Chapter 212 หลังจากเก็บประสบการณ์ ก็ยกระดับกันถ้วนหน้า.
ศิษย์กว่าห้าสิบคนที่เข้าไปในหอคอยเก็บประสบการณ์ การท้าทายประสบความสำเร็จกว่า 30 คน และคนที่สามารถทนได้นานที่สุดก็คือเซียวจุ้ยจื่อและมีการบันทึกเกียรติยศเป็นเวลาห้าชั่วโมง.
เรื่องนี้เป็นเรื่องปรกติมาก.
นับตั้งแต่เข้าสำนักมา เซียวจุ้ยจื่อได้ก้าวไปบนเส้นทางพัฒนากายเนื้อ ชั้นแรกเป็นชั้นเก็บประสบการณ์ยกระดับกายเนื้อ ย่อมไม่มีใครเหนือกว่าเขาอยู่แล้ว.
ส่วนชั้นที่สองนั้น แม้นว่ามีศิษย์ไม่น้อยสำเร็จชั้นหนึ่งแต่ก็ไม่มีใครก้าวขึ้นไป เพราะว่าหลังจากแข็งขืนอยู่ในพื้นที่แรงโน้มถ่วงสิบเท่า ก็แทบจะทำให้พวกเขาหมดแรงไปแล้ว.
หอคอยเก็บประสบการชั้นแรกนั้นเป็นการกลั่นร่างกาย ซึ่งเป็นการเปลี่ยนจิตวิญญาณออกไป เมื่อจิตวิญญาณคืนกลับร่างนั้นจะทำให้กระตุ้นกายเนื้อไปด้วย ทำให้ยกระดับร่างกายไปในทันที.
นอกจากนี้ ความเจ็บปวดที่กักเก็บไว้ จะถูกนำกลับมาด้วย คืนสู่กายเนื้อ ทำให้ประสบการณ์ทั้งหมดทั้งความเจ็บปวดก็คืนกลับมาผสมกัน.
ทำไมถึงได้ต้องแยกร่างจิตวิญญาณออกไป แทนที่จะใช้ร่างจริงออกไปกลั่นร่างกาย?
เพราะว่าร่างกายของศิษย์ทุกคนไม่ได้แข็งแกร่ง หากว่าร่างจริงเข้าไปในแรงโน้มถ่วงสิบเท่า อาจจะมีคนที่ตายในการฝึกฝนครั้งนี้ได้.
การสร้างประสบการณ์ให้กับเหล่าศิษย์นั้น เพื่อให้พวกเขาตระหนักได้ถึงอันตรายความเสี่ยงที่จะตกตายได้.
การใช้ร่างจิตวิญญาณออกไปหาประสบการณ์ ถึงแม้นว่าจะล้มเหลว ก็สามารถที่จะลุกขึ้นสู้ใหม่ในวันถัดมาได้.
นี่คือหอคอยเก็บประสบการณ์.
เป้าหมายหลักคือการยกระดับความสามารถ และหลีกเลี่ยงการตกตายของศิษย์ไปด้วย.
“ฟู่!”
ที่ด้านนอกหอคอย หลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆ ที่นอนหายใจหอบ ๆ รู้สึกหมดแรงร่างกายแทบไม่มีความรู้สึก.
แรงโน้มถ่วงสิบเท่า เป็นความรู้สึกหนักหน่วงกรอบไปทั่วร่างยิ่งกว่าห้องปั้นกล้ามเนื้อ.
ศิษย์ที่ท้าทายล้มเหลวถูกส่งออกมา ตอนนี้ยังคงนอนตาค้าง ร่างกายกระตุกเป็นระยะ.
การท้าทายหอคอยเก็บประสบการณ์ล้มเหลว แม้นว่าจะไม่ได้ตาย ทว่าการลงโทษก็รุนแรงแทบไม่ต่างกับตาย.
ผลกระทบนี้จะคงอยู่ตลอดทั้งวัน.
......
เช้าวันถัดมา.
จุนซ่างเซียวที่ลุกขึ้นมาจากเตียง ร่างกายที่เหนื่อยล้าก่อนหน้านี้หายไปแล้ว ตอนนี้รู้สึกร่างกายเปี่ยมล้นด้วยพลัง.
เขากระโดดโลดเต้นไปมา “สดชื่นอะไรปานนี้.”
ขณะที่เขาเดินทางมาถึงห้องฝึกฝน ก็ลองพลังที่เครื่องทดสอบความแข็งแกร่ง ปรากฏพลัง 90,000 จิน.
จุนซ่างเซียวที่กล่าวกับตัวเอง “เพิ่มขึ้นมากกว่าหนึ่งร้อยจินจากเมื่อวาน.”
ด้วยพลังบ่มเพาะของเขาการเข้าห้องปั้นกล้ามเนื้อทั้งวัน ความแข็งแกร่งแทบไม่เพิ่มขึ้นเลย.
