ตอนที่แล้วChapter 19 ระฆังทองคุ้มกาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 21 ข้าไม่ใช่หมาโสด ข้าเองก็ต้องการแจกอาหารหมา

Chapter 20 ทำไมต้องใช้ดาบหรือหอก?


บนเวทีชำระแค้นอันศักดิ์สิทธิ์ เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ต่างก็หวั่นเกรงที่จะก้าวขึ้นไป แต่กระนั้นจุนซ่างเซียว ไม่เพียงแต่ขึ้นไป ยังเคาะขี้มูกอย่างไม่ยี่หร่า เวลานี้ยังหวีผมอีก ราวกับขึ้นไปเล่นสนุก ทำลายความสำนึกคิดของพวกเขาไปอย่างสิ้นเชิง!

“อ๊าก ๆ!”

เหว่ยอี้หนูที่คำรามเสียงดังสนั่นอีกครั้ง.

เพราะกระบวนท่าที่ทรงพลังต้องใช้เวลาในการรวบรวมพลัง อีกฝั่งที่ยืนนิ่งนำหวีออกมาหวีผมอย่างไม่สนใจเขาเลย!

นี่หมายความว่าอย่างไร?

หมายความว่า ไม่ให้ราคาแม้แต่เหยียดหยันตัวเอง!

ทนไม่ได้ ไม่สามารถทนได้อีกแล้ว!

“ซูมม!”

เหว่ยอี้หนูที่ถอยหลังหนึ่งก้าว บนหมัดทั้งสองข้าง มีพลังก้อนใหญ่รวมกันอยู่ ใบหน้าของเขาโกรธเกรี้ยวบิดเบี้ยวขั้นสุด ตะโกนออกมาเสียงดัง “ตาย!”

“ซูม ซูม!”

หมัดทั้งสองข้างดังกึกก้อง กลิ่นอายที่หนาวเย็นระเบิดแผ่ออกไปรอบ ๆ ทันที!

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ใกล้เวทีชำระแค้นถึงกับใบหน้าเปลี่ยนสี เร่งรีบถอยห่างออกมาอีกหลายก้าว ด้วยหวั่นเกรงที่จะได้รับผลจากคลื่นพลัง.

“น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว!”

“พลังหมัดนี้ต้องไม่น้อยกว่า 2500 จินแน่นอน!”

“แม้แต่สัตว์ร้ายระดับศิษย์ยุทธ์ก็ไม่มีทางทนได้แน่ อ๊าก ๆ!”

ร่างกายของพวกเขาถึงกับขนลุกตั้งชูชัน!

อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาจ้องมองไปยังทิศทางของจุนซ่างเซียว กับพบว่าอีกฝ่ายก็ยังคงหวีผม จัดทรงอย่างไม่สนใจเลย.

อาวุโสเหว่ยกำลังจะฆ่าเชสอยู่แล้ว สมองของเขากำลังมีปัญหาอยู่รึอย่างไร?

ใจเย็นเกินไปแล้ว!

“วูซซซซ!”

ในเวลาเดียวกัน ทันใดนั้นจุนซ่างเซียวก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้น เพื่อรับหมัดที่กำลังพุ่งมาด้านหน้า.

ทุกคนต่างรำพึง เจ้าสำนักจุนเริ่มลงมือแล้วรึ?

“ตูมมม!”

“ตูมมม!”

เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวกระจายไปทั่ว หลาย ๆ คนถึงกับหูดับ.

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่ผมโบกสะบัดไปตามคลื่นอากาศระเบิดกวาดม้วนออกมา สายตาของพวกเขา เบิกกว้างแทบหลุดจากเบ้า.

บนเวที จุนซ่างเซียวยืนอยู่กับที่ มือทั้งสองข้างยกขึ้นรับหมัดของเหว่ยอี้หนู ใบหน้าที่เผยยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเจ้าเล่ห์.

“ไม่!”

“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?”

“ทักษะยุทธ์ ระฆังทองคุ้มกาย คือทักษะระดับสามัญชั้นสูงอย่างงั้นรึ?!”

ทุกคนที่ตื่นตะลึงไปตาม ๆ กัน.

เหว่ยอี้หนูตกใจอย่างหนัก ไม่อยากเชื่อ “เป็น...เป็นไปไม่ได้......”

ด้วยหมัดศิลาทองเจิดจรัสเปล่งประกายรุ่งโรจน์ที่เขาใช้ สามารถใช้ได้ออกมาเต็มประสิทธิภาพ และเป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขามี คาดไม่ถึงเลยว่าจะไม่สามารถทำอะไรอีกฝั่งได้!

ในเวลานี้ หัวใจของอาวุโสเหว่ยแทบแตกสลาย.

“เฮ้.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ยังมีวิชาอื่นอีกหรือไม่?.”

“ฮือ ฮือ!”

เหว่ยอี้หนูที่หายใจเข้าออกอย่างหนัก แรงขึ้นและก็แรงขึ้น ใบหน้าบิดเบี้ยวซีดเซียว.

“อาวุโสเหว่ยแย่แล้ว!”

“ด้วยวิชายุทธ์ระดับสูงนั้น แม้นว่าจะทรงพลัง ทว่าก็ผลาญพลังวิญญาณมากมายมหาศาลเช่นกัน!”

“หมัดที่ทรงพลังขนาดนั้นย่อมใช้พลังวิญญาณไปเกือบหมด ตอนนี้เพียงจะยกหมัดขึ้นก็เกรงว่าจะไม่มีแรงเหลืออยู่อีกแล้ว.”

......

“หมดแรงอย่างงั้นรึ?”

อาวุโสเหว่ยที่ถอยหลังออกไปอีกสองสามก้าว ก่อนที่จะก้มหน้าอีกครั้ง พร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”

หัวเราะอย่างงั้นรึ?

ทุกคนต่างก็ตื่นตะลึง.

“ไอ้หนู!”

อาวุโสเหว่ยที่เงยหน้าขึ้นช้า ๆ มือของเขาที่ยกขึ้น กล่าวด้วยเสียงมืดครึ้ม “เจ้าคิดว่าบิดาจะมีเพียงแค่ทักษะยุทธ์อย่างงั้นรึ?”

“ฟิ้ว ฟิ้ว!”

ดาบยักษ์ที่ผุดออกมาจากอากาศในทันที.

ชัดเจนว่า เป็นการเรียกอาวุธออกมาจากแหวนมิติ.

“ปัง!”

ดาบยักษ์ปักลงบนพื้น เวทีศิลาสั่นไปมาเล็กน้อย.

“ดาบนี้หนักมาก!”

“ดูนั่นเร็วเข้า ที่ใบดาบมีอักขระสลักอยู่”หลอมขึ้นโดยปรมาจารย์นักหลอม ฟ่าน!”

ทุกคนที่อุทานกันเสียงดังอื้ออึง.

ปรมาจารย์ฟ่าน ในทวีปชิงหยุนคือสุดยอดปรมาจารย์หลอมอาวุธชั้นนำ!

ตลอดชีวิตเขาได้สร้างอาวุธออกมานับไม่ถ้วน แต่ละชิ้นต่างก็อยู่ในมือของสุดยอดฝีมือทั่วแผ่นดิน.

“วิ้ง!”

เสียงของใบดาบที่สั่นไปมากรีดอากาศ เหว่ยอี้หนูยกดาบขึ้นช้า ๆ ก่อนที่เขาจะเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ “ดาบเล่มนี้เหว่ยโหมวใช้เงินมหาศาลเพื่อซื้อมันมา ตลอดชีวิตนี้เก็บมันเอาไว้อย่างดี วันนี้เป็นครั้งแรกที่เผยให้คนอื่นได้เห็น.”

จุนซ่างเซียวที่จ้องมองไปยังดาบ กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “บนใบดาบมีรอยบิ่น ดูเหมือนว่าจะเป็นอาวุธที่มีตำหนิ.”

เหว่ยอี้หนูคำรามออกมาด้วยความโกรธ “นี่คืออาวุธของปรมาจารย์ฟ่าน ถึงแม้นว่าจะมีข้อบกพร่องเล็กน้อย ก็ยังเป็นของล้ำค่าเกินจะเปรียบ หาญกล้ามาจากใหนที่เอ่ยว่าเป็นอาวุธมีตำหนิ!”

จุนซ่างเซียวถึงกับหมดคำพูด.

เขาพูดความจริง มีอะไรต้องโกรธด้วยกัน.

เขาไม่เข้าใจเลย ในทวีปชิงหยุน อาวุธสำคัญต่อผู้ฝึกยุทธ์ โดยเฉพาะ อาวุธของปรมาจารย์ฟ่านที่ล้ำค่ามากขนาดแม้แต่ไม่สามารถเอ่ยถึงข้อบกพร่องได้อย่างงั้นรึ?!

“เจ้าหนู.”

เหว่ยอี้หนูที่จ้องมองด้วยแววตาเย็นชา “วันนี้ข้าจะเอาโลหิตของเจ้า มาเซ่นสังเวยดาบยักษ์มังกรทองของข้า!”

“โอ้ว.”

จุนซ่างเซียวที่ยกมือเคาะขี้มูกอีกครั้ง.

เหว่ยอี้หนูที่โกรธเกรี้ยวตัวสั่น กำดาบยักษ์มังกรทองแน่น คำรามเสียงต่ำ “ทนไม่ได้ ทนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว......”

“ฟู่ ฟู่!”

พลังวิญญาณที่แผ่ออกไปรอบ ๆ อากาศ ดาบยักษ์มังกรทองที่คล้ายกับถูกกระตุ้น ระเบิดกลิ่นอายที่ดุร้ายออกมาทันที.

“อาวุโสเหว่ยกำลังจะลงมือแล้ว.

“ดาบนั่นน่าจะเป็นอาวุธระดับสามัญ เมื่อผสานพลังวิญญาณเข้าไปแล้ว สามารถสังหารได้แม้แต่ระดับศิษย์ยุทธ์อย่างง่ายดาย!”

“เจ้าสำนักจุนอันตรายแล้ว!”

......

“วูซซซ!”

เหว่ยอี้หนูที่ยกดาบชี้ไปยังจุนซ่างเซียว กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นำอาวุธของเจ้าออกมา!”

ตามธรรมเนียมการประลองบนเวทีชำระแค้น เมื่ออีกฝ่ายใช้อาวุธอีกฝ่ายก็ต้องใช้อาวุธด้วยเช่นกัน หากอีกฝ่ายใช้อาวุธเพียงฝ่ายเดียวทำร้ายอีกฝ่าย ก็จะทำให้ชาวยุทธ์ด้วยกันดูถูกดูเป็นอย่างมาก.

“เพียงแค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ควรแก้ไขปัญหากันด้วยหมัดก็เพียงพอแล้ว ทำไมต้องใช้อาวุธที่ไม่มีตา แก้ปัญหาด้วยล่ะ.”

“......”

มุมปากของทุกคนที่กระตุก.

เจ้าสำนักจุน ไม่ใช่เพราะว่า หมัดแก้ปัญหาไม่ได้ ถึงต้องใช้อาวุธไม่ใช่รึไง!

“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว!”

เหว่ยอี้หนูที่คำรามเสียงดัง “นำอาวุธของเจ้าออกมาได้แล้ว หรือรอรับความตายจากข้า!”

ความโกรธเกรี้ยวของเขานั้น ไม่สามารถบรรเทาได้อีกแล้ว หากไม่ได้สังหารเจ้าสำนักไท่กู่เจิ้ง ไม่มีทางที่ความโกรธในใจจะเบาลงได้!”

“ก็ดี.” จุนซ่างเซียวที่ยกมือขึ้น.

“เคร้ง.”

ลู่เชียนเชียนที่ชักกระบี่ออกมาจากฝัก.

จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา และกล่าวออกมาว่า “ข้ามีกระบี่.”

มีกระบี่?

ลู่เชียนเชียนถึงกับตะลึงงัน.

“ฟิ้ว!”

ในฝ่ายมือของจุนซ่างเซียว ปรากฏกระบี่เล่มหนึ่งขึ้นมา.

บนฝักดาบนั้นมีไข่มุกสองลูก ที่ส่องประกายแสงวับวาว แผ่แสงสีน้ำเงินเจิดจรัสออกมา.

ลู่เชียนเชียนที่เอ่ยกล่าวด้วยท่าทางจริงจัง “กระบี่นี้ไม่ธรรมดา!”

“วิ้งง”

เหว่ยอี้หนูกล่าวหยัน “กระบี่ใช้สังหารศัตรู ฝักกระบี่ที่ประดับประดาด้วยไข่มุกล้ำค่า ไร้ค่าไม่มีประโยชน์.”

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์รอบ ๆ ต่างก็เห็นด้วย.

กระบี่ที่แหลมคมนั้น ไม่จำเป็นต้องมีการตกแต่งที่ฟุ่มเฟือย มันไม่ได้มีประโยชน์อันใดในการต่อสู้.

“ชักกระบี่ของเจ้าออกมา ดาบของบิดารอไม่ไหวแล้ว!”

มือทั้งสองข้างของเหว่ยอี้หนูที่กุมด้ามดาบยักษ์แน่น พลังวิญญาณที่แผ่พุ่งเข้าไปในตัวดาบ ทันใดนั้นกลิ่นอายอันดุร้ายก็ระเบิดออกมา!

