ตอนที่ 6 : ผลงานชิ้นเอกของโลก หนึ่งเป็นลูกกตัญญู และอีกหนึ่งเป็นพ่อผู้มีความสุข
ห้องอ่านหนังสือตกอยู่ในความเงียบครู่หนึ่ง
บรรยากาศระหว่างเขากับพ่อของเขาทำให้แรนช์เดาว่าการสนทนานี้อาจมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับพวกเขา
เมื่อดูจากสีหน้าของพ่อแล้ว ก็น่าจะเป็นการสนทนาเกี่ยวกับเรื่องอนาคต ความรับผิดชอบ และเกียรติยศของวงศ์ตระกูล
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะเป็นฝ่ายเอ่ยปากพูดก่อนผู้เป็นพ่อ
ขณะที่ดวงตาของเขาขยับช้าๆ แรนช์ก็สังเกตเห็นว่าพ่อบ้านกำลังยิ้มให้เขา
ยังคงเป็นรอยยิ้มเหมือนจิ้งจอกไม่เปลี่ยน
แรนช์รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขาจึงเบือนหน้าออกมา
จุดที่เขาสามารถมุ่งความสนใจไปได้ชั่วคราวก็คือหนังสือที่จัดเรียงอย่างสวยงามบนชั้นหนังสือสูงตระหง่าน รวมถึงภาพวาดสีน้ำมันที่แขวนอยู่บนผนัง
ว่ากันว่านี่เป็นผลงานชิ้นเอกตั้งแต่สมัยโบราณที่ตระกูลของเขาเก็บรักษามาเป็นเวลานาน มันถูกสาดส่องด้วยแสงจากตะเกียงเวทมนตร์ ทำให้ทั้งห้องอ่านหนังสือเต็มไปด้วยบรรยากาศทางศิลป์
แต่เห็นได้ชัดว่า
มันไม่สวยเท่าภาพวาดของแรนช์
ผ่านไปสักพัก
ในที่สุดโนอาห์ก็ดูเหมือนจะนึกถึงเรื่องที่จะพูดได้:
“แรนช์ แกก็ถือว่าเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ได้หนึ่งเดือนแล้ว... ในช่วงเวลานี้ ทางตระกูลได้แก้ไขปัญหามากมายให้แก พ่อคิดว่าแกควรจะหยุดใช้ชีวิตแบบเสเพลเช่นนี้สักที...”
ความเงียบสั้นๆ เกิดขึ้นอีกครั้ง
หรือไม่ก็เป็นการรอจังหวะบางอย่าง
โนอาห์ไม่แน่ใจว่าหลังจากที่เขาพูดแบบนี้แรนช์จะโกรธเคืองเพราะการกระทำของเขาถูกเปิดเผยหรือเปล่า
เพราะการเปลี่ยนแปลงของแรนช์ในช่วงสองวันที่ผ่านมาดูเหมือนจะเป็นกลยุทธ์ที่ถูกใช้ชั่วคราว ก่อนที่เขาจะลงมือทำอะไรบางอย่าง
เป็นไปได้ว่าแรนช์อาจตระหนักถึงเรื่องที่ทางครอบครัวเริ่มควบคุมการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและพฤติกรรมเสเพลของเขา
ดังนั้นเขาจึงอดทนกับสิ่งเร้าต่างๆ และพยายามผ่านวิกฤตนี้ไปโดยแสร้งทำเป็นคนดีในช่วงเวลาสั้นๆ
อย่างไรก็ตาม.
ฉากตรงหน้าสร้างความประหลาดใจให้กับโนอาห์
ดวงตาของแรนช์ยังคมชัดและสงบอยู่เสมอ
หลังจากไตร่ตรองคำถามแล้ว เขาก็พยักหน้าอย่างจริงจัง
เขาตอบว่า:
“ผมต้องขอโทษจริงๆ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรที่เป็นการทำลายชื่อเสียงของตระกูลอีก”
ฉากนี้ทำให้โนอาห์ตกตะลึงเล็กน้อยและเขาก็อดไม่ได้ที่จะกระพริบตาปริบๆ
เขามองไปยังแรนช์อีกครั้ง
ไม่ว่าจะมองยังไงเขาก็เป็นชายหนุ่มนิสัยดี
ในช่วงเวลาหนึ่ง โนอาห์ถึงกับรู้สึกว่าเขาควรจะภาคภูมิใจที่ลูกชายของเขาเป็นผู้มีการศึกษาแถมยังมีแววตาสดใสเช่นนี้
เด็กคนนี้อาจสำนึกผิดจริงๆ หรือไม่ก็ยังคงดื้อรั้นอยู่
แม้ว่าโนอาห์จะชินกับสถานการณ์แบบเดิมมากกว่า แต่เขาก็รู้ด้วยว่าแบบหลังนี้มีแนวโน้มที่ดีกว่า
เป็นไปได้ไหมที่ลูกชายผู้โง่เขลาคนนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางสภาพจิตใจอย่างกะทันหันเนื่องจากได้รับโอกาสบางอย่าง?
แต่มันไม่สำคัญ
ไม่ว่าแรนช์จะเสแสร้งหรือไม่ก็ตาม โดยพื้นฐานแล้วหลังจากนี้โนอาห์มีวิธีที่จะใช้รับมือกับแรนช์
“อะแฮ่ม”
โนอาห์กระแอมในลำคอ ยืดตัวตรงพลางมองไปที่แรนช์
“แกเตรียมตัวสอบเข้าสถาบันนักเล่นแร่แปรธาตุแล้วหรือยัง?”
น้ำเสียงของเขาดูอ่อนลง แต่ความหมายของคำพูดดูแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
“แกต้องรู้ว่าถึงแม้พ่อจะต้องอยู่ที่จักรวรรดิตลอดทั้งปีเพราะเรื่องธุรกิจข้ามพรมแดน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพ่อจะเพิกเฉยต่อแกอย่างสมบูรณ์ ความอดทนของพ่อขึ้นอยู่กับเรื่องที่ว่าแกใช้ชีวิตอย่างจริงจังแค่ไหน”
“ฮึ่ม…”
คำพูดเพิ่งจะจบลง
พ่อบ้านที่ยืนอยู่ข้างหลังโนอาห์อดไม่ได้ที่จะยิ้ม
สามในสิบเป็นเรื่องที่ยินดีกับสถานการณ์ของนายน้อย ส่วนเจ็ดในสิบคือความสนุกของการอยากรู้ว่านายน้อยจะตอบสนองอย่างไร
“…”
ในขณะนี้แรนช์ยังคงเงียบอยู่ เมื่อได้ยินเขาก็มีท่าทางตกใจ
ในความทรงจำของเจ้าของร่างคนก่อน เขาไม่เคยเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย!
สถาบันนักเล่นแร่แปรธาตุที่โนอาห์กล่าวถึงนั้นเป็นสาขาของมหาวิทยาลัยไอเซอร์ไรต์ที่เก่าแก่ที่สุดในอาณาจักร ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองหลางของราชอาณาจักรฮัตตัน
สถาบันแห่งนี้รับสมัครเยาวชนที่มีศักยภาพและมีอายุที่เหมาะสมจากอาณาจักรฮัตตันและอาณาจักรใกล้เคียงทุกปี ทั้งยังเป็นที่รู้จักของทั่วทั้งทวีปทางใต้อีกด้วย
สถาบันนักเล่นแร่แปรธาตุเป็นหนึ่งในสี่สาขาหลัก
การสอบเข้าสถาบันนักเล่นแร่แปรธาตุซึ่งมีชื่อเสียงในด้านงานฝีมือการเล่นแร่แปรธาตุและการวิจัยเชิงทฤษฎีนั้นยากมากจนเจ้าของร่างคนก่อนยอมแพ้ก่อนที่จะเริ่มตั้งใจศึกษาอย่างจริงจังด้วยซ้ำ
เจ้าของร่างคนก่อนยังโกหกเกี่ยวกับการพยายามเข้าไปในสถาบันนักเล่นแร่แปรธาตุ ซึ่งถือเป็นการหลอกลวงความเชื่อใจและความไว้วางใจของพ่อแม่ เขาผลาญเงินจำนวนมากเพื่อความสนุกสนานอยู่ทุกวี่ทุกวัน
..ให้ตายเถอะ ไอเจ้านั่นมันน่ารังเกียจจริงๆ
เขาหลุดพ้นไปแล้ว ตอนนี้กลับเป็นฉันที่ต้องมารับกรรมแทน!..
แรนช์สาปแช่งอยู่ในใจ
อย่างไรก็ตาม ในโครงเรื่องเดิม จริงๆ แล้วเจ้าของร่างคนก่อนจะไม่ประสบกับปัญหาที่เขากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้
เพราะทาเลียจะเป็นผู้ช่วยนายน้อยบ้านรวยผู้โง่เง่าคนนี้ยุติปัญหาต่างๆ ในชีวิต
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ จู่ๆ คิ้วของแรนช์ก็ขมวดเข้าหากันทันที
“ท่านพ่อ ในโลกนี้ยังมีหอการค้าที่ชื่อว่าวิลฟอร์ดอีกไหม?”
แรนช์ถาม
“หืม?”
ดูเหมือนโนอาห์จะสับสนกับการเปลี่ยนหัวข้ออย่างกะทันหันของแรนช์ แต่เมื่อเห็นสายตาจริงจังของแรนช์ เขาก็ยังคงตอบอย่างภาคภูมิใจ:
“พ่อบอกไม่ได้ว่ามีธุรกิจขนาดเล็กที่ชื่อคล้ายกันหรือเปล่า แต่เราคือหอการค้าขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียวที่ทำการค้าทั่วทั้งอาณาจักรฮัตตันและจักรวรรดิเครจา”
หลังจากที่โนอาห์พูดจบ สีหน้าของแรนช์ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร เขาเพียงแค่พยักหน้าอย่างเงียบๆ
ตอนนี้เขาได้เปลี่ยนชะตากรรมของการถูก “ทาเลียสังหาร” และรอดชีวิตมาได้ แต่เขายังต้องเผชิญกับสถานการณ์บางอย่างที่นายน้อยบ้านรวยผู้โง่เขลาจะไม่มีวันได้เผชิญหน้า
แรนช์รู้สึกมานานแล้วว่านามสกุลของเขา “วิลฟอร์ด” ฟังดูค่อนข้างคุ้นเคย แต่เขาจำไม่ได้ว่าเขาเคยเห็นมันจากที่ไหน
หลังจากได้ยินคำพูดของโนอาห์ ในที่สุดแรนช์ก็จำได้ว่ามีภารกิจเสริมที่เรียกว่า “การสังหารหมู่ที่วิลฟอร์ด” ซึ่งอยู่ในเนื้อเรื่องหลักของเกมนับจากไทม์ไลน์ปัจจุบันไปสองปี!
รายละเอียดภารกิจคือ หอการค้าข้ามชาติแห่งหนึ่งล่มสลายลงในชั่วข้ามคืนโดยไม่ทราบสาเหตุ และคนที่เกี่ยวข้องกับผู้บริหารระดับสูงของหอการค้าก็ถูกสังหารอย่างโหดร้ายไปทีละคน ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะสืบสวนหรือไม่ และระดับภารกิจก็สูงมาก
นามสกุลของเขาคือวิลฟอร์ด และธุรกิจของตระกูลก็ถูกเรียกว่าหอการค้าวิลฟอร์ด ซึ่งเป็นหอการค้าขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่ทำธุระกิจข้ามชาติ…
ดูเหมือนว่ามันจะเป็นตระกูลของเขาเอง
ซึ่งก็ดูเหมือนว่าเขาจะนอนอยู่เฉยๆ ไม่ได้แล้ว เขาคงต้องลงแรงอย่างหนักเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งปีครึ่งเพื่อตรวจสอบและแก้ไขความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับตระกูลล่วงหน้า!
เงินของตระกูลคือสิ่งที่ใช้พึ่งพาได้เมื่อเขาเกษียณตอนอายุยี่สิบ ดังนั้นเขาจึงต้องปกป้องมันไว้ให้ได้
หลังจากนึกถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยไอเซอร์ไรต์ที่อยู่ในความทรงจำของเขาแล้ว
“ผมสัญญาว่าจะสอบผ่านได้อย่างราบรื่น”
แรนช์ตอบอย่างใจเย็น
จริงๆ แล้วเขาไม่สนใจที่จะเข้าเรียนในสถาบันแห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองหลวงสักเท่าไหร่
อาจกล่าวได้ว่าในความทรงจำของเจ้าของร่างคนก่อน มันเป็นสถาบันการศึกษาที่เหมือนกับอยู่ในโลกแห่งความฝัน —
ราชอาณาจักรฮัตตันไม่เพียงแต่มีเทคโนโลยีวิศวกรรมเวทมนตร์ที่ล้ำสมัยที่สุดและสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมกับทรัพยากรระดับสูงมากมาย แต่ยังได้รับความเป็นเลิศในด้านการป้องกันอีกด้วย
ขณะนี้เขาเป็นเพียงคนว่างงานระดับหนึ่งที่ไม่มีความสามารถในการต่อสู้ เขาไม่มีพลังในการปกป้องตัวเอง และเขาก็ไม่มีสถานะ “เพียงพอที่ผู้อื่นจะให้ความสำคัญและปกป้องเขาอย่างสุดกำลัง”
แหล่งที่มาของปัญหาที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือจักรวรรดิเครจา แต่การรีบวิ่งไปตรวจสอบที่นั่นเท่ากับเป็นการแสวงหาความตายอย่างไม่ต้องสงสัย
สำรวจศักยภาพของตัวเองในอาณาจักรฮัตตันก่อนจะเป็นการดีกว่า
หากเขาต้องการมีชื่อเสียงโดยเร็วที่สุด
แม้กระทั่งได้รับความโปรดปรานจากผู้แข็งแกร่งหรือผู้มีอำนาจในโลกนี้และสะสมความสัมพันธ์
การเป็นผู้สร้างการ์ดจะเป็นทางลัดที่เหมาะกับความสามารถของเขามากที่สุด
การไปที่มหาวิทยาลัยไอเซอร์ไรต์และใช้ทรัพยากรของสถาบันเวทมนตร์ มีประสิทธิภาพมากกว่าการอยู่ในเมืองชายแดนเพื่อศึกษาวิธีสร้างการ์ดเพียงลำพังเป็นร้อยเท่า
เมืองหลวงยังเป็นเวทีที่เหมาะสมกว่าสำหรับเขาที่จะแสดงความสามารถของตัวเอง
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตราบใดที่เขาสามารถสร้างชื่อในเมืองหลวงไอเซอร์ไรต์ได้ เขาก็สามารถหาทางจัดการกับผู้ที่ต้องการโค่นหอการค้าวิลฟอร์ดและพ่อของเขาได้ด้วยมือของตัวเอง และหลีกเลี่ยงการล่มสลายของตระกูล!
“หืม?”
โนอาห์เลิกคิ้ว ในณะนี้เขาไม่ได้ตระหนักถึงความคิดกตัญญูของแรนช์เลย เขาแค่สงสัยความมั่นใจของแรนช์ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
เขาคิดว่าเมื่อกี้ลูกชายผู้โง่เขลาของเขาที่ประพฤติตัวเหมือนนักเลงจะแสดงตัวตนที่แท้จริงของเขาออกมาซะอีก
โดยไม่คาดคิด แรนช์ไม่เพียงแต่มีสีหน้าจริงจังเท่านั้น แต่เขายังพูดออกมาด้วยความมั่นใจอีกด้วย
ปฏิกิริยาของแรนช์ในวันนี้เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงสำหรับโนอาห์อย่างสิ้นเชิง
แม้ว่าโนอาห์จะมีพลังงานไม่มากพอที่จะใช้ดูแลชีวิตประจำวันของแรนช์ แต่ทุกครั้งที่เขาถามพ่อบ้านและสาวใช้เกี่ยวกับสถานการณ์ของแรนช์ ทั้งสองคนก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องแรนช์
แต่โนอาห์ไม่ได้โง่ ใช้เวลาชั่วครู่เขาก็สามารถตัดสินสภาพที่แท้จริงของแรนช์ได้
“ในเมื่อแกพูดแบบนี้ หากแกสอบผ่านก็ถือว่าพ่อเข้าใจแกผิด และพ่อก็จะขอโทษแก…”
โนอาห์พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก ดวงตาของเขาราวกับคบเพลิงที่ส่องเข้าไปสำรวจในรูม่านตาสีเขียวมรกตของแรนช์
“แต่ถ้าแกสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ผ่าน นั่นก็แปลว่าแกหลอกลวงความไว้วางใจของเราในตัวแกใช่ไหม”
“แน่นอน มันเกี่ยวข้องกัน”
คำตอบของแรนช์ยังคงสงบ
“เอาล่ะ วันนี้พ่อจะไม่รบกวนแกแล้ว ตั้งใจเรียนต่อไปล่ะ พ่อจะซื้อตั๋วรถไฟไปเมืองหลวงให้แกล่วงหน้า เพราะงั้นแกไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้”
ในเวลานี้ เมื่อเห็นว่าแรนช์สัญญาอย่างตรงไปตรงมา โนอาห์ก็รู้สึกพึงพอใจเช่นกัน
เนื่องจากแรนช์ยังคงต้องการที่จะปากแข็ง
ถ้าอย่างนั้น โนอาห์ก็ไม่รังเกียจที่จะใช้สิ่งนี้เพื่อทำให้แรนช์ยอมรับการลงโทษด้วยความสมัครใจหลังจากประสบกับความพ่ายแพ้บางอย่าง
โนอาห์ไม่คิดว่าแรนช์จะสอบเข้าสถาบันนักเล่นแร่แปรธาตุได้
หรือก็คือมันเป็นไปไม่ได้เลย
เมื่อพิจารณาถึงความซับซ้อนของการสอบเข้าสถาบันนักเล่นแร่แปรธาตุ ทั้งจำนวนวิชาและมาตรฐานการผ่านที่สูงมาก จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองหรือสามปีในการเตรียมตัวสอบอย่างจริงจัง
การสอบเข้ามหาวิทยาลัยไอเซอร์ไรต์ปีนี้จะเริ่มขึ้นในอีกสามเดือน
แรนช์คงไม่สามารถแม้แต่จะจัดการกับสถาบันนักเล่นแร่แปรธาตุซึ่งต้องใช้พรสวรรค์น้อยที่สุดได้
เมื่อเขาไปถึงเมืองหลวงและได้พบกับผู้มีพรสวรรค์จากสถาบันการศึกษาอีกสามแห่ง เขาคงจะรู้ว่าความเกียจคร้าน ความเย่อหยิ่ง และดวงตาไร้แววของเขานั้นช่างโง่เขลาและน่าเศร้าเพียงใด
“ผมเข้าใจแล้ว”
แรนช์กล่าวอย่างหนักแน่น
แม้ว่าในใจพ่อของเขาจะสงสัยตัวเองมาโดยตลอด แต่อีกฝ่ายก็มักจะพูดถึงความฉลาดทางอารมณ์ของเขาอยู่เสมอ อีกทั้งยังตั้งใจส่งเขาไปยังเมืองหลวงด้วย แรนช์รู้สึกเหมือนกับว่าได้รับความเคารพ
แน่นอนว่าเขาจะตอบรับความคาดหวังของผู้เป็นพ่ออย่างเต็มที่
“ตราบใดที่ท่านพ่อมั่นใจว่าสามารถส่งผมไปเมืองหลวงเพื่อให้ผมได้แสดงความสามารถ ผมก็รับประกันได้ว่าท่านพ่อจะได้รับข่าวดีเกี่ยวกับเรื่องที่ผมสอบเข้ามหาวิทยาลัยไอเซอร์ไรต์ได้”
“... ฮ่าๆ”
โนอาห์แทบจะหัวเราะจนฟันหลุดเมื่อได้ยินเช่นนี้
เขาหยิบถ้วยชาขึ้นมา จิบชา พยายามระงับท่าทางเยาะเย้ยที่กำลังจะปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
..จะไปโชว์ความสามารถงั้นเหรอ?
แค่แกยอมไปโรงเรียน แกก็ถือว่าช่วยฉันได้มากมายแล้ว..
โนอาห์ไม่คิดว่าบทสนทนาในวันนี้จะราบรื่นขนาดนี้ เขาเตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องเกิดการทะเลาะกันอันไม่พึงประสงค์ระหว่างพ่อและลูก
การลงโทษแรนช์เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเขาต้องดัดนิสัยที่หยิ่งยโสและมั่นใจมากเกินไปของแรนช์ ให้เขาได้ชดใช้ความผิดพลาดที่เจ้าตัวเคยก่อขึ้น
โดยไม่คาดคิด วันนี้พวกเขากลับสามารถบรรลุข้อตกลงกันอย่างสงบเนื่องจากความจริงใจของแรนช์
แต่จากมุมมองของโนอาห์ ความแตกต่างก็คือก่อนที่แรนช์จะได้รับการลงโทษ เขาได้รับอนุญาตให้ไปที่เมืองหลวงเพื่อเปิดหูเปิดตา
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่รอแรนช์อยู่ที่มหาวิทยาลัยไอเซอร์ไรต์มีเพียงแค่การเสียหน้าเท่านั้น
สำหรับการปล่อยให้แรนช์ไปที่เมืองหลวง โนอาห์ไม่ได้กังวลเลยว่าแรนช์จะกลายเป็นม้าป่า
ในสถานที่เล็กๆ อย่างเมืองชายแดนแห่งนี้ แรนช์ผู้ซึ่งไม่เคยเห็นโลกมาก่อนย่อมสามารถเย่อหยิ่งและดุดันได้
แต่ในเมืองหลวงอย่างไอเซอร์ไรต์ ซึ่งเต็มไปด้วยศักยภาพขนาดใหญ่ และเป็นเวทีอันยิ่งใหญ่ที่แท้จริงของทวีปทางใต้ สุนัขตัวนี้จะไม่สามารถสร้างคลื่นใดๆ ได้อย่างแน่นอน
ส่วนหลังจากนั้น.
โนอาห์รู้จักแรนช์เป็นอย่างดี แรนช์ที่เป็นพวกโง่เง่าและหนุ่มเจ้าสำราญก็ยังเป็นประเภทเสือกระดาษเช่นกัน
และแน่นอนว่าเขาไม่ใช่ราชาปีศาจที่จะพัฒนาจนควบคุมไม่ได้เมื่อได้รับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
นี่เป็นสิ่งที่เขามั่นใจมาก
(จบตอน)