ตอนที่ 1 ท่านอาจารย์ อย่าโทษว่าผมโหดเหี้ยมเลยนะ
“ท่านอาจารย์ อย่าตำหนิว่าผมโหดเหี้ยมเลยนะ”
“ใครใช้ให้ท่านสอนเรื่องพวกนั้นกัน ตอนนี้ไม่มีใครเชื่อแล้ว”
“ในยุคนี้ แม้แต่เด็กประถมยังรู้เลยว่าพวกเรื่องดูดวงล้วนเป็นเรื่องโกหก เราต้องเชื่อในวิทยาศาสตร์”
ซู่ซวนหันหน้าไปทางแผ่นจารึกอนุสรณ์ของอาจารย์หลี่ฉังเหอ ซู่ซวนก็จุดธูปอย่างเงียบ ๆ
นิกายของเขาเรียกว่า "นิกายเทียนจี" [ประตูลับแห่งสวรรค์]
ซู่ซวนเรียนรู้การทำนายดวงจากหลี่ฉังเหอ อาจารย์ของเขาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ
การเดินทางในอุตสาหกรรมนี้ หลักๆ ก็อาศัยคำศักดิ์สิทธิ์หกตัว ได้แก่ สร้างความตกใจ ใส่ร้าย หลอกล่อ หว่านล้อม อวยพร และขาย! [เป็นคำศัพท์เฉพาะทางที่ใช้ในวงการหมอดู]
[敲:สร้างความตื่นตกใจให้กับลูกค้า
打:ใส่ร้ายป้ายสีลูกค้า
审:หลอกล่อให้ลูกค้าเชื่อ
千:พูดจาหว่านล้อมให้ลูกค้าทำตาม
隆:อวยพรให้ลูกค้าประสบความสำเร็จ
卖:ขายสินค้าหรือบริการต่างๆ ให้กับลูกค้า]
สรุปได้ง่ายๆสองคำ - ต้มตุ๋น!
เมื่ออายุสิบขวบซู่ซวนก็คุ้นเคยกับกิจวัตรการทำนายดวงชะตาต่างๆ
เดิมทีซู่ซวนคิดว่าเขาจะสืบทอดร้านหมอดูของอาจารย์และเป็นหมอดูตัวน้อยไปตลอดชีวิต
ถ้าโชคดีก็อาจจะหลอกพวกคนรวยๆได้
สามารถเป็นแขกผู้มีเกียรติได้กินของอร่อยและดื่มของร้อนๆ
ในบรรดาเพื่อนฝูงหลายคน สิ่งนี้ถือว่าเป็นที่ยอมรับได้
แต่ก็มีไม่คาดคิด เมื่อเขากำลังจัดการข้าวของของอาจารย์อยู่ เขาก็ได้ค้นพบคัมภีร์ลับที่มีชื่อว่า "เทียนจีเสินซวน" [การทำนายดวงชะตาแห่งสวรรค์]
หลังจากอ่านมันแล้วซู่ซวนก็ตกใจเมื่อพบว่าเขาได้เรียนรู้ความสามารถในการตรวจสอบความลับแห่งสวรรค์ได้จริงๆ!
ไม่ใช่กลเม็ดแบบที่อาจารย์เคยสอน!
นี้ทำให้ซู่ซวนต้องประหลาดใจ เขาพบว่าวิธีพัฒนาทักษะพลังนี้ง่ายมาก
ไม่จำเป็นต้องปิดด่านบำเบ็ญตนเป็นเวลาหลายสิบปี
ตราบใดที่เขาเปลี่ยนชะตากรรมของผู้อื่นได้ เขาก็จะสามารถเพิ่มฐานพลังของตัวเองได้!
นี่คือเทคนิคบ่มเพาะที่สามารถทำให้กลายเป็นเซียนอมตะได้!
