1387 - รับสมบัติบรรพชนกลับคืน
1387 - รับสมบัติบรรพชนกลับคืน
ร่างกายของเย่ฟ่านมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับปราชญ์โบราณเขาสามารถทนต่อพลังอันศักดิ์สิทธิ์สูงสุดได้ และทำให้เขาไม่เกรงกลัวหอกลองกิสนุส
ทั้งสองต่อสู้กันบนท้องฟ้าหลายพันกระบวนท่า หมัดหกสังสารวัฎของเย่ฟ่านบดขยี้ร่างกายที่แตกละเอียดของพระสันตะปาปาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สุดท้ายพระสันตะปาปาได้ละทิ้งร่างกายของตัวเองและใช้เพียงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ควบคุมหอกลองกินุสโจมตีเย่ฟ่านโดยไม่สนใจความเป็นความตายอีกต่อไป
ในขณะเดียวกันเขาก็เปิดใช้งานค่ายกลสังหารซึ่งจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งดินแดนตะวันตกเป็นผู้ทิ้งไว้ โดยตั้งใจจะทำลายเย่ฟ่านและตัวเขาเองไปพร้อมกัน
“เจ้าแข็งแกร่งจริงๆ บางทีในรอบหลายร้อยปีที่ผ่านมาเจ้าอาจเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดก็ได้ อย่างไรก็ตามเจ้าคิดว่าตัวเจ้าจะหลบหนีจากค่ายกลของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้หรือ?”
คำพูดที่ไม่แยแสของพระสันตะปาปาดังก้องไปทั่วท้องฟ้า เย่ฟ่านร่างกายสั่นสะท้านพร้อมกับใช้ทักษะซิงจื่อหลบหนีแสงสีแดงเข้มที่ยิงลงมาจากด้านบน!
เย่ฟ่านมีทักษะซิงจื่อดังนั้นการเคลื่อนไหวของเขาจึงรวดเร็วอย่างยิ่ง แต่การโจมตีจากค่ายกลจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ไม่มีความเมตตาแม้แต่น้อย มันปลดปล่อยแสงสังหารไล่ล่าเย่ฟ่านอย่างบ้าคลั่ง
“เจ้ากับข้ามาลงนรกด้วยกัน!”
พระสันตะปาปาร่ายคาถาอย่างเงียบๆ จากนั้นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็คว้าหอกลองกินุสทิ่มแทงเข้าหาเย่ฟ่านโดยใช้พลังจากการเผาผลาญวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองโดยไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย
“ปัง!”
เย่ฟ่านเรียกใช้หมัดหกสังสารวัฏด้วยพลังทั้งหมดที่มี ทันใดนั้นประตูสีดำสนิทหกบานได้เปิดขึ้นกลางท้องฟ้า พลังแห่งความโกลาหลจากมิติอื่นหลั่งไหลเข้าสู่โลกพร้อมกับขัดขวางการโจมตีของค่ายกลจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่
ในเวลาเดียวกันมือทั้งสองข้างเย่ฟ่านก็ซัดลูกเกาทัณฑ์สีดำสนิทสองดอกให้พุ่งเข้าหาพระสันตะปาปาด้วยพลังอันแข็งแกร่งไม่แตกต่างจากอุกกาบาตที่พุ่งเข้าชนโลก
โครม!
ในระยไกลวิญญาณของพระสันตะปาปาตกลงไปที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับหอกลองกินุส เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั้งสวรรค์พิภพม่านพลังที่ห่อหุ้มโลกใบเล็กนี้พังทลายลงทันที
เย่ฟ่านไม่มีความเมตตาแต่อย่างใด เขาไม่รอดูว่าพระสันตะปาปาจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ในตอนนี้หมัดหกสังสารวัฏของเขาทุบลงไปที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นต้นกำเนิดพลังของค่ายกลจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อย่างต่อเนื่อง!
บูม บู บูม!
เย่ฟ่านเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งอย่างถึงที่สุด ทุกกำปั้นของเขาจะทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง พลังของเขาไม่มีใครเทียบได้ และผู้คนที่อยู่ห่างไกลก็มีสีหน้าซีดเผือดไร้สีเลือดไปแล้ว!
