Chapter 14 ดินแดนกระบี่!
เมื่อบดยันต์รู้แจ้ง จุนซ่างเซียว จับจ้องมองกระบวนท่าเพลงกระบี่ ภายในใจของเขารู้สึกตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก นี่คือเคล็ดวิชากระบี่ที่แปลกประหลาดยากจะเข้าใจ แต่เขากับเข้าใจได้ในทันที!
เป็นอะไรที่เหลือเชื่อเกินจริงเป็นอย่างมาก.
ราวกับว่ามีผนึกที่บันทึกเอาไว้ในตำรายุทธ์ มันได้กลายเป็นลำแสงพวยพุ่งพร้อมกับผสานเข้ามาในทะเลจิตสำนึกของเขา จากนั้นก็ค่อย ๆ หมุนวนโคจรอยู่ในนั้น.
“วูซซซ!”
จุนซ่างเซียวที่รู้แจ้งกระบวนท่าที่หนึ่ง กระบวนท่าที่สอง ผนึกที่ถูกปล่อยพลัง ไหล่ผ่านเข้ามาในจิตสำนึกไม่หยุด เป็นกระบวนท่าที่สาม กระบวนท่าที่สี่และกระบวนท่าที่ห้า......
ในเวลานี้เพียงแค่กวาดตามองกระบวนท่าราวกับว่าสายตาของเขาสามารถดูดกลืนความเข้าใจให้ไหลเข้ามายังทะเลจิตสำนึกได้ เวลานี้เหล่าผู้ฝึกยุทธ์รอบ ๆ ต่างก็กำลังจดจ้องมองด้วยแววตาประหลาดใจ.
เคล็ดวิชากระบี่นั้น มีสัจจะคาถาและกระบวนท่าบันทึกเอาไว้ การจะจำให้ได้ทั้งสองจำเป็นต้องจดจำทั้งกระบวนท่าและสัจจะคาถาให้ได้ อย่างแม่นยำ และอาจกล่าวได้ว่าเพียงแค่กระบวนท่าอย่างเดียวก็ลำบากแล้ว หากต้องท่องจำสัจจะคาถาเพิ่ม ยิ่งยากเข้าไปอีกมาก!
เพราะว่าเพลงกระบี่ปรกติแล้วยากจะเข้าใจ จึงมีคนเป็นจำนวนมากเลือกยอมแพ้ไปก่อน.
“วิ้ง!”
ในเวลานี้ในทะเลจิตสำนึกของจุนซ่างเซียวมีกระบวนท่าที่เสร็จสมบูรณ์ทั้งเก้าของวิชาคลื่นซ้อนเก้ากระบวนกำลังโคจรหมุนวนอยู่.
“เชียนเชียน.”
เขาที่ปิดตำรากระบี่ลง และกล่าวออกมาว่า “กระบี่.”
“เคร้ง!”
กระบี่ถูกชักออกจากฝัก ก่อนจะถูกส่งมาให้.
จุนซ่างเซียวรับกระบี่จากลู่เชียนเชียน ขณะสะบัดข้อมืออย่างนุ่มนวล.
“วิ้ง!”
กระบี่ยาวสามฉื่อ(0.33 m) กำลังสั่นไปมากรีดอากาศ เกิดเป็นคลื่นที่มองไม่เห็น ห้วงอากาศกำลังบิดเบี้ยวเป็นระลอกคลื่น.
กระแสอากาศที่สั่นไหวเป็นระลอก นี่คือกระบี่ท่าที่หนึ่งของเพลงกระบี่คลื่นซ้อนเก้ากระบวนนั่นเอง!
เป็นไปไม่ได้!
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่เฝ้าคอยดูเรื่องตลก เห็นคลื่นอากาศที่สั่นไหวเป็นระลอก ใบหน้าของพวกเขาถึงกับแข็งค้าง.
อาวุโสนิกายเขาชางซานเองก็จดจ้องมองด้วยท่าทางตื่นตกใจ.
เขาไม่ได้ตกใจที่เห็นคลื่นอากาศปรากฏขึ้น แต่ที่เขาตกใจ ก็คือ การรู้แจ้งในเพลงกระบี่ที่เพิ่งเห็นเป็นครั้งแรกต่างหาก มันจะเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร!
ใช่แล้ว.
เร็วเกินไปแล้ว.
จากการคำนวณคร่าว ๆ แล้วเพียงแค่หนึ่งนาทีเท่านั้น.
เพียงแค่หนึ่งนาที บางคนที่ไปห้องน้ำ ยังไม่ถอดกางเกงด้วยซ้ำ จุนซ่างเซียวก็รู้แจ้งในเพลงกระบี่แล้ว.
“เป็นไปไม่ได้!”
อาวุโสนิกายเขาชางซานที่ไม่อยากยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น.
เขาที่เป็นอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลาย การบ่มเพราะวิชาต่อสู้ระดับต่ำ แม้นว่าจะมั่นใจเก้าสิบเปอเซ็น แต่ก็ไม่สามารถทำได้เร็วขนาดนั้นได้!
เว้นแต่ว่า....เขาเคยฝึกวิชานี้มาก่อน!
“วิ้ง!”
จุนซ่างเซียวที่ก้าวไปด้านหน้าหนึ่งเก้า แขนของเขาที่รวมพลัง ก่อนจะเหวี่ยงกระบี่ออกไปอีกครั้ง.
“วูซซซ!”
คลื่นกระบวนท่าที่สองก็ปรากฏ มันกำลังเชื่อมต่อกับคลื่นอากาศลูกแรก เป็นอีกหนึ่งทบที่ซ้อนทับกันไป กระบวนท่าที่สองเขาสามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน!
ในเวลาเดียวกัน.
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์รอบ ๆ ถึงกับอ้าปากหวอ.
ล้อเล่นน่า!
เจ้าสำนักขยะ เพียงไม่กี่ลมหายใจ จะสามารถเข้าใจกระบวนท่าที่สองของเพลงกระบี่คลื่นซ้อนเก้ากระบวนได้อย่างไรกัน!
ใบหน้าของประมุขหลี่เผยสีหน้าไม่อยากเชื่อเช่นกัน.
เขาจำได้อย่างแม่นยำ เมื่อครั้งเขาฝึกฝน กว่าจะเข้าใจกระบวนท่าที่สองก็ต้องใช้เวลาถึงห้าวัน!
คน ๆ นี้ทำสำเร็จได้อย่างไร?
หืม? เป็นไปได้ว่าเขาเคยฝึกฝนเพลงกระบี่คลื่นซ้อนเก้ากระบวนมาก่อนรึ? หมายความว่าเขากำลังจงใจเล่นละครอยู่งั้นรึ?
ทุกคนรอบ ๆ เวลานี้ต่างก็คิดเหมือน ๆ กันกับอาวุโสนิกายเขาชางซาน.
สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไป การจะรู้แจ้งเพลงกระบี่คลื่นซ้อนเก้ากระบวน สองท่าในเวลาอันสั้น ไม่มีทางเป็นไปได้!
แต่สิ่งที่ทุกคนไม่รู้.
ด้วยยันต์รู้แจ้ง ทำให้จุนซ่างเซียวทำสำเร็จได้นั่นเอง.
“วูซซซ!”
เขาได้เหวี่ยงกระบี่อีกครั้ง คลื่นอากาศลูกที่สามกำลังควบรวมผสานกัน.
นี่คือรูปแบบกระบวนท่าที่สาม ที่เว้นระยะห่างกันจากคลื่นลูกแรกหนึ่งวินาทีนั่นเอง!
ในเวลาเดียวกันนี้.
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์จ้องเขม็ง แทบไม่สามารถกระพริบตาได้เลย เจ้าสำนักจุนสามารถใช้กระบวนท่าที่สามได้ เขาทำสำเร็จได้อย่างไร!
น่ากลัว น่ากลัวเกินไปแล้ว!
สายตาของหลี่ชิงหยางเป็นประกาย ลอบคิดในใจ “ความเร็วในการรู้แจ้งของเจ้าสำนัก เร็วกว่าข้าถึงสิบเท่า ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ธรรมดาจริง ๆ.”
ลู่เชียนเชียนที่ครุ่นคิดเช่นกัน “สามารถรู้แจ้งได้อย่างรวดเร็ว รากวิญญาณของเจ้าสำนักควรจะสูงกว่าศิษย์น้องรอง.”
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
คล้ายกับจมอยู่ในโลกตัวเอง คลื่นกระบี่อีกลูกและก็อีกลูก กำลังพุ่งออกไป คล้ายกับคลื่นในทะเล.
คลื่นอากาศ ที่เป็นระลอกซ้อนทับกัน ไปรวมกันที่จุดจุดหนึ่ง นี่คือต้นแบบของคลื่นซ้อนเก้ากระบวนที่ได้รับความนิยม.
“วิ้ง!”
จุนซ่างเซียวที่เหวี่ยงกระบี่ออกไปอีกครั้ง คลื่นกระบี่ที่เรียงกันเป็นกระบวน กำลังสั่นเป็นระลอกคลื่น.
กระบวนท่าที่เจ็ด จำเป็นต้องใช้เวลา 1 นาที 30 วินาทีในการรู้แจ้ง.
“ชิ.”
ประมุขหลี่แค่นเสียงเหยียดหยัน “เคยฝึกเพลงกระบี่คลื่นซ้อนเก้ากระบวนมาก่อนชัดเจน กับกล้าเอ่ยว่า ไม่เคยฝึก เป็นคนที่หน้าไม่อายจริง ๆ!”
ไม่ว่าจุนซ่างเซียวจะรู้แจ้งทั้งเจ็ดกระบวนท่าได้เร็วขนาดใหน แต่ก็ไม่มีทางที่จะจดจำสัจจะคาถาได้เร็วขนาดนั้น.
“ข้าก็ว่าอย่างงั้น!”
“เจ้าสำนักระดับเก้า จะเป็นไปได้อย่างไร จะสามารถรู้แจ้งเจ็ดกระบวนท่าได้เร็วขนาดนั้น ที่จริงเขาเคยฝึกมันมาก่อนนี่เอง!”
“มารดามันเถอะ ถึงกับกล้าหลอกลวงพวกเรา!”
“ต้องการแสดงว่าตัวเอง มีความสามารถอย่างงั้นรึ?!”
“ก็ดี มาดูกันว่า เจ้าคนสิบแปดมงกุฎจะอนุมานกระบวนท่าที่เก้าอย่างไร!”
ในเวลาเดียวกันนั้น กระบวนท่าที่แปด คลื่นกระบี่ก็ได้รวมตัวกันขึ้น เหล่าผู้ฝึกยุทธ์รอบ ๆ กำลังจ้องมองนิ่ง งัน สายตาเพ่งพิศจับจ้องมองไม่วางตา.
เจ้าสำนักระดับเก้า.
ฝีมือการแสดงชั้นหนึ่งจริง ๆ!
อาวุโสนิกายเขาชางซานเอ่ยออกมาเบา ๆ “ลองอนุมานกระบวนท่าที่เก้าดู หากเจ้าทำไม่ได้ ความจริงทั้งหมดก็จะเปิดเผยเอง.”
คำพูดดังล่าวนั้นเหมือนว่าทุกคนจะยอมรับด้วยเช่นกัน.
มาดูว่า เขาจะอนุมานกระบวนท่าที่เก้าได้อย่างไร?
ในเวลานี้เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ภายในลานรับสมัครสิทธิ์ มีจำนวนไม่น้อยที่ก้าวไปถึงกระบวนท่าที่แปด หากไม่สามารถอนุมานกระบวนท่าที่เก้าได้ พวกเขาก็ไม่มีทางยอมรับ.
ประมุขหลี่ที่เอามือขัดหลัง แค่นเสียงรอดูการแสดง.
“วิ้ง!”
หลังจากแสดงกระบวนท่าที่แปดสำเร็จแล้ว จุนซ่างเซียวก็เก็บกระบี่ยืนนิ่ง คล้ายกับว่าไร้ซึ่งความคิดเกี่ยวกับกระบวนท่าสุดท้าย.
“ไม่สามารถอนุมานได้อย่างงั้นรึ?”
เสียงเหยียดหยันของผู้คนที่ดังขึ้น.
จุนซ่างเซียวที่ไม่ได้ยินเสียงใด ๆ เพราะเวลานี้กำลังจมอยู่ในวิชากระบี่ เขาได้ก้าวเข้าสู่สภาวะลึกล้ำไปแล้ว.
ทีละน้อย ๆ.
รอบ ๆร่างของเขามีกลิ่นอายที่มองไม่เห็น กลิ่นอายที่แหลมคมกำลังแผ่ออกมา.
อาวุโสนิกายเขาชางซานถึงกับตะลึงงัน.
ใบหน้าของประมุขหลี่ที่เผยยิ้มหยัน ค้างเติ่งไปในทันที.
“นี่มัน......”หลี่ชิงหยางที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย พร้อมกับกล่าวออกมาอย่างจริงจัง “แดนกระบี่!”
“อะไร?!”
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่ได้ยินคำพูดดังกล่าว ถึงกับดวงตาเบิกกว้างกลมโตทันที.
แดนกระบี่ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า แดนเจตจำนงกระบี่.
ระดับของเหล่าผู้ฝึกยุทธ์หากสามารถตระหนักรู้ ดินแดนเจตจำนงกระบี่ได้ จะเพิ่มความสามารถขึ้นอีกระดับ.
“โอ้ว สวรรค์!”
“มันจะโชคดีเกินไปแล้ว โชคดีขี้หมา ก้าวเข้าสู่แดนกระบี่อย่างคาดไม่ถึง!”
“มีผู้ฝึกยุทธ์วิถีกระบี่มากมาย ตลอดชีวิต ก็ไม่สามารถเข้าสู่ดินแดนกระบี่ได้เลย! อ๊าก ๆ!”
ด้วยความตื่นตะลึงตกใจ จากนั้นเสียงของผู้ฝึกยุทธ์มากมายต่างก็พูดไปต่าง ๆ นา ๆเสียงดังอื้ออึ้ง.
อาวุโสนิกายเขาชางซาน เอ่ยกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม “เด็กคนนี้กำลังเข้าสู่แดนกระบี่ เป็นช่วงเวลาที่กำลังจริงจัง อย่าส่งเสียงรบกวนเขา!”
เสียงดังอื้ออึ้งของทุกคน ทันใดนั้นก็เงียบลงไปในทันที.
เขาที่หยุดทุกคน ไม่ให้ส่งเสียงรบกวน อาวุโสนิกายเขาชางซาน จะดีจะร้ายเขาก็ไม่ใช่คนพาลที่จะทำลายโอกาสของคนอื่น.
ที่เขาต้องหาเรื่องจุนซ่างเซียวนั้น แท้จริง เขาไม่หวังที่จะให้หลี่ชิงหยางก้าวเดินผิดทาง ใช้พรสวรรค์รากวิญญาณระดับสูงไปอย่างเปล่าประโยชน์.
เพราะว่าเสียงดุอันเคร่งขรึมของอาวุโสนิกายเขาชางซาน ทำให้เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหมดเงียบหุบปากลง ทุกคนเวลานี้ทำได้แค่จ้องมองด้วยความอิจฉาและรังเกียจ.
พวกเขาเวลานี้แทบไม่อยากยอมรับ.
ความยุติธรรมอยู่ที่ใหนกัน!
“วิ้ง!”
ในเวลาเดียวกัน ร่างกายของจุนซ่างเซียว เปล่งรัศมีแสงระยิบระยะ ที่มือขวาของเขาเห็นเป็นเงากระบี่ ขณะที่แขนขวาของเขาสะบัดออกไป กระบี่ยาวปรากฏขึ้นบนห้วงอากาศ.
“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
คลื่นกระบี่ตั้งแต่กระบวนท่าที่หนึ่งไปจนถึงกระบวนท่าที่แปด ส่งคลื่นซ้อนทับกัน พร้อมกับยกกระบี่มายาที่ปรากฏขึ้นกลางอากาศลอยสูงขึ้นไป.
“วี๊ง วี๊ง!”
คลื่นแปดคลื่นที่รวมเป็นจุดเดียวก่อนจะผสานกัน ทำให้กระบี่มายาบนอากาศส่องประกายแสง พุ่งออกไปยังทิศทางของศิลายักษ์ก้อนหนึ่งที่วางอยู่กลางลาน เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น.
“ตูมมมม”
เสียงดังสนั่นดังกึกก้อง ศิลายักษ์ที่มีน้ำหนักหลายพันจินแตกสลายกลายเป็นฝุ่นไปในทันที.
“แฮก!”
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์บนลานแห่งนี้ถึงกับสะดุ้ง สูดหายใจที่เย็นยะเยือบเข้าไป.