ตอนที่ 1510 เซิร์กผู้ทรงพลัง (ฟรี)

ตอนที่ 1510 เซิร์กผู้ทรงพลัง

“ทั้งหมดเป็นเพราะข้า”

ในขณะนี้ ราชินีเซิร์กรุ่นที่ 174 มีความเข้าใจอย่างสมบูรณ์แล้ว

เป็นเพราะการคำนวณผิดของเธออย่างชัดเจนทำให้เธอสับสนระหว่างเหตุและผล เธอคิดว่ามันคือโอกาสรอดของเผ่า แต่มันกลับกลายเป็นโอกาสของตัวเธอเอง … ขายเผ่าของตนเพื่อแลกกับโอกาสรอดชีวิต …

อะไรคือความแตกต่างระหว่างสิ่งนี้กับการทรยศ?

ใบหน้าของเธอซีดเผือดขณะที่เธอมองไปที่จักรพรรดิแห่งสังสารวัฏผู้เอาแต่ใจ

“สาวน้อย เจ้าจะเลือกอย่างไร?”

จักรพรรดิแห่งสังสารวัฏมองดูห่างเหิน “เจ้าสามารถนำคนในเผ่าของเจ้ามาด้วยก็ได้ แต่ควรรู้ว่ายิ่งมีคนมากเท่าไร โอกาสของเจ้าก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น ท้ายที่สุดแล้ว มีเพียงที่นั่งกำจัดในเต๋าผู้ยิ่งใหญ่”

เธอเงียบสนิท

ในระยะไกล สีหน้าของเหรินจิ่วเริ่มจริงจัง “เราสูญเสียกำลังรบอันทรงพลังที่สามารถยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับตู่ซิน และข้า ซึ่งเพียงพอที่จะส่งผลต่อความสมดุลในการต่อสู้”

อีกฝ่ายวางแผนเรื่องนี้มาเป็นเวลานาน

ในตอนนั้น อีกฝ่ายมุ่งเป้ามาที่เขาโดยสมบูรณ์ ขจัดไพ่ตายของเซิร์ก ลดโอกาสพลิกเกม

หากไม่มีรังแม่ มันก็สูญเปล่า …

และตอนนี้ อีกฝ่ายจงใจพยายามที่จะตอกลิ่มสร้างรอยร้าวระหว่างพวกเขา ใครสามารถหยุดได้?

แม้แต่ราชินีเซิร์กที่อยู่ด้านข้างก็ยังถูกล่อลวง และสีหน้าของพวกเธอก็เปลี่ยนไป

สำหรับพวกเธอที่สูญเสียรังแม่ไป และบางทีการเลือกโอกาสรอดนี้อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

ในเวลาเดียวกัน พวกเธอเริ่มกลัววิธีการลึกลับ และคาดเดาไม่ได้ของจักรพรรดิแห่งสังสารวัฏซึ่งความกลัวนั้นเหมือนเนื้อร้ายที่ลุกลาม

“ระบุตัวเลือกของเจ้า”

สีหน้าของซู่จือนั้นสงบมาก แต่เขากำลังแอบคำนวณอยู่ในใจ โชคดีที่เขามีไหวพริบดี และสามารถตอกลิ่มระหว่างคนเหล่านี้ และเอาชนะเผ่าเซิร์กได้อย่างสมบูรณ์ ...

อีกฝ่ายจะใช้อะไรต่อสู้กับเขาได้?

ภายนอกเขาดูผ่อนคลายมาก และดูเหมือนจะมีชัยชนะอยู่ในมือ แต่เขาก็ยังต้องระวังคนแก่เจ้าเล่ห์เหล่านี้ เขาจะต้องดึงกองกำลังรบมาให้ได้มากที่สุด

ในสายตาของซู่จือ ราชินีเซิร์กรุ่นที่ 174 น่าจะฉลาดมาก และรู้ว่าอะไรคือตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ ...

“แต่ข้าปฏิเสธ!!!”

ราชินีรุ่นที่ 174 พูดอย่างเย็นชา “เจ้าต้องการให้ข้าขายเผ่าของตน และทำให้เผ่าของข้าหมดหวังเพราะตัวข้าเหรอ? ข้าทำไม่ได้ เราจะผนึกกำลังเพื่อโค่นล้มเจ้า ผู้บงการเบื้องหลัง เปิดเส้นทางสู่อนาคตด้วยมือของเราเอง!”

