ตอนที่แล้วChapter 204 กฎของโถงเหยี่ยวดำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 206 การเข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้ง คือการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิต.

Chapter 205 สังหารให้หมด.


เมื่อรองเจ้าหอกล่าวว่าแส่หาความตาย เหล่าศิษย์หอเหยี่ยวดำก็เข้าล้อมกรอบ ปิดทางทุกจุดเอาไว้.

พวกเขาที่จ้องมองไปยังหลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆ ที่ส่วนมากอยู่ในระดับศิษย์ยุทธ์ต่างก็เผยสีหน้าเหยียดหยันออกมา.

พวกเขาที่จ้องมองว่ากำลังล้อมรอบ ลูกไก่ในกำมือ อยากสังหารเมื่อไหร่ก็ได้.

หลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆ ที่ทิ้งไม้ย่างเนื้อลงพื้น ปากที่เคี้ยวเนื้อและกลืนมันลงคอ ส่ายหน้าไปมาราวกับรู้สึกช่วยไม่ได้.

แม้แต่การไปหาประสบการณ์ในหุบเขาแห่งความตาย พวกเขาก็ไม่เคยรู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย.

ลำพัง.

คนเหล่านี้ถึงจะมีมากกว่า 60 คน แต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมานั้น เฉลี่ยแล้วมีระดับศิษย์ยุทธ์ในระดับสองระดับสาม จำนวนน้อยกว่าหมาป่าเพลิงชาติด้วยซ้ำ.

รองเจ้าหอเอ่ยกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล “เจ้าสำนักจุน เจ้ามีศิษย์เหลือเพียง 20 คนไม่เห็นใจคนที่เหลืออยู่อย่างงั้นรึ?”

“เห็นใจอย่างงั้นรึ?”

จุนซ่างเซียวเอ่ยด้วยความสงสัย “หมายความว่าอย่างไร?”

รองเจ้าหอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าหมายความว่า เจ้าพาศิษย์มากมายไปตายในหุบเขาแห่งความตาย พวกที่โชคดีหนีรอดมาได้ เจ้ายังต้องการให้พวกเขาตกตายไปทั้งหมดไม่เหลือเลยงั้นรึ?.”

จุนซ่างเซียวที่เข้าใจในที่สุด.

อีกฝ่ายคงคิดว่าเขานำศิษย์มามากมายไปหาประสบการณ์ด้านในหุบเขาแห่งความตาย และที่เหลือตอนนี้คือผู้รอดชีวิต.

ไม่ผิด.

นั่นเป็นเรื่องปรกติทั่วไป.

รองเจ้าหอดูเหมือนว่าจะรีบเร่งไล่ตามพวกเขามา คงถามเพียงระดับสำนัก โดยไม่ได้ถามว่าเข้าไปในหุบเขาแห่งความตายกี่คน.

สำนักระดับแปดที่เข้าไปในหุบเขาแห่งความตาย อย่างน้อยก็ต้องนำศิษย์มาร้อยคนเป็นอย่างต่ำ เพื่อร่วมมือสังหารสัตว์ร้าย.

ยกตัวอย่างพวกเขาเอง

นำศิษย์มามากกว่าหกสิบคน หลังจากเข้าไปแล้ว คงมีชีวิตเหลือเพียงครึ่งก็นับว่าโชคดีแล้ว.

ส่วนอีกฝ่าย.

สำนักไท่กู่เจิ้งคงนำศิษย์มา มากว่า 100 คน เหลือชีวิตรอด 20-30 คน นี่คือคนที่โชคดีรอดชีวิตออกมาได้.

นี่คือสิ่งที่รองเจ้าหอเหยี่ยวดำคาดเดาเอาไว้ในใจ.

หากพวกเขารู้ว่าศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งแท้จริงแล้วเข้าไปเพียง 25 คน ออกมา 25 คน ต้องตื่นตะลึงแน่.

“มีปัญหาอะไร?”

จุนซ่างเซียวสีจมูก กล่าวออกไปว่า “จากที่ได้ฟังความหมายของเจ้า ต้องการสังหารศิษย์เปิ่นจั้วอย่างงั้นรึ?”

รองเจ้าหอที่เผยยิ้มอย่างมืดครึ้ม “หากว่าเจ้าสำนักจุนร่วมมือเป็นอย่างดี ยอมมอบทุกอย่างที่ได้มา แน่นอนพวกเราจะปล่อยให้กลับบ้านอย่างปลอดภัย.”

“นี่เจ้าข่มขู่เปิ่นจั้วอย่างงั้นรึ?”จุนซ่างเซียวกล่าวด้วยท่าทางจริงจัง.

รองเจ้าหอเอ่ย “เป็นเช่นนั้น.”

สำนักมารที่กระทำการอย่างเปิดเผย การกระทำทุกอย่างตามใจตัวเอง ไม่จำเป็นต้องปิดบังความต้องการใด ๆ.

“ไม่ได้ยินรึ?.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “หอเหยี่ยวดำต้องการสังหารพวกเจ้า.”

“พรึด ฮ่าฮ่าอ่า.”

ซูเซียวโม่ที่หัวเราะเสียงดัง “เจ้าสำนัก คนพวกนี้เทียบไม่ได้กับสัตว์ร้ายด้านในหุบเขาแห่งความตาย จะเอาอะไรมาสังหารพวกเรากัน.”

“ใช่ ใช่.”

ลี่เฟยที่หัวเราะออกมาเช่นกัน “เทียบไม่ได้แม้แต่สัตว์ร้าย แต่กับวางกล้ามใหญ่โต.”

เทียบไม่ได้แม้แต่กับสัตว์ร้าย กับคำพูดดูแคลนเช่นนั้น รองเจ้าหอที่ใบหน้ากลายเป็นมืดครึ้ง จิตสังหารที่ปะทุออกมา.

“รองเจ้าหอ.”

ศิษย์ของหอเหยี่ยวดำกล่าวด้วยเสียงเย็นชา “ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งโอหังนัก รีบ ๆ สังหารพวกมันเถอะ.”

รองเจ้าหอที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล “เจ้าสำนักจุน ในเมื่อพูดด้วยดี ๆ ไม่ยอมทำตาม ก็คงต้องใช้กำลังบังคับ อย่าตำหนิข้าที่หยาบคาย.”

“กึก ซ่า กึก ซ่า!”

เหล่าศิษย์หอเหยี่ยวดำที่กำหมัดแน่น ก้าวเดินออกมา และนำอาวุธออกจากแหวนมิติ.

จิตสังหารของแต่ละคนที่แผ่ออกมาข่มขู่.

“เจ้าสำนักจุน.”

รองเจ้าหอที่ดวงตาหรี่เล็ก กล่าวด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้ามอบสมบัติออกมา รองเจ้าหอเช่นข้า ยังอภัยไว้ชีวิตศิษย์ของเจ้า.”

“โอ้ว น่ากลัวจริง ๆ.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

“ชิ!”

รองเจ้าหอที่โบกมือ แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา “ฆ่าให้หมด.”

“พรึดซี่-”

ริ้วแสงกระบี่ที่เป็นประกายขึ้นมา โลหิตที่พุ่งกระฉูด.

รองเจ้าหอที่ตกใจ.

ศิษย์ของเขาที่ถูกสังหารไปอย่างรวดเร็ว.

สายตาของเขาที่เหลือกค้างจองมองออกไป ที่คอปรากฏรอยกระบี่.

เป็นเย่ซิงเฉินที่ลงมือก่อนเพื่อน.

เขาที่สะบัดโลหิตออกจากกระบี่ กล่าวออกมาเล็กน้อย “ขยะ.”

“ศิษย์น้อง!”

“ศิษย์พี่!”

ในเวลานั้น ศิษย์หอเหยี่ยวดำที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวในทันที พวกเขาที่แผ่พุ่งพลังลงไปในอาวุธ จ้องมอง พุ่งสังหารศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งทันที!

“เคร้ง!”

“เคร้ง!”

หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อและศิษย์คนอื่น ๆ ชักกระบี่ พร้อมกับโจมตีกลับออกไปในทันที.

ซ่งหุยและพวกอีกสองคนเองก็นำอาวุธออกมา.

พวกเขาเวลานี้คือศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งแล้ว ถึงจะยังไม่เป็นทางการก็ตาม แน่นอนว่าไม่มีทางจะนิ่งดูดายได้.

หากนับเพียงจำนวน หอเหยี่ยวดำเหนือกว่าแน่นอน.

อย่างไรก็ตาม ต่อหน้าศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง ไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเขาเลย!

“พรึดซี่!”

“พรึดซี่!”

ริ้วกระบี่ที่ถูกปล่อยออกไป โลหิตต้องสาดกระจาย.

แววตาของรองเจ้าหอที่เบิกกว้างมากขึ้นมากขึ้น แววตาส่ายไปมา.

เพียงไม่กี่ลมหายใจ ศิษย์ของเขาหกสิบคน ถูกสังหารไปกว่า 20 คนแล้ว.

นอกจากนี้ศิษย์ของเขายังไม่อาจทำอะไรอีกฝ่ายได้เลยแม้แต่คนเดียว.

สำนักระดับแปด ทำไมถึงได้แข็งแกร่งเพียงนี้!

ภาพหลอน?

รองเจ้าหอเหอที่ดวงตาส่ายไปมาอย่างรวดเร็ว.

อย่างไรก็ตาม ยิ่งเวลาผ่านไปศิษย์ของเขาก็ยิ่งตายไปคนแล้วคนเล่า.

ศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้งไล่ล่าสังหารพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง จุนซ่างเซียวไม่สนใจลงมือแม้แต่น้อย ศิษย์หอเหยี่ยวดำถึงจะมากกว่า 60 คน เพียงแค่ศิษย์ของเขาก็เกินพอ.

เป็นความจริง.

ด้อยกว่าหมาป่าเพลิงชาด....

ไม่ ต้องบอกว่าด้อยกว่าหมาป่าเพลิงปฐพีด้วยซ้ำ.

“น่ารังเกียจ!”