ซู่ซวนรู้สึกตื่นเต้นในเวลานั้น และสร้างโชคลาภให้กับตัวเองทันทีหลังจากเรียนรู้มัน
ในอุตสาหกรรมการทำนายดวงนั้น ไม่เคยมีข้อจำกัดใด ๆ อย่างการไม่สามารถดูดวงให้ตัวเองได้
กฎที่ยุ่งเหยิงพวกนั้นล้วนเป็นกลอุบายของหมอดูกระจอกที่ใช้ต้มตุ๋นผู้คน
ซู่ซวนคิดแบบนั้น
ฉันจะได้เป็นเหมือนในตัวเอกในนิยายแนวสนุกๆแล้ว
อาศัยวิธีการทำนายดวงชะตา เขาสามารถเป็น "ปรมาจารย์" ในสายตาผู้อื่นและถึงจุดสูงสุดของชีวิตได้อย่างง่ายดาย
แต่สิ่งที่ซู่ซวนไม่คาดคิดก็คือ
ผลการทำนายก็คือ——
หากเขายังคงเป็นหมอดูต่อไป ดวงชะตาของเขาจะถูกกำหนดให้ยากจนและไม่สามารถหาแฟนได้ชั่วชีวิต
เขาจะตายตั้งแต่ยังเด็กบนถนน
ซู่ซวนตกตะลึงในทันที
เขาเพิ่งได้รับคัมภีร์ลับที่โคตรสุดมหัศจรรย์มา เขาคิดว่าเขาจะสามารถไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตได้ด้วยการพึ่งพาของพวกนี้
แล้วจะบอกเขาว่าให้เป็นหมอดูเพื่อดูดวงไม่ได้งั้นเหรอ?
นี้แน่ใจนะว่าพระเจ้าไม่ได้ล้อเขาเล่นใช่ไหม?
เขาทำนายอีกครั้ง และผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม
แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีทางออก
หากเขาต้องการที่จะเปลี่ยนชีวิตของเขาโดยขัดกับเจตจำนงของสวรรค์
งั้นก็ไปเป็นหมอสิ....
ตอนนั้นซู่ซวนเกือบจะกระอักเลือดออกมา
ถ้าต้องการเป็นหมอ อย่างน้อยคุณต้องเข้ามหาวิทยาลัยการแพทย์อย่างน้อย 5 ปี และจึงค่อยไปต่อหลักสูตรระดับสูงกว่าปริญญาตรีอีก 3 ปี
การจะเข้าโรงพยาบาลดีๆ จะต้องมีใบปริญญาเอกอย่างน้อยจึงจะเข้าได้
การจะเริ่มต้นต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบปี
เขาอายุยี่สิบแล้ว และเขาสำเร็จการศึกษาในมหาวิทยาลัยแล้วเท่านั้น
โรงพยาบาลไหนจะอยากได้เขา?
ด้วยความสิ้นหวังซู่ซวนจึงไป "สอบ" ใบรับรองในฐานะที่ปรึกษาด้านจิตวิทยา
จิตแพทย์ ก็ยังเรียกหมออยู่...
และมันบังเอิญสอดคล้องกับสายงานเก่าของเขามาก
ยังไงก็ตามย่อมมีคนพบกับสิ่งที่ไม่สามารถจินตนาการได้
ด้วยทักษะการพูดของเขาสามารถคลายความกังวลของผู้คนได้
แล้วเก็บเงินอย่างมีความสุข
จบแค่นั้นแหละ
ซู่ซวนเปิดห้องให้คำปรึกษาด้านจิตวิทยาในร้านที่อาจารย์ของเขาทิ้งไว้
แม้แต่ชื่อนี้ก็ยังเป็น "รับให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาเทียนจี"
เมื่อเขามีชื่อเสียงในอนาคต เขายังคงถือได้ว่าเป็นมรดกของความปรารถนาสุดท้ายของอาจารย์และ "สืบสานนิกายของเรา" ต่อไป
“เปิดวันแรกไม่มีลูกค้าสักรายเลย”
ซู่ซวนหยุดอยู่นอกประตู
หลังจากทำนายเล็กน้อย เขาก็รู้แล้วว่าวันนี้จะไม่มีลูกค้ามาที่ประตู
ในด้านการให้คำปรึกษาทางจิตวิทยานั้น เราอาศัยการแนะนำลูกค้าเก่าเป็นหลัก
ห้องให้คำปรึกษาใหม่ๆ อย่าง ซู่ซวน ยังไม่เป็นที่รู้จัก
หากไม่ทำโฆษณา เป็นเรื่องปกติที่จะไม่มีใครมาที่ร้านของคุณเป็นเวลาหลายเดือน
ซู่ซวนเองก็ไม่รีบร้อนเช่นกัน
สมัยนี้จะมีใครมารอลูกค้าเพื่อปรึกษาถึงหน้าร้านอยู่บ้าง?
เขาเปิดซอฟต์แวร์บนโทรศัพท์มือถือและสมัครบัญชีซอฟต์แวร์ถ่ายทอดสด "โม่อิ้ง"
เริ่มถ่ายทอดสดกันเลย!
สำหรับผู้มาใหม่อย่างซู่ซวนที่ไม่มีแฟนๆ แน่นอนว่าไม่มีผู้ชมในห้องถ่ายทอดสด
ซู่ซวนไม่รีบร้อนและรออย่างชิว ๆ
หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น โอกาสของเขาจะมาถึงในไม่ช้า
ณ ขณะนั้น
สตรีมเมอร์ที่ชื่อ "โค้กใส่น้ำแข็ง" กำลังคุยกับคนดูในสตีมที่ห้องถ่ายทอดสด
“โค้กใส่น้ำแข็ง” เป็นสตรีมเมอร์ระดับท็อปที่มีแฟนๆ นับแสนคน
ด้วยหน้าตาที่น่ารักและฟิลเตอร์ของโปรแกรมไลฟ์สดทำให้เธอดูเด็กกว่าอายุจริงอย่างน้อยสิบปี
จนดูเหมือนเด็กสาวมัธยมปลาย
“ไง ครอบครัว ฉันรู้สึกเหมือนฉันมีปัญหาบางอย่างเมื่อเร็ว ๆ นี้”
"ทุกวันนี้ฉันมีอาการหงุดหงิดในระหว่างวันและนอนไม่หลับในเวลากลางคืน"
โค้กใส่น้ำแข็งบ่นกับคนดูในสตีมว่า "พวกคุณคิดว่าเป็นไปได้ไหมที่ฉันจะป่วย"
“ฟังดูจริงจังนะ เธออยากพบจิตแพทย์ไหม?”
“เธอคงจะเหนื่อยเกินไปนะ เฟยไจสุ่ย เธอควรพักผ่อนให้มากกว่านี้นะ ไม่งั้น วันนี้งดถ่ายทอดสดซะ” [เฟยไจ-คนอ้วนที่ชอบเก็บตัวอยู่ในบ้าน ,สุ่ย-น้ำ ]
“ฉันไม่เชื่อหรอก โค้กใส่น้ำแข็งคงต้องหาข้ออ้างที่จะขี้เกียจอยู่แน่! เว้นแต่เธอจะให้ฉันดูอาการให้~”
"ไม่ใช่หรอก เฟยไจสุ่ย เธอแค่ไม่ได้มีแฟนมานาน จนมีความผิดปกติตรงต่อมไร้ท่อ ฉันช่วยเรื่องนี้ได้นะ~ 【น้ำลายไหล.GIF】”
โค้กใส่น้ำแข็งถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
“พวกนายนี่มันเป็นพวกตาแก่หื่นกามจริงๆ”
“งั้น สำหรับเนื้อหาการถ่ายทอดสดวันนี้ ทำไมไม่ไปหาจิตแพทย์มาโชว์ล่ะ”
“ฉันจะไม่ไลฟ์สด พวกนายคงไม่อยากเห็นหน้าโทรมๆและดูหดหู่ใช่ไหม?”
แม้เธอจะถอนหายใจออกมาผิวเผิน แต่จริงๆ แล้วเธอรู้สึกมีความสุขเล็กน้อยในใจ
เธอมีความสุขมากที่ได้ถ่ายทอดสดต่ออีกวัน
เธอขี้เกียจออกไปหาหมอ ดังนั้นเธอจึงค้นหาคำว่า จิตวิทยา บนแพลตฟอร์มถ่ายทอดสด
สตรีมเมอร์ที่ให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาไม่ได้รับความนิยมมากนักในโม่อิ้ง
คนที่มีแฟน ๆ มากที่สุดมีเพียงไม่กี่พันเท่านั้น
หากต้องการดึงดูดแฟน ๆ จากอีกฝ่ายจะไม่ได้ผลมากนัก
โค้กใส่น้ำแข็งไม่ได้ดูจำนวนแฟนๆ ของอีกฝ่าย แต่ค้นหาแบบสบายๆ
“เฮ้ สตรีมเมอร์คนนี้ดูหล่อมากเลย”
โค้กใส่น้ำแข็งเห็นห้องถ่ายทอดสดชื่อ [รับให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาเทียนจี ครั้งละสองพัน]
ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็สว่างขึ้นทันที
ว่ากันว่าการไลฟ์ของสตรีมเมอร์ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ต้องคำนึงถึงผลกระทบของการถ่ายทอดสดด้วย
ก่อนอื่น เป้าหมายของผู้คนที่จะพูดคุยด้วยที่ดีที่สุดคือ สูงและดูดี ซึ่งเป็นพื้นฐาน
ประการที่สอง อีกฝ่ายควรมีสิ่งที่น่าสนใจดูเพื่อไม่ให้คนดูเบื่อ
ชื่อห้องถ่ายทอดสดนี้ทำให้คนอยากบ่น รู้รึเปล่า
คุณรู้ไหมว่าแม้แต่การให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาแบบปกติก็มีค่าใช้จ่ายไม่กี่ร้อยหยวนต่อชั่วโมงเอง
หากเป็นเมืองใหญ่มีชื่อเสียงมากกว่านี้ หนึ่งพันก็เพียงพอแล้ว
ถ่ายทอดสดแบบออนไลน์โดยทั่วไปราคาจะถูกลง
หลายช่องมีราคาหลายสิบหยวน พวกเขาไม่ต้องการเงินเพื่อดึงดูดแฟนๆ ด้วยซ้ำ
โค้กใส่น้ำแข็งบ่นว่า "ครั้งละสองพันเหรอ? หนุ่มหล่อคนนี้มั่นใจเกินไปหน่อยรึเปล่า?"
“ไปเถอะ เราอยากเจอเขาแล้ว”
พอพูดเสร็จเธอก็เข้าไปในห้องถ่ายทอดสด
แฟน ๆ ที่ดูการไลฟ์สดต่างก็อยากจะบ่นเมื่อเห็นชื่อห้องถ่ายทอดสด
“สองพันเหรอ? แพงจัง ไม่แปลกใจเลยที่ไม่มีคนดู”
“ไม่ใช่ว่าหมอนั่นพยายามหลอกคนอื่นอยู่หรอกนะ? โค้ก ระวังอย่าโดนแบล็กเมล์ล่ะ”
ในห้องถ่ายทอดสด
ซู่ซวนอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นโค้กใส่น้ำแข็งพร้อมกับแฟนๆ หลายแสนคน
“ยินดีต้อนรับคุณคนไข้ โค้กใส่น้ำแข็ง เข้าสู่ห้องถ่ายทอดสด”
เมื่อได้ยินคำพูดของซู่ซวนคนดูในสตีมที่มาพร้อมกับโค้กใส่น้ำแข็งก็อดไม่ได้ที่จะมีความสุข