บทที่ 335 : พายุ(1)
บทที่ 335 : พายุ(1)
ชูโจวเจอกลุ่มโจรสลัดอวกาศอีกสองกลุ่มบริเวณห้วงอวกาศใกล้เคียงดาวเบต้า
และด้วยความช่วยเหลือของ "เพื่อนใหม่" ที่พร้อมจะ "เสียสละตัวเองเพื่อผู้อื่น" ทำให้ชูโจวได้รับคะเเนนคุณสมบัติเพิ่มขึ้นอีก 1 แสนล้านคะแนน
คะเเนนคุณสมบัติทั้งหมดของเขาในตอนนี้คือ 2.237 แสนล้าน
"ไม่ใช่ว่าบริเวณใกล้เคียงดาวเบต้ามีกลุ่มโจรสลัดอวกาศนับสิบไม่ใช่หรือไง?
ทำไมเราถึงเจอแค่สี่กลุ่มกัน….ที่เหลือหายไปหมดกัน?"
ชูโจวคิดในขณะที่กำลังกลับไปที่เเพนดากอนวิลล่า
……
ณ กลาง ดึกคืนเดียวกันนั้นเอง
เมืองเบต้า
นิกริชลูบรอยแผลเป็นบนหน้าของเขา พร้อมมองไปที่คฤหาสน์เจ้าเมืองด้วยใบหน้าเยือกเย็น
เขามองผ่านหน้าต่างฝรั่งเศสของคฤหาสน์พร้อมกับสายตาที่หมองหม่น
เขากลับมาแล้ว
หลังจากที่เขาพ่ายแพ้ในวังวนการแย่งอำนาจของครอบครัว เขาถูกไล่ออกจากดาวเบต้าด้วยฝืมือน้องชายของเขาเอง
เขายังจำสภาพโทรม ๆ ของตัวเองในตอนนั้นที่ไม่ได้ต่างอะไรไปจากหมาจรจัดแม้แต่น้อย
และในตอนนี้….หลังจากที่ภายไปหลายปี เขาก็ได้กลับมาที่เมืองแห่งนี้อีกครั้งเพื่อล้างแค้น
"อัลเมอร์สฉันจะ 'ตอบแทน' ทุกอย่างที่นายมอบให้ฉันในตอนนั้นให้หมด!"
นิกริชยิ้มพร้อมกับสายตาที่เปลี่ยนไปเป็นชั่วร้าย ราวกับอสรพิษที่กำลังจ้องจะกัดเหยื่อ
"ในคฤหาสน์เจ้าเมืองมีนักรบระดับเก้าดวงดาวทั้งหมดกี่คน?”
ถึงแม้ปากเขาจะไม่ได้ขยับ….แต่เสียงของเขาก็ลอยเข้าไปในหูของผู้ติดตามด้านหลังของเขา
"หากนับรวมอัลเมอร์สด้วย ก็จะมี 28 คนครับ!"
"เเล้ว, นอกจากคฤหาสน์เจ้าเมือง…มีพวกนักรบเก้าดวงดาวอิสระในเมืองเบต้าอีกกี่คน และนอกจากนี้ในคนพวกนั้นมีกี่คนที่ความสัมพันธ์ที่ดีกับ อัลเมอร์ส?"
"ท่านครับ, เพราะดวงดาวเบต้าเป็นดาวค้าขาย….มันจึงมีนักรบระดับเก้าดวงดาวอิสระเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ในดาวเบต้ามีนักรบระดับเก้าดวงดาวอีกประมาณ 32 และ จากในจำนวนนั้นมีราว 20 คนที่รู้จักกับอัลเมอร์สเป็นการส่วนตัว"
"แค่นี้งั้นหรอ?"
"ครับ" ลูกน้องทั้งสามกล่าวออกมาด้วยเสียงเบาจากด้านหลัง
เสียงที่ส่งออกตรงเข้าสู่หูของนิกริชโดยตรง โดยที่ไม่มีเสียงหลุดรอดออกไปที่อื่นแม้แต่น้อย
"ตามแผนที่เราว่างไว้….หลังจากที่เราดำเนินแผน ทีมที่ไม่ได้มีหน้าที่ในการโจมตีคฤหาสน์เจ้าเมืองก็จะคอยควบคุมนักรบเก้าดวงดาวที่เหลือ, เพื่อไม่ให้พวกที่มีความสัมพันธ์กับอัลเมอร์สออกมาช่วยเหลืออัลเมอร์สได้"
"และในส่วนของห้ามหาอำนาจ เรายิ่งไม่ต้องกังวล”
“พวกนั้นจะไม่ออกมาผสมโรงเรื่องการเมืองภายในของดาวเคราะห์ต่าง ๆในจักรวาล”
"ในส่วนของกองกำลังและตระกูลต่างๆ.…พวกนั้นเองก็ไม่น่าจะออกมามีส่วนรวมเช่นกัน อย่างน้อยก็จนกว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายนึงใกล้จะชนะ" นิกริชกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ
ลูกน้องทั้งสามพยักหน้าเป็นการตอบรับเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดตอบอะไรกลับ
เเละทันใดนั้นเอง….หน้าต่างการสนทนาก็โผล่ออกมาด้านหน้านิกริช
ในหน้าต่างสนทนามีชายแก่ผิวสีเขียว และนัยต์ตาสีเลือดยืนอยู่อย่างสง่างาม
"นิกริชทำความเคารพ, ลอร์ดเบิร์ก!"
นิกริชรีบก้มลงคุกเข่าลงข้างนึงทันทีที่หน้าต่างสนทนาของชายแก่โผล่ขึ้น
ลูกน้องทั้งสามของเขาเองก็คุกเข่าลงเช่นเดียวกัน
"นิกริช….ฉันมอบโอกาสให้กับนายแล้ว เพราะงั้นอย่าทำให้ฉันต้องผิดหวังหล่ะ!" ชายแก่หลังหน้าต่างสนทนากล่าวขึ้นมา
"ลอร์ดเบิร์กได้โปรดวางใจ หลังจากวันนี้ผมจะขึ้นเป็นเจ้าเมืองผู้ปกครองของดาวเบต้า และคำสัญญาที่ผมให้ไว้กับตระกลูแทลอนจะเป็นจริงอย่างแน่นอน " นิกริชกล่าวขึ้น
"ฉันก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้น!" ร่างของชายแก่ในหน้าต่างหายไปหลังจากที่เขากล่าวประโยคนี้ออกมา
นิกริชยืนขึ้นและส่งสัญญาให้ลูกน้องที่เหลือของเขาทั้งสามพร้อมกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด "ไปบอกทุกคนว่าจะเริ่มดำเนินแผนตอนเที่ยงคืนตรงของวันนี้ "
"รับทราบขอรับ!" ร่างของลูกน้องทำสามกลายเป็นภาพติดตาก่อนที่จะค่อย ๆ เลือนหายไป
…
เที่ยงคืน
กลุ่มคมจำนวนนึงได้ปรากฏตัวมาที่ด้านนอกของวิลล่าเเพนดากอน
นำหน้าคือร่างเงาสามคนในชุดสีม่วง
"พวกเรากองกำลังชุดม่วงต้องมาทำตามคำสั่งไอ้ขยะนิกริช…แบบนี้น่ารำคาญชะมัด!" เซลคินพูดขึ้นด้วยสีหน้าหงุดหงิด
"หุบปากเซลคินนี่เป็นคำสั่งตรงจากหัวหน้าตระกูล" จิงยันมองไปทางเซลคินเเล้วเอ่ยห้ามอีกฝ่าย
"มาทำภารกิจให้มันจบๆ ไปเถอะ!" ซิลลา-แทลอนมองไปทางเซลคินและจิงยัน
"ตามแผน, เราสามคมจะมุ่งหน้าไปจัดการชูโจว ส่วนพวกที่เหลือจะไปจัดการเพื่อนของชูโจว…หากมีการขัดขืนอนุญาตให้โจมตีได้"
"กัปตันพวกเราเป็นนักสู้ระดับสูงจากตระกูลแทลอน…มีนักรบระดับเก้าดวงดาวไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ที่ตายลงภายใต้เงื้อมมือของพวกเรา….กับแค่จัดการชูโจวมันจะไปยากอะไร " เซลคินพึมพำ
"หยุดพูดแล้วลงมือได้แล้ว!"
