ตอนที่ 8 คำเชิญของหลิวหนิงซวง
ตอนที่ 8 คำเชิญของหลิวหนิงซวง
เมื่อเวลาผ่านไป การบรรยายของหลิวหนิงซวงก็ค่อยๆหยุดลง
ยอดเขาไป่หยางเองก็เงียบสงบมาก และเหล่าศิษย์ยังคงจมอยู่กับคำบรรยายที่หลิวหนิงซวงบอกและไม่ได้สติอีกเป็นเวลานาน
หลิวหนิงซวงเองก็ไม่ได้สนใจ ทำแค่มองดูเหล่าศิษย์บนแท่นอย่างใจเย็นด้วยสายตาอันเย็นชา ไม่นานหลังจากนั้นเหล่าศิษย์ก็ค่อยๆ ฟื้นตัวพร้อมกับความประหลาดใจในสายตาของพวกเขาราวกับว่าพวกเขาก้าวหน้าไปมากมาย
ในขณะที่เหล่าศิษย์นั้นตื่นขึ้นมาทีละคน ลู่อี้ก็กลับมามีสติอีกครั้งและเขาก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเช่นกัน โดยรู้สึกว่าความเข้าใจพื้นฐานของการฝึกฝนเพิ่มขึ้นมาก
เมื่อเห็นว่าทุกคนกลับมามีสติแล้ว หลิวหนิงซวงก็พูดขึ้นอีกครั้ง "นั่นคือทั้งหมดสำหรับพื้นฐานของการฝึกฝน หลังจากที่กลับไปแล้ว ศิษย์น้องทั้งหลายควรย่อยมันให้ดี ต่อไป ข้าจะพูดถึงพื้นฐานของวิชา ศิษย์น้องทุกคนอยู่ระดับรวมปราณ ดังนั้นวันนี้ข้าจะอธิบายวิชาที่สำคัญที่สุดของนิกายเมฆาขาว วิชาดาบเมฆาขาว"
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของผู้คนบนแท่นก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย และหลายคนก็หันหน้ามองไปทางของลู่อี้ที่อยู่ระดับรวมปราณขั้นที่ 6 แต่เขาก็ได้ฝึกฝนวิชาดาบเมฆาขาวจนถึงขอบเขตหวนคืนไปแล้ว
ลู่อี้ที่กำลังนั่งอยู่นั้นไม่ได้สนใจพวกเขามากนัก แต่ศิษย์วงนอกเกือบทุกคนก็มองมาที่เขา แต่แม้แต่ศิษย์บางคนที่อยู่วงในก็มองไปยังลู่อี้ด้วย ซึ่งทำให้ หลิวหนิงซวงมองตามไปด้วยความสงสัย
หลิวหนิงซวง เห็นว่าศิษย์ที่ทุกคนจ้องมองนั้นเป็นผู้ฝึกฝนที่มีระดับรวมปราณขั้นที่ 6 และการที่สามารถมาที่แท่นโดยที่มีระดับรวมปราณขั้นที่ 6 ได้นั้นก็หมายความว่าเขามีพรสวรรค์ไม่ได้แย่ แต่นี่คงไม่ใช่เหตุผลที่ว่าทำไมคนจำนวนมากถึงให้ความสนใจ
หลิวหนิงซวงรู้สึกสับสนเล็กน้อยและถามว่า "มีอะไรหรือ"
ศิษย์สาวสวยที่อยู่ตรงหน้ากล่าวว่า "ศิษย์พี่หลิว น้องชายลู่อี้ที่หล่อเหลาตรงนั้น วิชาดาบเมฆาขาวของเขาได้รับการฝึกฝนจนถึงระดับหวนคืนแล้ว"
ลูกศิษย์ที่อยู่ข้างๆเธอ "..."
จะพูดว่าหล่อไปทำไมฟระ
เมื่อหลิวหนิงซวงได้ยินสิ่งนี้ ในสายตาของเธอก็ปรากฏความประหลาดใจ และเธอก็มองไปที่ลู่อี้อย่างจริงจัง อืม...เขาก็ค่อนข้างหล่อจริงๆ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เธอกล่าวชม "ระดับรวมปราณขั้นที่ 6 สามารถฝึกฝนไปถึงขอบเขตหวนคืนได้...พรสวรรค์ของเจ้าดีมาก”
เดิมทีลู่อี้กังวลอยู่ว่าจะติดต่อกับศิษย์พี่หลิวหนิงซวงได้อย่างไร ท้ายที่สุด เขาก็ยังมีภารกิจที่จะทำให้หลิวหนิงซวงตกหลุมรักเขา แต่เขาก็ไม่คาดคิดว่าจะมีโอกาสมาหาเขาแบบนี้เลย?
