ตอนที่แล้วบทที่ 336 : พายุ (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 338 : ตามล่านักรบ​ระดับปรมาจารย์อาณาเขต!

บทที่ 337 : พลังของนักท่องอวกาศระดับหนึ่งดาว


บทที่ 337 : พลังของนักท่องอวกาศระดับหนึ่งดาว

ร่างของชายตาเดียวและมีสี่แขนโผล่ขึ้นเหนือท้องฟ้าของคฤหาสน์เจ้าเมือง

ออร่าของนักรบระดับปรมาจารย์อาณาเขตพุ่งไปทุกทิศราวกับพายุคลั่ง สร้างแรงกดดันให้กับทุกคนจนยากที่จะหายใจ

"นิกริช...ไม่คิดเลยว่าเเกจะถึงกับเชิญนักรบระดับปรมาจารย์อาณาเขตมาได้" อัลเมอร์สมองไปที่ชายตาเดียวและมีสี่แขนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

"ฮาฮาฮา!" นิกริชขำออกมาอย่างบ้าคลั่ง

"แกว่าฉันจะกลับมาที่ดาวเบต้าโดยไม่เตรียมการอะไรเลยงั้นหรอ? "

"มาสเตอร์บรุ๊ค….ได้โปรดลงมือฆ่าอัลเมอร์ด้วยเถอะ!"

เขากล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพต่อชายตาเดียวที่ลอยอยู่เหนือทุกคน

ตาสีม่วงข้างเดียวของบรุ๊คมองลงมาที่อัลเมอร์ส ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นว่า

"ฆ่าตัวตายซะ!"

เมื่ออัลเมอร์สสบตาเข้าดวงตาที่เยือกเย็นของบรุ๊ค เขาก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาลที่แทบจะทำให้เขาขาดสติ

"นี่คือ... พลังของนักรบระดับปรมาจารย์อาณาเขตงั้นหรอ? ขนาดว่าเราขาดเพียงแค่ครึ่งก้าวก่อนที่เราจะก้าวขึ้นสู่ระดับปรมาจารย์อาณาเขต... แต่ความต่างพลังกลับห่างกลับคนละโลก"

อัลเมอร์สเงียบลงครู่นึงก่อนที่จะทำสิ่งทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง

เขาก้มหัวลงและหันไปทางคฤหาสน์เจ้าเมืองก่อนจะพูดขึ้นอย่างสุภาพว่า

"มาสเตอร์เฮอิเลได้โปรดลงมือด้วย!"

แทบจะทันทีที่อัลเมอร์สพูดจบ ภาพเงาร่างได้ปรากฏขึ้นในส่วนลึกของคฤหาสน์เจ้าเมือง ก่อนที่จะโผล่ออกมาต่อหน้าทุกคนในชั่วพริบตา

ร่างของมนุษย์ต่างดาวที่สูงราวสามเมตร ชายคนนี้นั้นแลดูเหมือน​กับมนุษย์โลกทั่วๆไป…..หากไม่นับลายสีเลือดที่อยู่ที่แก้มของทั้งสองด้าน

ในมือของเขานั้นกำลังถือดาบสีดำเล่มหนาอยู่

แต่สิ่งที่ดึงดูความสนใจ​ของทุกคนมากที่สุด​ก็คือเข็มกลัดสีเลือดที่อกของเขา

"นั่นมัน!"

เมื่อชูโจวเห็นร่างของมาสเตอร์เฮอิเล เขาก็รู้ทันทีว่านี่คือนักท่องอวกาศระดับหนึ่งดาวที่เขาเจอก่อนหน้านี้ในอวกาศ

"นี่มัน….นักท่องอวกาศระดับหนึ่งดาว!"

ในเงามืดเหล่านักรบที่เฝ้ามองดูสถานการณ์ต่างพากันตกตะลึงอีกครั้ง

และครั้งนี้พวกเขาตะลึงมากกว่าตอนที่เห็นบรุ๊คเสียอีก

"อัลเมอร์สนายจ้างนักท่องอวกาศมาเลยงั้นหรอ!" นิกริชทั้งตกตะลึง​และโกธรไปพร้อมกัน

ในจักรวาลนี้….นักท่องอวกาศนับเป็นหนึ่งในอาชีพที่โหดร้ายและแข็งแกร่งที่สุดของมนุษย์ แต่ละคนถือว่าเป็นจุดสูงสุดของเหล่ามนุษย์ทั้งหมด

และในเวลาเดียวกันค่าจ้างของนักท่องอวกาศนั้นสูงอย่างที่ยากจะจินตนาการ

แม้แต่คนที่รวยที่สุดในดาวเคราะห์ทั่วไปของจักรวรรดิกาแลกติกยังไม่สามารถจ้างนักท่องอวกาศได้

แรกเริ่มนั้นนิกริชคิดว่าการที่เขาสามารถเชิญนักรบระดับปรมาจารย์อาณาเขตนั้นเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างมากเเล้วในสายคนทั่วไป

แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าอัลเมอร์สจะทำเรื่องที่น่าตกใจกว่า…เพราะเขาถึงกับจ้างได้แม้กระทั่งนักท่องอวกาศ

อีก​ด้าน​

ดวงตาบรุ๊คพรันหรี่ลงหลังจากที่เขาเห็นมาสเตอร์เฮอิเลปรากฏตัวออกมา

"เรียนท่านนักท่องอวกาศที่น่าเคารพ อาจารย์ของข้าคือแทลอนจากจักรวรรดิกาแลกติก….ถ้าอยากขอให้ท่านยกเลิกภารกิจนี้โดยเห็นแก่หน้าของอาจารย์ข้าได้หรือไม่?"

"และในส่วนค่าเสียเวลาทั้งหมดตระกูลแทลอนจะเป็นคนแบกรับเอง" บรุ๊คกล่าวขึ้น

"แทลอน? ฉันเคยยินชื่อนี้นะ แต่จะยกเลิกภารกิจเพียงเพราะชื่อนั้นฝันไปเถอะ!" มาสเตอร์เฮอิเลกล่าวออกมาอย่างไร้อารมณ์ก่อนที่จะลงมือโจมตีทันที

ดาบสีดำในมือเขาส่องประกายไปด้วยสายฟ้าคลั่ง

ในเวลาเดียวกันนั้นเองบริเวณรอบๆ ก็ดูเหมือนจะถูกปกคลุมไปด้วยกฏของโลหะ

ประกายแสงจากดาบสีดำพุ่งตัดผ่านอากาศ

รูปร่างของมันราวกับพระจันทร์เสี้ยวที่โผล่ขึ้นจากเส้นขอบฟ้า พร้อมปล่อยคลื่นพลังงานที่รุนแรงออกมา

นอกจากนั้น, มันยังมีออร่าที่แหลมคมจนเหมือน​จะสามารถตัดได้ทุกสิ่งเเผ่ออกมาด้วย

ในเสี้ยววินาทีนั้นไม่ว่าจะเป็น สตาร์การ์ด กลุ่มโจรสลัดอวกาศ ชูโจว หรือคนอื่น ๆ ต่างมีภาพลวงตาว่าทั้งร่างกาย และวิญญาณของพวกเขาถูกผ่าครึ่งออกด้วยประกายแสงจากดาบสีดำ

เมื่อเห็นประกายแสงจากดาบสีดำพุ่งเข้ามา….สีหน้าของบรุ๊คเปลี่ยนไปในทันที

"เขี้ยวโลหิต!"

เขาคำรามออกมาด้วยความโกธร…..ก่อนจะเทพลังงานทั้งหมดลงไปที่ดาบสีเลือดในมือของเขา เเละใช้ท่าไม้ตายที่เขาฝึกมาหลายปี [เขี้ยวโลหิต]​

ในตอนนั้นเองสายฟ้าสีเลือด

ก็พุ่งออกมาจากดาบสีเลือดของเขาด้วยความเร็วนับหมื่นเท่าของความเร็ว​เสียง

แต่เมื่อสายฟ้าสีเลือดพุ่งปะทะเข้ากับประกายเเสงสีดำมันกลับสลายออกไปทันที

แทบจะในเวลาเดียวกันร่างของบรุ๊คถูกผ่าครึ่งจากประกายแสงจากดาบสีดำ

ยิ่งไปกว่านั้นร่างของบรุ๊คที่ถูกผ่าครึ่งยังถูกตัดลงเป็นชิ้นๆ ราวกับมีมีดที่ไม่สามารถมองเห็นได้ตัดร่างของเขาออกเป็นส่วน ๆ

"ตูม——"

ทันใดนั้นเองกลุ่มดาวขนาดราวหนึ่งเอเคอร์ได้โผล่ขึ้นมาและรวบร่วมเศษร่างของบรุ๊คเข้าด้วยกัน ก่อนที่จะพุ่งออกจากเมืองเบต้าและพุ่งตรงไปยังอวกาศ

มาสเตอร์เฮอิเลมองไปกลุ่มดาวที่กำลังห่างออกไปเรื่อยๆ ด้วยสายตาเฉยเมยและแกว่งดาบของเค้าอีกครั้งอย่างรุนแรง

ประกายแสงจากดาบสีดำอีกอันพุ่งเข้าไปทำลายกลุ่มดาวที่กำลังพุ่งไกลออกไปโดยตรง

"อะไรกัน--"

เสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ดังออกมาจากกลุ่มดาว

ตอนนี้, กลุ่มดาวค่อยๆ สั่นสะท้าน​ราวกับจะพังทลายได้ทุกเมื่อ…แต่ท้ายที่สุด​กลุ่มดาวนั้นก็ไม่ได้พังลง เเละพุ่งหายไปจากท้องฟ้าโดยสิ้นเชิง

"มาสเตอร์บรุ๊ค... แพ้แล้วงั้นหรอ"

เมื่อนิกริชเห็นบรุ๊คพ่ายแพ้และหนีไปเเล้ว….เขาก็อดไม่ได้ที่จะมองตามไปด้วยความงุนงง

หลังจากที่เวลาผ่านไปครู่นึง

เขาก็หันหลังและวิ่งหนีออกจากเมืองเบต้า

แต่ในขณะที่นิกริชกำลังหนีอยู่นั้นร่างของกลับถูกฟันด้วยประกายแสงจากดาบสีดำ

เขากลายไปศพและตกลงหน้าบริเวณ​คฤหาสน์เจ้าเมือง

"ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว ที่เหลือก็แล้วแต่นายจะจัดการ!"

มาสเตอร์เฮอิเลพูดใส่อัลเมอร์สอย่างสงบนิ่ง

ชั่ววินาทีเดียวกันเขาก็นำยานอวกาศรูปมังกรสีทองออกมาจากแหวนมิติของเขา ก่อนที่จะพุ่งออกจากดวงดาวเบต้าในทันที

"ต้องขุบคุณมาสเตอร์เฮอิเลอย่างยิ่ง!"

อัลเมอร์สยืนส่งมาสเตอร์เฮอิเลอด้วยความเคารพจนเงาของยานอวกาศรูปมังกรสีทองหาออกไปจากสายตาของทุกคน

"ตามที่คาดการณ์​ไว้, นักท่องอวกาศทุกล้วนแต่อยู่ในจุดสูงสุดของเผ่าพันธุ์​มนุษย์ แต่ละคนแข็งแกร่งกว่านักรบในระดับเดียวกันลิบลับ"

"บรุ๊คเองก็เป็นนักรบระดับปรมาจารย์อาณาเขตที่แข็งแกร่ง แต่ถึงยังนั้นเขากลับไม่สามารถรับได้แม้แต่ดาบของมาสเตอร์เฮอิเล!"

ชูโจวเองก็กำลังมองมาสเตอร์เฮอิเลที่กำลังบินออกไปเช่นกัน, เเละเมื่อนึกถึงดาบที่ทั้งทรงพลังและยากที่เข้าใจเมื่อกี้นั้น เขาก็อดไม่ที่จะรู้สึกตื่นเต้นขึ้น

หากเขาต้องเผชิญหน้า​กับดาบแบบนั้น….เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน

"หลังจากที่ก้าวขึ้นสู่นักรบระดับปรมาจารย์อาณาเขต เราต้องรีบสมัครการทดสอบของนักท่องอวกาศให้ไวที่สุด..." ชูโจวตัดสินขึ้นมาในใจ

……..

เหนือท้องฟ้าของคฤหาสน์เจ้าเมือง

มีโจรสลัดอวกาศอย่างน้อย 1,600 คนที่กำลังสู้อยู่กับสตาร์การ์ด

เเต่เมื่อพวกเขาเห็นบรุ๊คที่วิ่งหนีไป และนิกริชที่ถูกฆ่าตาย

โจรสลัดอวกาศบางคนก็เริ่มสัมผัสได้ว่าสถานการณ์เริ่มผิดปกติ….เเละรีบตัดสินใจ​หนีออกจากเมืองเบต้าราวกับกลุ่มนกแตกฝูง

"นิกริชดูเหมือนว่าคนที่ชนะจะเป็นฉันนะ!"

อัลเมอร์สมองลงไปที่ร่างของนิกริชและยิ้มเยาะออกมา

หลังจากนั้นเขามองไปรอบๆ เฝ้าดูกลุ่มลูกน้องของเขามากมายที่อยู่ในอาการบาดเจ็บหนัก และยิ่งแย่ไปกว่านั้นลูกน้องระดับเก้าดวงดาวของเขาได้ตายไปถึงแปดคน

สิ่งนี้ทำให้หัวใจของเค้าคำรามออกด้วยความโกธรเกี้ยว

และเมื่อคิดขึ้นราคาแสนแพงในการจ้างมาสเตอร์เฮอิเล หัวใจของเค้าก็ยิ่งโกธรมากขึ้นไปอีก

"สตาร์การ์ดทุกคน….รับคำสั่งจากเจ้าเมืองและทำลายกลุ่มโจรสลัดอวกาศพวกนี้ให้หมด" เขาตะโกนก้องออกมา

"ทุกคนพวกกลุ่มโจรสลัดอวกาศนี้นั้น เป็นอาชญากรชั่วร้ายที่ก่ออาชญกรรมต่างๆมามากมาย....เพราะงั้นข้าขอความร่วมมือจากทุกคนในการกำจัดภาระสังคมพวกนนี้ด้วย"

"ข้าเห็นด้วยกับสิ่งที่ท่านเจ้าเมืองพูดอย่างยิ่ง….พวกข้าจะจัดการพวกโจรสลัดอวกาศสารเลวนี่เอง"

หลังจากที่ศึก "แย่งอำนาจ" ของพี่น้องอัลเมอร์สและนิกริชจบลง……ครอบครัวใหญ่เเละกองกำลังต่างๆ ในดาวเบต้าต่างก็พร้อมที่จะอยู่ข้างอัลเมอร์ส

หลังจากนั้นพวกเขาพากันเข้าโจมตี และไล่ล่ากลุ่มโจรสลัดอวกาศที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาหลบหนี

โดยชูโจว….เขาตั้งหน้าตั้งตาไล่ล่ามากกว่าคนอื่น

เพราะในสายตาของเขา….กลุ่มโจรสลัดอวกาศพวกนี้ไม่ต่างอะไรไปจากคะเเนนคุณสมบัติเดินได้, เเล้วเขาจะพลาดโอกาศในการเก็บเกี่ยวคะเเนนคุณสมบัติดีๆแบบนี้ไปได้ยังไงกัน?

ร่างของชูโจวได้กลายเป็นภาพติดตาด้วยความเร็วสูง….ไล่จัดการโจรสลัดอวกาศทีละคนทีละคน

พลังของเขาตอนนี้เหนือกว่านักรบเก้าดวงดาวทั่วๆไปมากแล้ว

เพราะแบบนั้นกลุ่มโจรสลัดอวกาศพวกนี้จึงไม่ใช่คู่มือเขาเลยแม้แต่น้อย

ถ้าพูดกันง่ายๆ, เมื่อเขาจับใครได้ คนๆนั้นก็จะตายลงทันที

หลังจากที่ร่างกายชูโจวเปลี่ยนแปลงไปนับครั้งไม่ถ้วนโดยกฏเเห่งอวกาศ….เขาก็สามารถควบคุมพลังมิติได้ง่ายขึ้นมาก

และถึงแม้เวลาที่เขาไม่ได้ใช้ศาสตร์ลึกลับข้ามมิติแต่ความเร็วของเขานั้นก็เร็วกว่านักรบระดับเก้าดวงดาวทั่วๆไปเป็นสิบเท่า

