Chapter 13 ยันต์รู้แจ้งขั้นพื้นฐาน
การจะฝึกฝนยกระดับศิษย์ให้แข็งแกร่งขึ้นนั้น แม้นว่าตัวเองจะไม่แข็งแกร่ง ทว่าอย่างน้อยก็ต้องมีความรู้ประสบการณ์อย่างถ่องแท้ จึงจะสามารถชี้แนะยกระดับพลังฝึกตนของศิษย์ได้.
ไม่เพียงแต่กองกำลังต่าง ๆ แม้แต่ตระกูลใหญ่ ต่างก็มีครูฝึกยุทธ์ที่มากประสบการณ์คอยชี้แนะศิษย์.
นี่ถือว่าเป็นการคุกคามเจ้าสำนักไท่กู่เจิ้งอย่างชัดเจน ว่าเขาสามารถชี้แนะหลี่ชิงหยางให้ไปได้สูงแค่ใหน แม้แต่เป็นการล้อเลียนจุนซ่างเซียวด้วย ที่อีกฝ่ายเอ่ย ก่อนหน้านี้ว่า อนาคตของหลี่ชิงหยางไม่ต่ำเตี้ยแน่นอน.
นี่คือการฉีกหน้าการลวงหลอกของเขานั่นเอง.
หากจุนซ่างเซียวไร้สามารถการชี้แนะการฝึกยุทธ์ได้ แน่นอนว่าเขาจะใช้โอกาสนี้ แสดงความสามารถตบหน้าจุนซ่างเซียวทันที.
และหากอีกฝ่ายเงียบไม่ตอบ ประมุขหลี่ต้องโกรธเกรี้ยว แล้วใช้ข้ออ้างนี้ นำบุตรชายของเขาออกจากสำนักไท่กู่เจิ้งด้วยเช่นกัน.
นี่ถือว่าเป็นประสบการณ์มากเล่ห์เปี่ยมไปด้วยเชาว์ปัญญาอย่างแน่นอน.
คำพูดที่คล้ายกับปรารถนาดี กับซ่อนความชั่วร้ายเอาไว้ จงใจทำร้ายอีกฝ่ายอย่างเลือดเย็น.
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์รอบ ๆ จ้องมองด้วยแววตาดูถูกดูแคลน.
เจ้าสำนักขยะ พลังบ่มเพาะต่ำเตี้ย จะไปมีประสบการฝึกยุทธ์ได้อย่างไร!
จุนซ่างเซียว แค่นเสียง กล่าวออกมาว่า “เปิ่นจั้วไม่กล้าเอ่ยอ้างว่าเป็นสุดยอด และไม่ใช่คนที่กล่าวยกยอถือหางตัวเอง หากเป็นประสบการณ์วิถียุทธ์ล่ะก็ ไม่ได้ด้อยกว่าใครในที่นี่เป็นแน่.”
“ไอ้ขี้โม้ หน้าไม่อาย!”
“หากไม่เพราะภายในเมืองชิงหยางห้ามต่อสู้ล่ะก็ บิดาได้ต่อยปากมันไปแล้ว!”
“ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว!”
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์รอบ ๆ แทบทนฟังไม่ไหว กับผู้ฝึกยุทธ์ที่มีพลังฝึกตนกากไร้น้ำยา ไม่คิดเลยว่าจะกล้าทำตัวยอดเยี่ยม พูดอะไรไร้สาระออกมาไม่หยุด!
“ฮึ! ทำราวกับว่าตัวเองเป็นยอดฝีมือ!”
ในเวลานั้นประมุขหลี่เอ่ย ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เช่นนั้น หลี่โหมวคงต้องขอคำชี้แนะ จากประมุขจุน เกี่ยวกับวิถียุทธ์แล้ว!”
อาวุโสนิกายเขาชางซานเผยยิ้ม ไม่เอ่ยอะไรต่ออีก แผนการของเขาดูเหมือนว่าจะสำเร็จแล้ว ตอนนี้ให้ประมุขหลี่เป็นคนเอ่ยและดำเนินการแทน จะเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุด.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ประมุขหลี่ต้องการขอคำชี้แนะอะไรอย่างงั้นรึ?”
ในเวลาเดียวกันนั้น ใบหน้าท่าทางของจุนซ่างเซียวแม้จะสุขุม แต่ภายในใจกลับร้อนรน เปิดหน้าต่างร้านค้าระบบ ค้นหาสินค้าที่เกี่ยวกับวิถียุทธ.
เขาเพิ่งข้ามผ่านมายังโลกนี้ มีพลังบ่มเพราะเพียงขั้นห้า เปิดชีพจร จะไปมีประสบการฝึกยุทธ์ได้อย่างไรกัน!
ในเวลาเดียวกัน เจ้าสำนักจุน เองเวลานี้ทำได้แค่หวังพึงพาเพียงระบบ หวังว่าจะมีสินค้าอะไรที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์ในวิถียุทธ์ได้บ้าง.
ประมุขหลี่กล่าวอย่างนุ่มนวล “ในเมืองชิงหยางของข้านั้นมีวิชากระบี่สืบทอดต่อกันมานับร้อยปี มีชื่อว่า กระบี่คลื่นซ้อนเก้ากระบวน เป็นเพลงกระบี่ที่มีเก้ากระบวนท่า ทว่าที่จริงแล้วกับสามารถใช้ได้เพียงแปดท่า กระบวนท่าที่เก้านั้นจะต้องค้นหาอนุมานด้วยตัวเอง.”
“เจ้าสำนักจุน ในเมื่อเชี่ยวชาญมีประสบการณ์มากมาย ควรจะอนุมาน กระบวนท่าสุดท้ายได้ว่ามันเป็นเช่นไร?”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
“ประมุขหลี่ ช่างไร้เทียมทานจริง ๆ!”
เหล่าผู้ยุทธ์เมืองชิงหยางต่างก็เผยยิ้มยินดีในความโชคร้ายของคนอื่น.
เพลงกระบี่คลื่นซ้อนเก้ากระบวนนั้น เป็นเพลงกระบี่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ขอเพียงมีระดับเปิดชีพจรขั้นที่ห้า ก็สามารถซื้อมาฝึกฝน จากร้านขายตำรายุทธ์ทั่วไปได้.
ไม่ใช่เพลงกระบี่ที่หากยากอะไรนัก.
เพลงกระบี่นี้มีอยู่ด้วยกันเก้ากระบวนท่า ทว่ามีบันทึกเอาไว้ในตำราเพียงแปดกระบวนท่าเท่านั้น กระบวนท่าสุดท้ายนั้นจะต้องอนุมานและพัฒนามันขึ้นมาด้วยตัวเอง.
ตลอดหนึ่งร้อยปีมานี้ เพลงกระบี่คลื่นซ้อนเก้ากระบวน ผู้ฝึกยุทธ์เกือบล้านคนไม่มีใครสามารถอนุมานกระบวนท่าสุดท้ายได้เลยสักคน.
ตามข่าวลือ เมื่อนานมาแล้วเจ้าเมืองชิงหยางสามารถสำเร็จกระบวนท่าสุดท้ายได้! แต่เพราะไม่เคยมีใครเห็นมันจริง ๆ ดังนั้นทุกคนจึงไม่รู้ว่ากระบวนท่าที่เก้านั้นมีจริงหรือไม่?
“เพลงกระบี่คลื่นซ้อนเก้ากระบวนอย่างงั้นรึ?”
อาวุโสนิกายเขาชางซานที่ขมวดคิ้วไปมา เขารู้จักเพลงกระบี่ดังกล่าว ในอดีตนั้นเขาวางแผนที่จะอนุมานกระบวนท่าที่เก้าให้สำเร็จเช่นกัน ทว่าหลังจากเห็นระดับของมันที่เป็นเพียงวิชาระดับต่ำ ไม่คุ้มกับเวลา สุดท้ายจึงยอมแพ้ไป.
วิชายุทธ์และวิชาบ่มเพาะในทวีปชิงหยุนมีการแบ่งระดับที่เหมือน ๆ กัน เช่นเดียวกับระดับพรสวรรค์ แบ่งเป็น วิชาระดับต่ำ ระดับสามัญ ระดับกลาง ระดับสูง ระดับศักดิ์สิทธิ์และระดับเทวะ.
อาวุโสนิกายเขาชางซานนั้นมีพลังบ่มเพาะอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลายแล้ว ภายในนิกายมีวิชาที่สูงกว่าระดับสามัญมากมาย แน่นอนว่าเขาจึงหาได้สนใจจะฝึกฝนวิชาระดับต่ำให้สำเร็จได้นั่นเอง.
หากจะกล่าวล่ะก็.
หากมันเป็นวิชาระดับสูง แล้วจะเป็นวิชาที่ทุกคนทั่วบ้านทั่วเมืองชิงหยางนำมาฝึกได้อย่างไร.
“เจ้าสำนักจุน.”
อาวุโสนิกายเขาชางซานเผยยิ้ม “เพลงกระบี่คลื่นซ้อนเก้ากระบวน ตาเฒ่าเคยได้ยินมาเล็กน้อย หากเจ้าสามารถอนุมานกระบวนท่าที่เก้าได้ ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าเจ้าเป็นอัจฉริยะในวิถียุทธ์.”
ตาเฒ่าต้องการเทมันมันราดกองไฟ เพิ่มเข้ามาอีกแล้วนะ.
จุนซ่างเซียวกล่าวออกมาด้วยเสียงภาคภูมิ “เพลงกระบี่อันกระจิดริด มีอะไรยากกัน?”
ทุกคนต่างกล่าวหยัน.
ตลอดร้อยปีมานี้ มีคนเพียงน้อยนิดที่พอจะเข้าใจ การที่มีคนทำสำเร็จ นั่นคือเรื่องแปลก.
หลี่ชิงหยางที่คาดหวังเป็นอย่างมาก เขาเองก็ฝึกเพลงกระบี่คลื่นซ้อนเก้ากระบวนเช่นกัน เขาสามารถใช้ได้ถึงกระบวนท่าที่แปด แต่กระบวนท่าที่เก้านั้นไม่สามารถอนุมานออกมาได้เลย หากเจ้าสำนักทำสำเร็จ จะทำให้การตัดสินใจครั้งนี้ของเขาไม่ใช่การตัดสินใจที่ผิดพลาด.
ภายใต้สายตาที่จับจ้อง จุนซานเซียว ตรวจสอบร้านค้าซ้ำไปซ้ำมา สินค้าที่เกี่ยวกับเพลงกระบี่ ท้ายที่สุดก็ไม่พบอะไรเลย!
จบ จบสิ้นแล้ว.
ไม่มีสินค้าที่เขาต้องการ เขาที่แสดงท่าทางอหังการเช่นนั้นแล้วจะทำอย่างไรต่อล่ะ....! เพ่ย! เพ่ย! แล้วเขาจะอนุมานกระบวนท่าที่เก้าของเพลงกระบี่คลื่นซ้อนเก้ากระบวนได้อย่างไรกัน!
“หืม?”
ขณะหน้าอกบีบรัด หัวใจตัดไม่เป็นจังหวะอยู่นั้น ท้ายที่สุด สายตาของจุนซ่างเซียวก็ไปหยุดที่บรรทัดหนึ่งในร้านค้า สินค้า“ยันต์รู้แจ้ง” เขาเร่งรีบตรวจสอบดูรายระเอียดทันที.
หลังจากอ่านรายระเอียด รับรู้ถึงความสามารถ ก็พบว่ามันตรงกับสถานการณ์ตอนนี้ของเขาอย่างบังเอิญ.
“สินค้า : ยันต์รู้แจ้งระดับเบื้องต้น.”
“ผล :หลังเปิดใช้งาน จะสามารถรู้แจ้งทักษะยุทธ์ของฝ่ายตรงข้ามเพียงแค่มอง ตลอดจนสามารถเข้าใจทุกรูปแบบภายในตำรายุทธ์ได้ แม้แต่สามารถตระหนักรู้เข้าใจรู้แจ้งในวิชาดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว.”
“ระยะเวลาแสดงผล : 60 minutes.”
“ราคา : 10 แต้มสนับสนุน.”
“เข้าใจรู้แจ้งอย่างรวดเร็วงั้นรึ?”
จุนซ่างซานที่พ่นลมหายใจ เผยความตื่นเต้นดีใจขึ้นมา “ด้วยสิ่งนี้จะต้องช่วยข้าอนุมานกระบวนท่าที่เก้าสำเร็จแน่!”
“วิ้ง!”
เลือกยันต์รู้แจ้ง.
“ติ้ง!”
“โฮสน์ใช้ 10 คะแนนสนับสนุน ได้รับยันต์รู้แจ้ง 1 ใบ ถูกส่งไปยังแหวนเก็บของต่างมิติแล้ว.”
“ติ้ง!”
“แต้มสนับสนุนสำนัก: 10 / 100.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ประมุขหลี่ เพลงกระบี่คลื่นซ้อนเก้ากระบวนท่านั้นเปิ่นจั้ว ยังไม่เคยฝีกฝน ท่านคิดว่าข้าจะอนุมานกระบี่ท่าที่เก้าได้อย่างไร?”
“พรึด ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า นี่คือวิชากระบี่พื้นฐานที่มีกันเกร่อมีขายทุกที่ในเมืองชิงหยาง ดาดไม่ถึง เป็นถึงเจ้าสำนักกลับไม่เคยฝึก!”
“เพลงกระบี่คลื่นซ้อนเก้ากระบวน แม้นว่าจะเป็นวิชาระดับต่ำ ทว่าก็มีราคาหนึ่งร้อยเหรียญ กับยาจกอย่างเขาจะมีปัญญาจ่ายได้อย่างไรกัน.”
“มีเหตุผล เจ้าพูดมีเหตุผล!”
“เพลงกระบี่นี้จำเป็นต้องเข้าใจในกระบวนท่าทั้งหมดถึงจะอนุมาน กระบวนท่าที่เก้าได้ คนโง่อย่างเขาไม่รู้ก็ไม่ผิด.”
เสียงของผู้คนต่างก็พูดกันไปต่าง ๆ นานา.
ประมุขหลี่ถึงกับใบหน้าซีดไปในทันที.
ในเวลาเดียวกันนั้น เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกคนโง่กำลังปั่นหัวเขาอยู่.
ประมุขหลี่พยายามระงับความโกรธเอาไว้ พร้อมกับฝืนยิ้มออกมา.“พอดีเลย หลี่โหม่วได้นำตำราวิชากระบี่คลื่นซ้อนเก้ากระบวนมาพอดี เจ้าสำนักจุนสามารถศึกษาค้นคว้าตอนนี้ได้เลย.”
จากนั้นเขาก็นำตำราที่มีปกสีน้ำเงินออกมาจากแหวนมิติ.
“ขอบคุณ.”
จุนซ่างเซียวยื่นมือออกไปเพื่อจะหยิบขึ้นมาอ่าน.
ประมุขหลี่ได้เอ่ยขัด กล่าวออกมาว่า “แต่... หลี่โหมวขอเอ่ยกล่าวล่วงเกิน หากเจ้าสำนักจุนไม่สามารถอนุมานกระบวนท่าที่เก้าได้ ต้องไล่บุตรชายของข้าออกจากสำนักไท่กู่เจิ้งด้วย.”
ในเมื่อเขาไม่สามารถบังคับให้บุตรชายให้ลาออกได้.
ก็บังคับให้เจ้าสำนักไล่ออกไปก็เท่านั่นเอง.
ประมุขหลี่รู้ดี กับคนที่ไม่เคยฝึกเพลงกระบี่คลื่นซ้อนเก้ากระบวนมาก่อน การจะสำเร็จเก้ากระบวนท่า แทบเป็นไปไม่ได้เลย แม้แต่สำเร็จ 5-6 กระบวนท่าก็นับว่ายากเป็นอย่างมาก.
“ไม่มีปัญหา.”
จุนซ่างเซียวกล่าวตอบรับในทันที.
ประมุขหลี่ที่ยังไม่ค่อยวางใจได้เอ่ยกล่าวออกมาอีก “เจ้าสำนักจุน หวังว่าจะรักษาคำพูด.”
“วางใจได้.”
จุนซ่างเซียวกล่าว “เป้าหมายของสำนักไท่กู่เจิ้งคือ การรักษาคำพูด ไม่มีทางที่จะผิดคำพูดอย่างแน่นอน.”
เมื่อได้รับคำตอบที่พึงพอใจ ประมุขหลี่ก็ยื่นตำรากระบี่ออกไป.
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ข้าง ๆ ต่างก็สบถด่ากันเสียงดังระงม ไม่คิดเลยว่าคนผู้นี้จะหน้าไม่อายขนาดนี้.
“แล้วถ้า....”
จุนซ่างเซียวที่รับตำรากระบี่มา “หากเปิ่นจั้วสามารถรู้แจ้งในเพลงกระบี่กระบวนท่าที่เก้าล่ะ ประมุขหลี่จะว่าอย่างไร?”
ในร้อยปีมานี้ มีเพียงแค่เจ้าเมืองเท่านั้นที่มีข่าวลือว่าทำสำเร็จ นี่เขาคิดจริง ๆ รึว่าสามารถทำสำเร็จ?
ภายในใจของประมุขหลี่ แค่นเสียงเหยียดหยัน ทว่าใบหน้ากับเอ่ยกล่าวออกมาด้วยท่าทางจริงจัง “ประมุขจุน หากว่าสามารถอนุมานกระบวนท่าที่เก้าได้ บุตรข้าชิงหยางได้ฝึกฝนในสำนักไท่กู่เจิ้ง ถือเป็นโชควาสนาของเขาแล้ว.”
ได้ยินคำพูดดังกล่าว จุนซ่างเซียวก็รู้สึกวางใจ.
“ฟู่!”
เขาที่สูดหายใจลึก ก่อนจะเริ่มเปิดจับจ้องมองสัจจะคาถาและกระบวนท่าในตำรา ทันใดนั้นดวงตาของเขาถึงกับพล่าเลือน.
แม้นว่าเขาจะได้รับความทรงจำมาจากเจ้าของร่างเดิมมา แต่ก็เข้าใจวิธียุทธ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่ได้อ่านตำราอันซับซ้อนเช่นนี้ เขาราวกับว่ากำลังเปิดตำราสวรรค์ก็ไม่ปาน.
“หวังว่ายันต์รู้แจ้ง จะสามารถช่วยข้าให้เข้าใจเพลงกระบี่นี้ได้โดยเร็ว.”
จนซ่างเซียวครุ่นคิด พร้อมกับใช้จิตบดยันต์รู้แจ้งในแหวนมิติ ก่อนจะได้ยินเสียงดังแก็ก.
“วิ้ง!”
ราวกับพลังมากมายที่มองไม่เห็นกำลังไหล่บ่าเข้ามาในจิตสำนึกของเขาทันที.
แทบจะทันทีเช่นกัน เขารู้สึกเย็นยะเยือบ ไม่สบาย ทว่าในเวลาเดียวกัน ขณะจ้องมองสัจจะคาถาและกระบวนท่าเพลงกระบี่ คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเข้าใจได้อย่างง่ายดาย!