การเข้าหอคอยเก็บประสบการณ์เพียงหนึ่งชั่วโมง เพิ่มขึ้นหนึ่งร้อยจิน เห็นชัดเจนว่ามันพัฒนาขึ้น.
ระบบเอ่ย “ความแข็งแกร่งของโฮสน์เพิ่มขึ้น เพราะร่างกายแข็งแกร่งขึ้น การเข้าฝึกฝนในหอคอยเก็บประสบการณ์ ถือว่าได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “หอคอยเก็บประสบการก็ไม่เลว คะแนนสนับสนุนที่ใช้ไป ถือว่าคุ้มค่า.”
ก่อนหน้านี้เขาที่กล่าวปลอบใจตัวเอง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนี้รู้สึกคุ้มค่าจริง ๆ.
ในเวลานี้กลุ่มของหลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆ ย่อมยกระดับความแข็งแกร่งของตัวเองขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน!
“ว่ะ ฮ่า ฮ่าฮ่า!”
ลี่ซ่างเทียนที่หัวเราะออกมาเสียงดัง กระโดดโลดเต้นไปมาบนลานยุทธ์ “ข้ารู้สึกว่าตัวเองได้ขึ้นสวรรค์มาแล้ว!”
เหล่าศิษย์ที่เข้าหอประสบการณ์เมื่อวานนี้ หลังจากได้ทดสอบความแข็งแกร่ง เห็นความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก.
หอคอยเก็บประสบการณ์ ร้ายกาจเป็นอย่างมาก!
“ไป ไปหาประสบการณ์กัน!”
ศิษย์หลายคนที่รับรู้ถึงผลประโยชน์ และลืมความเจ็บปวดที่ได้รับมา เดินทางไปยังหลังเขาทันที.
โดยเฉพาะซูเซียวโม่ เถียนซีและลี่เฟย ที่เมื่อวานเจ็บช้ำแทบร้องไห้ บอกว่าจะไม่เข้าไปอีกแล้ว วันนี้กลับมาถึงหน้าประตูก่อนใคร.
ตอนนี้ต่อให้ลำบากแค่ใหน ก็จะเข้าไป.
อย่างไรก็ตาม.
เมื่อพวกเขามาถึงหลังเขา ก็พบว่าที่ชั้นหนึ่งของหอคอยเก็บประสบการณ์ มีคนเข้าไปด้านในเรียบร้อยแล้ว!
ใคร?
หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อและเย่ซิงเฉินนั่นเอง.
หลังจากที่สามคนตื่นขึ้นมา ไม่ได้ไปทดสอบพลังด้วยซ้ำ ทว่ารับรู้ว่าร่างกายแข็งแกร่งขึ้น ก็เดินทางมายังหอคอยเก็บประสบการณ์แทบจะในทันที.
“ไป เข้าไปด้านใน!”
“กึก ซี่.”
หอคอยเก็บประสบการณ์ที่เปิดออก ซูเซียวโม่ที่เข้าไปอย่างไม่ลังเล ร่างจิตวิญญาณที่ถูกส่งเข้าไปในชั้นหนึ่งทันที.
เถียนซี่และลี่เฟยตามเข้าไปด้วย.
“ซูเซียวโม่ท้าทายหอคอยเก็บประสบการณ์ชั้นที่หนึ่ง!”
“เถียนซี่ ท้าทาย......”
“ลี่เฟย ท้าทาย......”
ร่างจิตวิญญาณของทั้งสามที่ยืนอยู่ในชั้นหนึ่งแล้ว เสียงที่เก่าแก่เคร่งขรึมก็ดังออกมา แรงโน้มถ่วงสิบเท่าที่บีบทับลงมา ยังร่างจิตวิญญาณของพวกเขาทันที.
ซุยปู่เจี้ยน ลี่ซ่างเทียนและอีกหลายคนที่ตามมาด้วย.
เพียงเวลาไม่นาน ชั้นที่หนึ่งก็มีศิษย์รวมตัวกันอยู่กว่า 70 คน.
มีหลาย ๆ คนที่เพิ่งเคยเข้ามา กับแรงโน้มถ่วงสิบเท่า ใบหน้าที่บิดเบี้ยวไปในทันที.
“ปัง!”
หลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาที ศิษย์สองคนก็ถูกส่งออกไป.
พวกเขาคือศิษย์ใหม่ที่เพิ่งรับเข้ามา ไม่แม้แต่ปรับร่างกายกับห้องปั้นกล้ามเนื้อด้วยซ้ำ กับมาหาประสบการณ์กับหอคอยเก็บประสบการณ์แล้ว แน่นอนย่อมล้มเหลวแทบจะในทันที.
จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่บนโขดศิลา กล่าวเสียงเบา “เพียงไม่กี่นาทีก็ล้มเหลว จากนั้นก็จะอ่อนแอทั้งวัน ไม่เท่ากับเสียเวลาเปล่าหรอกรึ?”
ระบบเอ่ย “ดังนั้น โฮสน์จะเป็นต้องมีการควบคุมเกณฑ์การเข้าหอคอยเก็บประสบการณ์.”
“อืม.”
จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิด.
จากนั้นซุยปู่เจี้ยน ลี่ซ่างเทียนและอีกหลายคน ที่ล้มเหลว ดูเหมือนว่าเขาจะต้องสั่งคนเหล่านี้เข้าฝึกฝนห้องปั้นกล้ามเนื้อเป็นเวลาสองเดือนก่อน ถึงจะมีคุณสมบัติเข้าหอคอยเก็บประสบการณ์.
......
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง.
ภายในหอคอยเก็บประสบการยังเหลือคนหกสิบคนที่สามารถผ่านไปได้.
อย่างไรก็ตาม ศิษย์ที่ท้าทายล้มเหลวเมื่อวาน ดูเหมือนว่าจะอยู่ได้นานกว่าครั้งแรก.
กล่าวได้ว่า พัฒนาเป็นอย่างมาก!
ส่วนกลุ่มของหลี่ชิงหยาง สามารถทนได้หนึ่งชั่วโมงอย่างไม่มีปัญหา.
ทว่าถึงแม้นว่าจะผ่านการทดสอบแล้วพวกเขาก็ยังไม่ออกไป ยังต้องการที่จะอดทนกลั่นร่างกายให้ไปถึงขีดสุด ดังนั้นจึงต้องการอยู่ในแรงโน้มถ่วงสิบเท่าให้ได้นานที่สุด.
ซูเซียวโม่และเถียนซี ตลอดจนศิษย์อีกหลายคน ต่างก็ต้องการอดทนไปจนถึงขีดสุด พวกเขาหวังว่าจะอดทนได้นานที่สุด เท่าที่จะทำได้.
ในเวลานี้ศิษย์ทุกคนที่อดทน ไม่สนใจความสำเร็จแล้ว แต่ต้องการที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ แม้แต่ท้าทายสถิติของเซียวจุ้ยจื่อที่ทำได้ก่อนหน้านี้.
หอคอยเก็บเกี่ยวประสบการนั้นมีฟังก์ชันในการบันทึกสถิติ บันทึกการพัฒนาและสถิตให้แต่ละคนด้วย.
ซูเซียวโม่และศิษย์คนอื่น ๆที่มีร่างกายด้อยกว่าเซียวจุ้ยจื่อ ทว่าหลังจากอดทนได้สองชั่วโมงก็ต้องยอมแพ้ไปในที่สุด.
ในชั้นแรกสุดท้ายก็ยังเหลือหลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อและเย่ซิงเฉิงสามคนเหมือนเดิม.
“ไม่แพ้ จะต้องทนให้ได้!”
เย่ซิงเฉินที่กำหมัดแน่น ใบหน้าที่มีเส้นโลหิตโป่งขึ้นมา.
เขาที่เคยเป็นราชันย์ยุทธ์ ย่อมไม่ต้องการที่จะด้อยกว่าใคร!
น่าเสียดาย ท้ายที่สุดก็เกินขีดจำกัด ไม่สามารถที่จะทนได้ เขาและหลี่ชิงหยางก็เหมือนว่าจะพ่ายแพ้ออกไปเกือบพร้อม ๆ กัน.
ดูเหมือนว่าจะอดทนได้มากกว่าเมื่อวานนี้ สิบนาที.
“ฟู่! ฟู่!”
หลี่ชิงหยางและเย่ซิงเฉินที่ก้าวออกมา นอนราบไปบนพื้น ร่างกายแทบจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้.
ส่วนเซียวจุ้ยจื่อยังคงอดทนได้ และห้าชั่วโมงก็ผ่านไป เท่ากับเวลาที่เขาทำได้เมื่อวานนี้.
ยังไม่ได้จบแค่นั้น เขายังคงทำสถิติใหม่!
ทว่าหลังจากแข็งขืนอดทน สุดท้ายแล้วก็มากกว่าเดิมเพียงสิบนาที ก็ออกมาในที่สุด.
“แปลก.”
หลังจากที่เซียวจุ้ยจื่อออกมา จุนซ่างเซียวที่กล่าวด้วยความสงสัย “จุ้ยจื่อทำเวลาได้มากกว่าเมื่อวาน ทำไมถึงไม่ปรากฏสถิติใหม่ขึ้นกัน?”
ระบบเอ่ย ”สถิติใหม่นั้นจะต้องทำได้อย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงถึงจะได้รับการยอมรับ.
“เป็นเช่นนี้นะเอง.”
จุนซ่างเซียวที่เข้าใจได้ในทันที หากต้องการสร้างสถิติใหม่ จะต้องทนให้ได้หกชั่วโมง.
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า สถิติที่เซียวจุ้ยจื่อทำไว้นั้น ถึงจะเป็นเขา ก็ไม่ง่ายที่จะทำสำเร็จ.