เพราะงั้นภาพเงาของเขาจึงโผล่ขึ้นมาทั่วเมืองเบต้า และจากมากกว่า1,600 โจรสลัดอวกาศที่กำลังหลบนี้อยู่นั้น, มันก็มีมากกว่า 1,000 คนที่ถูกจัดการโดยชูโจว

ความเร็วในการจัดการศัตรู​ของเขานั้นสูงกว่าเจ้าเมืองอย่างอัลเมอร์สและนักรบระดับเก้าดวงดาวคนอื่นๆของเมืองเบต้าอย่างมาก

เเละสิ่งนี้ทำให้ทั้งอัลเมอร์สเเละนักรบระดับเก้าดวงดาวคนอื่นๆของเมืองเบต้าตกตะลึง​เป็นอย่างมาก

"เฮ้ย เจ้าหมอนั่นเป็นใครกัน? เมืองเบต้าของเรามีนักรบระดับเก้าดวงดาวที่น่ากลัวแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?"

"น่ากลัวจริงๆ หมอนั่นอยู่ในระดับเดียวกับเจ้าเมืองเลย….หากฉันไปสู้กับเขา, ฉันคงโดนเขาฆ่าด้วยกระบวนท่าเดียวแน่ๆ "

"ไม่ใช่แล้ว การที่คนแบบนี้มาที่เมืองเบต้า……พวกเราก็ต้องรู้หรือได้ยินชื่อมาบ้างสิ!"

นักรบระดับเก้าดวงดาวของเมืองเบต้ามองภาพเงาร่างของชูโจวด้วยความตกตะลึง

ยิ่งมองเท่าไหร่พวกเขายังสงสัยมาขึ้นเท่านั้น

กลุ่มสังคมของนักรบเก้าดวงดาวของเมืองเบต้านั้นไม่ได้กว้างขว้างขนาดนั้น

ปกติมีนักรบระดับเก้าดวงดาวเเค่หนึ่งร้อยห้าสิบถึงหนึ่งร้อยหกสิบคนเท่านั้นในเมืองเบต้า และแต่ละคนต่างรู้จักกันทั้งหมด

แต่กลับไม่มีใครเคยเห็นชูโจวเลย

"นั่นมัน... ชูโจวไม่ใช่หรอ?" อัลเมอร์สนั้นจำชูโจวได้

และเขาก็ตกใจมากเช่นกัน

เขารู้ว่าชูโจวในฐานะ "พรสวรรค์ขั้นสูงสุด​" ชุโจวย่อมไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป

แต่เขาไม่คิดว่าชูโจวนั้นจะน่ากลัวขนาดนี้

โดยไม่ต้องสงสัยพลังของชูโจวสูงกว่านักรบระดับเก้าดวงดาวทั่วๆไปมากจนยากจะจินตนาการ

อัลเมอร์สที่เข้าไปสู่ครึ่งเก้านักรบระดับปรมาจารย์อาณาเขตนั้นก็มีพลังสูงกว่านักรบระดับเก้าดวงดาวทั่วๆไปมากจนยากจะจินตนาการเช่นกัน

เพียงแต่เขายังไม่เคยสู้กับชูโจว, มันจึงยากที่จะบอกได้ว่าระหว่างเขากับชูโจวนั้น…..ใครแข็งแกร่งกว่ากัน

แต่สิ่งนึงที่ชัดเจนคือความเร็วที่น่ากลัวของชูโจว….หากต้องสู้เขาอาจจะไม่สามารถแตะตัวชูโจวได้ด้วยซ้ำ

หรือพูดอีกนัยคือชูโจวนั้นอาจจะชนะก่อนที่จะเริ่มสู้ด้วยซ้ำ

"ถึงแม้ราคาที่เราจ่ายไปในการเอาชนะศึกนี้จะสูง... แต่หากเราผูกมิตรกับสัตว์ประหลาดอย่างชูโจวได้มันก็ไม่ถือว่าขาดทุน!"

เมื่อคิดได้เช่นนั้นอัลเมอร์สก็บินออกไปหาชูโจวด้วยรอยยิ้มบนหน้าของเขา

……………..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด