1377 - พระอาทิตย์สีดำ
1377 - พระอาทิตย์สีดำ
ด้านนอกของวิหารอันสง่างามมีเชิงบันไดหินขนาดใหญ่ ผู้คนมองขึ้นไปบนวิหาร พวกเขาทั้งหมดตกตะลึง ปีศาจแห่งภาคกลางได้เข้ามายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ นี่เป็นหายนะที่ไม่อาจแก้ได้
กรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ของสามศาสนาหลัก มีวิหารและวัดโบราณมากกว่าหนึ่งแห่ง ในขณะนี้ผู้คนจำนวนมากต่างหวาดกลัวว่าเย่ฟ่านจะทำลายวิหารโบราณทั้งสามทิ้ง
“อาจารย์ ยังมีวิหารโบราณอีกสองแห่ง สถานที่เหล่านั้นเก็บรักษาสมบัติบรรพชนของพวกเราไว้ จะไปเอาพวกมันกลับคืนมาเลยหรือไม่?” โหยวเว่ยอวี้ถามเพราะเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง
ก่อนหน้านี้มีพระเจ้าของศาสนาหนึ่งถึงพวกเขาสังหารไปแล้ว วิหารโบราณอีกแห่งแห่งจะต้องมีพระเจ้าหลงเหลืออยู่เช่นกัน
“สมบัติบรรพชนของเราทั้งหมดจะต้องถูกนำกลับมา” เย่ฟ่านพูดอย่างแน่วแน่
แต่อย่างไรเย่ฟ่านไม่ได้ต้องการที่จะฆ่าผู้อื่น เขาจึงเดินออกจากห้องโถงไป มองลงไปที่ฝูงชนหนาแน่นด้านล่าง และมองไปยังวิหารโบราณอีกสองแห่งซึ่งอยู่ห่างไปไม่ไกล
เย่ฟ่านนั่งสมาธิก่อนจะเริ่มปลดปล่อยจิตใจของเขาให้เชื่อมต่อกับเต๋าซึ่งกระจายอยู่ในบริเวณนี้ จากนั้นเขาก็เริ่มบรรยายเต๋าเพื่อให้ผู้คนในดินแดนตะวันตกเลิกงมงายต่อพระเจ้าที่ไร้สาระ
ด้ายล่างมีคนที่ไม่พอใจเย่ฟ่านมากมาย เย่ฟ่านใช้พลังวิญญาณของเขาเปิดทะเลศักดิ์สิทธิ์ของคนเหล่านั้นและบรรยายเต๋าให้พวกเขารับฟังโดยตรง
ไม่นานหลังจากนั้นผู้คนก็ตระหนักถึงความจริงที่ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังของผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นพระเจ้า มันทำให้พวกเขาเกิดความรู้สึกราวกับตื่นขึ้นจากความฝัน
“นี่เป็นคัมภีร์ของซาตาน อย่าไปฟังมัน รีบหนี!”
ในตอนที่เย่ฟ่านกำลังบรรยายเต๋า มีคนกลุ่มหนึ่งหนีไป พวกเขามีความเชื่อมั่นต่อผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นพระเจ้า นั่นทำให้พวกเขาละเลยผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการบรรยายเต๋าของเย่ฟ่าน
หลังจากนั้นก็เกิดความสงบสุขขึ้นในเมืองศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนครึ่งหนึ่งหลบหนีกลับไปยังวิหารที่มีพระเจ้าสิงสถิตอยู่เพื่อขอความคุ้มครอง
ในขณะที่ผู้คนอีกครึ่งยังคงนั่งรับฟังการบรรยายเต๋าอยู่ด้านหน้าของเย่ฟ่าน
ในระยะไกลมีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นอีกครั้ง พระเจ้าผู้ทรงพลังคนที่สองปรากฏตัวจากวิหารที่อยู่ทางซ้าย เบื้องหลังของพวกเขาคือนักรบครูเสดจากวาติกันหลายพันคน
“ใครบังอาจดูหมิ่นพระเจ้า!”
ท้องฟ้าอันยิ่งใหญ่อึกทึกครึกโครมดังมาจากระยะไกลในวิหารที่อยู่ทางด้านขวา
แสงศักดิ์สิทธิ์พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ตรงนี่คือชายหนุ่มผู้สง่างามซึ่งสวมมงกุฎสีทองม่วง ร่างกายของเขาปลดปล่อยคลื่นอันศักดิ์สิทธิ์ออกมาอย่างไม่สิ้นสุด
“พวกเจ้าคือกลุ่มคนที่อ้างตัวว่าเป็นพระเจ้าอีกสองคนใช่หรือไม่?”
เย่ฟ่านมองด้วยสายตาเรียบเฉย เขาไม่ได้รู้สึกหวั่นเกรงต่อการปรากฏตัวของพระเจ้าทั้งสองแม้แต่น้อย
สองคนนี้มีพลังมากกว่าพระเจ้าที่ตายไป พวกเขาเป็นผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุดของอาณาจักรเซียนเทียมขั้นแล้ว ที่สำคัญคือร่างกายของพวกเขาแผ่รัศมีพลังที่อันตรายอย่างยิ่งออกมา ดูเหมือนพวกมันจะเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์บางอย่าง
ข้างหลังพวกเขาคือกลุ่มนักรบครูเสด แม้ว่าคนเหล่านี้จะไม่สามารถสร้างผลกระทบอะไรได้ แต่ก็เพียงพอที่จะขับเน้นให้การปรากฏตัวของพระเจ้าทั้งสองเต็มไปด้วยความสง่างาม
เย่ฟ่านไม่ได้พูดอะไรอีก เขาหยิบลูกเกาทัณฑ์สีดำสองลูกออกมา จากนั้นก็เล็งไปที่พระเจ้าทั้งสองทันที!
บึ้ม
ท้องฟ้าถล่มทลาย แผ่นดินแตกสลาย พระเจ้าทั้งสองคนคำรามด้วยความเจ็บปวด เมืองศักดิ์สิทธิ์คงถูกทำลายไปแล้วหากไม่ได้รับการปกป้องจากค่ายกลของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่
เย่ฟ่านใช้ทักษะซิงจื่อพุ่งไปข้างหน้า ความแข็งแกร่งของคนเหล่านี้ยังเทียบไม่ได้กับหยวนกู่หรือฮั่วอวิ๋นเฟย ดังนั้นเขาจึงไม่มีความจำเป็นอะไรจะต้องเมตตาฝ่ายตรงข้าม
“ปัง!”
ร่างของพระเจ้าที่อยู่ทางซ้ายถูกลูกศรศักดิ์สิทธิ์ฉีกร่างออกเป็นชิ้นๆ
“อา...”
เสียงกรีดร้องดังขึ้น ผู้แข็งแกร่งอีกคนซึ่งเรียกตัวเองว่าพระเจ้าก็ไม่อาบหลีกเลี่ยงชะตากับมันเลวร้ายเช่นกัน ร่างกายของพวกเขาถูกทำลายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว และมีเพียงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์สองดวงที่กำลังหลบหนี
ฉากนี้ทำให้นักรบหลายคนตกตะลึงเป็นอย่างมาก
วันนี้ถูกกำหนดให้เป็นวันที่มดมนที่สุด เป็นเหมือนกับโลกถูกปกคลุมไปด้วยดวงอาทิตย์สีดำ
เย่ฟ่านรวบฝ่ามือและดึงดูดวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองดวงเข้ามาจากนั้นก็ตะโกนออกไปว่า
“ถึงเวลาที่พวกเจ้าต้องคืนสมบัติบรรพชนมาแล้ว”
“อา!...”
เสียงร้องดังลั่น เย่ฟ่านยืนอยู่หน้าวิหารอันงดงามบนยอดเขา และสังหารนักรบครูเสดหลายพันคนทำให้เลือดของพวกเขาไหลนองไปทั่วพื้น
พระเจ้าทั้งสามคนของตะวันตกตายไปแล้ว และโลกทั้งโลกดูเหมือนจะพังทลายลง ผู้บ่มเพาะจากดินแดนตะวันตกจมอยู่ในความสิ้นหวัง
ในสายตาของผู้ศรัทธาผู้ศรัทธาเหล่านี้ โลกทั้งโลกสูญเสียความรุ่งโรจน์ไป และไม่มีวันที่พวกเขาจะกลับคืนสู่จุดเดิมได้อีกแล้ว นี่เป็นน้ำหนักและความเจ็บปวดที่พวกเขาไม่สามารถทนได้
“ศรัทธาคือชีวิตของเรา ต่อสู้เพื่อพระเจ้า!”
