1395 - ในที่สุดยังคงตัดเต๋า
1395 - ในที่สุดยังคงตัดเต๋า
“ใช่ ต้องเป็นอย่างนั้น พวกเขาทั้งหมดเป็นจักรพรรดิ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในสมัยโบราณและสมัยใหม่ ไม่ว่าจักรพรรดินีผู้โหดเหี้ยมจะแข็งแกร่งมากแค่ไหนก็ไม่มีทางฆ่าจักรพรรดิสองคนได้ในเวลาเดียวกัน” เย่ฟ่านคิดกับตัวเอง
ความหวังที่จะเอาชนะเต๋าปรากฏขึ้นแล้ว เห็นได้ชัดว่าทัณฑ์สวรรค์นี้แม้จะค่อนข้างยาวนานแต่มันก็มีขีดจำกัดเช่นกัน
"สู้จนจนกว่าการทดสอบของสวรรค์จะสิ้นสุดลง!"
“บูม”
อย่างไรก็ตามความหวังครั้งใหม่ของเย่ฟ่านได้ดับลงอีกครั้ง
เพราะในขณะนี้มีดวงดาวสามดวงปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าพร้อมกับการปรากฏตัวขึ้นของชายหัวโล้นวัยกลางคนผู้สง่างามที่สวมจีวรสีเหลือง นี่คืออามิตาภะพุทธเจ้า!
ด้านข้างของเขาเป็นชายวัยกลางคนสวมชุดสีขาวมือของเขาถือกระบี่สีทองเปล่งประกายแห่งความอมตะ นั่นคือกระบี่ไท่หวง และผู้ที่ถือกระบี่อยู่ก็คือจักรพรรดิชิง หรือก็คือจักรพรรดิอสูรผู้ยิ่งใหญ่
ชายคนที่สามร่างของเขาเปล่งประกายด้วยแสงสีทองจนยากจะมองเห็นได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามผู้ที่มีพลังแห่งดวงอาทิตย์ที่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากจักรพรรดิสุริยัน
อย่าบอกนะว่าคนเหล่านี้ก็เคยมาที่โลกมนุษย์เช่นกัน? หัวใจของเย่ฟ่านกำลังหนาวเหน็บ
การปรากฏตัวของจักรพรรดิอสูรแสดงให้เห็นแล้วว่าการต่อสู้นี้จะไม่จำกัดเฉพาะจักรพรรดิผู้เป็นมนุษย์เท่านั้น มีความเป็นไปได้ว่าจักรพรรดิทุกคนที่เคยปรากฏตัวในโลกมนุษย์จะเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้
สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าคือจักรพรรดิทุกคนในจักรวาลไม่ว่าพวกเขาจะเคยมาที่นี่หรือไม่ก็อาจเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ด้วย!
แล้วเขาจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร?
“ไม่มีทางอื่น ทางเดียวคือต้องรวมอาณาจักรลับทั้งหมดเข้าด้วยกัน!”
เย่ฟ่านไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากผู้ใด แม้กระทั่งร่างแยกของเขาเอง เขาสามารถพึ่งพาตัวเองได้เท่านั้น
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขาได้ย่อยคัมภีร์โบราณหลายเล่มซึมซับแก่นแท้ของจักรพรรดิและสร้างแนวทางของตัวเอง การเตรียมการของเขาสมบูรณ์พร้อมแล้ว
“หากต้องการประสบความสำเร็จข้ามีเพียงต้องยืนหยัดให้ได้!”
การเข้าใกล้ของจักรพรรดิหนุ่มทั้งเก้านั้นเป็นความยากลำบากที่ไม่อาจจินตนาการได้สำหรับเย่ฟ่าน เขาถูกบังคับให้เกิดใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าแม้กระทั่งแก่นแท้ในร่างกายก็แทบจะถูกเผาผลาญไปหมดแล้ว
ในวันนี้ เย่ฟ่านอดทนเต่อความยากลำบากที่ไม่อาจจินตนาการได้ ร่างของเขาถูกทำลายหลายสิบครั้ง ในขณะเดียวกันทุกครั้งที่เขาเกิดขึ้นมาใหม่ก็จะมีความแข็งแกร่งไม่เท่าเดิมเพราะแก่นแท้ในร่างกายใกล้จะถูกเผาผลาญจนหมดแล้ว
ล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง แก่นแท้ในร่างกายของ
ในที่สุดเย่ฟ่านก็ใช้วิธีการที่พิเศษอย่างมากจากทักษะร่างแยกเต๋า เขาปลุกร่างกายที่เคยถูกทำลายทั้งหมดให้ตื่นขึ้นพร้อมกัน
ตัวตนเหล่านี้แม้จะไม่ได้ถูกควบคุมโดยวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ แต่พวกมันก็เต็มไปด้วยสัญชาตญาณและเข้าขัดขวางจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมดเพื่อไม่ให้สอดแทรกตัวเองเข้ามาก่อกวนการหลอมรวมคัมภีร์ของเย่ฟ่านได้
เมื่อ เย่ฟ่านถูกฆ่าอีกครั้งร่างแยกใหม่ก็จะเกิดขึ้นมาทันที นั่นทำให้เขาสามารถยืนหยัดได้เป็นเวลาหลายวัน ในขณะเดียวกันเขาก็พยายามดูดกลืนพลังชีวิตจากสายฟ้าเพื่อเติมเต็มแก่นแท้ให้กับตัวเอง ไม่เช่นนั้นเขาคงล้มลงตั้งแต่แรกแล้ว
ตราบใดที่ยังมีทะเลสายฟ้าอยู่ดูเหมือนว่าเย่ฟ่านจะไม่มีวันถูกฆ่าตายได้ แม้ว่าเขาจะเกิดความอ่อนล้าทั้งร่างกายและจิตใจอย่างหนักแต่เขาก็ยังยืนหยัดได้เรื่อยๆ ราวกับว่าการต่อสู้นี้จะไม่มีวันจบสิ้น
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้างนอกอาณาเขตนั้นทำให้หลายๆคนต่างตกตะลึง
ในช่วงปีสองพันปีที่ผ่านมาไม่เคยมีลักษณะของดวงดาวที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อน ในความเป็นจริงแล้ว การที่ดาวทั้งเก้าดวงสามาถเรียงตัวกันได้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อหกพันปีต่อรอบเท่านั้น
ดาวดวงใหญ่เก้าดวงที่ปรากฏขึ้นนอกอาณาเขต แสงของพวกมันสว่างขึ้นราวกับดวงอาทิตย์เก้าดวง
เหตุการณ์ที่แปลกประหลาดนี้ไม่ได้ห่างไกลจากโลกมากนัก ดังนั้นนักดาราศาสตร์ภายในโลกมนุษย์จึงสามารถใช้กล้องของพวกเขาส่องให้เห็นถึงเหตุการณ์อันน่าหวาดหวั่นได้อย่างชัดเจน
แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีทางมองเห็นเย่ฟ่านและจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งมีร่างกายไม่แตกต่างจากมนุษย์ธรรมดา แต่สิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือทะเลสายฟ้าไม่สิ้นสุดซึ่งกำลังโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง
ฉากดังกล่าวเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดอย่างมาก เพราะในอวกาศนั้นไม่มีทางที่จะมีสายฟ้าปรากฏขึ้น เหตุการณ์นี้จึงทำให้ผู้คนมากมายเกิดความสับสนไม่น้อย
“ไปที่โบสถ์แล้วถามพระสันตะปาปาที่วาติกันว่านี่มันเรื่องอะไรกัน?”
“พระสันตะปาปา…ถูกพระเจ้าจากภาคการสังหารไปเมื่อสามปีที่แล้ว” มีคนกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน
“เช่นนั้นก็ไปถามพระเจ้าจากภาคกลางว่าเกิดอะไรขึ้น!”
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเย่ฟ่านไม่ได้แสดงความโหดร้ายต่อผู้ใดดังนั้นผู้บ่มเพาะทั่วโลกจึงมีการติดต่อสื่อสารกันเป็นปกติ เมื่อเกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดเช่นนี้ขึ้นทุกคนจึงต้องการสอบถามความเห็นของคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
อย่างไรก็ตามจากข่าวที่ที่พวกเขาได้รับมา คนที่สร้างเหตุการณ์แปลกประหลาดนี้ดูเหมือนจะเป็นพระเจ้าจากภาคกลางคนนั้น!
เย่ฟ่านเลือกที่จะเผชิญหน้ากับทัณฑ์สวรรค์นอกโลกเพื่อไม่ให้คนที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรได้รับผลกระทบไปด้วย
การกระทำของเขามีความสำคัญอย่างมากเพราะถ้าเขาประสบความสำเร็จเขาจะกลายเป็นเต๋าแห่งสวรรค์พิภพของโลกใบนี้แทนเต๋าเดิมทันที
แม้ว่าในปัจจุบันการต่อสู้จะยังคงดำเนินไปอย่างไม่สิ้นสุด แต่เหตุการณ์นี้ก็ดูเหมือนจะทำให้เต๋าที่เคยเสื่อมโทรมฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
ผู้บ่มเพาะจากทั่วทุกมุมโลกดูเหมือนจะตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างชัดเจน บรรยากาศโดยรอบของพวกเขาแฝงไปด้วยปราณแห่งสวรรค์พิภพ
ร่างกายของพวกเขาเบาสบายมีความรู้สึกคล้ายกับว่าหายใจได้ทั่วท้องมากขึ้น
นี่เป็นสัญญาณของความเจริญรุ่งเรืองอันยิ่งใหญ่ แน่นอนว่าสภาวะนี้จะคงอยู่ตลอดไปหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าเย่ฟ่านจะยืนหยัดได้นานแค่ไหน!
ที่นอกอาณาเขตทะเลกระดูกสีขาวไม่สิ้นสุดปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า นี่คือร่องรอยร่างกายที่ถูกทำลายของเย่ฟ่าน พวกมันสลายตัวและเกิดใหม่ตลอดเวลา
ตัวตนที่แท้จริงของเย่ฟ่านสลาย ร่างกายของเขากลายเป็นจักรวาลอันงดงามและดวงดาวลึกลับ เปล่งปะกายด้วยความผันผวนแห่งนิรันดร์ที่สอดคล้องกับทุกดวงดาวในท้องฟ้า
แม่ว่าตัวตนที่แท้จริงของเย่ฟ่านจะถูกทำลาย อย่างไรก็ตามคำภีร์ทั้งห้าเล่มของเขาได้หลอมรวมกันจนเกือบสมบูรณ์แล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้จักรพรรดิทั้งเก้าคนยิ่งลงมือด้วยความเร็วมากยิ่งขึ้น
พวกเขาถูกสั่งการโดยอำนาจแห่งเต๋า ดังนั้นทุกคนจึงต้องทำตามเจตจำนงของสวรรค์ พวกเขาไล่ล่าเย่ฟ่านในขณะที่คนบางส่วนก็พยายามทำลายคัมภีร์ของเย่ฟ่านให้แตกสลาย
ตัวตนของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ล้วนน่าทึ่ง ทักษะบางประการของพวกเขาสามารถปิดกั้นไม่ให้ร่างที่ถูกทำลายของเย่ฟ่านฟื้นคืนชีพได้ชั่วคราว
“บูม”
จักรพรรดิอู่ซือใช้วิธีการใช้วิธีการที่น่าสะพรึงกลัวกลัวในการทำลายร่างแยกของเย่ฟ่านทั้งหมด แม้กระทั่งวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเย่ฟ่านก็ถูกทำลายไปด้วย
“ปล่อยข้าเถอะ…”
“…”
จิตวิญญาณของเย่ฟ่าแตกสลาย กลายเป็นดวงดาวที่เปล่งประกายอยู่กลางท้องฟ้าโดยไม่สามารถสร้างร่างใหม่ขึ้นมาได้ชั่วคราว
จักพรรดิทั้งเก้าโจมตีไปข้างหน้าเพื่อสังหารเต๋าของเย่ฟ่านโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาฟื้นคืนชีพกลับมาได้ คนเหล่านี้ไม่เพียงมีความแข็งแกร่งเท่านั้น ทักษะของพวกเขายังแปลกประหลาดและมีผลลัพธ์อันน่าอัศจรรย์
บูม!
แต่ในชั่วขณะนั้นคลื่นพลังสีทองได้กวาดไปทั่วท้องฟ้า คัมภีร์โบราณหลายเล่มของเย่ฟ่านได้หลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์ และความแข็งแกร่งที่แฝงอยู่ภายในก็ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง
ร่างกายที่แท้จริงของเย่ฟ่านฟื้นฟูกลับสู่ความแข็งแกร่งอีกครั้ง คัมภีร์โบราณเหล่านั้นหลอมรวมกันกลายเป็นอักขระสีทองฝังแน่นอยู่กลางหน้าอกของเย่ฟ่าน
นั่นคืออักขระที่เป็นเต๋าของเย่ฟ่าน มันลอยกลับเข้าไปในร่างกายของเขาและเริ่มหล่อเลี้ยงกระดูก เนื้อหนัง ตำหนักเต๋า รวมทั้งทะเลศักดิ์สิทธิ์ของเย่ฟ่าน
เมื่อเขาประสบความสำเร็จในการหลอมรวมคัมภีร์ทุกเล่ม อาณาจักรลับทุกแห่งของเย่ฟ่านก็ได้รับการยกระดับเข้าสู่ขอบเขตใหม่
จนกระทั่งเหตุการณ์ดำเนินมาถึงตอนนี้ในที่สุดเย่ฟ่านจึงเพิ่งเริ่มใช้ไฟแห่งเต๋าเผาผลาญร่างกายและวิญญาณของตัวเอง ในตอนแรกตัวเขาไม่สามารถตัดสิ่งใดออกจากชีวิตได้นั่นทำให้เขาไม่ประสบความสำเร็จในการตัดเต๋า
อย่างไรก็ตามตอนนี้เย่ฟ่านตระหนักแล้วว่ามีสิ่งหนึ่งที่เขาสามารถตัดได้โดยไม่จำเป็นต้องทอดทิ้งคนที่ตัวเองรัก นั่นคือการตัดชีวิตของตัวเอง
…………