บทที่ 68 "ตดของนางฟ้าช่างหอมนัก!"
ไป่เสี่ยวซีตัวแข็งค้างอยู่กับที่ มองขนมที่ถูกแย่งไป น้ำตาใสๆ ไหลวนอยู่ในเบ้าตา
หงเฉียนเย่ชั่งถุงอาหารสัตว์ในมือ รอยยิ้มบนริมฝีปากยิ่งกว้างขึ้น เมื่อเห็นท่าทางน้อยใจของไป่เสี่ยวซี ก็ดุว่า "ร้องไห้ทำไม? กลั้นไว้ซะ! แล้วเรื่องนี้ห้ามบอกอาจารย์นะ เข้าใจมั้ย?!"
หงเฉียนเย่มีพลังอำนาจน่าเกรงขาม ทำให้ไป่เสี่ยวซีหดคอด้วยความกลัว กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนแอ "เข้าใจค่ะ..."
"เจ้ายังอยู่ที่นี่ทำไม? รีบออกไปจากสายตาข้าซะ!" หงเฉียนเย่กล่าวอย่างหงุดหงิด
แค่เห็นหนูโง่ตัวนี้ก็โมโหแล้ว!
ไป่เสี่ยวซีกลั้นน้ำตาไว้แล้วหันหลังวิ่งหนีไป
พี่ชายแย่งขนมของหนูไป หนูเสียใจจัง!
หงเฉียนเย่เห็นร่างที่วิ่งหนีไปอย่างตื่นตระหนก ริมฝีปากของเขาเผยรอยยิ้มดูถูก
หนูตัวเล็ก เจ้าอยู่ในกำมือข้าแล้ว!
หงเฉียนเย่ก้มลงมองอาหารสัตว์ในมือ ดวงตาเป็นประกาย
ฮึๆ ต่อไปก็ถึงเวลาที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดไปสู่ระดับก้าวผ่านทัณฑ์สวรรค์แล้ว
หงเฉียนเย่กลัวว่าจะมีอะไรผิดพลาด จึงเทอาหารสัตว์ทั้งถุงลงไปในปากโดยไม่พูดอะไร
อืม กลิ่นนมเข้มข้น หอมหวานละมุนละลายในปาก อร่อยแปลกๆ ด้วย!
หลังจากกินเสร็จแล้ว คิ้วของหงเฉียนเย่ก็ขมวดเข้าหากัน ดวงตาฉายแววสงสัย
เกิดอะไรขึ้น?
ทำไมท้องถึงรู้สึกตึงๆ ล่ะ?
สิ่งที่หงเฉียนเย่ไม่รู้ก็คือ อาหารสัตว์นี้เป็นอาหารที่ทำขึ้นมาเพื่อสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ หากมนุษย์กินเข้าไป จะเกิดปฏิกิริยาต่อต้านในร่างกาย ไม่ได้ช่วยเพิ่มพลังแต่อย่างใด
ในขณะนั้น พลังงานบริสุทธิ์จำนวนมากก็กระจายไปทั่วท้องน้อยของหงเฉียนเย่อย่างบ้าคลั่ง
"ไม่ดีแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป..." สีหน้าของหงเฉียนเย่เปลี่ยนไปอย่างมาก กลัวจนเหงื่อเย็นไหลออกจากหน้าผาก
ถ้าปล่อยให้พลังงานนี้แผลงฤทธิ์ ร่างกายของเขาอาจจะพังได้!
ต้องหาทางแก้ไขโดยด่วน!
ความคิดหมุนเวียนไปมา
หงเฉียนเย่ก็ยืนกางขาอย่างเด็ดเดี่ยว นำพลังงานในท้องน้อยไปในทิศทางที่ถูกต้อง เดิมทีใบหน้าขาวซีดของเขาก็แดงก่ำเหมือนแอปเปิ้ล เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลรินลงมา เสียงหายใจก็ถี่ขึ้น
ปุ๊!
เสียงผายลมดังก้อง พลังงานมหาศาลก็ปลดปล่อยออกมา
บนหลังของคุนเผิงในเวลานี้ นอกจากพระราชวังที่เย่จุนหลินย้ายมาแล้ว ยังมีศาลาและหอคอย สวนหย่อม สะพานขนาดเล็ก ทรายและพืชพรรณ เมื่อมองจากระยะไกล ก็เหมือนเป็นเกาะตากอากาศขนาดเล็ก
เสียงผายลมนี้ดังราวกับระเบิด ทำให้ฝุ่นทรายปลิวว่อน ป่าไม้ก็สั่นไหว
หงเฉียนเย่รู้สึกได้ว่ามีพลังลึกลับระเบิดออกมาจากใต้ก้นของเขา พยุงร่างให้ลอยขึ้นจากพื้นแล้วบินขึ้นไปในอากาศ
หลังจากที่ขนมถูกแย่งไป ไป่เสี่ยวซีก็ซึมเศร้า
เย่จุนหลินนอนเอนกายบนเก้าอี้พับเช่นเคย เพลิดเพลินกับแสงแดด สังเกตเห็นไป่เสี่ยวซีเดินเข้ามาด้วยอารมณ์หดหู่ ก็เกิดความสงสัย "เสี่ยวซี เจ้าเป็นอะไร?"
ปกติแล้ว หนูตัวนี้จะไร้หัวใจไร้ปอด มีชีวิตชีวาอยู่ตลอดเวลา ทำไมตอนนี้ถึงได้เหี่ยวเฉาแบบนี้?
ไป่เสี่ยวซีอยากจะพูด แต่เมื่อนึกถึงผลที่ตามมา ก็ได้แต่กลืนคำพูดที่ถึงปากลงไป
หนูเสียใจ แต่หนูพูดไม่ได้
ไป่เสี่ยวซีรู้สึกว่า หากบอกเรื่องนี้กับอาจารย์ อาจารย์จะต้องลงโทษพี่ชายหงแน่ แล้วก็จะยิ่งเกลียดมันมากขึ้น
ไป่เสี่ยวซีเดินไปที่โต๊ะอย่างเงียบๆ หยิบชานมขึ้นมาจิบอย่างรวดเร็ว เวลารู้สึกอารมณ์ไม่ดี การดื่มของหวานก็จะทำให้รู้สึกดีขึ้น
เย่จุนหลินขมวดคิ้ว กำลังจะซักถาม แต่กลับได้ยินเสียงดังโครม จนเกาะทั้งเกาะสั่นไหวเล็กน้อย
"เกิดอะไรขึ้น?!"
เย่จุนหลินลุกขึ้นจากเก้าอี้พับอย่างรวดเร็ว เบิกตาโพลง
ในเวลานี้ เขามองเห็นร่างในชุดแดงพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า หลุดออกจากวิถีการบินของคุนเผิง
เย่จุนหลินยื่นมือออกไป พลังดูดอันน่าสะพรึงกลัวแผ่อออกมาจากฝ่ามือของเขา ดึงร่างนั้นกลับมาจากระยะทางพันเมตร
ซู่
หงเฉียนเย่เซไปที่พื้นอย่างเซื่องซึม ใบหน้าไร้ที่ติแดงก่ำราวกับจะหยดเลือด ความอับอายทำให้เขาอยากจะหาที่ซ่อน
ประมุขลัทธิปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ กลับผายลมไปเมื่อครู่!?
และยังเป็นลมที่ดังและแรงมากอีกด้วย!
"ศัตรูบุก! อาจารย์มีศัตรูบุก!" หลี่หวู่เจี๋ยวิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน ถือดาบในมือแล้วตะโกนอย่างกังวล
เย่จุนหลิน: "..."
เมื่อรู้สึกว่าบรรยากาศแปลกๆ หลี่หวู่เจี๋ยก็ยืนนิ่งอยู่กับที่ ใบหน้าสับสนเล็กน้อย "เอ๊ะ หรือว่าไม่ใช่?"
เย่จุนหลินไอสองสามที จ้องไปที่หงเฉียนเย่แล้วพูดอย่างจริงจัง "เสี่ยวหง เล่ามาซิ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?"
ต่อหน้าหนุ่มผมสีเงินคนนี้ ความแข็งแกร่งของหงเฉียนเย่เมื่อครู่ก็หายไปสิ้น เหลือเพียงความกระวนกระวายใจและความไม่สงบ เธอพูดติดๆ ขัดๆ
"เจ้าหูหนวกหรือ? อาจารย์ถามเจ้าอยู่!" เย่จุนหลินจ้องมองด้วยสายตาที่ดุจสายฟ้า แล้วดุว่า
ตูม!
พลังอันยิ่งใหญ่ระเบิดออกมา ราวกับอำนาจจากสวรรค์
"ศิษย์ผิดไปแล้ว! ขออาจารย์โปรดยกโทษ!" แนวป้องกันทางจิตใจของหงเฉียนเย่พังทลายลง คุกเข่าลงโดยไม่รู้ตัว ก้มหัวลงแล้วตะโกน
เขารู้ว่า คนตรงหน้าคนนี้รักหนูโง่ตัวนั้นมากที่สุด ถ้าเรื่องการขโมยของถูกเปิดเผย เขาอาจจะไม่ตาย แต่ก็ต้องถูกถลกหนังออกไปชั้นหนึ่งอย่างแน่นอน
เย่จุนหลินเกาจมูก รู้สึกหงุดหงิด
แค่ผายลมเอง จะต้องตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ?
หรือว่าเขาเข้มงวดกับลูกศิษย์มากเกินไป?
"อืมม"
ทันใดนั้น เหงื่อเย็นก็ไหลออกมาที่หน้าผากของหงเฉียนเย่ กล้ามเนื้อบนใบหน้ากระตุก ร่างกายก็สั่นไปมาอย่างควบคุมไม่ได้ เหมือนพยายามกลั้นอะไรบางอย่าง แต่ก็ยากเย็นเหลือเกิน
"เจ้า เจ้าเป็นอะไร..." เย่จุนหลินยกคิ้วขึ้น
ปุ๊!!!
เสียงผายลมดังก้องขึ้น พลังงานอันยิ่งใหญ่ก็แผ่กระจายออกไปอย่างรุนแรง พัดให้ผมยาวสีเงินของเย่จุนหลินปลิวสะบัด ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ
หงเฉียนเย่ก็ถูกพุ่งขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้ง ถูกลมผายปลิวไปจนถึงท้องฟ้า
"พี่ชายหง!" หลี่หวู่เจี๋ยกล่าวอย่างตกใจ
ไป่เสี่ยวซีสูดกลิ่นแล้วใบหน้าก็แสดงออกถึงความประหลาดใจ "ลมผายของพี่ชายหง หอมจังเลย!"
ถูกต้องแล้ว
แก๊สที่หงเฉียนเย่ปล่อยออกมา ไม่เพียงแต่ไม่มีกลิ่นเหม็น แต่ยังเต็มไปด้วยกลิ่นนมที่เข้มข้นอีกด้วย ทำให้ผู้ที่ได้กลิ่นรู้สึกอารมณ์ดี
เย่จุนหลินงุนงง สิ่งนี้มันเกิดอะไรขึ้น?
ทำไมผู้ฝึกตนในระดับมหายานถึงได้ผายลมออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ? และลมผายนี้ยังหอมแปลกๆ อีก!
ทันใดนั้น เย่จุนหลินก็นึกถึงบางอย่าง หันไปมองไป่เสี่ยวซีแล้วถามว่า "ไอ้นั่น มันแย่งขนมของเจ้าไปรึเปล่า?"
สีหน้าของไป่เสี่ยวซีตึงเครียด กล่าวอย่างระมัดระวัง "ใช่ค่ะ หนูให้พี่ชายหงไป พี่ชายหงบอกว่าอยากลองชิม"
"ฮึ"
เย่จุนหลินหัวเราะเย็นชา
เขาก็พอจะเดาได้แล้วว่า หงเฉียนเย่ต้องเห็นสรรพคุณของอาหารสัตว์เลี้ยงสุดยอดนี้ จึงเกิดความคิดชั่วร้ายแล้วแย่งไปจากมือของไป่เสี่ยวซีโดยตรง ผลก็คือ อาหารสัตว์เลี้ยงนี้มีไว้สำหรับสัตว์เท่านั้น ไม่เหมาะสำหรับมนุษย์ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้
แม้แต่ของของศิษย์น้องร่วมสำนักก็ยังแย่งได้ จิตใจของเขาก็มีปีศาจอยู่จริงๆ ดูเหมือนว่าเขาจะต้องฝึกฝนเขาให้ดีเสียแล้ว
ไป่เสี่ยวซีถามด้วยน้ำเสียงอ่อนแอ "อาจารย์ เราต้องช่วยพี่ชายหงมั้ยคะ?"
"อย่าไปสนใจเขาเลย สมควรแล้ว รอให้เขาผายลมเสร็จแล้วก็กลับมาถูกลงโทษเอง" เย่จุนหลินฮึดฮัด
เอนกายลงบนเก้าอี้พับอีกครั้ง ดมกลิ่นนมที่ลอยอยู่ในอากาศ สีหน้าของเย่จุนหลินก็ดูเคลิบเคลิ้ม ทันใดนั้นก็รู้สึกตัวได้อย่างรวดเร็ว ใบหน้าก็ดำคล้ำลง "โอ้โห!"
นี่มันอะไรกัน?
เขาในฐานะอาจารย์กลับได้กลิ่นผายลมของลูกศิษย์?
เย่จุนหลินหน้าดำคร่ำเครียดสะบัดแขนเสื้อ กลิ่นนมที่ลอยอยู่ในอากาศก็หายไปสิ้น สีหน้าของเขาก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลงมาก
หลี่หวู่เจี๋ยยืนนิ่งอยู่กับที่ งงงวยตั้งแต่ต้นจนจบ
เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้แปลกประหลาดเกินไป ทำให้เขาจับต้นชนปลายไม่ถูก
เฮ้อ ไปฝึกดาบดีกว่า
ในเวลานี้
หงเฉียนเย่กัดฟันแน่น กำลังย่อยพลังงานในท้องอยู่ ก้นก็ปล่อยแก๊สออกมาเป็นระยะๆ ช่วยผลักดันให้เขาพุ่งข้ามภูเขาและทะเล ไล่ตามทิศทางที่คุนเผิงหายไป
"ผายลมให้หมด แล้วกลับมาถูกลงโทษซะ!" ในระยะไกล เสียงเย็นชาที่ไร้ความปรานีก็ดังขึ้นข้างหู
"ครับ อาจารย์..." หงเฉียนเย่มีสีหน้าขมขื่น รู้สึกสำนึกผิดอย่างมาก
โชคดีที่เหตุการณ์นี้ไม่ได้ถูกศัตรูเก่าๆ เห็น มิฉะนั้น คงไม่มีหน้าอยู่บนโลกนี้แล้ว!
"เฮ้ย พวกเจ้าดูสิ นางฟ้าสวยจัง!" ในหมู่บ้านที่ห่างไกลแห่งหนึ่ง ชาวบ้านต่างก็เงยหน้าขึ้นมองหงเฉียนเย่ที่บินผ่านไปบนท้องฟ้า ตะโกนด้วยความยินดี
"หืม? มีเสียงแปลกๆ" มีคนตั้งใจฟัง ก็ได้ยินเสียงปุ๊ปปั๊ป ตาโตด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"ทำไมถึงรู้สึกว่า เสียงนี้เหมือนเสียงผายลมเลยล่ะ!" เด็กเลี้ยงวัวกล่าวอย่างประหลาดใจ
"ไร้สาระ! นางฟ้าที่สวยขนาดนี้ จะผายลมได้ยังไง?" ผู้ใหญ่บ้านถือไม้เท้าในมือ ตีหัวเด็กเลี้ยงวัวแล้วดุว่า
จากนั้น เขาก็เงยหน้ามองร่างในชุดแดงที่งดงามราวกับเทพธิดาบนท้องฟ้า ตะโกนด้วยความตื่นเต้น "นี่คือนางฟ้าที่กำลังโปรยปรายพรจากสวรรค์! เพื่อความโชคดีของหมู่บ้านจี๋ป้าของเรา! ทุกคนรีบสูดดมพรจากสวรรค์กันเร็ว! รีบสูดดม!"
"พรจากสวรรค์? ที่แท้นี่คือพรจากสวรรค์! ไม่แปลกใจเลยที่เราจะได้กลิ่นหอม!"
"เร็วๆ เร็วๆ รีบสูดดมพรจากสวรรค์!"
ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านจี๋ป้าต่างก็ตื่นเต้นวิ่งไล่ตามทิศทางของหงเฉียนเย่ จมูกก็สูดดมอย่างแรง ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ราวกับว่าการสูดดมมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งได้ประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น
และเหตุการณ์นี้ ก็จะกลายเป็นตำนานของหมู่บ้านแห่งนี้ในอนาคต เล่าลือกันว่า ในเช้าวันหนึ่งที่มีแดดจ้า นางฟ้าในชุดแดงที่สวยงามได้บังเอิญผ่านหมู่บ้านจี๋ป้า เนื่องจากเห็นว่าชาวบ้านในท้องถิ่นนั้นบริสุทธิ์และใจดี นางจึงได้โปรยปรายพรจากสวรรค์ลงมา ชาวบ้านในเวลานั้นก็ได้รับประโยชน์จากพรจากสวรรค์นี้ ทุกคนแข็งแรงมีชีวิตชีวา เดินเหินได้อย่างรวดเร็ว...