ตอนที่ 37 ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า
ตอนที่ 37 ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า
เมื่อไอร่าหยิบเนื้อย่างขึ้นมา เธอสังเกตเห็นว่านิ้วของธยาน์ถูกไฟลวก
เขาคงเผลอทำไฟลวกขณะที่ย่างเนื้อ
“มือของเจ้า-”
ธยาน์มองลงไปที่ปลายนิ้วของเขาแล้วพูดอย่างเฉยเมยว่า “ข้าถูกไฟลวก”
น้ำเสียงของเขาสงบมาก ราวกับว่าเขาไม่ใช่คนที่ถูกไฟลวก เขาไม่สนใจเลย
ไอร่าถามขึ้น “เจ็บหรือไม่”
“ข้าไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น”
ธยาน์นั่งห่างจากกองไฟ เขาฉีกเนื้อดิบที่เหลือเป็นชิ้น ๆ ใส่เข้าปากแล้วกินอย่างช้า ๆ
เห็นได้ชัดว่ามันเป็นการเคลื่อนไหวที่ป่าเถื่อน แต่มันก็ดูสง่างามและสงบเป็นพิเศษเมื่อเขาทำ
ไอร่ามองเขาด้วยความงุนงง “เจ้าไม่ชอบเนื้อสุกหรือ”
“ข้าไม่ชอบของร้อน”
ไอร่ามองไปที่ไฟโดยไม่รู้ตัว “ไฟมันร้อนสินะ...”
“ข้าไม่ชอบไฟ”
“แต่เจ้ากำลังย่างเนื้อบนกองไฟนี่?”
ธยาน์เหลือบมองเธออย่างไม่แยแส “เพราะเจ้าอยากกินเนื้อสุก”
เนื่องจากเธอต้องการกินเนื้อสุก เขาจึงทนกับความไม่ชอบไฟและช่วยเธอย่างเนื้อด้วยตัวเอง
ไอร่ารู้สึกประทับใจ
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าชายที่ดูเย็นชาตรงหน้าเธอคนนี้ไม่ได้เย็นชาอย่างที่ท่าทีของเขา บางทีเขาอาจจะแค่แสดงออกไม่เก่งก็เท่านั้น
ไอร่าจัดการกับเนื้อย่างในมือของเธอจนหมด และยืนขึ้นเพื่อเดินไปที่ทางเข้าถ้ำ
ธยาน์จ้องไปที่เธอทันที “นั่นเจ้าจะไปที่ใด”
ไอร่าโบกมือที่มันเยิ้มของเธอ “ข้าจะไปล้างมือ”
ธยาน์วางเนื้อที่กินไปครึ่งหนึ่งลงแล้วเดินไปที่ทางเข้า เฝ้าดูเธอทุกการเคลื่อนไหว
ไอร่าทำอะไรไม่ถูก “นี่เป็นเวลากลางคืน แม้ข้าต้องการวิ่งออกไปก็ทำได้เสียที่ไหน เจ้าไม่ต้องเฝ้าดูข้าอย่างใกล้ชิดขนาดนี้”
ธยาน์ไม่ได้พูดอะไร ดวงตาสีเข้มของเขาจ้องมองเธออย่างตั้งใจโดยไม่มีเจตนาประนีประนอม
ไอร่าไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากปล่อยให้เขาทำตามใจปรารถนา
เธอคุกเข่าลงและล้างคราบมันออกจากมือด้วยหิมะ จากนั้นเธอก็หยิบผลึกน้ำแข็งที่สะอาดขึ้นมาใส่เข้าไปในปากของเธอ
หลังจากกินเนื้อย่างไปมาก ท้องของเธอก็เต็มไปด้วยน้ำมันและไขมัน เธออยากกินน้ำ
ไอร่าเห็นธยาน์จ้องมองมาที่ปากของเธอ และคิดว่าเขาอยากจะกินด้วยเช่นกัน เธอจึงยื่นผลึกน้ำแข็งให้เขา “เจ้าอยากกินหรือไม่”
ธยาน์พูดอย่างเรียบ ๆ “ข้าไม่ชอบของเย็นเช่นนี้”
ไอร่าอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งขึ้น “เจ้าไม่ชอบของร้อน และไม่ชอบของเย็น มีสิ่งใดในโลกนี้ที่เจ้าชอบบ้างหรือไม่”
ธยาน์จ้องไปที่ใบหน้าของเธอและไม่พูดอะไรเป็นเวลานาน ไอร่าคุ้นชินกับความเงียบขรึมของเขาแล้วและไม่สนใจมัน เธอกลับเข้าไปในถ้ำ จัดกองหญ้าแล้วนอนลงบนนั้น ธยาน์นั่งลงไม่ไกลจากเธอ
เขาเอนหลังพิงกำแพงหิน ใบหน้าซีดของเขาไม่มีสีใด ๆ และขนตาที่ยาวและหนาของเขาก็ลดลงเล็กน้อย ทำให้เกิดเงาที่ลึก
ผมสีเข้มยาวสยายลงมาที่ใบหน้าและปลายผมร่วงหล่นลงพื้น มันหนาแน่นเหมือนกลางคืน
ด้านนอกถ้ำลมหนาวเริ่มพัดเข้ามาอีกครั้ง หิมะเย็นยะเยือกพุ่งเข้ามาในถ้ำ ทำให้เกิดเปลวไฟพลิ้วไหว
ธยาน์เหลือบมองหญิงสาวตัวน้อยที่ขดตัวเป็นลูกบอลจากความหนาวเย็นและขมวดคิ้ว เขาลุกขึ้นและเดินไปทางเข้าถ้ำ เขาถอดเสื้อคลุมสีเทาขาวออกเผยให้เห็นร่างกายที่เพรียวบางและซีดเซียว เขาโยนเสื้อคลุมออกไปแล้วกลับคืนสู่ร่างที่แท้จริงของเขา
งูเหลือมสีดำมีความหนามากกว่าหนึ่งเมตร ผิวหนังของเขาถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีดำละเอียด วงกลมลวดลายสีเทาเงินมองเห็นได้ไม่ชัดบริเวณใต้คอและปลายหาง
เห็นอัญมณีสีดำรูปเพชรอยู่ระหว่างคิ้วของงู งูขดตัวเป็นวงกลางปิดกั้นทางเข้า ศีรษะของเขาวางอยู่เหนือร่างที่ขดตัว ดวงตาสีเข้มของเขาจดจ่อไปที่ผู้หญิงที่กำลังหลับอยู่ พวกมันไม่ได้ละไปจากเธอชั่วขณะหนึ่ง
ธยาน์ใช้ร่างกายของเขาบังลมหนาวและหิมะนอกถ้ำ เพื่อให้ตัวเมียตัวน้อยได้รับความอบอุ่น
วันรุ่งขึ้น ไอร่าตื่นขึ้นและลืมตาขึ้น เห็นหัวงูตัวใหญ่
เธอกลิ้งตัวออกจากกองหญ้าด้วยความกลัว
ธยาน์เปิดเปลือกตาของเขา เมื่อเขาเห็นว่าเธอกลิ้งลงไปที่พื้น เขาก็ยื่นหางออกและค่อย ๆ ผลักเธอขึ้นไปบนกองหญ้าอีกครั้ง ไอร่ามองดูงูหลามที่อยู่ตรงหน้าเธออย่างประหม่า สายตาของเธอหยุดที่อัญมณีสีดำระหว่างคิ้วของเขาเป็นเวลานานก่อนที่เธอจะถามอย่างไม่แน่ใจว่า “เจ้าคือธยาน์ใช่หรือไม่”
งูหลามไม่อ้าปาก แต่สามารถเปล่งเสียออกมาจากท้องได้
“ข้าเอง”
ไอร่าไม่ได้คาดหวังว่าร่างดั้งเดิมของธยาน์จะเป็นงู ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นงูหลามตัวใหญ่อีกด้วย
เธอกลัวหนูและงู
เธอมองดูงูหลามตัวใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าเธอ และรู้สึกขนลุกชันไปทั่วร่างกายของเธอ เธออดไม่ได้ที่จะถามว่า “ตอนนี้งูไม่ควรจำศีลหรือ เหตุใดเจ้าไม่จำศีล?”
“หลังจากวิวัฒนาการ เราไม่จำเป็นต้องจำศีล” ไอร่ากระซิบ “เจ้าช่วยกลับคืนร่างมนุษย์ได้หรือไม่ ร่างนี้เจ้าช่างน่ากลัว”
ธยาน์ก้มศีรษะลง
หัวงูตัวใหญ่ของเขาอยู่ห่างจากเธอเพียงกำปั้นเดียว ดวงตางูสีดำของเขาจ้องมองไปที่เธอ
“เจ้าคิดว่าข้าดูแย่ในร่างนี้หรือ”
โดยทั่วไปแล้วตัวเมียไม่ชอบรูปลักษณ์ของงูเหลือม ธยาน์ต้องทนกับความรังเกียจหลายครั้งด้วยเหตุนี้ แม้ว่าสัตว์อสูรเหล่านั้นที่ดูถูกเขาจะไม่จบลงด้วยดี แต่รูปลักษณ์ภายนอกยังคงเป็นสิ่งต้องห้ามที่สุดสำหรับเขา
จะเป็นอย่างไร หากหญิงสาวตัวน้อยดูถูกรูปร่างหน้าตาของเขา เขาอาจจะกลืนเธอทั้งตัวเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องเห็นความรังเกียจบนใบหน้าของเธอ
การจ้องมองของธยาน์ทำให้หนังศีรษะของเธอซ่า เธอรู้สึกราวกับว่าเลือดทั้งหมดในร่างกายของเธอถูกแช่แข็ง และเธอรู้สึกหนาวสั่นไปทั่วทั้งร่างกายของเธอ
เธอพูดอย่างสั่นคลอนว่า “เจ้าไม่ได้น่าเกลียด เจ้าแค่...น่ากลัวนิดหน่อย” ธยาน์ดูครุ่นคิด “เจ้ากลัวงูหรือ”
ไอร่าพยักหน้า และรีบยอมรับ “ใช่ ใช่ ใช่”
งูหลามเปิดปากของเขา สะบัดลิ้นแฉกสีแดงของมันออก และค่อย ๆ ปัดมันไปทั่วใบหน้าของเธอ “ไม่ต้องกลัว”
อาจกล่าวได้ว่าลิ้นเป็นส่วนที่อ่อนที่สุดของงู มันทิ้งรอยเปียกและลื่นไว้บนใบหน้าของไอร่า เธอตกใจมากจนเกือบจะเป็นลม
เธอปิดแก้ม ดวงตาที่สดใสของเธอกลมราวกับกระต่ายที่สะดุ้ง
ธยาน์รู้สึกว่าหญิงสาวตัวน้อยน่ารักจริง ๆ
เขาไม่สามารถต้านทานได้ เขาขดหางงูรอบตัวเธอ จากนั้นลดระดับลงเพื่อปัดมันไปที่แก้มของเธอเบา ๆ “ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า”
ราวกับรู้สึกถึงความมีน้ำใจของเขา ความกลัวในใจของไอร่าก็บรรเทาลง
เธอมองดูหัวงูตัวใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าเธอ เธอเอื้อมมือออกไปแตะมันอย่างระมัดระวัง
สัมผัสที่เย็นและเปียกทำให้เธอตัวแข็งทื่อ
งูหลามมองดูเธอ ดวงตางูของเขาให้กำลังใจ
ไอร่ากลืนน้ำลาย เธอระงับความกังวลในใจและเอื้อมมือไปสัมผัสหัวของเขาอีกครั้ง คราวนี้เธอวางมือของเธอไว้ตรงนั้นนานขึ้น
ธยาน์ถูกศีรษะกับฝ่ามือของเธอ
ไอร่ามองไปที่รูปลักษณ์ที่อ่อนโยนของเขา และอดไม่ได้ที่จะสัมผัสเขาอีกครั้ง
ธยาน์กวางเธอเข้าสู่ร่างขดของเขา ลิ้นสีแดงของเขาเกี่ยวนิ้วของเธอ และดวงตางูสีเข้มของเขาก็เพ่งความสนใจและแสดงความรักออกมา
ไอร่าสัมผัสลิ้นของงูเป็นครั้งแรก สัมผัสที่นุ่มนวลทำให้เธอพบว่ามันเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่มาก
เธอจับลิ้นของเขาและจั๊กจี้มันเบา ๆ ด้วยปลายนิ้วของเธอ
งูเหลือมตัวสั่น และดวงตาสีดำบริสุทธิ์ของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มทันที
เขาอดไม่ได้ที่จะพันผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ไว้แน่นขึ้นด้วยการขดตัวของเขา
ด้วยวิธีนี้ เธอจะเป็นของเขาได้เพียงคนเดียวและไม่มีใครอื่นอีก