ตอนที่ 89 วิชาคลื่นสามระลอก
ตอนที่ 89 วิชาคลื่นสามระลอก
ศิลปะการต่อสู้นี้มีชื่อว่า "คลื่นสามระลอก!"
มันเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ทรงพลังและโดดเด่นด้านความแข็งแกร่งและความรุนแรงที่ปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งคลื่นนั้นทั้งหมดสามระดับ
เมื่อคลื่นลูกแรกถูกปลดปล่อยออกมา หากคู่ต่อสู้ไม่สามารถสลายการโจมตีของผู้ใช้ได้ คลื่นลูกที่สองและสามจะถูกปล่อยตามออกมาซึ่งแต่ละลูกนั้นจะมีพลังที่สูงขึ้น!
คลื่นลูกแรกสามารถปลดปล่อยพลังออกมาได้เกือบเต็มที่ของพลังทั้งหมดในร่างกาย
คลื่นลูกที่สองสามารถปลดปล่อยความแข็งแกร่งของร่างกายเพิ่มขึ้นได้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์
คลื่นลูกที่สามสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของผู้ใช้ได้สองเท่าทันที
ศิลปะการต่อสู้นี้ทรงพลังมากจริงๆ
อย่างไรก็ตาม วิชาคลื่นสามระลอกนั้นสามารถเพิ่มได้เพียงความแข็งแกร่งเท่านั้นซึ่งยังด้อยกว่าเทคนิคลับการเปลี่ยนแปลงเทพเจ้าแห่งมังกร
แต่ถึงอย่างนั้น การเปลี่ยนแปลงเทพเจ้าแห่งมังกรก็เป็นเพียงแค่เทคนิคลับซึ่งไม่ใช่ศิลปะการต่อสู้
วิชาคลื่นสามระลอกนั้นถูกจัดอยู่ในประเภทของศิลปะการต่อสู้ที่ทรงพลังและรุนแรงซึ่งมุ่งเน้นไปที่การครอบงําคู่ต่อสู้ด้วยพลังมหาศาลเพื่อสร้างการโจมตีอย่างไม่หยุดยั้ง
มันเหมาะที่จะเอาไว้ใช้ในสถานการณ์ที่กำลังคาบเกี่ยวระหว่าง "ความเป็นและความตาย"!
หากใครสามารถควบคุมวิชาคลื่นสามระลอกได้อย่างสมบูรณ์ ความแข็งแกร่งของผู้ใช้จะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ความยากเพียงอย่างเดียวอยู่ที่ข้อกําหนดที่ต้องมีค่าความเข้าใจที่สูงมากเพื่อฝึกฝน
ซึ่งหยานเจียงเฉิงเองก็ขาดความเข้าใจที่จําเป็นและไม่สามารถฝึกฝนวิชาคลื่นสามระลอกได้
มิฉะนั้น ถ้าหากหยานเจียงเฉิงฝึกฝนวิชานี้ได้ ลู่ชางเฉิงจะไม่สามารถเอาชนะหยานเจียงเฉิงได้แน่นอน
และแม้ว่าลู่ชางเฉิงนั้นมีค่าความเข้าใจที่ยอดเยี่ยม แต่เขาก็ยังต้องใช้เวลาหลายวันในการฝึกฝนไปถึงขั้นแรกของวิชาคลื่นสามระลอก
นอกจากนี้ เขายังพอจะคาดเดาได้อีกด้วยว่าการฝึกฝนในขั้นที่สองจะใช้เวลานานกว่ามาก
“ดูเหมือนว่าในขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นศิลปะการต่อสู้ เทคนิค หรือวิชาลับ ทั้งหมดนั้นยากที่จะฝึกได้จริงๆ”
เมื่อคิดอย่างรอบคอบ ลู่ชางเฉิงจึงได้รู้ว่านี่เป็นเรื่องปกติ
เพราะนักศิลปะการต่อสู้ที่สามารถขึ้นสู่ขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ได้ล้วนเป็นผู้มีพรสวรรค์และมีค่าความเข้าใจที่โดดเด่นเกินกว่าคนปกติ
ไม่ว่าจะเป็นศิลปะการต่อสู้ เทคนิค และวิชาลับที่ถูกสร้างขึ้นโดยนักศิลปะการต่อสู้ดังกล่าวนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะฝึกฝนได้ เพราะมันต้องใช้ค่าความเข้าใจและความสามารถในระดับที่สูงขึ้น
และเมื่อพูดถึงความสามารถ ลู่ชางเฉิงเองก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ
อันที่จริงศิลปะการต่อสู้หลายอย่างไม่สอดคล้องกับความสามารถของลู่ชางเฉิงด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม ลู่ชางเฉิงก็ยังสามารถฝึกฝนพวกมันให้สมบูรณ์แบบโดยการใช้ค่าความเข้าใจที่ยอดเยี่ยมของเขา
ด้วยค่าความเข้าใจในปัจจุบันของลู่ชางเฉิง เขาสามารถฝึกฝนกับศิลปะการต่อสู้และเทคนิคต่างๆได้ถึงได้ระดับที่สิบหรือมากกว่านั้นเล็กน้อย
แต่การฝึกกับศิลปะการต่อสู้และเทคนิคต่างๆที่สูงกว่าระดับที่สิบนั้นจะกลายเป็นเรื่องท้าทายของลู่ชางเฉิง
แม้ว่าเขาจะเชี่ยวชาญได้ แต่ก็ต้องใช้เวลามาก
จากการคาดการณ์ในตอนนี้ของลู่ชางเฉิง ศิลปะการต่อสู้และเทคนิคต่างๆระดับที่สิบนั้นเทียบเท่ากับขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์
“ข้าคงต้องไปที่สำนักเมียวชูบ้างซะแล้ว” ลู่ชางเฉิงพึมพัม
ลู่ชางเฉิงผลักประตูให้เปิดออก เนื่องจากเขาในห้องมาเป็นเวลาสามวันแล้วดังนั้นเขาจึงต้องไปที่สำนักเมียวชูบ้าง
อันที่จริง มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ลู่ชางเฉิงจะ "หายไป" เป็นครั้งคราวเป็นเวลาสองสามวัน เพราะสำนักเมียวชูก็ค่อนข้างชินกับการกระทำของเขาแล้ว นอกจากนี้พวกเขายังสั่งคนในสำนักด้วยว่าพวกเขาไม่จําเป็นต้องห่วงถ้าหากลู่ชางเฉิงไม่ได้มาที่สำนักเมียวชู เพราะหลังจากที่เขามาที่นี่ลู่ชางเฉิงจะกลับมาที่สำนักเมียวชูบ้างอีกครั้งหลังจากผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง
ไม่นานหลังจากนั้นลู่ชางเฉิงก็มาถึงสำนักเมียวชู
“หมอลู่ ในที่สุดก็มาแล้วนะครับ” จางฮวนทักทาย
“ช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้มีผู้ป่วยหลายคนกำลังรอหมออยู่ครับ”
จางฮวนรีบชงชาร้อนหนึ่งถ้วยทันที
“ข้าออกไปทำธุระข้างนอกมาสักพักน่ะ ตอนนี้เจ้าไปเรียกให้ผู้ป่วยเข้ามาได้เลย”
จากนั้นลู่ชางเฉิงก็เริ่มเห็นผู้ป่วยทีละคน
เขาหน้าที่ของเขาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยตลอดช่วงเช้าและในที่สุดก็ได้พักตอนเที่ยง
ในขณะเดียวกัน นักจ่ายยาจากสำนักเมียวชูก็นํายาสมุนไพรมาหนึ่งชุด
"หือ นี่อะไรน่ะ?" จู่ๆลู่ชางเฉิงก็ทักนักจ่ายยาคนนั้นและชี้ไปที่สมุนไพรชิ้นหนึ่ง
"นี่คือคือลักศิลาโบราณที่ถูกกลั่นจากหินโดยนิกายเลือดครับ"
“ลักศิลาโบราณนี้สามารถทําให้จิตใจสงบและมีผลดีต่อผิวหนังนอกจากนี้ยังทำให้อายุยืนได้ถ้าหากสูดดมเป็นเวลานานครับ”
นักจ่ายยาอธิบาย
ลู่ชางเฉิงขมวดคิ้ว
เมื่อไม่กี่วันก่อน เขาได้ทําลายนิกายเลือดลงอย่างสมบูรณ์ แล้วทําไมตอนนี้สำนักเมียวชูถึงร่วมมือกับพวกเขาได้?
"จางฮวน มันเกิดอะไรขึ้นงั้นรึ?"
ลู่ชางเฉิงถาม
อันที่จริงลักศิลาโบราณนั้นไม่ถือว่าเป็นสมุนไพร แต่มันมีประโยชน์เพราะช่วยทำให้อายุยืนได้ ดังนั้นมันจึงสามารถขายในร้านขายยาได้ครับ
"นี่เจ้าไม่รู้อะไรเลยงั้นรึหมอลู่?"
“เมื่อไม่กี่วันก่อน นิกายเลือดได้ถูกถล่มโดยฝีมือของผู้กอบกู้จวงเพียงลําพัง ผู้นำนิกายและผู้อาวุโสของพวกเขาถูกฆ่าตายทุกคน แม้แต่ที่ตั้งของนิกายเลือดก็ยังถูกทําลายจนย่อยยับ”
“หลังจากนั้นไม่นาน ข้าเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่นิกายเลือดได้แต่งตั้งผู้นํานิกายคนใหม่และเริ่มร่วมมือกับกองกําลังหลักต่างๆในเมืองหนานหยางและร่วมกันควบคุมการค้าลักศิลาโบราณน่ะ”
“พวกเราสำนักเมียวชูเองก็รับส่วนแบ่งมาบ้างเช่นกันและการที่พวกเราได้ขายลักศิลาโบราณ ก็ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากต่อสำนักเมียวชู”
ลู่ชางเฉิงเข้าใจทันที
แม้ว่านิกายเลือดจะไม่ถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์ แต่มันก็ไม่ต่างกับการทําลายมากนัก ถ้าหากไม่มีผู้นํานิกายที่อยู่ในขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์หรือเหล่าผู้อาวุโส พวกเขาก็จำเป็นต้องร่วมมือกับกองกำลังหลักในเมืองหนานหยางโดยแบ่งลักศิลาโบราณให้กับพวกเขาเป็นการแลกเปลี่ยน
ซึ่งเรื่องนี้ทำให้สำนักเมียวชูก็มีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้อง
แต่เรื่องนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับลู่ชางเฉิงเลย อันที่จริงการที่นิกายเลือดยังคงอยู่ก็ถือว่าเป็นข่าวดีสําหรับเขาด้วย
อย่างน้อยถ้าเขาไปซื้อลักศิลาโบราณก็คงไม่มีใครหยุดเขาได้
นอกจากนี้ ชื่อของ "ผู้กอบกู้จวง" ก็โด่งดังขึ้นในเมืองหนานหยางและเกือบทุกคนในเมืองก็รู้เรื่องนี้
ว่าจวงซี่หนานผู้กอบกู้แห่งเมืองหนานหยางเป็นนักศิลปะการต่อสู้ขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์!
เขาสามารถเอาชนะคนในนิกายเลือดได้เพียงลําพัง และเอาชนะหยานเจียงเฉิงก่อนที่จะฆ่าเหล่าผู้อาวุโสผู้ทั้งสิบห้าคนได้!
“ดูเหมือนว่าในอนาคตการใช้ตัวตนของ 'ผู้กอบกู้จวง' จะทำให้อะไรหลายๆอย่างน่าจะง่ายขึ้นมากสินะ?” ลู่ฉางเฉิงคิดในใจ..