ตอนที่ 19 ช่องทางขนส่งใต้ดิน
ตอนที่ 19 ช่องทางขนส่งใต้ดิน
ในท้ายที่สุดเย่ชู เลือกกายาเหล็กที่ค่อนข้างธรรมดา
เหตุผลแรกที่เขาเลือกอันนี้ก็เพราะมันใช้พลังงานน้อยกว่า
ใช้แค่ไม่กี่หมื่นก็อัพเกรดเป็นระดับสูงสุดได้
…
…
นอกจากนี้ พื้นฐานของการเรียนรู้ร่างกายวัชระของจงอี้ยังอิงมาจากกายาเหล็ก
นอกจากนี้ยังมีวิชานาคคชสารปัญญาบารมีอีกด้วย
เย่ชูมีสกิวเพิ่มความแข็งแกร่ง
หากรวมกับวิชานาคคชสารปัญญาบารมีพลังจะเพิ่มขึ้นถึงระดับที่น่าสะพรึงกลัว
ตามบันทึกของระบบ วิชานาคคชสารปัญญาบารมีแบ่งออกเป็น 13 ขั้น (แปลเรื่องไหนก็เจอแต่ไอวิชานี้)
แต่ละขั้นของวิชานาคคชสารปัญญาบารมี มีพลังเท่ากับ มังกรหนึ่งตัวและช้างหนึ่งตัว หลังจากไปถึงระดับที่ 10 จะมีพลังเทียบเท่ากับมังกร 10 ตัวและช้าง 10 ตัว การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งทรงพลังมหาศาล
นอกจากนี้ยังมีวิชายุทธระดับสูงต่างๆ
สำหรับวิชาดาบ วิชากระบี่ เย่ชู ไม่ได้มองพวกมันเลย
กระสุนมีประสิทธิภาพมากกว่าการฟันด้วยดาบ
ต่อมาเย่ชูพิจารณาเรื่องราคาขายของวิชายุทธเหล่านี้
กายาเหล็กที่เย่ชูต้องการเรียนรู้ตอนนี้ต้องใช้พลังงานแค่สองพัน
สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร และวิชาระดับสูงอื่น ต้องใช้พลังงานเกินแสนเพื่อแค่เรียนรู้
หากเย่ชูต้องการเรียนรู้วิชาเหล่านี้ เขาสามารถเรียนรู้ได้ตามต้องการ แต่ถ้าเขาไม่สามารถฝึกฝนจนถึงระดับสูงสุดได้ มันจะไม่เกิดประโยชน์อะไร
อันที่จริงแล้ว สิ่งที่เย่ชูไม่รู้ก็คือ
ปัจจุบันซอมบี้ระดับสูง อาวุธร้อนพื้นฐานบางชนิดไม่มีผลกับซอมบี้เหล่านั้น
อาวุธทำลายล้างสูง เช่น ระเบิดนิวเคลียร์
รังสีนิวเคลียร์ไม่เพียงแต่ล้มเหลวในการฆ่าซอมบี้เท่านั้น แต่ยังทำให้พวกมันเกิดการกลายพันธุ์ที่น่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีก
การพัฒนาของโลกในปัจจุบันต้องพึ่งพาผู้วิวัฒนาการเท่านั้น
เว้นแต่การแทรกแซงของเย่ชู ซึ่งอนุญาตให้คนทั่วไป ใช้อาวุธของคลังแสง CF
ยิ่งไปกว่านั้นเย่ชู ยังสามารถเสริมพลังให้กับอาวุธได้อีกด้วย
อัตราการยิงที่เพิ่มขึ้นสามารถสร้างความเสียหายอย่างน่ากลัวให้กับซอมบี้ระดับสูงได้
อีกอย่างคือวิชายุทธเหล่านี้
การใช้อาวุธเย็นควบคู่ไปกับการผสมผสานวิชายุทธนั้นน่ากลัวกว่าอาวุธร้อนธรรมดา
บางที ยุคแห่งสงครามอันทรงพลังกำลังมาถึง
บุคคลที่เป็นผู้นำในยุคนี้คือเย่ชู
นี่เป็นโอกาสอันดีสำหรับคนธรรมดาที่จะลุกขึ้นยืน
หลังจากออกจากศาลาคัมภีร์ยุทธจินกู เย่ชูวางแผนที่จะเริ่มต้นธุรกิจจัดส่งด่วนของตัวเอง
ปัจจุบันเย่ชูมีสองทิศทาง
หนึ่ง ใช้สกิวฝึกฝนสัตว์เพื่อทำให้สัตว์กลายพันธุ์เชื่องและให้พวกมันขนส่งทางอากาศ
แต่สิ่งนี้มาพร้อมกับความเสี่ยงบางประการ
เย่ชูไม่สามารถรับประกันได้ว่านกกลายพันธุ์ที่เชื่องแล้วจะไม่ถูกกินโดยนกกลายพันธุ์ที่ทรงพลังตัวอื่น
สองเย่ชูวางแผนที่จะสร้างอาณาจักรใต้ดินขนาดใหญ่
ทางใต้ดินลึกหลายร้อยเมตร เย่ชูขุดทางเดินที่ขยายออกไปทุกทิศทาง
สิ่งนี้ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยของการขนส่งสินค้า
แต่ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือเย่ชูกังวลเกี่ยวกับการถูกค้นพบที่ทางเข้าออกและตามทางเพื่อมาเจอที่นี่
หลังจากคิดเรื่องนี้แล้วเย่ชูก็มีความคิด
นั่นคือการวางทางเข้าในเขตเมืองซึ่งมีซอมบี้อาศัยอยู่หนาแน่นที่สุด
จากนั้นแม้ว่าจะมีใครก็ตามมาตามทาง พวกเขาจะถูกซอมบี้โจมตี
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสกิวควบคุมดินเพิ่มระดับขึ้น ระยะที่ควบคุมได้ก็จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเช่นกัน
หลังจากที่มาถึงระดับสองขั้นต่ำ เขาก็สามารถควบดินภายในระยะ 200 เมตรได้
ภายในระยะสองร้อยเมตร เย่ชูสามารถควบคุมได้ทั้งหมดและเปลี่ยนให้เป็นรูปแบบใดก็ได้
เย่ชูมองไปที่ทิศทางหนึ่ง จากนั้นวางแผนที่จะเปิดทางตรงไปยังฐานหมิงหยวน
ทันทีที่ความคิดเกิดขึ้น ทางเดินยาว 200 เมตรก็ปรากฏขึ้น
ทางเดินสูง 1 เมตร กว้าง 1 เมตร ถึงมีคนเข้ามาก็ต้องก้มลงซึ่งไม่สะดวก
แต่ถ้าใช้เพื่อการขนส่งก็เกินพอ
ในช่วงเช้าเย่ชู ก็ได้เปิดทางไปยังฐานหมิงหยวน
หลังจากดูเวลาแล้วเย่ชู ก็ตรงไปที่พื้นและเข้าไปในฐานหมิงหยวน
“เฮ้! ฉันกินด้วยสิ!” การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเย่ชู ทำให้เสี่ยวผิงอันหวาดกลัว
การปรากฏตัวได้ทุกที่ทุกเวลาทำให้ใจเขาไม่อยู่กับตัวเลย
ใครจะไปหรู้ว่าเย่ชูจะมาแทงคุณเตอนหลับหรือไม่
“ดูเหมือนว่าการลอบโจมตีฐานเสินฟู่จะประสบความสำเร็จใช่ไหม?” เย่ชูยิ้มเล็กน้อย ดูเป็นการแสดงความยินดี
แต่เขากลับเยาะเย้ยอยู่ข้างใน
หากไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมิงหูและภรรยาของเขาคงจะแอบโจมตีฐานหมิงหยวนในวันนั้น
“ไม่ เกิดเรื่องโชคร้ายขึ้น!” เสี่ยวผิงอันตบโต๊ะ
“วันนั้นเมื่อเราโจมตีฐานเสิ่นฟู่ ผู้นำของฐานเสิ่นฟู่ จาง เตียวหลินก็กลับมาก่อนที่จะประสบความสำเร็จ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อฉันกลับมา ฉันพบว่าฐานของเราถูกครอบครองโดยเหมิงหูและภรรยาของมัน พวกมันมาลอบโจมตีเรา ไอ้สารเลว ถ้าฉันเจอมันอีก ฉันจะเอาชีวิตมันให้ได้!”
“อย่ากังวล อย่ากังวล!” เย่ชูนั่งลงด้วยสีหน้าไม่แยแส จากนั้นหยิบตะเกียบขึ้นมาและเริ่มกิน
หลังจากขุดอุโมงค์มาทั้งเช้าเขาก็หิวมาก
“หากปราศจากการแทรกแซงของฐานทัพฉางอัน นายก็ยืนอยู่บนยอด ตอนนี้ก็ดีแล้วไม่ใช้เหรอ?”
“ฉันแค่เสียใจ มันรู้สึกแย่!” เสี่ยวผิงอันกล่าวอย่างโกรธเคือง
“งั้น ฉันจะขายอาวุธอีกชุดให้นายและนายจะกำหนดเป้าหมายไปที่เขตที่ใกล้ที่สุด หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเขาคงเข้าสู่ช่วงพัก นายควรปรับปรุงความแข็งแกร่งของนายโดยเร็วที่สุด เพราะฉันกังวลว่าผู้คนจากฐานทัพฉางอันจะกลับมาอีกครั้งในเร็วๆ นี้!” เย่ชูกล่าวและหยุดเคี้ยว
เขายังมีไวรัสเหลืออีกแปดหลอดอยู่ในมือ พวกเขาจะไม่ยอมแพ้แน่นอน
"เมื่อถึงเวลานั้น คุณแข็งแกร่งขึ้น ผู้คนจากฐานทัพฉางอันจะเลือกช่วยคุณ!"
เสี่ยวผิงอันพยักหน้าเห็นด้วย แต่แล้วก็พูดอย่างเชื่องช้า
"ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยมีนิวเคลียสมากนัก!"
“นั่นคือเหตุผลที่ฉันขอให้คุณกำหนดเป้าหมายไปยังเขตที่ใกล้ที่สุด!” เย่ชูเยาะเย้ย
ถ้าคุณไม่มีเงิน คุณเป็นหมา ไม่ใช้พระเจ้า
หลังจากกินและดื่มแล้ว เย่ชูก็กลับเข้าไปในอุโมงค์
ระหว่างทาง จู่ๆเย่ชู ก็พบปัญหา
ตอนนี้ทางเดินเปิดแล้ว แต่วิธีการขนส่งล่ะ?
เมื่อคิดได้ เย่ชูก็ขยายเส้นทางเพื่อรองรับรถยนต์
ในเมืองมีรถที่ถูกทิ้งร้างมากมาย จึงมีเพียงไม่กี่คันที่สามารถซ่อมแซมได้
ทางที่เขาสร้างมันเป็นทางตรง
แค่เหยียบคันเร่ง รถไม่มีคนขับก็ไปได้ ปล่อยให้พวกเขาขนของเส็จ จากนั้นจึงขับรถกลับ
นี่เป็นความคิดที่ดี
อย่างไรก็ตาม การคมนาคมใต้ดินนั้นจำกัดอยู่เพียงพื้นที่เล็กๆ เท่านั้น
หากต้องส่งสินค้าทางไกลจะต้องจัดส่งทางอากาศเท่านั้น
หลังจากกลับมา เย่ชูก็เริ่มจับสัตว์กลายพันธุ์
หลังจากไวรัสระบาด ความสามารถในการบินของนกก็เพิ่มขึ้นอย่างมากและก้าวร้าวขึ้น
หนึ่งหรือสองตัวไม่สามารถทำให้เย่ชูพอใจได้
สิ่งที่เย่ชู ต้องการคือกลุ่มขนส่งทางอากาศขนาดใหญ่