บทที่48 ความมั่นใจของคิริงาคุเระ ฟรี
‘คิริงาคุเระปัจจุบันแตกต่างจากอนาคต’ ริวอุนส่ายหน้าลับ ๆ
ตอนนี้คิริงาคุเระเป็นหมู่บ้านปิดอย่างเป็นทางการ ซึ่งปฏิเสธนินจาจากหมู่บ้านอื่นเอามาก ๆ บวกกับความเกลียดชังโดยกำเนิดต่อนินจาโคโนฮะ แม้ว่าเขาจะฆ่านามิคาเสะ มินาโตะ คิริงาคุเระก็จะไม่เสียสละเขาเหมือนที่ฮิซาชิโดน
ไม่เช่นนั้น เมื่อเขาได้สังหารเขี้ยวสีขาว มิซึคาเงะรุ่นที่ 4 ก็สามารถใช้เขาเป็นชิปต่อรองทางการเมืองเพื่อแลกกับผลประโยชน์บางอย่างกับโคโนฮะ
คิิริงาคุเระ ไม่กลัวสงคราม แคว้นอื่นอาจกลัวเพราะเพิ่งประสบสงครามโลกนินจาครั้งที่สองมา แต่คิริงาคุเระต่างออกไป
นอกจากนี้ คิริงาคุเระปัจจุบันยังมีเทรุมิ เมย์ โฮชิงาคิ คิซาเมะ บิวะ จูโซ อาเมะยูริ ริงโกะ โมโมจิ ซาบุสะและเจ็ดดาบนินจารุ่นที่หนึ่งคนอื่น ๆ
ตราบใดที่สงครามปะทุ นินจาเหล่านี้จะเติบโตขึ้นได้รวดเร็วแน่นอน แถมตระกูลยูกิ อย่างยูกิ คุโมะก็ยังไม่ถูกกวาดล้างด้วย รวมไปถึงสัตว์หาง สามหางและหกหาง ตอนนี้พวกเขาไม่กลัวสงครามเลยสักนิดเดียว
แม้ว่าหมู่บ้านเขาจะไม่ใช่หมู่บ้านที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ที่ที่หมู่บ้านไหนจะประมาทได้
หมู่บ้านอื่นกลัวสงคราม แต่คิริงาคุเระต้องการสงครามเพื่อที่จะป้องกันการขัดแย้งภายใน หากไม่มีสงคราม คิริงาคุเระคงมีการต่อสู้กันเอง ซึ่งมิซึคาเงะรุ่นที่ 4 รู้เรื่องนี้ดี
ตระกูลขีดจำกัดสายเลือดใหญ่ เล็กในหมู่บ้านก็รู้
ริวอุนเองก็รู้ไม่ต่างกัน...
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม เขาถึงกล้าทำการประมาทเลินเล่อแบบนี้โดยไม่กลัวสงครามกับโคโนฮะ
จิไรยะโกรธมาก แต่สุดท้ายเขาก็เป็นสามนินจา ดังนั้นเขาจึงต้องระงับความโกรธของตัวเอง เพราะโคโนฮะตอนนี้ยังไม่ต้องการสงคราม นี่เป็นดินแดนคนอื่น พวกเขาต้องยอมกล้ำกลืนความอัปยศไว้
“อาจารย์ ผมสบายดี อย่างที่เขาบอก พวกเราแค่แข่งขันกันเท่านั้น” มินาโตะเดินมาอยู่ข้างจิไรยะและรีบกล่าว
แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุสิบห้าปี แต่เขาก็ฉลาดมาก
เมื่อรู้ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันมันสุ่มเสี่ยง เขาเลยไม่เอาความโกรธของตัวเองมาทำให้เรื่องเสีย อีกอย่าง เหล่านินจาหมู่บ้านสายหมอกก็อยู่ที่นี่กันเต็มไปหมด
“เฮ้อ...” จิไรยะถอนหายใจ เขารู้ว่าลูกศิษย์ของตัวเองถูกเอาเปรียบ ทว่าเขาก็ไม่สามารถยืนหยัดเพื่อลูกศิษย์ได้
“หึหึหึ! ในเมื่อโจนินริวอุนพูดแบบนั้น เราก็มาหยุดการซ้อมแค่นี้กันดีกว่านะ” โอโรจิมารุหัวเราะเบา ๆ ในเสียงหัวเราะของเขามันแฝงไปด้วยความหงุดหงิด
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เขาก็เหลือบไปมองมินาโตะที่อยู่ไม่ไกลด้วยความซาบซึ้งมากกว่าเดิม หากเป็นเด็กคนอื่น เขาคงจะโกรธเพราะความอับอายแล้วแสดงเจตนาฆ่าอีกฝ่ายโดยไม่สนใจภารกิจไปแล้ว
มินาโตะกลับแตกต่างจากคนทั่วไป เขาสามารถคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวมได้เป็นอย่างดีและสามารถระงับความโกรธของเขาได้
ความอดทนและจิตใจแบบนี้ สามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าดีที่สุดในหมู่นินจารุ่นเดียวกันของโคโนฮะเลยทีเดียว
“งั้นก็เชิญตามสบายเลยครับ” ริวอุนโบกมือส่ง
ทั้งสามคนไม่รวมคาคาชิพยักหน้าจากนั้นก็เดินแยกออกไป หลังจากออกมาแล้ว สีหน้าของโอโรจิมารุกลายเป็นมืดมนโดยสมบูรณ์ เขาหันไปมองจิไรยะแล้วเตือนอีกฝ่าย
“อย่าเดินไปไหนโดยไม่จำเป็น จนกว่าการเจรจากับคิริงาคุเระจะจบลง”
จากการซุ่มดูของเขา กาณโจมตีของริวอุนเมื่อสักครู่ มันเด็ดขาดและดูไม่กลัวสงครามเลย โอโรจิมารุวิเคราะห์เฉียบคม
บางทีหมู่บ้านคิริงาคุเระอาจกำลังรอสงครามอยู่ก็ได้!
ตั้งแต่แรกที่ริวอุนโจมตีคาคาชิ หากหมู่บ้านต้องการหลีกเลี่ยงสงคราม เขาคงจะถูกมิซึคาเงะตักเตือนไปแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ ริวอุนกลับเดินสบาย ไม่ถูกดุหรือตักเตือนใด ๆ มันแสดงให้เห็นว่า มิซึคาเงะรุ่นที่ 4 ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลยสักนิดเดียว
“ดูเหมือนว่าความขัดแย้งของคิริงาคุเระจะลึกกว่าที่พวกเราคิด ถึงขึ้นที่ต้องการเริ่มสงคราม” จิไรยะอาจบ้าบิ่น แต่เขาไม่ใช่คนโง่
จากการโจมตีสองนัดติด ๆกันของริวอุน เขาก็พอจะสังเกตเห็นหลายสิ่งได้ชัดเจนขึ้น
“ฮิฮิ... คิริงาคุเระเป็นหมู่บ้านปิด เป็นหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยขีดจำกัดสายเลือดตั้งแต่แรก มิซึคาเงะรุ่นที่ 4 ก็ไม่ใช่นินจาขีดจำกัดสายเลือด จะรักษาตำแหน่งนี้ไว้อย่างมั่นคงได้ยังไงล่ะ?” โอโรจิมารุหัวเราะเยาะ
มิซึคาเงะไม่ต้องการเป็นเพียงหุ่นเชิดของเหล่าตระกูลใหญ่อีกต่อไป ดังนั้นตั้งแต่ยากุระเข้าสู่ตำแหน่ง ความขัดแย้งก็หยั่งรากลึก
เพื่อที่จะยึดอำนาจ ยากุระได้ทำการปล่อยให้นินจาขีดจำกัดสายเลือดตระกูลใหญ่ไปทำภารกิจที่ยากลำบาก ก่อให้เกิดการเสียชีวิตในการต่อสู้ ภารกิจสำเร็จ ในเวลาเดียวกันก็ลดอำนาขของตระกูลใหญ่ด้วย
จิไรยะส่ายหัวเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ความขัดแย้งของอันรุนแรงของนินจาหมอก ถือเป็นข่าวดีของหลาย ๆหมู่บ้าน แต่มันไม่ใช่สำหรับโคโนฮะ
เพราะเมื่อคิริงาคุเระต้องการโยนความขัดแย้งภายในออกไป โคโนฮะจะเป็นที่แรกที่เกิดสงคราม
“อาจารย์ มันจะไม่เป็น” มินาโตะขมวดคิ้ว
เขารู้ว่าอาจารย์ของเขากังวลเรื่องอะไร แต่ในความเห็นของเขา ทุกอย่างมันเหมือนอยู่ในความมืด
“อืม จริงด้วย เมื่อกี้ฉันขอโทษนะที่ไม่ทันคิดผลที่จะตามมา” จิไรยะพยักหน้า มีคำขอโทษและสำนึกผิดบนใบหน้า
ลูกศิษย์ของเขาเกือบโดนฆ่า แต่เขาทำอะไรไม่ได้ ซึ่งทำให้เขารู้สึกผิด
“ไม่หรอกครับ เป็นผมเองที่ยังไม่เก่งพอ” มินาโตะหลับตากำหมัดแน่น
เขาไม่ได้พูดเพื่อปลอบใจจิไรยะ นี่คือความจริงในใจเขา
เขาไม่ได้โกรธริวอุนเรื่องที่อีกฝ่ายจะฆ่าเขาเมื่อสักครู่นี้ เพียงแค่เขาไม่อยากแพ้และไม่อยากยอมรับเท่านั้น เพราะริวอุนกับเขาอายุเท่ากัน
ตอนนี้เขาแพ้ริวอุน ทำได้แค่ว่าเขาฝึกมาไม่พอเท่านั้น
*************************