“เผ่าเซิร์กคืออะไร? เราอยู่ทุกหนทุกแห่ง เราคือเผ่าที่ไม่มีวันสูญสิ้น เหนียวแน่นและยอมตายมากกว่ายอมจำนน เราเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตที่อยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง เผ่าพันธุ์ของเราจะไม่ยอมแพ้”

ร่างกายของซู่จือแข็งทื่อไปทั้งตัว

มันไม่ง่ายเลยสำหรับเขาที่จะหาโอกาสชักจูก ในสถานการณ์นี้ควรตอบรับ แต่อีกฝ่ายกลับปฏิเสธ

ใบหน้าของซู่จือมืดลงทันที

ราชินีเซิร์กคนนี้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาอยู่ฝ่ายเดียวกัน ...

"บรรพบุรุษ!"

เธอคิดจริงๆ ว่าจักรพรรดิแห่งสังสารวัฏเป็นศัตรูที่ได้รับการยอมรับจากสาธารณชนของทั้งจักรวาลซึ่งก็คือผู้บงการเบื้องหลัง เธอกำหมัดแน่นแล้วพูดว่า “ถ้าเราร่วมมือกัน เราก็ยังสามารถใช้พลังส่วนใหญ่ได้ แล้วทำไมเราจึงต้องพึ่งพาผู้อื่นด้วย? ทำไมถึงยอมรับความพ่ายแพ้? มันเป็นเพียงสิ่งที่เรียกว่าภาวะเอกฐาน ถ้าเราร่วมมือกันเราจะสามารถเข้าใจมันได้อย่างรวดเร็ว!”

ราชินีเซิร์กรุ่นที่ 4 ยังเผยให้เห็นร่องรอยของความเคร่งขรึม และกล่าวว่า "นั่นเป็นความจริง แม้ว่าเราจะสูญเสียแกนกลางไปแล้ว แต่เราก็ยังแข็งแกร่งเพียงพอ แม้แต่ตู่ซิน และจ้าววิหารเต๋านิรันดร์ก็อาจไม่คู่ควรกับเรา เราน่าจะได้ครอบครองที่นั่งส่วนใหญ่ของเต๋าผู้ยิ่งใหญ่!”

“จ้าววิหารเต๋านิรันดร์ควรรู้ว่าเขาปล่อยเผ่าที่น่าสะพรึงกลัวแบบไหนออกมา!” ราชินีเซิร์กอีกคนหนึ่งพูดอย่างเย็นชา

พวกเธอยังรู้สึกว่าพวกตนมีโอกาสที่ดี

หากเสี่ยงโชค และชนะ ในเก้าที่นั่ง พวกเธอจะสามารถครอบครองมากกว่าครึ่งหนึ่งได้ และครองยุคจักรวาล!

โอกาสเช่นนี้เพียงแค่คิดถึงมันก็เพียงพอแล้วที่จะกระตุ้น

และหลังจากปกครองยุคจักรวาลนี้แล้ว พวกเธอยังคงสามารถวางแผนสำหรับยุคจักรวาลถัดไปและปกครองชั่วนิรันดร์ กลายเป็นนกอินทรีที่ยิ่งใหญ่ที่อยู่เหนือจักรวาลทุกยุคทุกสมัย!

“เรามารวมพลังกันเถอะ”

พวกเธอมองหน้ากัน และทันใดนั้นสีหน้าของพวกเธอก็ดูจริงจังเมื่อจิตวิญญาณการต่อสู้เพิ่มสูงขึ้น

“บรรดาผู้ที่หลอมรวมกับสายเลือดจงก้าวออกมา ข้าจะเป็นรากฐาน” ราชินีเซิร์กรุ่นที่ 4 กล่าว

ในวินาทีถัดมา หญิงสาวจำนวนนับไม่ถ้วนก็ค่อยๆ เดินออกมา และรวมเข้าด้วยกันเป็นลูกบอลแสงขนาดใหญ่

หมอกวงแหวนแห่งเลือดกระจายออกไป

เลือดเนื้อของพวกเธอราวกับแป้งบิดเบี้ยว และในไม่ช้า สิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวก็ลงมา

บูม!

ทุกคนสามารถสัมผัสได้ถึงออร่าที่ทรงพลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อย่างไรก็ตาม ออร่านี้แตกต่างอย่างมากจากจักรพรรดิแห่งสังสารวัฏที่ควบคุมภาวะเอกฐาน ดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตสายเลือดขั้นสูงสุด

สามเทพแห่งเต๋าสวรรค์ เทพผู้ควบคุมสายเลือดแห่งชีวิต และไม่อาจทำลายได้ สัญลักษณ์แห่งชีวิต

ทันใดนั้น เหรินจิ่วก็เงยหน้าขึ้น และสีหน้าของเขาก็ค่อยๆ ซับซ้อน ดูเหมือนเขาจะเคยได้มองเห็นร่างที่อยู่ยงคงกระพันนี้มาก่อน

บูม!

ผู้หญิงคนนั้นค่อยๆ ยืนอยู่บนท้องฟ้า เปล่งออร่าอันน่าสะพรึงกลัวจนไม่อาจอธิบายได้

"เริ่มกันเลย" สายเลือดของข้าคือ…“ราชินีเซิร์กรุ่นที่ 4 พูดเบา ๆ”เทพเหนือเทพผู้เป็นบ่อเกิดของวิวัฒนาการทั้งมวล”

เสียงเย็นชาดังออกมาจากร่างกายของเธอ

“กาลอวกาศ”

“เสริมพลัง”

“สนามพลัง”

…

สายเลือดจำนวนนับไม่ถ้วนหลอมรวมเข้าด้วยกัน และราชินีเซิร์กโบราณก็กลายเป็นหนึ่งเดียวกันผ่านทางสายเลือดของพวกเขา

นี่คือสิ่งมีชีวิตสายเลือดขั้นสูงสุดที่งดงามแบบใดกัน?

ในขณะนี้ ดูเหมือนทุกคนจะได้เห็นผีเสื้อสีเลือดที่สวยที่สุดในจักรวาลแล้ว มันสวยงามมากจนไม่สามารถบรรยายความงามของมันได้

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน เธอก็ยังเป็นเซียนระดับ 10 ไม่สามารถเข้าถึงมิติที่สูงกว่าได้ และยังคงเป็นมดอยู่

"แค่นี้หรือ?"

ตู่ซินมองไปที่ผู้หญิงตรงหน้า และเผยให้เห็นร่องรอยของความผิดหวัง “ดูเหมือนว่าแม้จะรวมตัวกันได้ พวกเจ้าก็ไม่แข็งแกร่งเกินไปนัก”

ผู้หญิงคนนั้นหันกลับไปมองที่ตู่ซิน “โจมตีตีข้าด้วยภาวะเอกฐาน”

ตู่ซินกลายเป็นภาวะเอกฐานในทันที และพุ่งไปข้างหน้า

ปัง

เลือดเนื้อของหญิงสาวสาดกระเซ็น แต่พลังชีวิตอันมหาศาล และน่าสะพรึงกลัวของเธอทำให้ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

ในเวลาเดียวกัน พลังลึกลับก็ผุดออกมาจากร่างกายของเธอ

มันเป็นพลังแห่งภาวะเอกฐาน

"เจ้า?" ดวงตาของตู่ซินเบิกกว้าง “สติปัญญาของเจ้าไม่สามารถเข้าถึงระดับเดียวกับข้าได้ ด้วยสติปัญญาที่จำกัด มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เจ้าจะเข้าใจภาวะเอกฐานในเวลาอันสั้น”

แม้แต่สำหรับจ้าววิหารเต๋านิรันดร์ เขาต้องใช้เวลาอันยาวนานในวิหารเต๋านิรันดร์ก่อนที่เขาจะค่อยๆ เรียนรู้มัน

“ถ้าสมองไม่สามารถเรียนรู้ได้ ก็ปล่อยให้ร่างกายเรียนรู้”

“ถ้าสมองไม่สามารถเรียนรู้มันได้ ก็ปล่อยให้มือเรียนรู้มันด้วยตัวเอง”

การใช้พลังระดับ 11 หรือที่เรียกว่าภาวะเอกฐาน เป็นเพียงการควบคุมควอนตัมที่ชาญฉลาดอย่างยิ่ง และยุบมันเข้าด้วยกันในลักษณะเฉพาะ

เธอกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ความสามารถในการเรียนรู้ที่แข็งแกร่งที่สุดคือ สัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิต มันเป็นการสะท้อนกลับของเส้นประสาท การสะท้อนกลับแบบมีเงื่อนไข สัญชาตญาณการต่อสู้ที่ฝังแน่นอยู่ในร่างกายของเรา … เป็นการวิวัฒนาการตนเองของสิ่งมีชีวิต ถ้าฆ่าข้าไม่ได้ มันมีแต่ทำให้ข้าพัฒนาสายเลือดที่คล้ายกัน และทำให้ข้าแข็งแกร่งขึ้น”

“เจ้ายังไม่เข้าใจเหรอ? ข้าเป็นสิ่งมีชีวิตสายเลือดขั้นสูงสุดแล้ว และข้าสามารถพัฒนาความต้านทาน และความแข็งแกร่งของร่างกายได้ตลอดเวลาในการต่อสู้”