บทที่ 247 : ห้ามพลาด (1-1)
บทที่ 247 : ห้ามพลาด (1-1)
ครืนนนน
เมื่อเรือเหาะหลุดเข้าไปในรอยแยกของมิติ
มันหยุดโดยอัตโนมัติและนิ่งไป ในที่สุดเราเข้ามาในรอยแยกแห่งมิติของทาวน์เนีย
"กี่โมงแล้วเนี่ย?"
ออลก้าโผล่ขึ้นมาบนดาดฟ้า อ้าปากหาวแล้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
แม้ท้องฟ้าจะยังคงมืดมน แต่มีสีสันผสมอยู่เล็กน้อย
“ดูเหมือนว่าใกล้จะเช้าแล้วนะคะพี่ออลก้า”
"ทำได้ดีมาก..."
"นายจะเรียกใช้งานเราระหว่างพักผ่อนหรือเปล่าเนี่ย? ”
“เธอคิดว่าฉันเป็นคนยังไง? วันนี้เป็นวันหยุดไปพักผ่อนตามสบายเถอะ”
"ฮิฮิฮิ งั้นฉันไปก่อนนะ”
เสียงประตูปิดลง
ออลก้าลงบันไดไปด้วยความร่าเริง
เจนน่าและเนเรสซ่าเดินตามหลังออลก้าลงไป ฉันแสดงความขอบคุณพวกเธอด้วยการให้พัก พวเธอคงจะเหนื่อยจากความเครียดทางร่างกายและจิตใจ มันก็เหมือนกับการโจมตีทางอ้อม
“แล้วเด็กนั้นล่ะจะทำยังไงต่อไปดีครับ?”
“ฉันจะจัดการเอง นายไม่ต้องเป็นห่วง”
ในที่สุดเวคิสก็ลงบันไดไป
ฉันเข้าไปในห้องเก็บของบนเรือ ในนั้นมีเด็กชายที่ถูกมัดด้วยเชือกกำลังนอนหลับอยู่ เขากล้าหลับในสถานการณ์เช่นนี้ค่อนข้างที่จะสุดโต่งเหมือนกัน แต่ฉันอุ้มเด็กนั้นขึ้นมาแล้วเดินออกไปจากเรือเหาะ
'ฉันสงสัยว่าเขาจะทำยังไงเหมือนกัน'
ไรก็ได้ยังไม่ได้เชื่อมต่อเข้ามาในระบบ
ฉันไม่สามารถคาดเดาปฏิกิริยาของเขาได้ เรือเหาะ นักเวทย์ และไอเทมต่าง ๆ มันเป็นเรื่องที่ใหญ่เกินไปที่จะแก้ตัวว่าเป็นเพียงการปล้นสะดม และที่สำคัญนายท่านเองก็ไม่ได้บอกให้เราทำอะไรแบบนี้เลย
'ไว้ค่อยคิดแล้วกัน'
ฉันลบประวัติการแชทระหว่างฉันกับผู้เล่นคนอื่นแล้ว แต่บันทึกการบุกรุก การโจมตี และการปล้นจะยังคงอยู่ ความจริงที่ว่าศัตรูบุกเข้ามาในห้องรอ และเราได้โจมตีพวกมันออกไปจากห้องรอ และปล้นพวกมันเป็นการตอบแทนน่าจะเป็นวิธีการเอาคืนที่รู้กันดี
ฉันเดินออกมาจากรอยแยกของมิติและเวลาโดยมีเด็กชายอยู่ในอ้อมแขนของฉัน
ที่ชั้นล่างคนงานหลายคนกำลังมุ่งหน้าไปทำหน้าที่ของพวกเขา นั้นคือการเข้าไปที่ดันเจี้ยนประจำสัปดาห์ ฉันเดินผ่านพวกนั้นและเข้าไปในที่พัก
ฉันเปิดประตูแล้วโยนเด็กนั้นลงบนเตียงทันที
ฉันนั่งพิงเก้าอี้มองเด็กนั้น
ฉันไม่สามารถนอนหลับได้ถึงแม้ว่าฉันจะมัดเขาไว้แน่นแล้ว เพราะพวกนักเวทย์ก็มักจะมีบางอย่างที่ไม่คาดคิดเสมอ น่าจะใช้เวลาสามชั่วโมงกว่าเด็กนี้จะฟื้น
และไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
ฉันผล็อยหลับไปและตื่นขึ้นมาในเวลากลางวัน
เปลือกตาของฉันรู้สึกหนักอึ้ง
ฉันหันไปมองนาฬิกา ฉันนอนไปประมาณ 5 ชั่วโมง และตอนนี้มันเป็นเวลากลางวันแล้ว
"ฮึ!"
ฉันหันไปมอง
เด็กชายคนนั้นดิ้นไปมาด้วยความโกรธ และเขามองมาที่ฉันด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร
เขาตื่นอยู่ตลอดเวลาเลยงั้นเหรอ? ฉันเข้าไปใกล้แล้วแก้เชือกรอบปากของเขา
“น...นี่ฉันอยู่ที่ไหนเนี่ย?”
“คิดว่าที่ไหนแหละ? ห้องฉันเอง”
“ทำไมนายถึงพาฉันมาที่นี่? ปล่อยฉันนะ!”
“เอาล่ะ”
ฉันหมุนเก้าอี้แล้วไขว่ห้าง
“จากนี้ไป นายจะเป็นผู้รับผิดชอบเรือเหาะนั้น”
"อะไร? นี้มันเรื่องไร้สาระอะไร…”
“ไร้สาระหรือไม่ก็ไม่สำคัญ เราจะควบคุมเรือเหาะโดยไม่มีนักเวทย์ได้ยังไง? และนายจะต้องช่วยเรื่องการวิจัยด้วย อ่อ อีกอย่าง นายสามารถปรุงยาและใช้เวยท์มนตร์ได้ใช่ไหม? งั้นนายก็ต้องเข้าร่วมในภารกิจต่าง ๆ ด้วย มันคงง่ายขึ้นมากถ้ามีนักเวทย์สองคน”
เด็กชายมองมาที่ฉันด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
เขาสวมเสื้อคลุมที่มีลวดลายสีน้ำเงินบน ผมสั้น ๆ ของเขามีสีฟ้าเข้ม เมื่อมองแวบแรกเขาอาจถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเด็กผู้หญิง
“เฮ้! แกมันไร้ยางอาย…”
[ 'คาทีโอ (★★★★)' กำลังโกรธจัด!]
เขาชื่อคาทีโองั้นเหรอ?
เด็กชายหน้าแดงจัดด้วยความโกรธและยังคงดิ้นต่อไปเหมือนหนอนที่ถูกพันธนาการ
“ลักพาตัวฉันมา และตอนนี้ยังจะให้ฉันทำงานอีกเหรอ? ไอ้สารเลว! ตายไปต้องตกนรกแน่!”
ฉันเกาแก้มเบา ๆ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ให้ร่วมมือง่าย ๆ สินะ
ก๊อก ๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“ฮาน นี้ฉันเองนะ ฉันเห็นว่านายยังไม่ได้กินข้าวเลยเอาของกินมาให้”
"เข้ามาสิ"
เจนน่าเข้ามาพร้อมถาดอาหาร
บนถาดมีแซนวิชและนม เจนน่าจ้องมองไปที่คาทีโอขณะที่เธอวางถาดไว้บนโต๊ะ
“เด็กคนนี้…เขาคือนักเวทย์จากเมื่อวานเหรอ?”
“เขาจะเข้าร่วมการต่อสู้กับเรานับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป”
ฉันเดินไปหยิบถาดมาวางไว้ข้างเตียง
“คงหิวสินะ กินซะ”
เขายังคงนิ่งและจ้องมองมาที่ฉัน
ฉันยิ้มและพูดว่า “ถ้าไม่กินก็จะไม่มีแรงหนีนะ”
“…ช่วยคลายเชือกแขนของฉันได้ไหม?”
ฉันค่อย ๆ แกะเชือกรอบแขนของคาทีโอออก
“จะไม่เป็นไรแน่นะฮาน?”
"ลำพังเขาแค่คนเดียวทำอะไรได้ไม่มากหรอก”
พลังการต่อสู้ของนักเวทย์แต่ละคนไม่ค่อยสูงนัก
"มันไม่ใช่แบบนั้น ฉันหมายถึงฉันทำแซนวิชมาให้นายนะ”
“…”
คาทีโอเคี้ยวขนมปังโดยไม่สบตาฉันเลย
“แค่ก ๆ !” เขาสำลัก
บางทีอาจจะเพราะเขาได้ยินเจนน่าพูดว่าแซนวิชนี่สำหรับฉัน เขายกนมขึ้นมาดื่มช้า ๆ
ฉันเฝ้าดูเขาเงียบ ๆ คาทีโอที่กินแซนวิชและนมพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว
“แม้ว่าแกจะพยายามโน้มน้าวฉัน แต่ฉันก็จะไม่เข้าร่วมทีมกับแก ฉันจะไม่ร่วมมือกับคนร้ายที่เผาบ้านของคนอื่น ฆาตกรรม และปล้นสะดม”
“คนร้ายเหรอ? แล้วนายรู้ไหมว่านายท่านของนายทำอะไร?”
“เอ่อ นั่นมัน…”
ไม่มีทางที่เขาจะไม่รู้
แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีส่วนร่วมในการจู่โจมโดยตรง แต่ก็ยังมีร่องรอยเหลืออยู่ทุกที่
ตอนแรกมันเป็นการปล้นธรรมดา ๆ
ก็อย่างที่นางฟ้าในห้องรอเขาพูด มันแค่เริ่มจากการปล้นง่าย ๆ แต่ทันทีที่เขาพบว่ามันง่ายเขาก็ค่อย ๆ เพิ่มความรุนแรงขึ้น จากการขโมยสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจนถึงการลักพาตัวฮีโร่และการฆาตกรรม
นายท่านบนชั้นที่ 30 มักจะไม่ได้เตรียมตัวสำหรับการจู่โจม
พวกเขาขาดฮีโร่ฝ่ายป้องกันและสิ่งอำนวยความสะดวก และแทบจะไม่มีนายท่านคนใดบนชั้น 30 ที่เป็นเจ้าของเรือเหาะเลย
ซึ่งการตอบโต้ก็ไม่ได้ยากอะไร แค่ทำแบบเดียวกับที่มันทำกับเรา
ซุ่มโจมตีในช่วงเวลารุ่งสางหรือเมื่อเหล่าฮีโร่หลักติดภารกิจ และบุกเข้าโจมตีเมื่ออีกฝ่ายอ่อนแอ
จากนั้นมันจะจับฮีโร่จากห้องรอที่มันเข้าบุกรุกไปเป็นจำนวนมากและสังเคราะห์พวกเขาให้ฮีโร่ของมันเอง เพราะผลลัพธ์มันดีเกินคาด นายท่านพวกนั้นจึงทำมันซ้ำ ๆ เหตุผลที่นายท่านจำนวนมากต้องเริ่มใหม่อาจเป็นเพราะแบบนี้ก็ได้