รองเจ้าหอเหอที่ดวงตาแดงซ่าน พลังบ่มเพาะระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลายระเบิดออกมา เขาที่พุ่งเข้าหาโจมตีจุนซ่างเซียวทันที.

“ฟู่!”

หมัดของอีกฝ่ายที่ต่อยออกมา พลังที่ปล่อยออกไปนั้นน่าจะมีอย่างน้อย 60,000 จิน.

อย่างไรก็ตาม หมัดที่ต่อยมานั้น จุนซ่างเซียวที่ยกมือข้างหนึ่งรับสบาย ๆ.

พลังที่เหนือกว่ากุมหมัดของเขาเอาไว้!

“เจ้า......”

รองเจ้าหอเหอที่จ้องมองตะลึงงัน.

หมัดของเขานั้นไม่มีผลอะไรกับฝ่ามือของอีกฝ่ายที่ยกขึ้นมารับเลย!

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ไม่ต้องรีบร้อน ดูไปก่อน.”

ไม่ต้องรีบร้อน ดูไปก่อน ดูศิษย์ของเขาถูกสังหารนี้นะ!

รองเจ้าหอเหอที่ตอนนี้พยายามดึงหมัดออกมา ทว่าไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็ไม่เขยื้อนแม้แต่น้อย.

“พรึด ซี่!”

“พรึด ซี่!”

ศิษย์หอเหยี่ยวดำที่ถูกสังหารคนแล้วคนเล่า.

โดยเฉพาะเย่ซิงเฉิน ที่สังหารไปมากกว่าสิบคนเพียงคน เดียว นอกจากนี้ยังไม่หยุดแค่นั้นอีกด้วย.

กับกลุ่มคนที่มีระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นสองขั้นสาม พวกเขาที่ทำลายฝูงหมาป่าเพลิงชาดมาแล้ว มีรึที่คนเหล่านี้จะเทียบได้.

น่าสงสาร.

คนของหอเหยี่ยวดำที่ไม่รู้ว่าสำนักไท่กู่เจิ้งนั้นร้ายกาจขนาดใหน.

ในเวลานี้เริ่มมีบางคนตระหนักได้แล้ว พวกเขาที่ขวัญหนีดีฝ่อ เร่งรีบหนีทันที.

นับเป็นคนที่ฉลาด.

อย่างไรก็ตาม จุนซ่างเซียวก็สั่งการออกมาอีกครั้ง “สังหารให้หมด.”

สิ้นเสียงของเจ้าสำนัก ว่า“สังหารทั้งหมด” ทุกคนที่กลายเป็นจริงจังทันที.

“ฟิ้ว!”

“ฟิ้ว!”

หลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆ ปลดปล่อยปราณกระบี่โจมตีศิษย์หอเหยี่ยวดำที่หนีไปมากกว่า 20 คนให้ตกตายไปในทันที.

เพียงไม่นานด้วยซ้ำ.

ศิษย์สำนักมารกว่า 60 คน ตายทั้งหมด.

เวลานี้เหลือเพียงรองเจ้าหอที่กำลังสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว.

เขานำศิษย์มาหาประสบการณ์ที่หุบเขาแห่งความตาย เขาคิดไว้แต่แรกว่าคงมีศิษย์ที่เหลือรอดเพียงครึ่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ได้เข้าไป ...ศิษย์เขากลับตายหมดเกลี้ยง!

ในเวลานี้ รองเจ้าหอเหอก็ตระหนักได้ สำนักไท่กู่เจิ้งไม่ได้อ่อนแอ เขาได้เตะเข้ากับแผ่นเหล็กหนาเข้าให้แล้ว!

“เฮ้.”

จุนซ่างเซียวเผยยิ้ม “ศิษย์ของเจ้าตายหมดแล้ว.”

รอยยิ้มอ่อนที่ราวกับไม่มีพิษภัยอะไร ทว่าในสายตาของรองเจ้าหอเวลานี้ ราวกับรอยยิ้มของปิศาจ เป็นรอยยิ้มของอสุรกายจากนรกที่ยิ้มให้กับเขา.

“จุน...เจ้าสำนักจุน...”เขาที่เร่งรีบกล่าวออกมา “ข้าว่าพวกเราคงกำลังเข้าใจผิดกันอยู่!”

“ฟิ้ว!”

จุนซ่างเซียวที่นำอินทรีย์ทะเลทรายออกมา ยื่นไปยังศีรษะของเขา แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา “จำเอาไว้ว่า หากมีโอกาสได้เกิดใหม่ ดูตาม้าตาเรือด้วย อย่ามาหาเรื่องสำนักไท่กู่เจิ้งของข้าอีก.”

“ปัง!”

กระสุนที่พุ่งออกไปด้วยความเร็ว.

“พรึด โครม!”

รองเจ้าหอเหยี่ยวดำที่ทรุดลงกับพื้น แววตาค่อย ๆไร้ประกาย.

ใช่แล้ว.

เขาได้เตะเข้ากับแผ่นเหล็กเข้าให้แล้ว.

ไม่ใช่แค่แผ่นเหล็กเท่านั้น อีกฝ่ายยังเด็ดขาด ดุร้ายไม่ต่างจากสำนักมารเลยด้วยซ้ำ.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด