Chapter 206 การเข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้ง คือการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิต.
รองเจ้าหอเหยี่ยวดำที่ไล่ตามมา เพื่อปล้นชิงสิ่งของทั้งหมดที่ได้จากหุบเขาแห่งความตาย ขวางสำนักไท่กู่เจิ้งเอาไว้.
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แสนธรรมดา เคยเกิดขึ้นมากกว่าสองครั้ง และยังเคยทำกำไรให้กับพวกเขามากมาย.
แน่นอน.
ว่าพวกเขามีการเลือกเป้าหมายอย่างเคร่งครัด ว่ามีใครน่าปล้นและใครไม่ควรยั่วยุ.
ยกตัวอย่าง ผู้นำฉินที่นำศิษย์มาหาประสบการณ์ แม้นว่าพวกเขาจะรับรู้แต่ก็แสร้งทำเป็นไม่เห็น.
เป้าหมายของพวกเขาย่อมเลือกคนที่อ่อนด้อยกว่า อย่างน้อยต้องเป็นสำนักที่มีวรรณะต่ำกว่าพวกเขานั่นเอง.
น่าเสียดาย.
รองหอเหยี่ยวดำ ในครั้งนี้คงคาดไม่ถึง ว่าตัวเองและศิษย์กว่าหกสิบคน จะถูกสำนักระดับแปดทำลายไปอย่างสมบูรณ์.
หากเปลี่ยนเป็นสำนักธรรมมะอื่นย่อมทำให้พวกเขาได้กำไรมากมาย เป็นความโชคร้ายที่พวกเขาพบเข้ากับสำนักไท่กู่เจิ้ง มีเพียงที่เดียวที่รอพวกเขาอยู่ก็คือ นรก ไงล่ะ!
เจ้าสำนักจุนนั้นไม่ใช่คนที่ชอบหาเรื่องคนอื่นก่อน.
อย่างไรก็ตาม หากว่ามีใครมาหาเรื่องเขาแล้วล่ะก็ เขาก็พร้อมจะตอบกลับไปหลายเท่าในทันที.
นี่คือความอหังการ ดุร้ายเหี้ยมหาญ.
“ค้น.”จุนซ่างเซียวโบกมือ.
ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งที่เริ่มค้นร่างฝ่ายตรงข้าม ซึ่งได้แหวนเก็บของขนาดเล็กกลับมา 60 อันทันที.
แหวนเก็บของเหล่านี้ ถือว่าเป็นหนึ่งในทรัพยากรเช่นกัน แม้นว่าจะมีสิ่งของด้านในไม่มากนัก.
แต่ก็เป็นประโยชน์กับสำนักไท่กู่เจิ้ง.
เพราะว่าสำนักไท่กู่เจิ้งไม่จำเป็นต้องซื้อแหวนเก็บของ สามารถมอบมันให้ศิษย์ เหมือนกับที่ยึดมาจากเหล่ามือสังหารก่อนหน้านี้เช่นกัน.
“เจ้าสำนัก.”
หลี่ชิงหยางที่เก็บของทั้งหมดเอ่ยกล่าวออกมาว่า “มีตั๋วเงินทั้งหมด 30,000 เหรียญ และยังมีเม็ดยาระดับต่ำอีกนิดหน่อย.”
“ยากจนจริง ๆ.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
หากรองเจ้าหอได้ยินคำพูดเหล่านี้ คงต้องคำรามโต้เถียง “มารดาแกเถอะ หากรวย ทำไมต้องนำคนมาปล้นพวกแกด้วย!”
“เจ้าสำนัก ศพเหล่านี้ล่ะ?”
“นำมากองรวมกัน แล้วเผา.”
“ครับ.”
“ฟู่ ฟู่!”
เพลิงที่ร้อนแรง ศพทั้งหมดค่อย ๆ กลายเป็นเถ้าถ่าน.
เพราะว่ามีศพมากมายมายกองรวมกัน ทำให้กลิ่นโลหิตกระจายไปทั่ว จุนซ่างเซียวไม่มีอารมณ์จะพักต่อ จึงได้นำศิษย์จากไป.
ระหว่างทาง.
ซ่งฮุยแลพวกที่ครุ่นคิด นี่สำนักไท่กู่เจิ้งเป็นสำนักมารอย่างงั้นรึ?
จะบอกว่าเป็นสำนักมารเลยก็ไม่ถูกนัก.
คนเหล่านี้ก่อนหน้าคงปล้นชิงเหล่าผู้ฝึกตนไร้สังกัดมาก่อนแล้ว.
กล่าวในทางที่ดี.
สังหารคนของหอเหยี่ยวดำเป็นการผดุงยุติธรรม.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอีกฝ่ายที่ต้องการสังหารพวกเขาทั้งหมดอยู่แล้ว!
ทั้งสามที่รู้สึกไม่ชัดแจ้งนัก.
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสำนักไท่กู่เจิ้งจะเป็นสำนักมารหรือไม่ พวกเขาก็ตัดสินใจเข้าร่วมแล้ว!
......
เช้าวันถัดมา.
หลังจากเดินทางมาด้วยความรวดเร็ว พวกเขาก็มาถึงสำนักไท่กู่เจิ้งก่อนค่ำ.
เพียงแค่เข้ามา เหล่าศิษย์สำนักที่เข้าก็เข้ามาล้อมกรอบ เพื่อสอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับการออกไปหาประสบการณ์.
แม้นว่าพวกเขาจะไม่ได้ตามไป หากแต่ก็ส่งใจตามไปด้วย.
พวกเขาที่หยุดการฝึกฝน มานั่งพูดคุยกับเจ้าสำนักและศิษย์พี่เกี่ยวกับการไล่ล่าสัตว์ร้าย.
ภาพที่เห็นดูอบอุ่นเป็นอย่างมาก.
“แค๊ก แค๊ก.”
ซูเซียวโม่ที่ยืนอยู่ตรงกลาง พร้อมกับกล่าวโม้น้ำลายแตกฟอง “เรื่องนี้เป็นการผจญภัยที่ยาวนาน ฟังข้าให้ดี.”
ศิษย์ทุกคนที่นั่งฟังอย่างจริงจัง ดวงตาเป็นประกาย.
จุนซ่างเซียวที่นำซ่งฮุยเข้าไปในห้องโถงหลัง พร้อมกับทำการลงทะเบียนประทับตราสำนัก.
“ติ๊ง! สมาชิกสำนัก: 503 / 1000.”
“ติ๊ง คะแนนสนับสนุนสำนัก: 703 / 1000.”
ผู้ฝึกต้นไร้สังกันที่ตามซ่งฮุยมา คนหนึ่งชื่อหยิวเซียว และจินหลาง.
ทั้งสองและซ่งฮุยนั้นเหมือน ๆกัน พวกเขามีอายุมากกว่า 30 ปีแล้ว มีพลังบ่มเพาะอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่หนึ่ง.
จุนซ่างเซียวกล่าวพลางถอนหายใจ .“พวกเจ้าไม่มีคนคอยสนับสนุนมอบทรัพยากรให้ แต่กลับตัดผ่านระดับไปยังอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่หนึ่งได้ นับว่ามีความอดทนทรหดจริง ๆ.”
กลุ่มของซ่งฮุยกล่าวอย่างขม ๆ “เจ้าสำนัก ถึงพวกเราจะสำเร็จมาจนถึงวันนี้ แต่ก็ยืนอยู่บนปากเหวแห่งความตายพร้อมจะร่วงหล่นตกตายไปได้ทุกเมื่อ.”
คำพูดเหล่านี้สำหรับผู้ฝึกตนไร้สังกัดเต็มไปด้วยความเศร้า.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ดังนั้นนับจากวันนี้ ขอเพียงเจ้าทำเพื่อสำนัก สร้างชื่อเสียงให้สำนัก ทรัพยากรทุกอย่างเปิ่นจั้วจะเป็นคนมอบให้เอง.”
ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งส่วนมากเต็มไปด้วยผู้เยาว์ที่มากด้วยความฝัน มีพลังความทะเยอทะยานที่เหลือล้น ทว่ายังขาดความสุขุม.
การรับศิษย์ที่มากประสบการณ์ เคยผ่านความเป็นความตายมา ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น.
“เจ้าสำนักโปรดวางใจ.”
ทั้งสามที่กล่าวเป็นเสียงเดียวกัน “พวกเราจะทำทุกอย่างเพื่อสำนัก ถึงจะปีนภูเขาดาบ บุกน้ำลุยไฟก็จะไม่บ่น!”
จุนซ่างเซียวก็เชื่อมั่นในพวกเขา.
คนเหล่านี้ที่ติดตามพวกเขาในหุบเขาแห่งความตาย เต็มไปด้วยความกล้าหาญไม่หวาดกลัวในความตาย.
นอกจากนี้ คนเหล่านี้ยังตามพวกเขาจนกลับมาถึงที่นี่ เรื่องความซื่อสัตย์ย่อมไม่มีปัญหา.
“นี่เม็ดยาพิเศษ พวกเจ้ารับไปสิ.”
จุนซ่างเซียวส่งเม็ดยาบูรณะร่างกายสามเม็ดให้กับพวกเขา.
สำนักไท่กู่เจิ้งไม่ได้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ไม่ได้มีทรัพยากรมากมาย ทว่าหากเป็นเม็ดยาที่เขาปรุงเอง ก็มีอยู่เหลือเฟือ.
“เจ้าสำนัก นี่คือ....”ซ่งฮุยเอ่ย.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “นี่คือเม็ดยาช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกาย กินแล้วจะรู้เอง.”
“ทราบแล้ว.”
ซ่งฮุยที่กลืนเม็ดยาลงไปในทันที.
หยิวเซียวและจินหลางที่กินเม็ดยาลงไปเช่นกัน.
ในเวลานี้ ถึงเจ้าสำนักจะมอบยาพิษให้กับพวกเขา พวกเขาก็จะไม่ลังเลที่จะกินเช่นกัน.
เม็ดยาที่เข้าไปในปาก พลังงานบริสุทธ์มากมายที่แผ่ไปทั่วชีพจรและกล้ามเนื้อ ทำให้ทั้งสามที่รู้สึกร้อนขึ้นกระจายไปทั่วร่าง.
หลังจากที่กินเข้าไปแล้ว เมื่อพลังงานไหลพล่านไม่หยุดหย่อน กล้ามเนื้อและอวัยวะทั้งหมดก็ถูกยกระดับขึ้น แววตาของพวกเขาที่เต็มไปด้วยความตื่นตะลึง.
“โอ้วสวรรค์......”
ซ่งฮุยที่ตื่นตกใจเป็นอย่างมาก “พลังของข้าเพิ่มขึ้นมากมาย!”
มากขนาดใหน.
เพิ่มขึ้นราว ๆ 10,000 จิน.
หยิวเซียวและจินหลางเองก็รู้สึกเหมือนกัน.
ทั้งสามที่มีพรสวรรค์ทั่วไป ไม่เคยได้รับสมบัติสวรรค์ในการฝึกฝน.
ระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่หนึ่ง ความแข็งแกร่งอยู่ราว ๆ 25,000 จิน นี่คือพลังขั้นต่ำของผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไป.
หลังจากที่กินเม็ดยาบูรณะร่างกายแล้ว ความแข็งแกร่งของกายเนื้อก็เพิ่มขึ้น เพิ่มเป็น 35,000 ทันที สามารถเทียบได้กับคนมีรากวิญญาณระดับกลาง.
เหล่าอาจารย์ยุทธ์ระดับสูงขั้นแรกจะมีพลังราว ๆ 45,000 จิน.
และคนที่มีพรสวรรค์ขั้นสุดยอดจะมีพลัง 55,000 จิน.
โอ้วสวรรค์!
นี่พวกเขากำลังกินเม็ดยาเซียนเข้าไปอย่างงั้นรึ?!
กลุ่มของซ่งฮุยที่ยืนนิ่งตะลึงงัน จุนซ่างเซียวที่มอบตำรายุทธ์คมวิญญาณและหมัดระเบิดให้กับพวกเขาและเอ่ยออกไปว่า “ชิงหยาง เตรียมห้อง ชุดสำนักและกฎของสำนักให้กับพวกเขาด้วย.”
“ครับ.”
หลี่ชิงหยางที่นำพวกเขาเข้าไปในลานด้านใน พร้อมกับจัดแจงที่พักให้.
ห้องของพวกเขานั้นมีขนาดใหญ่และหรูหรามาก ทำให้แววตาของพวกเขาเบิกกว้าง สร้างความตกใจเป็นอย่างมาก.
พื้นที่รอบ ๆ ตึกรามบ้านช่องที่น่าตื่นตะลึงพอแล้ว ลานด้านในหรูหรายิ่งกว่าที่พวกเขาคาดไว้อีก หากมีคนบอกว่าเป็นสำนักระดับหก พวกเขาทั้งสามก็ไม่สงสัยเลย!
“พี่ฮุย.”
ทั้งสามที่นั่งอยู่ในห้องเดียวกัน หยิวเซียวกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น “สำนักไท่กู่เจิ้งร้ายกาจมาก!”
จุนหลางที่ตื่นตะลึงไม่แพ้กัน “เม็ดยา เพิ่มความแข็งแกร่งตั้งมากมาย นี่ข้าไม่ได้ฝันไป อ๊าก!”
ซ่งฮุยที่กล่าวเสียงสั่น ”พวกเราเข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้ง เป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมที่สุด.
และตำรายุทธ์คมวิญญาณและหมัดระเบิดที่พวกเขาได้รับมา กล่าวได้ว่าหนึ่งวิชาในนั้นเป็นวิชาพลังวิญญาณ ซึ่งกล่าวได้ว่านี่คือวิชาที่เป็นเหมือนสมบัติประเมินค่าไม่ได้!
เทียบกับแหวนมิติที่เขามอบให้กับเจ้าสำนัก มีค่าไม่ถึงหนึ่งหมื่นเหรียญเงินด้วยซ้ำ.
โทษที ไม่สามารถเทียบกันได้ หากมีทางเลือกอีกครั้ง ถึงจะต้องใช้เงินหลายแสนเหรียญเขาก็ไม่ลังเลเลย ขอเพียงได้เข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้ง.
เขาที่คิดถึงเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ไร้สังกัดที่จากไปก่อนหน้านี้ พวกเจ้าช่างโง่งมจริง ๆ!