“วิชาดาบทะเลทราย!”

เสียงคำรามที่ดุร้ายเย็นชาพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่ปูดโปนด้วยเส้นโลหิต ดาบยักษ์มังกรทองที่ถูกยกสูง ก่อนจะฟันไปยังทิศทางของจุนซ่างเซียวในทันที!

เหล่าชาวยุทธ์ที่อ้าปากหวอ เพราะว่าสายตาของพวกเขากำลังจับจ้องมองปราณดาบที่ใหญ่ยักษ์กว่าสองเมตร มันได้ระเบิดกรีดพื้นเวทีเป็นทางพุ่งออกไป!

“แก๊ก แก๊ก แก๊ก!”

พื้นเวทีที่แตกเป็นทางกลายเป็นร่องลึก!

“แฮกๆ!”

ทุกคนที่สูดหายใจ เย็นเยือบเข้าไป.

อาวุโสเหว่ยไม่เพียงแต่ใช้ดาบของปรมาจารย์ฟ่าน เขายังมีทักษะดาบที่พิเศษอีกด้วย พลังโจมตีที่เขามีเวลานี้เกรงว่าสามารถสังหารระดับศิษย์ยุทธ์โดยตรงเลย!

วินาทีต่อมา.

สายตาของทุกคนก็จดจ้องมองไปยังจุนซ่างเซียว.

ปราณดาบที่ทรงพลัง เขาจะรับมือได้อย่างไร? ใช้เพียงแค่วิชาระฆังท้องคุ้มกายอย่างงั้นรึ?

“เคร้ง!”

จุนซ่างเซียวที่กุมไปที่ด้ามกระบี่ พร้อมกับชักกระบี่ออกมาด้วยความเร็ว.

“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”

เพลงกระบี่คลื่นซ้อนเก้ากระบวน กระบวนท่าที่หนึ่ง กระบี่ท่าที่สอง กระบี่ท่าที่สาม.....พริบตาเดียวก็ปรากฏกระบวนท่าที่แปดซ้อนทับเป็นคลื่นรวมเป็นกระบวนท่าที่เก้าพุ่งออกไปเป็นคลื่นกระบี่!

“ซูมม ฟู่!”

แปดคลื่นที่ซ้อนทับกัน กลายเป็นปราณกระบี่ที่แหลมคมพุ่งบินออกไปด้วยความเร็ว.

เป็นกระบวนท่าที่รวดเร็วมาก เคลื่อนไหวในพริบตาเดียวปราณกระบี่ก็เหินออกไปแล้ว!

ปราณกระบี่ที่ควบแน่นปรากฏขึ้น เข้าปะทะกับปราณดาบที่พุ่งมาในทันที!

“ตูมมมมมมมม!”

ปราณดาบถูกตัดขาดระเบิดแตกเป็นเสี่ยง ๆ!

ปราณกระบี่ยังไม่ได้หยุดแค่นั้น ยังคงพุ่งเข้าหาเหว่ยอี้หนูด้วยความเร็ว!

“นี่มัน......”

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ต่างก็อ้าปากตะลึงงัน.

“ไม่ได้การแล้ว!”

เหว่ยอี้หนูที่ตื่นตะลึง ดาบยักษ์มังกรทองที่ยกขึ้นขวางบังหน้าตัวเองเอาไว้.

“ปัง!”

ปราณกระบี่ที่คมกริบ เข้าปะทะดาบได้ยินเสียงของโลหะที่สั่นดัง.

“กึก แก๊ก ๆๆ!”

ดาบยักษ์มังกรทองระดับสามัญของปรมาจารย์ฟ่าน แตกหักดังก้อง ต่อหน้าทุกคนที่จับจ้อง.

ชิ้นส่วนของดาบที่ลอยกระเด็นออกไป เหว่ยอี้หนูที่ยืนงงเป็นไก่ไม้.

ปราณกระบี่อันทรงพลังยังไม่หยุด ตัดผ่านไหล่ของเขาไป ใบดาบที่กระเด็นออกไป ก่อนที่จะล่วงหล่น ตกห่างออกไปกว่าสามเมตร มือข้างขวาหากไม่เพราะจับด้ามดาบไว้แน่นคงจะลอยระลิ่วออกจากร่างกายไปด้วยเช่นกัน ทว่าเวลานี้ โลหิตกับพุ่งกระฉูดออกมาเป็นสายชโลมเวที.

“อ๊าก!!!”

เสียงเจ็บปวดทรมานบนเวทีชำระแค้นดังขึ้น......

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด