1384 - หักหาญพระสันตะปาปา
1384 - หักหาญพระสันตะปาปา
ในอดีตเมื่อแสงศักดิ์สิทธิ์จากวาติกันถูกสังเวย คู่ต่อสู้ทั้งหมดจะกลายเป็นเพียงขี้เถ้า และไม่มีใครสามารถหยุดยั้งได้ ตอนนี้พลังศรัทธาของดินแดนตะวันตกทั้งหมดถูกระดม ไหลเข้ามาเรื่อยๆ น่ากลัวเกินไป
หัวใจของเย่ฟ่านยังชัดเจนแม้ว่าเขาต้องทรมานอย่างมาก แต่มันคือประโยชน์เพื่อการฝึกฝนร่างกายและจิตสำนึกผ่านการกดดันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ไม่ใช่ร่างกายของข้าที่ถูกแผดเผา แต่เป็นความร้อนรนและความไม่สงบนิ่งกำลังจะถูกทำลายลงอย่างช้าๆ ข้าจะต้องทำให้สำเร็จและมีชีวิตอยู่ตลอดไป”
เย่ฟ่านพูดกับตัวเอง ร่างกายของเขาค่อยๆฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ เจตจำนงแข็งแกร่งเหมือนกับเหล็กทำให้เขามีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่
นี่ไม่ใช่การเอาชนะหรือทำลายเต๋า แต่เป็นการทำความเข้าใจมันทำความเข้าใจเพื่อเอาชนะมันในอนาคต
ร่างกายของเย่ฟ่านลุกโชนราวกับทะเลเพลิง พลังศักดิ์สิทธิ์และพลังทางร่างกายของเขาถูกเผาผลาญออกไปอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันเขาก็พยายามฟื้นฟูร่างกายตัวเองอย่างต่อเนื่อง
สองชั่วยามต่อมา เย่ฟ่านหยิบลูกธนูสีดำและเมล็ดโพธิ์ออกมา เขาทำการขัดเกลาพวกมันจากแรงกดดันที่กระทำลงมาจากด้านบน
ย้อนกลับไปตอนที่เย่ฟ่านอยู่ในเป่ยโต้ว เขามอบสิ่งนี้ให้กับตงตงไปแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อเข้าสู่เขตเปลวไฟในภาคใต้อีกครั้งเย่ฟ่านจึงได้ยืมเมล็ดโพธิ์กลับมา
อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเขตเปลวไฟเขาได้ค้นพบว่าสมบัติชิ้นนี้มีสัญลักษณ์ของศากยมุนีติดอยู่ภายในด้วย หากเขาจะมอบให้กับศิษย์ตัวน้อยมันทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
ในตอนนี้เย่ฟ่านนำเมล็ดโพธิ์ออกมาและใช้แรงกดดันจากท้องฟ้าที่ถล่มลงมาจากเบื้องบนขัดเกลามันให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ในท้ายที่สุดเมล็ดโพธิ์ก็ถูกขัดเกลาจนกลายเป็นกระแสแสงสีทองเปล่งประกายเจิดจ้าราวกับดวงอาทิตย์ขนาดเล็ก
“บูม”
ทั่วทั้งร่างของเย่ฟ่านเปล่งประกายด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ประเมิณค่าไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีลูกธนูสีดำ คัมภีร์ลัทธิเต๋า และสมบัติชิ้นอื่นๆ ที่ถูกปลดปล่อยออกมาข้างนอกเพื่อขัดเกลาด้วยแรงกดดันจากเบื้องบนอย่างต่อเนื่อง
เย่ฟ่านมีสีหน้ายิ้มแย้ม พลังแห่งศรัทธาอันกว้างใหญ่และบริสุทธิ์ดังมหาสมุทรไม่สามารถทำลายเขาได้ เขาน้ำมันเข้าสู่ร่างกายและขัดเกลาทุกสิ่งทุกอย่างทำให้เขามีความรู้สึกราวกับได้เกิดใหม่อีกครั้ง
สุดท้ายเมื่อรู้สึกว่าไม่สามารถขัดเกลาร่างกายและสมบัติได้มากกว่านี้อีกแล้วเย่ฟ่านจึงผลักมือออกไปเบาๆ และทำให้แรงกดดันที่กระทำต่อร่างกายรวมทั้งวิญญาณของเขาสูญสลายออกไปทั้งหมด
คิ้วของเย่ฟ่านขมวดเล็กน้อย สุดท้ายเขาได้ผลักเมล็ดโพธิ์สีทองไปทางจางชิงหยาง เมล็ดโพธิ์ในมือของเขาเปล่งประกายด้วยความงามและความศักดิ์สิทธิ์
“ก่อนที่ข้าจะเข้าสู่เป่ยโต้วข้าใช้สมบัติชิ้นนี้ปกป้องตัวเอง เมื่อไปถึงโลกกันยิ่งใหญ่นั้นมันยังทำให้ข้ามีโอกาสได้รับสมบัติแห่งสวรรค์พิภพมากมายนะไม่ชวน”
จากนั้น เย่ฟ่านก็เตือนจางเซียวหยางด้วยคำพูดที่ลึกลับ เต๋าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เขาต้องเรียนรู้ เมล็ดโพธิ์เป็นเพียงวัตถุที่ช่วยให้เขาสามารถสัมผัสได้ถึงมันได้ดีกว่าคนอื่นเท่านั้น
ทุกคนในตะวันตกอยู่ในความตกตะลึง พลังอันศรัทธาอันกว้างใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ไม่มีที่สิ้นสุดทำลายเย่ฟ่านไม่ได้ พวกเขาควรทำอย่างไร?
นักรบแห่งวาติกันและผู้ศรัทธาคนอื่นๆ ตระหนักได้ดีว่าหลังจากที่พลังแห่งศรัทธาของพวกเขาถูกปัดเป่าออกไปหมดแล้วพวกเขาก็หมดสิ้นความคิดที่จะจัดการเย่ฟ่านอีกต่อไป
เย่ฟ่านขยับมือของเขา แสงศักดิ์สิทธิ์แผ่กระจายไปทั่วท้องฟ้า ปกคลุมทุกคนที่อยู่ตรงหน้าเขา หญิงสาวผู้งดงามกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว สุดท้ายนางก็ก้มศีรษะลงต่อหน้าเย่ฟ่าน
“ขอแสดงความเคารพต่อราชาสวรรค์”
ในเวลาต่อมาผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็คุกเข่าลงบนพื้นและแสดงความเคารพต่อเย่ฟ่านด้วยความหวาดกลัว
“ข้าไม่ได้ต่อสู้กับใครเลยสองพันปีแล้ว ดูเหมือนวันนี้จะต้องยืดเส้นยืดสายสักหน่อย”
พระสันตะปาปารำพึงกับตัวเองภายในดวงตาของเขาคล้ายกับมีดวงอาทิตย์สองดวงเปล่งประกายอยู่ภายใน
เย่ฟ่านก้าวขึ้นไปบนท้องฟ้าและ เผชิญหน้ากับพระสันตะปาปาที่นั่งอยู่บนบัลลังก์อย่างสงบ
ภูเขาศักดิ์สิทธิ์สลักด้วยเครื่องหมายแห่งกาลเวลาดูสง่างาม บนหน้าผามีกล้วยไม้ส่งกลิ่นหอมมากมาย วิหารที่งดงามมีเสียงร้องเพลงของเหล่าเทวทูตกลายเป็นทัศนียภาพที่ร่มรื่นอย่างมาก
พระสันตะปาปาและผู้อาวุโสกลุ่มหนึ่งยืนอยู่หน้าเทวสถานอย่างเคร่งขรึม ไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่แขวนอยู่เหนือศีรษะของพวกเขาด้วยความศักดิ์สิทธิ์และสง่างาม
“เราจำเป็นจะต้องต่อสู้นอกอาณาเขต ไม่เช่นนั้นคลื่นที่เกิดจากการปะทะกันของเราอาจทำลายล้างสถานที่แห่งนี้ได้เลย”
นักรบที่มีสถานสูงส่งให้คำแนะนำต่อพระสันตะปาปา เมื่อไปถึงอาณาจักรผู้สูงสุดแล้วการต่อสู้กันในโลกใบเล็กเช่นนี้มีโอกาสสูงมากที่พวกเขาจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง โดยเฉพาะชีวิตของผู้คนที่อยู่รอบๆ
“บูม”
พระสันตะปาปาชี้ไปที่ท้องฟ้าและพื้นดินจากนั้นโลกใบเล็กนี้ดูเหมือนจะแยกออกจากกันเป็นสองส่วน
ผู้คนต่างสั่นสะท้าน แม้ว่าพวกกเขาจะรู้ดีว่าพระสันตะปาปามีพลังที่หนือธรรมชาติและไม่มีผู้ใดเทียบได้เพียงใด แต่ความแข็งแกร่งที่ชายชราคนนี้แสดงออกมายังคงทำให้พวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอยู่ดี
เย่ฟ่าน พระสันตะปาปา และกลุ่มชายชราอีกหลายคนยืนอยู่ในฝั่งหนึ่งของโลกใบเล็กที่พังทลาย ดูเหมือนอีกฝ่ายจะต้องการใช้สถานที่แห่งนี้เป็นสนามรบ
ดินแดนอันว่างเปล่านั้นไร้ขอบเขต ไม่มีแม้แต่หญ้าสักต้นงอกขึ้นมา
พระสันตะปาปามีร่างกายที่เปล่งประกายด้วยความศักดิ์สิทธิ์อย่างที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้ เมื่อระยะห่างของโลกใบเล็กทั้งสองใบแยกออกจากกันพอสมควรแล้วพระสันตะปาปาก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าหันหลังให้กับพระเจ้า ความมืดมิดกัดกินจิตใจของเจ้าแล้ว และเจ้าต้องไถ่บาปด้วยเลือดของเจ้าเท่านั้น”
พระสันตะปาปามีน้ำเสียงหยิ่งผยองก่อนที่เขาจะชี้นิ้วไปที่เย่ฟ่านอีกครั้ง
“บูม”
แรงกดดันที่แข็งแกร่งพุ่งผ่านความว่างเปล่า มือขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น มันถูกควบแน่นด้วยพลังแห่งศรัทธาก่อนจะตบเข้าหาเย่ฟ่านทันที
ทุกคนต่างตกตะลึงกับพลังของพระสันตะปาปา ใครล่ะที่จะสามารถต้านทานการโจมตีของผู้นำจากดินแดนตะวันตกคนนี้ได้!
วิธีการโจมตีที่เกิดขึ้นมีประสิทธิภาพมาก หลายพันปีที่ผ่านมาพระสันตะปาปาคนนี้จัดการพวกนอกรีตมานับครั้งไม่ถ้วน แม้ว่าเย่ฟ่านจะค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่เขาไม่มีความหวั่นเกรงแม้แต่น้อย
เย่ฟ่านไม่ได้เลือกที่จะถอยกลับ เขากระแทกกับปั้นสีทองเข้าหาฝ่ามือของฝ่ายตรงข้ามอย่างตรงไปตรงมา
“ปัง”
พลังทั้งสองปะทะกันทำให้เกิดเสียงระเบิดเหมือนระฆังโบราณถูกเขย่า เสียงที่ดังกึกก้องทำให้ทุกคนที่อยู่ในโลกใบเล็กซึ่งอยู่ห่างไกลไปไม่มากนักรีบอุดหูด้วยความเจ็บปวด
เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้คนต่างตกใจ พระสันตะปาปาได้แยกโลกทั้งสองใบออกจากกันแล้ว แต่สุดท้ายพลังที่แข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายยังคงทำให้ผู้คนจำนวนมากได้รับผลกระทบอยู่ดี
“โซ่ศักดิ์สิทธิ์จงผูกมัดคนบาปคนนี้ และนำตัวเขาไปพิพากษา…” พระสันตะปาปาท่องคาถาโบราณ
ปัง!
เมฆสีดำสนิทปรากฏขึ้นกลางท้องฟ้า จากนั้นสวรรค์พิภพก็ส่งเสียงโครมครามพร้อมกับปลดปล่อยโซ่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีขนาดใหญ่โตราวกับมังกรร้ายสิบแปดเส้นพุ่งเข้าหาเย่ฟ่านอย่างรวดเร็ว
โซ่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้โอบล้อมด้วยสายฟ้าสีแดงฉาน มันเป็นทักษะเต๋าที่ทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ แม้แต่เย่ฟ่านก็ไม่เคยคิดว่าจะมีใครในโลกสามารถมีความสำเร็จเช่นนี้ได้
“ปัง”
แสงสีทองส่องประกายระหว่างคิ้วของเย่ฟ่าน กระบี่สวรรค์สีทองยาวประมาณหนึ่งนิ้วลอยออกมาข้างนอก จากนั้นมันก็ขยายใหญ่ขึ้นหลายพันวาก่อนจะฟาดฟันเข้าหาโซ่ศักดิ์สิทธิ์ด้วยความโหดร้าย
นี่คือทักษะการโจมตีที่ทรงพลังที่สุด และตอนนี้เย่ฟ่านได้คัดลอกกระบี่จักรพรรดิหยวนออกมาใช้เป็นทักษะของตัวเอง!
เย่ฟ่านได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากการต่อสู้ของเขากับหยวนกู่ เขาเลียนแบบทักษะที่ทรงพลังที่สุดของจักรพรรดิหยวน ช่วยแน่นอนว่ากระบี่เล่มนี้สามารถตัดทุกสิ่งทุกอย่างได้
………