หลังจากโจมตีออกไปกว่าร้อยหมัดและไม่มีร่องรอยพลังชีวิตของพระสันตะปาปา เย่ฟ่านจึงหยุดความเคลื่อนไหว สายตาของเขากวาดไปรอบๆ และเห็นเพียงชุดเกราะสีทองแตกหักรวมทั้งหอกลองกินุสซึ่งเต็มไปด้วยรอยแตกร้าวถูกทิ้งไว้บนพื้น
เย่ฟ่านหยิบอาวุธศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองขึ้นมา จากนั้นเขาก็เคลื่อนตัวผ่านความว่างเปล่ากลับไปยังโลกใบเล็กอีกแห่งซึ่งพระสันตะปาปาเคยแยกออกจากสนามรบ
ในขณะนี้สีหน้าของนักรบจากดินแดนตะวันตกบิดเบี้ยวอย่างยิ่ง ภายในเวลาไม่กี่วันผู้ยิ่งใหญ่แห่งนครศักดิ์สิทธิ์เยรูซาเลมและวาติกันถูกกวาดล้างจนสิ้นซาก
ไม่ว่าจะผ่านไปหลายปีเพียงใดสุดท้ายเหตุการณ์นี้จะยังคงถูกเล่าขานไปตราบนานเท่านาน
ในขณะนี้เย่ฟ่านนั่งสมาธิอยู่บนพื้น หม้อปราณปฐพีต้นกำเนิดปลดปล่อยพลังปราณที่แข็งแกร่งพร้อมกับเปลวไฟเก้าสีให้โอบล้อมร่างกายเขาเย่ฟ่านอย่างแน่นหนา
การต่อสู้เมื่อครู่นี้ทำให้เย่ฟ่านได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาจำเป็นต้องใช้เวลาหลายวันในการฟื้นฟูความแข็งแกร่งให้กลับสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง
ผู้ศรัทธาหลายคนที่ตามเขามาจากเยรูซาเลมขอร้องด้วยความตื่นเต้น เสียงของพวกเขาดังก้องไปทั่วท้องฟ้า คลื่นพลังเสียงอันกว้างใหญ่สั่นสะเทือนทั้งสวรรค์พิภพ
ตอนนี้นักรบจากดินแดนตะวันตกสีหน้าบิดเบี้ยวมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาไม่กล้าหลบหนีออกจากที่นี่ ในขณะเดียวกันก็ไม่มีความกล้าที่จะลงมือต่อเย่ฟ่าน
ดังนั้นผู้คนจำนวนมากจึงได้แต่รอคอยให้เย่ฟ่านตื่นขึ้นเพื่อดูว่าเขาจะพิจารณาอย่างไรต่อไป
ในระหว่างนี้ตระกูลโบราณจากดินแดนตะวันตกต่างทราบเรื่องที่เกิดขึ้นในวาติกันแล้ว พวกเขารีบรวบรวมสมบัติบรรพชนแห่งดินแดนตะวันออกและให้ผู้คนนำมามอบให้กับเย่ฟ่านด้วยความหวาดกลัว
นักรบจากดินแดนตะวันตกเต็มไปด้วยความหดหู่ใจ พวกเขารอคอยเย่ฟ่านอย่าเงียบๆ เป็นเวลาหลายวันโดยไม่กล้าหลบหนีออกจากสนามรบด้วยซ้ำ
ปีศาจแห่งภาคกลางคนนี้เดินทางมายังดินแดนตะวันตกก่อนจะลงมือสังหารเทพผู้ยิ่งใหญ่ทุกคนด้วยตัวคนเดียว พลังที่เขาแสดงออกมานั้นไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนทั่วไปจะจินตนาการได้
เราจะทำอย่างไรต่อไป?
ผลที่เลวร้ายที่สุดอาจถึงขั้นถอนการขุดรากถอนโคนวาติกันพร้อมทั้งสังหารผู้บ่มเพาะจากดินแดนตะวันตกทั้งหมด และด้วยพลังที่เย่ฟ่านแสดงออกมาดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องยากอะไร
เมื่อนักพรตจากฝั่งตะวันออกได้ยินข่าวเรื่องนี้ทุกคนต่างก็ตกตะลึง แม้กระทั่งนักบวชแห่งพุทธศาสนาเองก็เช่นกัน หากไม่ใช่ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงทั้งยังมีพยานมากมายพวกเขาคงไม่สามารถทำใจยอมรับได้
ตอนนี้โลกกำลังเดือดพล่าน สายตาของโลกแห่งการบ่มเพาะทั้งหมดจับจ้องไปที่วาติกัน
ปีศาจแห่งภาคกลางปรากฏตัวแล้ว!
