ตอนที่แล้ว1379 - ชายที่แข็งแกร่งที่สุดภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1381 - การปะทะกันของเทพ

1380 - ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว


1380 - ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว

เย่ฟ่านไม่ได้เลือกที่จะปะทะอย่างหักโหม อีกฝ่ายมีความแข็งแกร่งมากกว่าพระเจ้าทั้งสามคนที่เขาเคยต่อสู้ด้วย ดังนั้นเย่ฟ่านจึงเลือกที่จะหลีกเลี่ยงด้วยทักษะซิงจื่อ

“เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล นี่คือสนามรบโบราณ และคำสาปต้องห้ามจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้คนที่ไม่ใช่เป้าหมาย!”

สมเด็จพระสันตะปาปาปลอบใจเหล่ายอดฝีมือจากดินแดนตะวันตกที่พยายามตะเกียกตะกายหลบหนี

ในเวลาเดียวกัน เขาได้ประสานอินด้วยมือทั้งสองข้างก่อนจะเรียกดวงดาวมากมายนับไม่ถ้วนให้ตกลงมาจากท้องฟ้าโดยมีเป้าหมายคือเย่ฟ่าน!

เลือดของสมเด็จพระสันตะปาปาพุ่งพล่านราวกับคลื่นมหาสมุทร พระองค์มีอำนาจกลืนภูเขาและแม่น้ำได้ และพลังของพระองค์แทบจะทัดเทียมกับฉีลั่วแห่งวังสวรรค์ได้เลย

พลังของคัมภีร์ทั้งสี่นั้นก็เป็นสิ่งที่ไร้ขอบเขตเช่นกัน พวกมันปลดปล่อยพลังอย่างไม่สิ้นสุดและไล่ล่าเย่ฟ่านโดยไม่ปล่อยให้เขาหยุดพักได้

ด้านหลังหลงเสี่ยวเชวีย จ้านปี้ฟ่าน โหยวเหวยอี้และคนอื่นๆ ล้วนตกตะลึงและวิตกกังวลอย่างยิ่ง ในขณะเดียวกันผู้ติดตามคนใหม่ของเย่ฟ่านก็เริ่มวันวิตกและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“พลังแห่งพระเจ้า!”

“ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว!”

ในระยะไกล ผู้คนจากตระกูลโบราณจำนวนมากตะโกน พวกเขารู้สึกอย่างลึกซึ้งถึงความหวาดกลัวต่อสมเด็จพระสันตะปาปา ในขณะเดียวกันทุกคนก็พยายามส่งเสียงโห่ร้องเป็นกำลังใจให้กับผู้นำของพวกเขา

“ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีผู้คนจำนวนมากที่ต้องการฆ่าข้า ตัวเจ้ายังห่างไกลนัก”

คำพูดที่สงบนิ่งปราศจากอารมณ์ความรู้สึกดังออกมาจากปากของเย่ฟ่าน เขาเคลื่อนไหวด้วยทักษะซิงจื่อจากนั้นก็เริ่มโจมตีคัมภีร์ทั้งสี่เล่มด้วยความเร็วไม่แตกต่างจากสายฟ้า

“บูม”

ม้วนคัมภีร์ขนาดใหญ่ที่ปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้าตกลงมาข้างล่างพร้อมกับสั่นสะเทือนดินแดนนั้นกว้างใหญ่ไพศาลราวกับวันสิ้นโลกมาถึงแล้ว

ดวงตาของสมเด็จพระสันตะปาปาจ้องมองอย่างลึกล้ำ เขายังคงนั่งอยู่บนบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์ตัวเดิมในขณะที่เหยียดแขนขวาชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า

คัมภีร์ทั้งสี่แตกกระจายทันที จากนั้นพวกมันก็ถูกดึงดูดเข้าไปในหลุมสีดำขนาดใหญ่และหายสาบสูญไปจากโลกโดยไม่สามารถสร้างผลกระทบอะไรต่อนครวาติกันได้

การกระทำนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นการเปิดประตูมิติขึ้นก่อนจะดึงดูดบางสิ่งบางอย่างที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารเข้าไปข้างใน!

ทักษะเต๋าเช่นนี้ทำให้จิตใจของผู้คนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แม้แต่ในสมัยโบราณก็มีน้อยคนนักที่จะสามารถทำสิ่งนี้ได้!

ในใจกลางสนามรบ เย่ฟ่านดูไม่แยแสและยังคงลงมือไล่ล่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ เขาไร้ความปรานี และสังหารอัศวินแต่ละคนในกระบวนท่าเดียวเท่านั้น

เลือดของคนทั้งสี่ชโลมไปทั่วพื้นดิน แม้ว่าพระสันตะปาปาจะพยายามช่วยเหลือ แต่สุดท้ายมันยังคงสายเกินไป

อาวุธครึ่งเซียนสี่ชิ้นบินกลับเข้าหาเย่ฟ่าน จากนั้นเขาก็โยนมันให้กับเหล่าลูกศิษย์ด้วยท่าทางไม่แยแสราวกับว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เป็นเพียงเศษขยะก็ไม่ปาน

หลงเสี่ยวเชวีย จางชิงหยาง จ้านปี้ฟ่านและคนอื่นๆ ต่างตกตะลึง และนิ้วของพวกเขาสั่นเทาโดยไม่อาจควบคุมตัวเองได้

นี่คืออาวุธระดับครึ่งเซียนที่พวกเขาใฝ่ฝัน พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าสักวันหนึ่งจะมีโอกาสได้ครอบครองอาวุธระดับนี้เป็นสมบัติของตัวเอง

เมื่อพาลาดินผู้ทรงพลังสี่ตายเช่นนี้ จิตใจของผู้คนก็เริ่มสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว!

“ไม่คาดคิดว่าสิ่งมีชีวิตโบราณเหมือนเจ้าจะยังคงดำรงชีวิตมาจนถึงปัจจุบันได้”

เย่ฟ่านกระซิบ ดวงตาของเขาลุกโชน จ้องมองไปยังสมเด็จพระสันตะปาปาบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ นี่คือศัตรูที่น่าเกรงขามที่สุดในชีวิตของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย!

“ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ ข้าเดินทางไปที่ประเทศจีนเมื่อร้อยปีที่แล้ว และได้พบกับเซียนผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง ข้าทำตามเจตนารมณ์ของเขาและนำสมบัติบรรพชนกลับมาที่นี่ ไม่เช่นนั้นพวกมันคงถูกทำลายไปตั้งแต่แรกแล้ว”

พระสันตะปาปากล่าวอย่างสงบ สีหน้าของเขาเรียบเฉยไม่มีความผันผวนทางอารมณ์แม้แต่น้อย

รอบตัวเขา เครื่องหมายเต๋าต่างๆ ปรากฏขึ้น พันกันเป็นโซ่ศักดิ์สิทธิ์สีทองที่เปล่งประกายสดใส คนผู้นี้ไม่เพียงสง่างามเท่านั้นแต่ยังเต็มไปด้วยความลึกลับยากจะมองผ่าน

“ถ้าอย่างนั้นเรามาต่อสู้กัน”

เย่ฟ่านยืนอยู่ในความว่างเปล่าและมองไปยังวาติกัน เจตนาของเขาชัดเจนอย่างยิ่งว่าถ้าพระสันตะปาปาพ่ายแพ้ เขาจะทำลายเมืองนี้ให้สิ้นซาก

“ข้าแก่แล้ว และไม่สามารถตอบโต้แบบนี้ได้อีกต่อไป” สมเด็จพระสันตะปาปาส่ายหน้า มองไปในระยะไกลและกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบาว่า

“อัศวินศักดิ์สิทธิ์คนสุดท้ายของพระผู้เป็นเจ้าโปรตีนขึ้น! ในอดีตเผ่าพันธุ์ที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้ามีอยู่ด้วยกันห้าคน อย่างไรก็ตามอัศวินศักดิ์สิทธิ์ของเราสังหารพวกเขาไปสองคนแล้ว”

ทันทีที่สมเด็จพระสันตะปาปากล่าวเช่นนี้ ทุกฝ่ายก็ตกตะลึงจนไม่สามารถพูดอะไรได้!

อัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่เคยปรากฏตัวคนนั้นเป็นผู้สังหารพระเจ้าแห่งเยรูซาเลมถึงสองคน!

“เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว!” คนจำนวนมากร่างกายสั่นสะท้านด้วยความกลัว

เมื่อสิ้นเสียงชายร่างยักษ์ที่มีความสูงมากกว่าสิบฉื่อ(230 ซม.)ก็ปรากฏตัวขึ้นในความว่างเปล่า

เขาถือทวนมังกรอยู่ในมือข้างหนึ่ง มีเส้นผมสีทองเปล่งประกายสดใส ใบหน้าของเขามีหน้ากากสีทองสวมทับอยู่ ในขณะที่ร่างกายก็สวมชุดเกราะสีทองแวววาวเช่นกัน

ผู้คนจำนวนมากตกตะลึง สิ่งที่สมเด็จพระสันตะปาปากล่าวเป็นความจริงหรือไม่?

อัศวินศักดิ์สิทธิ์คนนี้สังหารพระเจ้าไปสองคน หากเรื่องนี้เป็นความจริงแล้วพระสันตะปาปามีความศรัทธาต่อพระเจ้าองค์ใดกันแน่

ชายผู้นี้ไม่มีใครรู้ว่าเขาอายุมากแค่ไหน เขามีผมสีทองยาวหนาแต่ผิวกายค่อนข้างหมองคล้ำ เนื้อหนังทุกตารางนิ้วของเขาแทบจะเต็มไปด้วยรอยอาวุธที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน

ดวงตาของเขาจ้องมองเย่ฟ่านอย่างเรียบเฉย เห็นได้ชัดว่าชายคนนี้มีชีวิตมาอย่างยาวนานมากจนกระทั่งเขารู้สึกเฉยชาต่อทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว

นับตั้งแต่นครศักดิ์สิทธิ์วาติกันถูกสร้างขึ้นผู้คนจำนวนมากต่างก็เคยได้ยินตำนานของอัศวินผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ อย่างไรก็ตามไม่มีใครรู้ว่าเขาอายุมากแค่ไหน

บุคคลที่ทรงพลังที่สุดภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งดินแดนตะวันตก!

เย่ฟ่านจ้องมองด้วยความสงสัย นี่เป็นคนที่ทรงพลังจริงๆ เขาเป็นสิ่งมีชีวิตโบราณที่แก่ชราอย่างยิ่ง ดูเหมือนเขาจะมีชีวิตอยู่มาตั้งแต่ก่อนอารยธรรมมนุษย์จะเริ่มต้นขึ้นด้วยซ้ำ

มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่เย่ฟ่านรู้เกี่ยวกับคนผู้นี้ นั่นคือต่อให้เขาแข็งแกร่งมากแค่ไหนแต่ก็ยังไม่สามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตเซียนได้

อย่างไรก็ตามเขามีความแข็งแกร่งมากกว่าพระเจ้าทั้งสามคนที่เย่ฟ่านสังหารอย่างแน่นอน

อัศวินผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของดินแดนตะวันตก บุคคลที่มีพลังมากจนผู้คนต้องสั่นสะท้าน รัศมีพลังที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเขาสร้างความหวั่นเกรงให้กับทุกคนอย่างรุนแรง

“ผู้ครอบครองพลังของพระเจ้า!”

“สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว!”

ผู้คนตะโกน ตระกูลใหญ่ทั้งหมดที่สังกัดอยู่ในดินแดนตะวันตกเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ก่อนหน้านี้จิตใจของพวกเขาจมอยู่ในความสิ้นหวังแล้ว

แต่ไม่คิดว่าในเวลาไม่นานความหวังของพวกเขาจะฟื้นฟูกลับคืนมาอีกครั้ง

นี่คือรัศมีอันทรงพลังของสิ่งมีชีวิตที่เกือบจะเป็นเซียนแล้ว ความแข็งแกร่งของเขาเพียงพอที่จะได้รับการขนานนามว่าเป็นสิ่งมีชีวิตผู้อยู่ยงคงกระพันอย่างแท้จริง!

อัศวินศักดิ์สิทธิ์คนนี้มีความสอดคล้องกับเต๋าและใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างน่าเหลือเชื่อ รูปร่างของเขาเปล่งประกายด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นมงคล

เต๋าในโลกนี้ก็คือเต๋าเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้คนจากดินแดนตะวันออกหรือตะวันตกหากพวกเขามีความแข็งแกร่งเพียงพอย่อมสามารถสัมผัสได้ถึงเต๋าได้มากกว่าผู้คนทั่วไป

……………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด