บทที่ 336 : พายุ (2)
บทที่ 336 : พายุ (2)
ณ เเพนดากอนวิลล่า
ดราก้อน ธอร์ อาปาซา และดิโก้ ต่างช่วยกันจัดการกลุ่มคนที่บุกรุกเข้ามา
เเละทันใดนั้นเอง….มิติรอบๆก็สั่นกระเพื่อมขึ้น ก่อนที่ประกายแสงดาบจะพุ่งออกมาจากความว่างเปล่า และตรงเข้าไปจัดการกลุ่มผู้บุกรุก
ยิ่งไปกว่านั้นร่างของผู้บุกรุกทั้งหมดยังถูกดูดเข้าไปในยังห้วงลึกของมิติหลังเสียชีวิตเเล้ว
ดราก้อนและคนอื่นรู้ทันทีว่านี่เป็นฝือมือของชูโจว
…….
ณ วิลล่าเเพนดากอน
ดราก้อน ธอร์ และอาปาซาได้บินไปหาชูโจวโดยพร้อมเพรียงกัน
"คนพวกนี้เป็นใคร? ทำไมอยู่ดีๆถึงมาโจมตีกันพวกเรา?" ดราก้อนและคนอื่นๆ มองชูโจวด้วยสายตาตั้งคำถาม
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่คนพวกนี้น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของเมืองเบต้า”
“เเละดูเหมือนพวกเราจะโดนดูดเข้ามาในวังวงนี้ด้วย”
"ใช่แล้ว….ดูเหมือนว่าสามคนที่โจมตีฉันพูดอะไรซักอย่างเกี่ยวกับกองกำลังชุดม่วงด้วย!"
ชูโจวพูดขึ้นพร้อมกับหันไปมองทางคฤหาสน์เจ้าเมือง
ในขณะเดียวกันเหนือน่านฟ้าของคฤหาสน์เจ้าเมือง กลุ่มคนจำนวนมากกำลังสู้กันอย่างดุเดือด และคลื่นพลังงานจากการต่อสู้สามารถรับรู้จากระยะไกล
และไม่ใช่แค่เพียงเท่านั้น แต่อีก 19 สถานที่รอบๆเมืองเบต้าก็มีคลื่นพลังประทุออกมาด้วยเช่นกัน
"ใครกันที่ถึงกับกล้าโจมตีคฤหาสน์เจ้าเมือง!"
ดราก้อนและคนอื่นที่สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังงานจากการต่อสู้เหนือคฤหาสน์เจ้าเมือง….พวกเขาจึงอดไม่ได้ที่จะตกใจขึ้นมา
คฤหาสน์เจ้าเมืองนั้นเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองเบต้าอย่างไม่ต้องสงสัย
นอกจากนี้นั้นคฤหาสน์เจ้าเมืองนั้นยังอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิกาแลกติกโดยตรงอีกด้วย
เพราะงั้นใครกันที่จะกล้าโจมตีคฤหาสน์เจ้าเมืองเเบบนี้?
"ฉันไปดูเอง..." ชูโจวกล่าวขึ้น
เเละก่อนที่ดราก้อนและคนอื่นๆจะได้สติ, ร่างของชูโจวก็หายไปจากกลางอากาศเเล้ว
..…
เหนือคฤหาสน์เจ้าเมือง
กลุ่มนักรบต่างจับกลุ่มสู้กันราวกับฝูงแมลงคลั่ง
ถ้ามองจากภายนอกนั้น…ราวกับผู้คนนับพันกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด
นักรบคนหนึ่งสวมใส่ชุดเกราะสีเขียวซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของกองทัพสตาร์การ์ดของจักรวรรดิกาแลกติก….ซึ่งนักรบพวกนี้มีหน้าที่ในการป้องกันคฤหาสน์เจ้าเมือง
ส่วนนักรบอีกกลุ่มนั้นราวกับกองกำลังผสมจากหลากหลายที่….แต่ทุกคนนั้นเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวและบ้าคลั่ง ชูโจวสามารถบอกได้หลังจากที่มองแค่ครั้งเดียวว่าพวกนี้เป็นการรวมตัวของกลุ่มโจรสลัดอวกาศ
ถึงแม้สตาร์การ์ดได้รับการฝึกฝนอยากหนัก และเป็นระเบียบมากกว่ากลุ่มโจรสลัดอวกาศ
แต่จำนวนของกลุ่มโจรสลัดอวกาศนั้นมีมากกว่าสตาร์การ์ดถึงสองเท่าตัว และจำนวนนักรบระดับสูงของกลุ่มโจรสลัดอวกาศ ก็มีมากกว่าสตาร์การ์ดเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้, สตาร์การ์ดจึงตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก และกำลังใกล้จะพ่ายแพ้เเล้ว
เเละเมื่อมองขึ้นไปด้านบน….มันจะมีคนสองกลุ่มที่กำลังประชันหน้ากันอยู่
คนทั้งสองกลุ่มนี้….ต่างเต็มไปด้วยออร่าของนักรบระดับเก้าดวงดาว
"น้องชายที่รัก พี่บอกแล้วว่าวันนึงพี่จะกลับมาและวันที่ว่านั้นก็มาถึงแล้ว!"
นิกริชจ้องมองไปที่อัลเมอร์สด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น รอยแผลลายคล้ายตะขาบของเขาทำให้สีหน้าของเขาดูโหดเหี้ยมขึ้นไปอีก
"นิกริชในฐานะที่เราเป็นพี่น้องกัน, ฉันจึงปล่อยให้นายมีชีวิตรอดไป... เเล้วอะไรที่ทำให้นายโผล่หัวมาที่นี่อีก?"
อัลเมอร์สราวกับสิงโตคลั่ง ผมสี้ทองของเขาสะบัดไปมาทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีลมพัดสักนิด
"ฉันกลับมาเพื่อพิสูจน์ว่าฉันไม่ได้แย่ไปกว่าแกไงหล่ะ….อะไรที่แกแย่งฉันไป ฉันจะเอามันกลับมาด้วยมือของฉันเอง"
"นิกริชนี่นายรู้ไหมว่านายกำลังทำอะไรอยู่? ร่วมมือกับกลุ่มโจรสลัดอวกาศและโจมตีคฤหาสน์เจ้าเมือง นี่มันคือการก่อกบฏ….เเละนายยังหวังที่จะแย่งตำแหน่งของฉันและเป็นเจ้าเมือง…..นายไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องตลกงั้นหรอ?" อัลเมอร์สพุดประชดขึ้น
"ตลกงั้นหรอ? แกนั่นแหละที่น่าตลก!" นิกริชมองไปที่อัลเมอร์สด้วยสายตาเหยีดหยาม
"อัลเมอร์ส…..คนอยู่แค่บนดาวเบต้าทั้งชีวิตแบบแกจะไปรู้ถึงโลกกว้างภายนอกได้ไง? นายรู้ไหมข้างนอกมีคนแข็งแกร่งมากมายแค่ไหนที่สามารถบดบังท้องฟ้าได้ด้วยมือข้างเดียว"
"สำหรับนายกฏของจักรวรรดิอาจจะเป็นที่สุดของเเก…..แต่มันไม่ใช่สำหรับคนพวกนั้น ตราบใดที่คนๆหนึ่งแข็งแกร่งมากพอ มันก็ไม่มีอะไรที่พวกเขาจะทำไม่ได้"
"และหลังจากที่ฉันฆ่านายเเล้ว…..คนพวกนั้นจะจัดการตำแหน่งเจ้าเมืองเอง"
เมื่อได้ยินคำพูดของนิกริช สีหน้าของอัลเมอร์สก็เปลี่ยนเป็นมืดมนทันที
"ฆ่ามัน!" อัลเมอร์สสั่งการออกมาอย่างเยือกเย็น
จากนั้น, นักรบระดับเก้าดวงดาวทั้ง 27 คนที่อยู่ด้านหลังเขา…ก็เข้าโจมตีนิกริชและคนอื่นๆทันที
"ฆ่ามัน!"
นิกริชก็สั่งการและก็นำคนของเขาเข้าไปปะทะกับอัลเมอร์สและคนอื่นๆ
"บูม บูม บูม..."