ใครๆ ก็พูดถึงเรื่องนี้ ตอนที่ปีศาจกำลังเดินทางไปยังตะวันตก มันทำให้ทุกคนต้องตกใจเล็กน้อย อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่เชื่อว่าเย่ฟ่านเพียงคนเดียวจะโค่นล้มนครศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองได้
แต่ในปัจจุบันสถานการณ์ดำเนินไปถึงจุดที่พวกเขาไม่สามารถทำความเข้าใจได้อีกแล้ว เย่ฟ่านทำลายนครศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองพร้อมทั้งสังหารเทพไปถึงสี่คน
เมื่อทุกอย่างจบลงเย่ฟ่านก็เดินเข้าไปในวิหารศักดิ์สิทธิ์พร้อมทั้งนั่งอยู่บนบัลลังก์ของพระสันตะปาปา
วิหารนี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตกแต่งด้วยคานไม้และรูปแกะสลักภายในวิหารก็มีความงดงามและอลังการอย่างมาก ทุกพื้นที่สว่างไสวไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ ที่สำคัญที่สุดคือมีสมบัติล้ำค่าหายากทั่วทุกมุมโลกถูกนำมารวมกัน
เย่ฟ่านไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้ เขาเดินเข้าไปยังส่วนลึกของวิหารเผชิญกับฝุ่นและสิ่งสกปกรก เขาสัมผัสได้ถึงสมบัติของบรรพชนแห่งภาคกลางดังนั้นเขาจึงเดินเข้าไปหาพวกมันทันที
ภายในห้องโถงเก็บสมบัตินี้มีแท่นหินที่ทำจากโคลนสีเหลืองรูปร่างแปลกประหลาดดูเก่าแก่และโบราณอย่างยิ่ง นี่คือแท่นหินหนี่วา ลวดลายที่แกะสลักบนแท่นหินเป็นตัวงูซึ่งมีร่างกายท่อนบนเป็นมนุษย์
ภายในห้องนี้มีสมบัติจากประเทศจีนมากมาย สมบัติหลายชิ้นถูกนำมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อหลายร้อยปีก่อน ขณะที่บางชิ้นก็ถูกนำมาที่นี่ไม่กี่ปี
ที่สำคัญที่สุดดูเหมือนจะมีคัมภีร์โบราณเล่มหนึ่ง ซึ่งแผ่กลิ่นอายแห่งความเป็นอมตะออกมาอย่างไม่รู้จบ นี่คือคัมภีร์โบราณที่ถูกสร้างขึ้นจากหินซึ่งถูกเก็บไว้ในสถานที่แห่งนี้มานานกว่ายี่สิบปีแล้ว
เย่ฟ่านมองดูคัมภีร์โบราณอย่างระมัดระวังและมีความประทับใจต่อคัมภีร์เล่มนี้อย่างมาก ที่ปกครองคัมภีร์มีตราประทับรูปวิหคโบราณ แกะสลักอยู่
นี่คือคัมภีร์เต๋าสวรรค์ซึ่งร่ำลือว่าเป็นบรรพชนเต๋าเขียนขึ้น คัมภีร์เล่มนี้มีความเกี่ยวข้องกับภูเขามังกรเก้าสิบเก้าลูกเป็นอย่างมาก นี่คือสิ่งที่เย่ฟ่านตามหามานาน
เมื่อเปิดคัมภีร์ออกและศึกษาอย่างระมัดระวังเย่ฟ่านก็มองเห็นชิ้นส่วนหยกซึ่งเป็นแผนที่ของภูเขาคุนหลุน มันมีจุดสีแดงซึ่งทำหมดไม้ไว้อย่างชัดเจนพร้อมกับมีอักษรกำกับว่าสุสานผู้อมตะ!
อย่างไรก็ตามต่อให้รวมแผ่นหยกทั้งหมดเข้าด้วยกันก็ดูเหมือนจะมีเพียงห้าภาพเท่านั้น หากเย่ฟ่านต้องการค้นหาหลุมฝังศพนั้นจริงๆ เขาจะต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก
ถึงอย่างนั้นหัวใจของเย่ฟ่านก็ยังสั่นระรัว เขาไม่คิดเลยว่าจะค้นพบสมบัติอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ เมื่อเขากลับไปที่ประเทศจีนเขาจะหาแผ่นหยกทั้งเก้ามาเรียงต่อกันและค้นหาเส้นทางที่ถูกต้องให้เจอ
เยฟ่านเก็บสมบัติของบรรพชนรวมทั้งแท่นบูชาหนี่วากลับมา จิตวิญญาณของเย่ฟ่านกวาดไปทั่ววิหารศักดิ์สิทธิ์
ที่นี่ไม่เพียงเก็บสมบัติบรรพชนของประเทศจีนไว้เท่านั้น แต่ยังมีสมบัติจากปราชญ์โบราณของดินแดนตะวันตกมากมายนับไม่ถ้วน ที่สำคัญที่สุดคือกระดูกเต๋าชิ้นหนึ่ง!
“อีกมุมหนึ่งของแผนที่!”
เย่ฟ่านอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา มิน่าจึงไม่มีผู้ใดรวบรวมแผ่นหยกซึ่งแกะสลักแผนที่ได้ครบเก้าชิ้นสักที สาเหตุก็เพราะแผ่นหยกที่เก้านั้นไม่เคยมีอยู่ตั้งแต่แรก และแผนที่ในส่วนที่ขาดหายไปส่วนนหึ่งได้ถูกแกะสลักไว้บนกระดูกเสาหน้าผากชิ้นนี้นี่เอง
………