อีกอย่างศิษย์พี่หญิงคนนั้นก็ตาถึงจริงๆ! ลู่อี้คิดอย่างมีความสุข
ลู่อี้ยิ้มและพูดว่า "ขอบคุณขอรับ"
หลิวหนิงซวงคิดอะไรบางอย่างได้และถามว่า "ในเมื่อศิษย์น้องลู่อี้ได้ฝึกฝนวิชาดาบเมฆาขาวมาถึงขอบเขตหวนคืนแล้ว ทำไมเจ้าไม่ขึ้นมาสาธิตให้ทุกคนดูหน่อยล่ะ?"
ลู่อี้ผงะไปด้วยความรู้สึกแปลกๆ นี่ไม่ใช่สถานะผู้ช่วยสอนของอาจารย์ในมหาลัยหรอกเหรอ? เขาไม่เคยทำงานเป็นผู้ช่วยสอนตอนที่เขาเรียนมหาลัยเลย แต่เขาก็คาดไม่ถึงว่าจะได้เป็นผู้ช่วยสอนหลังจากมาเกิดใหม่?
"แน่นอน" ลู่อี้ไม่ปฏิเสธ หากนี่เป็นเกมจีบสาว เหตุการณ์ไม่คาดคิดแบบนี้สามารถเพิ่มความชื่นชอบของนางเอกได้ เพราะงั้นเขาไม่เหตุผลที่ต้องปฏิเสธ
อ้อ อีกอย่างเขายังออกภารกิจได้อีกด้วยนะ
ลู่อี้พูดกับตัวเอง "ข้าต้องการสาธิตวิชาดาบเมฆาขาวให้เหล่าศิษย์บนแท่น"
[ภารกิจ] : สาธิตวิชาดาบเมฆาขาวให้ศิษย์ฝ่ายนอก
รางวัล : วิชาดาบเมฆาขาว ระดับ +1
ยอมรับ : ใช่ / ไม่
ลู่อี้รู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นรางวัล เพราะยิ่งระดับของวิชาดาบเมฆาขาวสูงขึ้นเรื่อยๆ เขาก็จำเป็นต้องฝึกฝนมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มระดับของวิชาดาบ ซึ่งวิชาดาบเมฆาขาวของเขามาถึงเลเวล 6 ได้ 4 วันแล้ว และเขาก็ยังไม่รู้สึกถึงความก้าวหน้าใดๆ และเขาอาจจะต้องฝึกอีกอย่างน้อยสามหรือสี่วัน แต่เขาก็คาดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถพัฒนาได้โดยตรงเพียงแค่สาธิตวิชาดาบเท่านั้น
นี่มันโคตรเจ๋งไปเลย!
ลู่อี้เดินขึ้นไปบนแท่นอย่างร่าเริงและยืนอยู่ข้างหลิวหนิงซวง เขาได้กลิ่นหอมจางๆ ซึ่งอาจมาจากหลิวหนิงซวง
หลิวหนิงซวงยืนอยู่ข้างๆ พูดอย่างเย็นชา "ศิษย์น้อง เจ้าพร้อมหรือยัง?"
"ขอรับ"
"ถ้าอย่างนั้นมาเริ่มกันเลย" ในขณะที่พูด ดาบธรรมดาก็ปรากฏขึ้นในมือของหลิวหนิงซวงและออร่าของหลิวหนิงซวงก็คมขึ้นเล็กน้อยเมื่อเธอจับดาบ
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ลู่อี้ก็เหลือบมองแหวนสีขาวบนนิ้วเรียวของหลิวหนิงซวง และรู้สึกอิจฉาในใจ แหวนมิติ...เขาก็อยากได้มันเหมือนกัน
แต่สิ่งนี้ยังคงมีค่าค่อนข้างมาก แหวนมิติที่แย่ที่สุดนั้นมีราคาแพงกว่าสิ่งประดิษฐ์ระดับต่ำทั่วไปซะอีก ซึ่งเขาไม่สามารถจ่ายได้
หลังจากที่พ่อแม่ของเขาซื้อดาบสิ่งประดิษฐ์ระดับต่ำให้เขา พวกเขาไม่ได้ซื้อแหวนมิติมิติให้เขาด้วย เนื่องจากมันแพงเกินไป
ลู่เกาหยางยังบอกเขาด้วยว่าหากเขาสามารถเข้าสู่นิกายฝ่ายในได้ นิกายจะให้แหวนมิติแก่เขา
“คงจะดีถ้าได้รางวัลเป็นแหวนมิติสักครั้ง” ลู่อี้คิดกับตัวเอง
เขาชักดาบออกมา มองไปที่หลิวหนิงซวงแล้วพูดว่า "ศิษย์พี่ โปรดชี้แนะข้าด้วย"
หลิวหนิงซวงพยักหน้า "มาเริ่มกันเลย"
ลู่อี้หายใจเข้าพร้อมกับไหลเวียนปราณไปที่ดาบ จากนั้นเมฆสีขาวจำนวนหนึ่งก็โผล่ออกมาจากดาบ ก่อนที่เขาจะพุ่งเข้าหาหลิวหนิงซวง
เมื่อเธอได้เห็นเมฆสีขาวบนดาบของลู่อี้ หลิวหนิงซวงก็พยักหน้าอย่างลับๆ จากนั้นเมฆสีขาวก็ปรากฏบนดาบของเธอ ซึ่งเป็นวิชาดาบเมฆาขาวขอบเขตหวนคืนด้วย
ในฐานะอัจฉริยะ ความเข้าใจของหลิวหนิงซวงนั้นไม่ธรรมดา และเธอก็เชี่ยวชาญมากกว่าหนึ่งหรือสองวิชาในขอบเขตหวนคืนด้วย
ดาบของทั้งสองปะทะกันจนเกิดเสียงของเหล็กปะทะกัน และเมฆกับอากาศรอบๆก็ปะทะกันและกระจายออกไปจนแท่นประลองเต็มไปด้วยเมฆ
ศิษย์ที่อยู่ด้านล่างรู้สึกได้ถึงเจตนาดาบอันแหลมคมที่ไหลเวียนระหว่างพวกเขาทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดจ้องมองพลางกลั้นหายใจและดูอย่างเงียบๆ
บนเวที ลู่อี้และหลิวหนิงซวงต่างก็เผชิญหน้ากัน มองหน้ากันและเปลี่ยนการเคลื่อนไหวในเวลาเดียวกัน
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง! !
จุดประสงค์ของทั้งสองคือการสาธิตวิชาดาบเมฆาขาว ไม่ใช่เพื่อเรียนรู้จากกันและกันในการต่อสู้ ดังนั้นทุกการเคลื่อนไหว พวกเขาจะแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน และแก่นแท้อันบริสุทธิ์ของวิชาดาบเมฆาขาวก็แสดงออกมาอย่างเต็มที่
คนสองคนเผชิญหน้ากันด้วยดาบของกันและกันดูเหมือนจะมีความเข้าใจกันที่อธิบายไม่ได้ ซึ่งทำให้เหล่าศิษย์ด้านล่างหมกมุ่นอยู่กับมันโดยไม่กระพริบตา ทั่วทั้งแท่น ไม่มีเสียงอื่นใดนอกจากเสียงการปะทะกัน
ในเวลานี้ หลิวหนิงซวงก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอและอธิบายอย่างช้าๆ "วิชาดาบเมฆาขาวใช้หลักการเมฆาขาว โดยเน้นไปที่ความรู้สึกที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย และความหมายของวิชานั้นไม่ใช่ที่รูปร่าง เช่นเดียวกับผู้ฝึกฝนที่เน้นย้ำไปถึงแก่นแท้ ขอให้ทุกคนมองไปที่แก่นแท้ของวิชาดาบเมฆาขาวนี้…”
ในระหว่างการแลกเปลี่ยนวิชาดาบของทั้งสอง พวกเขาก็ได้แสดงแก่นแท้ของวิชาดาบเมฆาขาวออกมาอย่างสมบูรณ์ ซึ่งทำให้ศิษย์หลายคนได้รับประโยชน์มากมายและศิษย์หลายคนก็แสดงความประหลาดใจ
“ปรากฎว่าข้าเข้าใจผิดมาโดยตลอด”
"เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว! ฮ่าๆๆๆ!"
“นี่คือวิชาดาบเมฆาขาวขอบเขตหวนคืนงั้นหรือ? มันน่ากลัวมาก!”
“ไม่นะ แม้ว่าศิษย์พี่หญิงจะอธิบายไว้ แต่การจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตวิชาดาบที่เหนือกว่าความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ยังคงเหมือนกับการมองดอกไม้ในสายหมอก ศิษย์น้องลู่อี้ฝึกฝนวิชาดาบเมฆาขาวถึงขอบเขตหวนคืนได้อย่างไรกัน!”
"..."
ส่วนบนแท่นนั้น ลู่อี้ถอนหายใจในใจ ศิษย์พี่หลิวหนิงซวงสมกับเป็นบุตรแห่งสวรรค์จริงๆ เธอมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับแก่นแท้ของวิชา
ในความเป็นจริง หลังจากที่ลู่อี้ยกระดับทักษะบ่มเพาะและวิชาทั้งสองถึงระดับ 6 เขาก็มีความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับแก่นแท้ของวิชาด้วย
หลังจากที่พวกเขาแสดงวิชาดาบเมฆาขาวจบไปชุดหนึ่งแล้ว หลิวหนิงซวงและลู่อี้ก็ถอนดาบของพวกเขาออกพร้อมกันด้วยความเข้าใจ ลมจากภูเขาพัดผ่านเส้นผมของหลิวหนิงซวงเบาๆ และเป็นครั้งแรกที่มีรอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ ซึ่งมันสวยงามมาก
“วิชาดาบเมฆาขาวของศิษย์น้องลู่นั้นละเอียดอ่อนมากและมีความเข้าใจที่ยอดเยี่ยม หากเจ้าเข้าสู่นิกายฝ่ายในเมื่อไหร่ เจ้าสามารถลองมาเข้าร่วมการประเมินของยอดเขาหลิงลั่วและเข้าร่วมยอดเขาหลิงลั่วได้”