คลื่นพลังงานที่น่ากลัวพุ่งไปทั่วเมืองเบต้าราวกับพายุคลั่ง
เเละในตอนนี้นั้นเอง สัญลักษณ์ที่ลักลับมากมายก็โผล่ขึ้นมารอบๆ เมืองเบต้าและดึงดูดผลกระทบจากการต่อสู้ เพื่อป้องกันไม่ให้บ้านและตึกในเมืองเสียหาย
ระหว่างการต่อสู้ของนักรบระดับดวงดาวจำนวนมากนั้น, หากไม่ใช่เพราะสัญญาลักษณ์ลึกลับเหล่านี้…..เมืองเบต้าก็คงจะถูกทำลายไปนานแล้ว
……
ณ ขณะนี้
ร่างของชูโจวปรากฎขึ้นมาเหนือคฤหาสน์เจ้าเมือง
เขายืนมองทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน
"หืม? ดูเหมือนว่าเราจะไม่ใช่คนเดียวที่ออกมาสังเกตุสถานการณ์สินะ….. ในมุมมืดนั้นยังมีนักรบนระดับเก้าดวงดาวอีดหลายคนก็กำลังเฝ้าสังเกตการต่อสู้ด้วยเช่นกัน "
ชูโจวผสานสัมผัสทางจิตวิญญาณกับกฏเเห่งอวกาศ ซึ่งมันทำให้เขาสามารถสัมผัสได้ว่ามีอย่างน้อยห้าสิบนักรบระดับเก้าดวงดาวที่อยู่รอบ ๆ
แต่ดูเหมือนว่านักรบระดับเก้าดวงดาวพวกนี้ดูจะไม่ต้องการที่จะเข้ารวมการต่อสู้ครั้งนี้
ทันใดนั้นชูโจวก็นึกขึ้นมาได้ว่าในเมืองเบต้านั้นยังมีมหาอำนาจอย่าง, บริษัทจักรวาลเสมือน และหอการค้าหมื่นเผ่าพันธุ์อยู่
ด้วยพลังของสองมหาอำนาจนี้….การที่จะมีนักรบระดับเก้าดวงดาวมากมายเพื่อเตรียมพร้อมในสาขาของเมืองเบต้าย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
และในตอนนี้ที่คฤหาสน์เจ้าเมืองกำลังตกอยู่ภายใต้การโจมตี….นักรบจากบริษัทจักรวาลเสมือน และหอการค้าหมื่นเผ่าพันธุ์ก็ไม่ได้ออกมาร่วมการต่อสู้”
สิ่งนี่, แสดงให้เห็นว่าทั้งสองบริษัทไม่ได้ต้องการที่จะเข้าร่วมในเกมส์ “การเมือง” ของจักรวรรดิกาแลกติก
"การต่อสู้นี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราเลย….แต่พวกนี้ดันลากเราเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย!"
"งั้นก็อย่ามาว่าฉันเสียมารยาทก็แล้วกัน"
"งั้นฉันจะเริ่มต้นด้วยการเก็บดอกเบี้ยก่อนก็แล้วกัน!" ชูโจวพึมพำคนเดียวก่อนที่จะวางมือลงที่พื้น
ในช่วงเวลาสั้น ๆ คลื่นพลังอวกาศที่ยากจะสัมผัสได้…ก็โผล่ออกมาจากใต้ดินบริเวณรอบๆคฤหาสน์เจ้าเมือง
ร่างของกลุ่มโจรสลัดอวกาศที่ตายลง และกองอยู่ที่พื้นค่อยๆถูก 'ดูด' ลงไปยังใต้ดินและหายไปโดยที่ทั้งสองฝ่ายไม่ทันได้สังเกต
นอกจากนี้, ที่พื้นยังมีโจรสลัดอวกาศบางคนที่ได้รับบาดเจ็บแต่ยังไม่ตาย…..เเต่โจรสลัดอวกาศพวกนี้ด็โดน 'ดูด' ลงไปใต้ดินเช่นกัน
"คะเเนนคุณสมบัติ + 100 ล้าน!"
"คะเเนนคุณสมบัติ + 1000 ล้าน!"
"คะเเนนคุณสมบัติ + 100 ล้าน!"
…
ชูโจวซ่อนอยู่ในมุมมืดและเก็บคะเเนนคุณสมบัติอย่างเงียบๆ
และมันไม่ได้มีแค่เพียงคะเเนนคุณสมบัติเท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นแหวนมิติ คอมพิวเตอร์โฟตอน ชุดเกราะพลังงาน อาวุธพลังงาน และสัมบัติอื่นๆ ก็ล้วนถูกเขาปล้นเช่นกัน
ความรู้สึกที่ได้อะไรมาฟรีๆ….โดยไม่ต้องเสียเเรงอะไรนี่มันดีจริงๆ
……..
บนท้องฟ้า
หลังจากที่นิกริชและอัลเมอร์สสู้กันได้ครู่นึง นิกริชตะโกนขึ้นใส่หลังคาของตึกใกล้เคียง
"มาสเตอร์บรุ๊คช่วยฉันด้วย!"
หลังจากที่นิกริชตะโกนขึ้น ชายตาเดียวและมีสี่แขน, ถืออาวุธคล้ายเคียวสีแดงเลือดก็โผล่ขึ้นมาจากหลังคาตึกดังกล่าว
"ตูม!"
ชายตาเดียวบินขึ้นมาหยุดที่ฟ้าเหนือคฤหาสน์เจ้าเมืองในช่วงพริบตาพร้อมกับปล่อยแรงกดดันมหาศาลแก่คนอื่นๆ
เหล่าสตาร์การ์ด และกลุ่มโจรสลัดอวกาศที่กำลังสู้กันต่างกระอักเลือดออกมาหลังจากเจอแรงกดดันดังกล่าว
"ไม่ดีแล้วนี่มันนักรบระดับปรมาจารย์อาณาเขต!"
สีหน้าของสตาร์การ์ดเปลี่ยนไปในทันที
ในทางตรงข้ามกลุ่มโจรสลัดอวกาศก็แสดงสีหน้าที่มีความสุขขึ้นแทน
"ไม่แปลกเลยที่นิกริชกล้าที่จะกลับมาแย่งตำแหน่งเจ้าเมืองจากอัลเมอร์ส….นั่นเพราะว่าเขาจะมีนักรบระดับปรมาจารย์อาณาเขตมาร่วมด้วย"
นักรับระดับเก้าดวงดาวที่เฝ้าสังเกตอยู่รอบต่างตกตะลึงไปตามๆกัน
หากระดับความว่างเปล่านับว่าเป็นคนปกติในอารธรรมต่างๆ และระดับดวงดาวนับว่าเป็นคนระดับสูงของสังคมเเล้วล่ะก็
ระดับปรมาจารย์อาณาเขตก็นับได้ว่าเป็นระดับสูงสุดของสังคม
และมันไม่ง่ายเลยที่จะทำอะไรให้นักรบระดับปรมาจารย์อาณาเขตรู้สึกพอใจได้
เพราะหากพูดกันแล้ว….ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทรัพย์สิน เส้นสาย เทคนิคลับ หรือทรัพยากรฝึกตน, นักรบระดับปรมาจารย์อาณาเขตนั้นเหนือกว่านักรบระดับดวงดาวในทุกๆด้าน
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง….นักรบระดับปรมาจารย์อาณาเขตย่อมดูถูกสิ่งของที่นักรบระดับดวงดาวครอบครอง
เพราะอย่างนั้น, การเชิญนักรบระดับปรมาจารย์อาณาเขตมาช่วยสู้นั้นยากยิ่งกว่าการปีนบันไดสวรรค์เสียอีก
ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ว่า ราคาแบบไหนกันที่นิกริชต้องจ่ายในการเชิญนักรบระดับปรมาจารย์อาณาเขตมาช่วยสู้เช่นนี้
"เเม้เเต่นักรบระดับปรมาจารย์อาณาเขตก็มางั้นหรอ!"
เมื่อเห็นร่างของนักรบระดับปรมาจารย์อาณาเขต, สีหน้าของชูโจวก็เปลี่ยนเป็นมืดมน
เเละทันใดนั้น, เขาก็ค่อยๆหยุดการเก็บกวาดซากศพลง
…………