ตอนที่แล้วChapter 212 หลังจากเก็บประสบการณ์ ก็ยกระดับกันถ้วนหน้า.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 214 ความเห็นของจุนซ่างเซียว

Chapter 213 ไม่ควรประมาทลู่เชียนเชียน


เช้าวันถัดมา.

หลังจากทำกายบริหารตอนเช้าเสร็จ จุนซ่างเซียวจึงได้ประกาศ คนที่ยังไม่ผ่านห้องปั้นกล้ามเนื้อสองเดือน ห้ามเข้าหอคอยเก็บประสบการณ์.

ไม่ต้องบอกเลยว่าคนที่ไม่สามารถอดทนผ่านชั้นแรกของแรงโน้มถ่วงสิบเท่า หากล้มเหลว มีแต่เสียเวลาเท่านั้น.

“เจ้าสำนัก.”

หลี่ชิงหยางเอ่ย “ห้องปั้นกล้ามเนื้อนั้นมีไม่เพียงพอ ศิษย์หลายร้อยคนแทบไม่เคยใช้.”

ก่อนหน้านั้นพวกเขามีศิษย์เพียง 110 คน ห้องปั้นกล้ามเนื้อจึงมีเพียงเล็กน้อย ตอนนี้มี 500 คน แน่นอนว่าไม่เพียงพอเป็นธรรมดา.

จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนไปยังโถงฝึกฝน พร้อมกับซื้อห้องปั้นกล้ามเนื้อ 10 อัน เพราะเมื่อครบสองเดือน ศิษย์ของเขาก็ไม่จำเป็นต้องใช้แล้วนั่นเอง.

ดังนั้นนี่ จึงเป็นการแก้ปัญหาชั่วคราว.

แม้นว่าจะดูคับคั่ง ทว่าอย่างน้อยศิษย์ก็สามารถฝึกฝนได้ทุกวันแบ่งปันเวลากันไป.

เพราะว่าเขาจำเป็นต้องเหลือแต้มไว้ใช้เปิดค่ายกลรวมวิญญาณด้วย.

ตอนนี้ใช้ไปแล้ว 200 แต้ม เหลือแต้มหนึ่งร้อยแต้มเท่านั้น.

แต้มจำนวนมากของเขาถูกผลาญไปในเวลาสั้น ๆ หมดไปอย่างรวดเร็ว.

อย่างไรก็ตาม เพื่อที่จะทำให้ศิษย์แข็งแกร่งขึ้น ก้าวไปเป็นนิกายที่แข็งแกร่งที่สุด ถึงแม้นว่าจะต้องลงทุนไปมหาศาลก็ไม่มีอะไรน่าเสียดาย.

“เพื่อการพัฒนาสำนัก จำเป็นต้องมีแต้มสนับสนุนมากกว่านี้.”

จุนซ่างเซียวกล่าวเสียงเบา.

ภายในใจที่วางแผนอีกหลายอย่างในใจเพื่อยกระดับศิษย์ของตัวเอง.

......

จากนั้น เหล่าศิษย์ที่มีกายเนื้อไม่แข็งแกร่ง ก็ต้องเน้นฝึกฝนที่ห้องปั้นกล้ามเนื้อ ส่วนศิษย์ที่แข็งแกร่งแล้วจะเข้าไปหาประสบการในหอคอยเก็บประสบการณ์.

แน่นอน.

จุนซ่างเซียวเองก็ไม่ได้เกียจคร้าน.

หลังจากที่กินอาหารเย็นเสร็จสิ้น เขาเองก็เข้าไปใช้หอคอยเก็บประสบการณ์คนเดียว เพื่อยกระดับกายเนื้อของตัวเอง.

ทำไมถึงได้เป็นตอนเย็นล่ะ?

เพราะว่ากลางวันเป็นศิษย์ที่มาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เขาไม่ต้องการให้ศิษย์เห็นสภาพของเขาเมื่อครั้งอดทนต่อแรงโน้มถ่วง.

เขาที่เป็นผู้ปกครองสำนัก จำเป็นต้องรักษาภาพพจน์ด้วยเช่นกัน!

การเข้ามาเก็บประสบการณ์ครั้งที่สอง จุนซ่างเซียวที่จริงจังเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแค่การท้าทายสำเร็จ เขาจะต้องทนให้ได้มากกว่าสี่ชั่วโมง.

ความเป็นจริง กายเนื้อของเขาเองก็ไม่ได้ด้อยกว่าเซียวจุ้ยจื่อ ต้องไม่ลืมว่าเขาเองก็ใช้เครื่องปั้นกล้ามเนื้อทั้งวันทั้งคืนมาเหมือนกัน.

“ฟู่!”

บนท้องฟ้าที่มีดวงดารามากมาย จุนซ่างเซียวที่นอนแผ่หายใจหอบ ร่างกายที่แข็งปวดร้าวไปทั่วร่าง.

นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาเข้าไปยังหอคอยเก็บประสบการณ์ซึ่งเขาสามารถทนอยู่ได้ถึงหกชั่วโมง.

แม้นว่าเขาจะทำลายสถิติของศิษย์ แต่เพราะเขามีสถานะเป็นเจ้าสำนัก ดังนั้นหอคอยเก็บประสบการณ์จึงไม่มีการบันทึก.

ใช่แล้ว.

สถิตินั้นมีไว้เพื่อผลักดันศิษย์ของตัวเอง ตัวเขาไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับเรื่องดังกล่าว.

“หืม?”

ในเวลานั้น จุนซ่างเซียวพบลู่เชียนเชียนในชุดสีขาวปรากฏขึ้นในเวลากลางคืน จากนั้นก็ยืนอยู่ด้านหน้าทางเข้าของหอคอยเก็บประสบการณ์.

สตรีผู้นี้ไม่ได้เข้าไปใช้ในเวลากลางวันอย่างงั้นรึ?

สตรีผู้งดงามแต่เย็นชาตลอดทั้งวัน.

ลู่เชียนเชียนพบเจ้าสำนัก ทว่าแลมองคราหนึ่ง จากนั้นก็ก้าวเข้าไปในหอคอยเก็บประสบการณ์.

“ฟิ้ว!”

หอคอยชั้นแรกที่ส่องสว่างขึ้น ส่องแสงกระจายออกไปรอบ ๆ พื้นที่.

เสียงที่เคร่งขรึมเก่าแก่ดังขึ้น “ลู่เชียนเชียน ท้าทายหอคอยเก็บประสบการณ์ชั้นแรก!”

จุนซ่างเซียวทีกล่าวเสียงเบา “นางไม่จำเป็นต้องใช้ห้องปั้นกล้ามเนื้อ ครั้งแรกก็ทนได้หลายชั่วโมงแล้ว ยอดเยี่ยมนัก ครั้งนี้จะทนได้นานเท่าไหร่?”

“คลิก.”

จุนซ่างเซียวที่นำนาฬิกาจับเวลาออกมาจากกำไลเก็บของ เริ่มจับเวลาของลู่เชียนเชียน.

นาฬิกาจับเวลา ที่เขาถูกบังคับซื้อจากการรีเฟรชร้านค้า ดูเหมือนว่าจะมีประโยชน์อยู่เล็กน้อย.

หลังจากผ่านหนึ่งชั่วโมง.

เสียงที่เคร่งขรึมเก่าแก่ดังขึ้นอีกครั้ง “ลู่เชียนเชียน ท้าทายสำเร็จ!”

จุนซ่างเซียวไม่ได้ประหลาดใจอะไรนัก สิ่งที่เขาสนใจ สตรีผู้นี้จะสามารถทำลายสถิติห้าชั่วโมงได้หรือไม่?

เวลาที่ผ่านเลยไป จุนซ่างเซียวที่เหนื่อยล้าจนรู้สึกง่วงนอน ท้ายที่สุดก็ถือนาฬิกาจับเวลาและผล็อยหลับไป.

หลังจากผ่านไปหกชั่วโมง.

เสียงของหอคอยเก็บประสบการที่ดังขึ้น “ศิษย์ลู่เชียนเชียนเสร็จสิ้นการท้าทาย สถิติ 6 ชั่วโมง บันทึกอันดับหนึ่งของชั้นแรก!”

เพียงแค่ครั้งที่สอง คาดไม่ถึงว่าจะทำลายสถิติของเซียวจุ้ยจื่อไปแล้ว!

น่าเสียดายที่เจ้าสำนักจุนนั้นเหนื่อยมาก จึงนอนหลับอย่างไม่สนใจ ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยแม้แต่น้อย.

“กึก ซี่.”

หอคอยที่เปิดออกมา ลู่เชียนเชียนที่ค่อย ๆ ก้าวออกมา.

หากจุนซ่างเซียวได้เห็น ต้องประหลาดใจเป็นแน่ เพราะว่าถึงจะอดทนได้ถึงหกชั่วโมง นางก็ยังมีแรงที่จะเดินออกมา.

“หอเก็บเกี่ยวประสบการณ์แห่งนี้ แข็งแกร่งกว่าค่ายกลเก็บประสบการณ์เหมันตร์ลึกล้ำมาก...”ลู่เชียนเชียนกล่าวเสียงเบา ในเวลานั้นนางที่ได้ยินเสียงกรนของเจ้าสำนักที่อยู่ไกลออกมา.

นางที่พยุงร่างอันเหนื่อยล้า เดินตรงกลับไปยังพื้นที่ลานด้านใน.

อย่างไรก็ตาม ขณะเดินมาใกล้จุนซ่างเซียวนางก็หยุดลง ดวงตาที่เผยความเย็นชาออกมาเล็กน้อย.

......

ก่อนเช้า จุนซ่างเซียวก็ลืมตาขึ้นมาในทันที ขณะกล่าวออกไปว่า “คาดไม่ถึงเลยว่าข้าจะเผลอหลับไป!”

“หืม?”

ขณะที่กำลังจะลุกขึ้น เขาก็พบว่าบนศีรษะของเขานั้นมีผาห่มวางหนุมศีรษะเขาอยู่ และยังส่งกลิ่นที่หอมออกมาเล็กน้อย.

เจ้าสำนักจุนบอกได้ในทันที กลิ่นหอมนี้ไม่ใช่ใครที่ใหน เป็นลู่เชียนเชียนนั่นเอง!

เขาที่เป็นหมาเดียวดาย(โคตรโสด) คาดไม่ถึงว่าจะได้ดมกลิ่นหอมหญิงสาวเช่นนี้ เป็นอะไรทีเหลือเชื่อจริง ๆ.

เขาที่เก็บผ้าห่มและเอ่ยเสียงเบา “ไม่คิดเลยว่านางจะเป็นห่วงเจ้าสำนัก ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่คนไร้หัวใจ.”

ว่าแต่.

นางทนได้นานเท่าไหร่?

จุนซ่างเซียวที่จ้องมองไปยังป้ายของหอคอยเก็บประสบการณ์ เห็นอักษรลำดับหนึ่งขึ้น สถิติผู้ท้าทาย ลู่เชียนเชียน เวลาหกชั่วโมง.

กึก.

เขาถึงกับกลายเป็นโง่งม.

สตรีผู้นี้....ทำลายสถิติ?

......

หลังจากเสร็จสิ้นการทำกายบริหาร หลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆ เดินทางมายังหอคอยเก็บประสบการณ์ ขณะที่เห็นลู่เชียนเชียนทำลายสถิติชั้นแรกไปแล้ว ทุกคนที่จ้องมองกลายเป็นไก่ไม้ไปตาม ๆ กัน.

“โอ้วสวรรค์!”

ซูเซียวโม่ที่ตื่นตกใจ “เมื่อวานไม่เห็นศิษย์พี่หญิงใหญ่เลย นี่ทำลายสถิติศิษย์น้องเซียวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!”

เซียวจุ้ยจื่อที่เกาศีรษะไปมา กล่าวชื่นชม “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ร้ายกาจจริง ๆ!”

เขาที่ท้าทายมาสามครั้งแล้ว เพิ่มเวลาได้เพียงยี่สิบนาทีกว่าเท่านั้น การจะไปถึงเวลาหกชั่วโมงคงต้องใช้เวลาอีกหลายวัน.

“สตรีผู้นี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ......”

เย่ซิงเฉินลอบคิดในใจ.

ด้วยคุณสมบัติธาตุน้ำแข็งที่นางแสดงให้ทุกคนได้ประจักษ์ที่หุบเขาแห่งความตาย ก็ทำให้เขาประหลาดใจพอแล้ว ตอนนี้การที่สามารถทนแรงโน้มถ่วงได้ถึงหกชั่วโมง ความแข็งแกร่งนางนั้นไม่ธรรมดาเลย.

ศิษย์พี่หญิงลู่เชียนเชียน ที่เป็นลำดับหนึ่งในชั้นแรก ทำให้ศิษย์หญิงมากมายเผยความดีใจเป็นอย่างมาก.

พวกนางไม่กล้าที่จะเข้าไป ทว่าเมื่อเห็นศิษย์พี่หญิงใหญ่ทำลายสถิติ ท้ายที่สุดก็เข้าไปท้าทายหอคอยเก็บประสบการณ์เช่นกัน.

นี่เป็นการกระตุ้นเตือน แสดงให้เห็นว่าสตรีนั้นไม่ได้ด้อยกว่าบุรุษ ทำให้หลิงหยวนเสวี๋ยมีกำลังใจ แม้นว่าจะไม่สำเร็จ ทว่าอย่างน้อยก็เป็นการสร้างความกล้าของนางให้มากขึ้น.

จากนั้น.

เมื่อลู่เชียนเชียนสร้างสถิติอันดับหนึ่ง เหล่าศิษย์ชายต่างก็ต้องการท้าทายอย่างบ้าคลั่ง ศิษย์หญิงเองก็มีความกล้ามากขึ้น.

สำนักไท่กู่เจิ้งเวลานี้ การบ่มเพาะที่ดูคึกครื้นขึ้น.

จุนซ่างเซียวที่ยืนอยู่ด้านนอกหอคอยฝึกฝน จ้องมองศิษย์ที่ต้องการจะแข็งแกร่งขึ้น ท่าทางคึกคักนั่น ทำให้เขายิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ.

ในเวลาเย็น.

เขายังไม่เข้าไปด้านใน และลู่เชียนเชียนเช่นกัน.

เป็นความจริงตั้งแต่เช้าจนเย็น สตรีผู้นี้เพิ่งปรากฏขึ้นมา.

“เฮ้.”

จุนซ่างเซียวนั่งอยู่บนโขดหิน ตะโกนออกไปเสียงดัง “นี่ไม่หลับไม่นอนอย่างงั้นรึ? ถึงได้มาท้าทายหอเก็บประสบการตอนนี้?”

ลู่เชียนเชียนเอ่ย “เจ้าสำนักเองก็ไม่พักผ่อนรึ?.”

จุนซ่างเซียวนำผ้าห่มออกมา กล่าวออกไปว่า “นี่เป็นของเจ้ารึ?”

“เจ้าสำนักมอบกำไลให้กับข้า ข้าก็เลยมอบผ้าห่มให้กับเจ้าสำนัก.”ลู่เชียนเชียนเอ่ย.

จุนซ่างเซียวถึงกับพูดไม่ออก “สิ่งที่เปิ่นจั้วมอบให้นั้น เป็นกำไลธาตุน้ำแข็ง เจ้ามอบผ้าห่มคืนมาให้ ดูเหมือนว่ามันจะถูกไปหน่อยนะ.”

“......”

กำไลธาตุน้ำแข็งที่นางได้รับในหุบเขาแห่งความตาย นางย่อมตระหนักได้ว่ามันมีพลังของธาตุน้ำแข็งซ่อนอยู่ ช่วยยกระดับพลังน้ำแข็งของนางด้วย.

ไม่เช่นนั้น.

เป็นไปไม่ได้ที่นางจะแช่แข็งมังกรเพลิงเป็นเวลา 4-5 ลมหายใจได้.

ลู่เชียนเชียนเอ่ย “หอคอยเก็บประสบการนี้ควรจะเป็นของวิเศษระดับสูง เจ้าสำนักควรจะมีการแบ่งพื้นที่ชายหญิงในการเก็บประสบการณ์ดีหรือไม่?”

จุนซ่างเซียวครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนที่จะเอ่ยออกไปว่า “ได้.”

“...”

เขาที่เดินออกไป “วันนี้เปิ่นจั้วจะเข้าไปเก็บประสบการณ์กับเจ้า.”

ลู่เชียนเชียนที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เปิ่นจั้วต้องการจะเห็น ศิษย์หญิงใหญ่ จะมีร่างกายที่แข็งแกร่งเพียงใด ถึงสามารถทำลายสถิติได้.”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด