้ม “เจ้าคนร่ำรวยเอ้ย ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายไปได้.”

ลู่เชียนเชียน.“......”

เจ้าสำนักของข้าเป็นคนล่ออีกฝั่งให้ตกหลุม ทว่ากับแสดงท่าทางเหมือนอีกฝ่ายต้องการทำเช่นนั้น.

จากนั้น ประมุขอ้ายที่ทำการประมูลเม็ดยาฟื้นฟูต่อ จุนซ่างเซียวที่ตะโกนออกไปเสียงดัง 400,000.

เจ้านิกายน้อย ตอนนี้ขาดทุนอย่างหนักแล้ว ไม่กล้าที่จะเอ่ยออกมาอีก.

หากเขาไม่เสนอราคา คนอื่นก็ไม่กล้าเสนอ ด้วยเกรงว่าจะล่วงเกินกลุ่มอิทธิพลใหญ่.

“ป๊าป!”

ประมุขอ้ายที่เคาะค้อนลงไป ประกาศว่าจุนซ่างเซียวซื้อเม็ดยาฟื้นฟูไปในราคาสี่แสน.

ซื้อแล้วอย่างไร ไว้ครั้งหน้าเก็บไปประมูลครั้งหน้าก็ได้ ไม่มีอะไรขาดทุน.

เม็ดยาฟื้นฟูเม็ดที่เจ็ด จุนซ่างเซียวไม่เข้าร่วมประมูลต่อแต่อย่างใด สำนักระดับหกที่เวลานี้เริ่มแข่งขันกันอย่างบ้าคลั่ง และขายออกไปในราคา 800,000.

ดูเหมือนว่าเหตการณ์จะกลับสู่ปรกติแล้ว.

อีก 13 เม็ดยาได้ถูกซื้อโดยกลุ่มอิทธิพลต่าง ๆ รวมราคากว่า 10 ล้าน ราคาประมูลเฉลี่ยอยู่ที่ 800,000

ทว่านี่เพียงแค่อาหารเรียกน้ำย่อยเท่านั้น.

5 เม็ดยาบูรณะร่างกาย นี่ถึงจะเรียกว่าอาหารจานหลัก.

นิกายระดับห้าทั้งสอง เพราะเม็ดยานี้พวกเขาต้องเดินทางมาจากพื้นที่ไกลออกไป.

“ทุกท่าน.”

หลังจากพักชั่วขณะ ประมุขอ้ายก็นำเม็ดยาดังกล่าวออกมา “นี่คือเม็ดยาบูรณะร่างกายที่ช่วยยกระดับความแข็งแกร่ง ราคาประมูลเริ่มขึ้นที่ สองล้าน!”

เหล่าชาวยุทธ์ที่นั่งระดับเงินถึงกับมุมปากกระตุก.

เป็นความจริง.

ราคานี้ สูงยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ซะอีก!

“2.1 ล้าน!”

อาวุโสนิกายหงอวิ๋นที่เริ่มประมูลเป็นคนแรกทันที.

“2.2 ล้าน.”เจ้านิกายน้อยนิกายถิงอี้เองก็เสนอราคาออกมาเช่นกัน.

เม็ดยาฟื้นฟูทั้งสองสำนักไม่ได้สนใจมากนัก ทว่าเม็ดยาบูรณะร่างกายนั้นพวกเขาสู้กันในทันที ต้องไม่ลืมว่ามันมีเพียงห้าเม็ดเท่านั้น!

“2.3 ล้าน!”

“2.4 ล้าน!”

“......”

กับการต่อสู้กันโดยไม่มีใครยอมใคร จุนซ่างเซียวพึงพอใจเป็นอย่างมาก.

ท้ายที่สุด หลังจากที่สู้กันเอาเป็นเอาตาย เม็ดยาบูรณะร่างกายก็ถูกนิกายถิงอี้ซื้อไปในราคา ห้าล้าน.

สำนักระดับหกที่เข้าร่วมเสนอราคาครั้งนี้ เมื่อราคาไปถึง 4 ล้าน พวกเขาก็ยอม.

เหล่านิกายใหญ่นั้นร่ำรวย มีหรือที่พวกเขาจะสู้ได้.

จากนั้นเม็ดยาบูรณะร่างกายเม็ดที่สอง สองนิกายใหญ่ยังคงสู้กัน แต่ท้ายที่สุดก็ตกอยู่ในมือของนิกายหงอวิ๋น ด้วยราคา 5.5 ล้าน.

ใครจะคิดว่าสองนิกายใหญ่ ที่แย่งชิงต่อสู้กัน จนคนอื่นไม่กล้าเข้าไปร่วมเลย.

สำนักระดับหกที่จ้องมองราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ทำได้แค่เพียงทอดถอนใจ.

และแล้ว เม็ดยาบูรณะร่างกายห้าเม็ด ก็มีเพียงเพียงสองนิกายที่สู้กันคือนิหายหงอวิ๋นและนิกายถิงอี้ ที่ซื้อไปสองเม็ด 11 ล้าน อีกนิกายสามเม็ด 16 ล้าน.

“วึ้ง วึ้ง! เซ็งแซ่”

จุนซ่างเซียวเอย “นิกายนอกมนทลร่ำรวยจริง ๆ.”

อ้ายซางหนี่ที่เก็บความดีใจเอาไว้ไม่อยู่.

การประมูลที่เขาคาดเอาไว้ คือน่าจะได้ราว ๆ 30 ล้าน ท้ายที่สุดก็ขายออกมาได้เงินถึง 40 ล้าน.

“ทุกท่าน.”

ประมุขอ้ายที่ยกมือประสาน “การประมูลครั้งนี้จบแล้ว ทว่ายังมีโอกาสหน้าอีก.”

ทุกคนที่แยกย้าย.

เหล่าชาวยุทธ์บัตรเงินที่ออกไปก่อน ระหว่างทางที่พูดคุยกันเสียงดัง.

“คู่ควรเป็นนิกายระดับห้า พวกเขามีเงินมากมายแทบจะใช้ไม่หมดเลยมั้ง.

“น่าเสียดาย วังเมี่ยวฮัวไม่ได้เข้าร่วม ไม่เช่นนั้นคงเป็นสามยักษ์ใหญ่สู้กันอย่างสนุก!”

“ในความเห็นของข้า เจ้าวังเมี่ยวฮัวเดินทางมาครั้งนี้ คงเกี่ยวข้องกับเม็ดยาฟื้นฟู ไม่รู้ว่าสามารถรักษาตาของนางได้หรือไม่?”

“ประมุขอ้ายก็กล่าวย้ำครั้งแล้วครั้งเล่า เม็ดยาฟื้นฟูนั้นมีผลเพียงผู้ฝึกยุทธ์เปิดชีพจรและศิษย์ยุทธ์เท่านั้น เจ้าวังซี พลังบ่มเพาะของนางต่ำสุดคงอยู่ในระดับบรรพชนยุทธ์ ไม่น่าจะได้ผลนะ.”

......

“พวกเราไป.”

จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกมาจากห้องส่วนตัว เวลานั้นพบเจอกับเจ้านิกายน้อยนิกายถิงอี้เข้าพอดี.

“เจ้าสำนักจุน.”

เจ้านิกายน้อยที่กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าใจกล้านักนะ.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ในเมื่อนี้คือการประมูล แน่นอนว่าข้าย่อมสนใจที่จะเสนอราคาเช่นกัน.”

จากนั้น เขาก็นำลู่เชียนเชียนจากไป.

“ไอ้คนน่ารังเกียจ.”

แม้นว่าเจ้านิกายน้อยจะโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก ทว่าก็ไม่มีความคิดที่จะเข้าไปหาเรื่องตรง ๆได้.

พ่ายแพ้การประมูล.

ก็เหมือนขี้แพ้ชวนตี เป็นการกระทำที่เสียเกียรติมาก.

จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกมาที่ด้านนอก ขณะลงมาถึงโถงทางออก ก็พบกับซีจิงเสวียนและกลุ่มศิษย์.

สายตาของสตรีผู้นี้ที่ยังคงว่างเปล่า เขาที่แลมองนิดหนึ่ง ขณะนำลู่เชียนเชียนจากไป.

“เจ้าสำนักจุน.”

อ้ายซางเกอที่ยืนรออยู่ที่ทางออก และเอ่ยออกมาว่า “ขอเชิญไปยังพื้นที่ต้อนรับแขกผู้ทรงเกียรติพร้อมกับข้า.”

“อืม.”

จุนซ่างเซียวรับรู้ทันทีว่า ประมุขอ้ายคงจะจ่ายส่วนแบ่งให้.

คำนวณคร่าว ๆ 40 ล้าน ตัวเขาก็ควรจะได้ 16 ล้าน.

เป็นความจริง.

หลังจากที่ส่งเหล่านิกายใหญ่แล้ว อ้ายซางหนี่ก็เข้ามายังพื้นที่รับแขกผู้ทรงเกียรติและส่งมอบตั๋วเงิน 20 ล้านออกมาทันที.

“ประมุขอ้าย.”

จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางประหลาดใจ “ไม่ใช่ว่าแบ่ง 40 : 60 หรอกรึ? ท่านมอบให้ข้าเกินแล้ว.”

อ้ายซางหนี่ที่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เติมให้ครบจำนวน.”

ด้วยการเล่นละครของจุนซ่างเซียว ทำให้ได้มากเกินกว่าเป้าสิบล้าน แน่นอนเขาจึงไม่ได้ต้องการที่จะรับไปเต็ม 60% จริง ๆ.

“เช่นนั้นจุนโหมวไม่เกรงใจแล้ว.”

จุนซ่างเซียวที่ยอมรับเงินมา พร้อมกับนำเม็ดยาฟื้นฟู 50 เม็ดและเม็ดยาบูรณะร่างกายออกมาอีก 10 เม็ดกล่าวออกมาว่า “ได้ร่วมมือกับตระกูลอ้าย จุนโหมวรู้สึกพอใจมาก เม็ดยานี้คงต้องรบกวนแล้ว!”

อ้ายซางหนี่ที่รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก.

เม็ดยาที่ประมุขจุนมอบให้นั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ อธิบายได้ว่าตระกูลอ้ายได้รับความเชื่อใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน.

“ประมุขอ้าย.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ตระกูลอ้ายรับซื้อแกนผลึกหรือไม่?”

ในหุบเขาแห่งความตายนั้น เขาได้รับแกนผลึกมากมาย ระดับสูงเก็บไว้ใช้ ส่วนระดับต่ำเขาวางแผนที่จะขายออกมา.

อ้ายซางหนี่เอ่ย ”ตระกูลอ้ายเองก็รับแกนผลึก แม้นว่าจะไม่ได้ขายโดดตรง ทว่าก็มีร้านขายโดยเฉพาะด้วยเหมือนกัน.

ด้วยพวกเขาเป็นตระกูลพ่อค้า ตระกูลอ้ายที่เชี่ยวชาญการขายยา ส่วนธุรกิจอื่นเองก็ทำด้วยเช่นกัน.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “จุนโหมวมีแกนผลึกอยู่เล็กน้อย หากประมุขอ้ายสนใจ พวกเราสามารถค้าขายแลกเปลี่ยนกันได้.”

อ้ายซ่างหนี่เผยยิ้ม “ไม่มีปัญหา.”

ทุกสินค้าที่ขายได้ แน่นอนว่าเขาก็พร้อมจะรับซื้อ.

“ฟิ้ว!”

จุนซ่างเซียวโบกมือ นำแกนผลึกมากมายหลายสีออกมา วางไว้บนโต๊ะ.

“ประมุขอ้าย.”

เขาเอ่ย “จำนวนไม่มากนัก เพียงห้าร้อยกว่าชิ้น ท่านคิดว่าได้ราคาเท่าไหร่.”

ประมุขอ้ายที่ดวงตาเบิกกว้าง.

แกนผลึกห้าร้อยชิ้นนี้นะรึ ไม่มาก? นี่มันโคตร ๆ เยอะเลยไม่ใช่รึไง?

“หืม?”

ประมุขอ้ายที่หยิบแกนผลึกสีแดงชาดขึ้นมา กล่าวด้วยความตกใจ “เจ้าสำนักจุน แกนผลึกนี้ มันหมาป่าเพลิงชาดไม่ใช่รึ?!”

“ไม่ผิด.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

อ้ายซ่างหนี่กล่าวอย่างจริงจัง “หมาป่าเพลิงชาดมีแค่ในหุบเขาแห่งความตาย เป็นไปได้ว่าเจ้าสำนักจุนเข้าไปด้านในรึ?”

“อืม.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เมื่อเร็ว ๆนี้ ข้าได้นำศิษย์ไปหาประสบการณ์.”

ภายในใจของอ้ายซางหนี่ที่ตกใจ.

ไม่แปลกใจเลยว่าเขาไปขอพบก่อนหน้านั้น มีคนบอกว่าเจ้าสำนักจุนนำศิษย์ไปหาประสบการณ์.

เดี๋ยวก่อนนะ!

อ้ายซางหนี่ที่สะดุ้งขึ้นมา “เจ้าสำนักจุน แกนผลึกพวกนี้ ได้มาจากหุบเขาแห่งความตายทั้งหมดเลยรึ?”

“ไม่ผิด.”จุนซ่างเซียวตอบ.

“......”

อ้ายซางหนี่ถึงกับพูดไม่ออก ภายในใจที่ยากจะเชื่อกับเรื่องที่ได้ยิน.

แกนผลึกเหล่านี้ไม่ไช่ว่าจะหาได้ง่าย ๆ เจ้าสำนักจุนกลับนำออกมาห้าร้อยชิ้น นี่สังหารไปมากเท่าไหร่กัน!

ก็ไม่ได้มากเท่าไหร่.

แค่เกือบหมดเท่านั้น.

อ้ายซางหนี่ที่ทำการตรวจสอบระดับของแกนผลึก ยิ่งตรวจสอบมาเท่าไหร่ ภายในใจก็ยิ่งสั่นสะท้านไปมาอย่างบ้าคลั่ง.

แกนผลึกเหล่านี้ ส่วนมากอยู่ในระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลาย และยังมาจากสัตว์ร้ายหลากหลายชนิด.

สัตว์ร้ายเหล่านี้ไม่เพียงทรงพลัง ยังอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ด้วย ทำให้ปรกติแล้วยากจะต่อกร.

ถึงแม้นว่าฉินเห่าหรานจะนำศิษย์ระดับสูงออกล่า ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำสำเร็จ!

สำนักไท่กู่เจิ้ง น่าพรั่นพรึงขนาดนั้นเลยรึ?

“เจ้าสำนักจุน.”

หลังจากตรวจสอบอย่างดีแล้ว อ้ายซางหนี่ก็เอ่ยออกมาว่า “แกนผลึกทั้งหมด ตระกูลอ้ายสามารถซื้อได้ในราคา 10 ล้าน.”

เนื่องจากมีระดับทั่วไปอยู่ไม่น้อย ยกตัวอย่างแกนของหมาป่าเพลิงปฐพีที่มีค่ามากสุดเพียง 1200 ทว่าก็มีแกนระดับกลางจำนวนมาก ทำให้ราคาประเมินสูง.

หากเจ้าสำนักจุนนำแกนผลึกระดับสูงออกมาเกรงว่าประมุขอ้ายคงจะต้องจ่ายมากกว่านี้อีก.

“ตกลง.”

ทั้งสองที่ตกลงทำสัญญาซื้อขายกันในทันที.

ภายในแหวนมิติของจุนซ่างเซียวเวลานี้มีเงินห้าสิบล้าน ในเวลานั้นเขาก็ได้ยินเสียงของระบบที่ดังขึ้นในหู.

“ติ๊ง ยินดีกับโฮสน์ที่ทำภารกิจลับสำเร็จ【กองเงินกองทอง】ได้รับคะแนนสนับสนุน 200 แต้ม.”

“ติ้ง คะแนนสนับสนุนสำนัก : 285 / 1000.”

“ติ๊ง! ยินดีกับโฮสน์ที่ทำภารกิจลับสำเร็จ【กองเงินกองทอง】 ได้รับรางวัลลับ ยกระดับขนาดแหวนมิติห้าเท่า.”