ฝูงชนร้องไห้ รอคอยความตาย และรีบไปยังภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่สูงที่สุดในเยรูซาเล็ม พวกเขาจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้เย่ฟ่านมีชีวิตรอดออกจากที่นี่
เย่ฟ่านไม่ได้กล่าวอะไร เขาเหยียดนิ้วออกและกวาดลงไปข้างล่าง อัศวินเจ็ดแปดสิบคนกลายเป็นหมอกเลือด เลือดของพวกเขากระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้า
ความตายอันน่าเศร้าของผู้คนจำนวนมากไม่ได้ทำให้เย่ฟ่านขมวดคิ้วแม้แต่น้อย เขาชินชากับการสังหารผู้คนไปแล้ว ในตอนที่อยู่เป่ยโต้วเขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองฆ่าคนไปมากแค่ไหน
เย่ฟ่านยังคงนั่งสมาธิอยู่ในตำแหน่งเดิมพร้อมกับบรรยายเต๋าให้กับผู้บ่มเพาะจำนวนหนึ่งของดินแดนตะวันตกฟัง
เสียงของเขาก้องไปทั่วท้องฟ้า เมฆมงคลร่วงหล่นลงมาราวกับเป็นการยืนยันว่าพระเจ้าคนใหม่ได้มาถึงแล้ว ความรุ่งเรืองและเป็นมงคลปกคลุมไปทั่วทุกที่
สิ่งที่เขาบรรยายในตอนนี้คือส่วนแรกของคัมภีร์เต๋า มันสามารถกำจัดโชคชะตาอันเลวร้ายบางส่วนออกจากชีวิตได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกคัมภีร์โบราณบทนี้ออกมาบรรยาย
“วิถีอมตะนั้นล้ำค่า และไม่มีขีดจำกัดสำหรับสิ่งมีชีวิตที่ต้องการต่อต้านสวรรค์”
เสียงของเย่ฟ่านดังกึกก้องเหมือนสายฟ้าร้อง เขาบรรยายคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์และทำให้เกิดเหตุการณ์แปลกๆ ปรากฏขึ้น การบรรยายนี้ดำเนินไปถึงสามวันและผู้คนจำนวนมากที่อยู่รับฟังคำบรรยายของเย่ฟ่านก็เริ่มมีศรัทธามากขึ้นเรื่อยๆ
เย่ฟ่านต้องการไปยังแดนสวรรค์แห่งอื่นภายในดินแดนตะวันตก อย่างไรก็ตามตลอดหลายวันที่ผ่านมายังคงมีกลุ่มนักรบครูเสดวนเวียนอยู่ในบริเวณโดยรอบ
ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะปักหลักอยู่ที่นี่พร้อมกับสังหารทุกคนที่อาจสร้างภัยพิบัติให้กับประเทศจีนได้
แน่นอนว่าเย่ฟ่านไม่ต้องการทำให้เกิดการสังหารหมู่ครั้งใหญ่ หากคนเหล่านี้ไม่บุกขึ้นมาบนยอดเขาด้วยตัวเองเย่ฟ่านก็คร้านที่จะออกไล่ล่าสังหารพวกเขา
สีสันอันเป็นมงคลร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า และน้ำพุอันแสนหวานผุดขึ้นมาจากผืนดิน ต้นไม้ที่ตายแล้วแตกหน่อ ผู้ป่วยและผู้พิการเริ่มฟื้นตัว พลังแห่งเต๋าที่มาจากคัมภีร์เต๋าสร้างความศรัทธาให้กับผู้คนจำนวนมาก
คำโบราณคำแล้วคำเล่าออกมาจากปากของเย่ฟ่าน พวกมันกลายเป็นตัวหนังสือโบราณที่กระจายไปทั่วความว่างเปล่าและชำระล้างจิตใจให้กับผู้คนที่อยู่ในบริเวณนี้
เย่ฟ่านไม่มีเจตนาฆ่าใดๆ เลย เขาดูเหมือนเซียนโบราณอายุหลายพันปี ทุกคำพูดที่เขากล่าวนั้นชัดเจน กลายเป็นแสงอันศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถจับต้องได้
รัศมีสังหารอันน่าตกตะลึงในเมืองเยรูซาเลมหายไปและเมื่อนักรบที่ต่อต้านเย่ฟ่านเกือบถูกสังหารทั้งหมด ยิ่งมีผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลออกมาคุกเข่าด้านหน้าเย่ฟ่านเพื่อรับฟังการบรรยายเต๋าของเขา
ที่เชิงภูเขาศักดิ์สิทธิ์ มีนักรบครูเสดจำนวนมากนั่งสมาธิอยู่บนพื้น สีหน้าของพวกเขาสงบนิ่งเห็นได้ชัดว่าได้รับผลประโยชน์จากเย่ฟ่านไม่มากก็น้อย
………