หลังจากที่พูดจบซิลลา-แทลอนก็กลายเป็นภาพติดตาเเละมุ่งหน้าเข้าไปในวิลล่าเเพนดากอน
เซลคิน กับจิงยัน และคนที่เหลือต่างก็มุ่งหน้าตามเขาเข้าไปในวิลล่าเเพนดากอนทีละคน
ซิลลา-แทลอน, เซลคิน, จิงยันมีเป้าหมายเดียวคือมุ่งหน้าไปยังที่พักของชูโจว
ส่วนที่เหลือแยกย้ายไปหาคนอื่นในวิลล่าเเพนดากอน
เเต่เมื่อ, ซิลลา-แทลอน เซลคิน จิงยันมาถึงที่พักของชูโจว…..เสียงเสียงหนึ่งก็ดัดังขึ้นมาทันที
"ถ้าไม่ถือว่าเป็นการรบกวน ช่วยบอกฉันหน่อยได้ใหมว่าพวกนายต้องการที่จะตายแบบไหนกัน?"
ชูโจวผู้ที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟากล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
ซิลลา-แทลอนและคนอื่นๆหันไปมองชูโจวในเวลาเดียวกัน
นี่มันไม่รู้หรือว่าพวกเราเป็นใคร?
พวกเราคือนักรบกองกำลังชุดม่วงของตระกูลแทลอนนะ
สมาชิกกองกำลังชุดม่วงทั้งเก้าพันคนของตระกูลแทลอนเป็นที่รู้จักันไปทั้วจักรวรรดิกาแลกติก แม้แต่อารยธรรมพื้นฐานในจักรวาลใกล้เคียงก็รู้จักพวกเขา
ชูโจว, นักรับจากดาวบ้านนอกในจักรวรรดิกาแลกติกกลับกล้าที่จะดูถูกพวกเขาทั้งสามคน….หมอนี่มันเอาความกล้ามาจากไหนกัน!
"เเปจะตายเพราะปากของเเกเอง " ซิลลา-แทลอนมองไปที่ตาของชูโจว และกล่าวออกมาอย่างเย็นชา
"ความจริงแล้วพวกเราเพียงแค่จะควบคุมตัวเเกไว้, เเกยังมีโอกาสรอดอยู่แท้ๆ……แต่ ตอนนี้เเกหมดโอกาสแล้ว "
"ไอ้นักรบจากดาวบริเวณชายแดนของจักรวรรดิกาแลกติกที่ไม่เคยออกไปเจอจักรวาลอันกว้างใหญ่…..กล้าที่จะดูถูกพวกเรานักรบกองกำลังชุดม่วง, แกมันรนหาที่ตายจริงๆ!"
เซลคินยิ้มเย้ย, ก่อนที่คลื่นสายฟ้าสีม่วงทั้ง 108 เส้นจะพุ่งออกมาจากร่างของเขาด้วยความเร็วสูง…..เเละพวกมันก็ค่อยๆรวมตัวกันเป็นตาข่ายขังชูโจวไว้ไม่ให้เขาหนีไปไหนได้
ด้านชูโจวเองก็ย่อมรู้สึกถึงพลังงานของกฏจากสายฟ้าแต่ละเส้นได้ชัดเจน
สายฟ้าสีม่วงทั้ง 108 เส้น….ในแต่ละเส้นมีพลังมากพอที่จะฆ่านักรบระดับแปดดวงดาวให้ตายได้ในการโจมตีเดียว
"กองกำลังชุดม่วงไม่ใช่อะไรที่คนแบบเเกจะมาเหยียดหยามได้!"
จิงยันกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นพร้อมกับคลื่นแม็กม่าและเปลวเพลิงจำนวนมากได้ทะลักออกมาในเวลาเดียวกัน
พวกมันไหลมารวมตัวกันเป็นเส้นดายสีแดงเพลิงที่พุ่งเข้าหาชูโจวด้วยความเร็วสูง
อุณหภูมิของเส้นดายเพลิงนั้นสูงจนยากจะจินตนาการ แม้กระทั่งแค่การเคลื่อนไหวธรรมดา มันยังสามารถเผาและทิ้งรอยไหม้ไว้ในความว่างเปล่าได้
ด้านซิลลา-แทลอนนั้นไม่ได้ลงมือด้วย….เขาเพียงแค่ยืนกอดอกพร้อมกับสังเกตฉากตรงหน้าอย่างสงบ
ในความคิดของเขา, แค่เซลคินกับจิงยันก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการกับนักรบจากดาวล้าหลังอย่างชูโจว
เซลคิน และจิงยันต่างเป็นนักรบจากกองกำลังชุดม่วงของตระกูลแทลอน และนักรบจากกองกำลังชุดม่วงทุกคนต่างถูกคัดเลือกจากผู้คนนับพัน ที่ผ่านประสบการณ์ในการต่อสู้มานับไม่ถ้วน
พลังของสองคนนี้เป็นของจริง
เซลคินยิ้มออกมาอย่างโหดเหี้ยม ส่วนจิงยันนั้นยังมีสีหน้านิ่งเฉยในขณะที่มองไปยังชูโจว ราวกับว่าทั้งสองคนได้มองเห็นจุดจบของชูโจวเรียบร้อยแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม, ฉากต่อมาทำให้สีหน้าของทั้งสองพรันเปลี่ยนเป็นแข็งค้าง
สายฟ้าสีม่วง 108 เส้น และด้ายเพลิงพุ่งทะลุร่างของชูโจวไปราวกับภูติผี และทันใดนั้นเองร่างของชูโจวได้มาหยุดอยู่ที่ด้านหน้าของทั้งสองคนแทน
"ฉึก!"
ชูโจวยื่นมือออกมาราวกับดาบอันแหลมออกจากฝัก เขาแทงเข้าไปที่หัวใจของทั้งสองคน
จากนั้นมันก็มีพลังจากกฎต่างๆค่อยๆโผล่ออกมาจากแขนของเขาเเละทำการดูดกลืนพลังชีวิตและวิญญาณของทั้งสองคน
ในตอนนี้เองเซลคินและจิงยันได้ตายลงอย่างสมบูรณ์
ดวงตาของทั้งสองคนเบิกกว้างและจ้องไปทางชูโจวด้วยความตกตะลึง ราวกับจนวินาทีสุดท้ายทั้งสองก็ยังไม่เชื่อว่าชูโจวจะแข็งแกร่งเช่นนี้
"นี่...มันเป็นไปได้ยังไงกัน?"
ซิลลา-แทลอนเองก็ตะลึงด้วยเช่นกัน
คู่หูของเขาทั้งสองคนถูกชูโจวฆ่าทิ้งลงภายในเสี้ยววินาที?
ตอนนี้เองนั้นที่ซิลลา-แทลอนถึงได้เข้าใจขึ้นมาว่าชูโจวนั้นไม่ใช่นักรบระดับเก้าดวงดาวทั่วไป….แต่เป็นนักรบระดับเก้าดวงดาวที่ทรงพลังมากไร้ที่เปรียบ
นี่คือความต่างระหว่างคน
เหมือนในห้องเรียนที่มีทั้งคนได้คะแนนดี และคนที่ได้คะแนนแย่ และในบางครั้ง... คะแนนของนักเรียนที่เยอะที่สุดและแย่ที่สุดนั้นห่างกันเกินกว่าที่จะจินตนาการได้
และตรรกะเดียวกันนี้ก็สามารถนำมาใช้กับนักรวได้เหมือนกัน….ความต่างระหว่างนักรบระดับเก้าดวงดาวทั่วๆไป กับนักรบระดับเก้าดวงดาวที่ไร้ที่เปรียบนั่นห่างชั้นกันจนเกินไป
เเละในฐานะของนักรบระดับผู้นำหน่วยจากกองกำลังชุดม่วง และสมาชิกสายตรงของตระกูลแทลอน
ซิลลา-แทลอนเองย่อมรู้ว่าอัจฉริยะของตระกูลใหญ่ๆที่ผ่านการฝึกเป็นพิเศษนั้นจะมีพลังมากกว่านักรบในระดับเดียวกันมากแค่ไหน
แต่เพียงแค่เข้าไม่คิดว่าชูโจว, นักสู้อิสระจากดวงดาวล้าหลังเขตชายแดนจะเป็นอัจฉริยะที่ไร้ที่เปรียบเหมือนกัน
"ต้องหนี!"
หลังจากที่ซิลลา-แทลอนรู้ว่าสถานการณ์นี้ไม่ถูกต้องเขาก็เลือกที่จะหนีออกไปทันที
"โอ้ บ้านของฉันมันเป็นที่ที่นายสามารถเข้าออกได้ตามใจเลยงั้นหรอ?"
ชูโจวยืนกอดอกมองไปที่ซิลลาที่กำลังพยายาหนีอย่างเฉยเมย
เมื่อเห็นว่าชูโจวไม่ได้ไล่ตามมา….ซิลลา-แทลอนก็อดไม่ได้ที่จะดีใจเล็กน้อย
เขารีบขับเคลื่อนพลังทั้งหมดที่มีและพุ่งหนีออกไปอย่างสุดกำลัง
แต่หลังจากที่หนีไปได้ไม่ไกลเขาก็ต้องหยุดลง
เพราะว่าหลังจากที่เขาออกมา….หากเป็นปกติเขาควรที่จะพุ่งออกจากวิลล่านี้ไปไกลหลายร้อยกิโลเมตรแล้ว
แต่นี่เขากลับยังอยู่ที่เดิม
"นี่มัน...ทักษะพับมิติ?"
ซิลลา-แทลอนนึกถึงทักษะด้านมิติที่ลึกลับนั่น และเขาก็หน้าซีดลงทันที
"ดูเหมือนว่านายก็พอมีความรู้อยู่เหมือนกันนี่ ถึงกับรู้จักทักษะพับมิติ”
“แต่ว่านะ….นั่นไม่ได้เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่านายกำลังจะตายได้หรอก”
ชูโจวกล่าวขึ้นเบาๆ ก่อนที่จะทำการคว้าซิลลา-แทลอนที่อยู่กลางอากาศ
จากนั้นพื้นที่รอบๆซิลลา-แทลอนก็ค่อยๆบิดเบี้ยวและขดตัวลงจนรอยแตกมิติสีดำปรากฏขึ้น
ซิลลา-แทลอนถูกโจมตีด้วยทักษะลึกลับอย่างการฉีกมิติและบิดมิติ…..จนร่างของเขานั้นถูกบิดไปเรื่อยๆก่อนที่จะถูกฉีกทิ้งเป็นเสี่ยงๆ
จากนั้น, ชูโจวก็รีบดูดพลังงชีวิตและพลังวิญญาณจากศพของซิลลา-แทลอน…..ก่อนที่จะสร้างหลุมดำออกมาเพื่อทำลายศพของทั้งสามคน
"บูม บูม บูม..."
ในเวลาเดียวคลื่นพลังงานจากการต่อสู้ภายในเมืองประทุขึ้นออกมา
"ดูเหมือนว่าคืนนี้เมืองเบต้าจะรื่นเริงไม่น้อยเลยนะ!"
"ตอนแรกเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา….แต่ในเมื่อโดนเชิญถึงที่เเบบนี้”
“การไม่ไปเข้าร่วม, มันก็จะหยาบคายไปสักหน่อย”
ชูโจวกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นก่อนที่ร่างของเขาจะค่อยๆหายไปในชั่วพริบตา
……………