บทที่ 2 การทดลองสิ่งมีชีวิต
บทที่ 2 การทดลองสิ่งมีชีวิต
โซลยืนอยู่ตรงนั้น
เขากำลังครุ่นคิดแต่เขาไม่มีเวลามากนัก
แสงเทียนบนผนังเริ่มเปลี่ยนจากสีเหลืองสลัว กลายเป็นสีเหลืองอ่อน นี้แสดงใกล้รุ่งเช้าแล้ว ก่อนที่แสงเทียนจะเปลี่ยนเป็นสีขาว โซลจะต้องกลับไปชั้น 4 ได้แล้ว
สิ่งเหล่านี้คือข้อบังคับ
กองเลือดบนพื้นมันยังคงอยู่บนนั้น
ถ้าเขาจากไป เขาจะได้กลายเป็นปุ๋ยของดอกไม้ในวัยรุ่นขึ้น
แต่ถ้าให้ความสะอาดงั้นเหรอ?
เขาเป็นแค่คนธรรมดาที่ไม่มีความสามารถพิเศษใดๆ เขาจะแก้ปัญหากองเลือดนี้ได้อย่างไรกัน?
หรือว่าไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่น?
เหล่าเด็กๆ ที่อาศัยอยู่ร่วมกันดูเหมือนจะเป็นศัตรูกับโซลก่อนที่เขาจะเดินทางข้ามเวลามาซะอีก พวกเขาไม่เคยช่วยเหลือเขาเลย ยิ่งไปกว่านั้น คนเหล่านั้นก็เหมือนกับโซลที่เป็นแค่คนธรรมดาไม่มีความสามารถพอจะช่วยเหลือเขา
หรือว่าจะไปหาแม่บ้านดี?
แต่แม่บ้านไม่เคยมาเยี่ยมเยียนตอนกลางดึก และโซลก็ไม่รู้ว่าจะไปหานางที่ไหน
พื้นที่ๆ เขาไปได้ทั้งหมด ในปัจจุบันคือ ชั้นที่ 4 ของข้ารับใช้ และ ชั้นที่ 11-13
ไม่มีทางเลือกแล้ว
นิ้วที่สั่นเทาของโซล หยุดสั่นทันที
เขาเก็บไม้ถูพื้นกลับเข้าในรถเข็น แล้วจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
เขาเดินไปที่ห้องตรงข้ามที่มีเลือดไหลออกมา ยกมือขึ้นและเคาะไปที่ประตู 3 ครั้ง
บนทางเดินอันเงียบสงัด เสียงเคาะทั้ง 3 นี้ชัดเจนมาก
โซลก้มหัวลงมองไปยังหนังสือปกแข็งเล่มนี้ มันไม่ได้ปรากฏข้อความการตายใหม่ขึ้นมา
เมื่อโซลยกมือขึ้นเคาะอีก 3 ครั้ง ประตูตรงหน้าเขาก็เปิดออกทันที
โซลกลั้นหายใจอยู่ครู่หนึ่ง
ประตูค่อยๆเปิดออกทีละน้อย
ร่างอันเพรียวบางค่อยๆปรากฏขึ้นจากด้านหลัง
นางเป็นหญิงสาวที่สวมชุดราตรีสีดำ หุ่นอวบไม่ถึงกับอ้วน ผิวที่โผล่ออกมาด้านนอกราวกับไข่มุก
โซลเงยหน้าขึ้นเห็นคางที่งดงาม ริมฝีปากสีแดงอวบอิ่ม สันจมูกที่โค้งงอน ส่วนด้านบน.... มันหายไป
นางเป็นหญิงสาวที่มีหัวเพียงครึ่งเดียว
เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์เช่นนี้ ในคืนที่มืดมิด โซลก็รู้สึกเหมือนกับว่าวิญญาณของเขากำลังจะหลุดออกจากร่าง
โซลระงับความกลัวของเขาเอาไว้และ ไม่ได้แสดงสีหน้าหยาบคายออกมา
ฟันของเขาสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
หญิงสาวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก้มหัวลง ครึ่งหนึ่งของหัวนางที่หายไป เนื้อบนหัวของนางมีสีขาวขุ่นและเน่าเปื่อย
บริเวณที่ตาควรจะอยู่ถูกแทนที่ด้วยฝาครอบแก้วครึ่งวงกลม
ฝาครอบแก้วบรรจุของเหลวสีขาวขุ่น ขณะที่นางก้มหัวลงมา สิ่งต่างๆ ที่ดูเหมือนลูกตาก็กระแทกเข้าไปฝาครอบแก้วเป็นครั้งคราว
"ว่ายังไง"
ริมฝีปากสีแดงของหญิงสาวที่มีครึ่งหัวเปิดออกเล็กน้อย เสียงของนางค่อนข้างอ่อนหวาน
"ท่าน..." โซลตอบด้วยเสียงที่สั่นเทา เขาหายใจเข้าลึกๆ เพื่อรักษาร่างกายของตัวเองให้มั่นคง "มีเลือดไหลออกมาจากห้องฝั่งตรงข้าม ข้าทนไม่ไหวแล้ว ได้โปรดช่วยข้าด้วย" หญิงสาวมองขึ้นไป มีดวงตาปรากฏขึ้นบนฝาครอบกระจกมันลอยไปที่ชายขอบ
จากนั้นดวงตาของนางก็หายไป นางก้มลงอีกครั้ง และหัวเราะออกมาเบาๆ "ทำไมข้าต้องช่วยเจ้าด้วย"
โซลรู้ว่าเขาไม่ได้โชคดีขนาด ที่เขาจะได้พบคนที่ช่วยเหลือทันทีที่เขาเคาะประตู
"นายท่าน ท่านจะให้ข้าทำอะไรก็ได้?" โซลก้มหัวลง
เขาเป็นเพียงข้ารับใช้และไม่มีคุณสมบัติพอที่จะสร้างเงื่อนไข
หญิงสาวคนนั้นจับคางของนางด้วยนิ้วที่เรียวยาว "ข้ากำลังทดสอบสิ่งมีชีวิต แต่ข้ามีตัวอย่างไม่เพียงพอ หากเจ้าสามารถที่จะเข้าร่วมการทดสอบของข้า ข้าจะช่วยเจ้าแก้ปัญหานั้นเอง" โซลหรี่ตาลง
เขามองไปยังสมุดปกแข็งที่ลอยอยู่เหนือไหล่ซ้าย
ไม่มีข้อความบนสมุดปกแข็ง
ตอนนี้โซลอ่อนแอเกินไป เขาทำได้เพียงพึ่งพาคำเตือนจากในสมุดปกแข็งเพื่อเสี่ยงโชคเท่านั้น
"ข้าตกลง!"
หญิงสาวเผยรอยยิ้มออกมา พึงพอใจกับการตัดสินใจที่เด็ดขาดของโซลมาก
นางเบือนหน้าไปอีกทาง เพื่อให้โซลเข้าไปในห้องของนาง จากนั้นจึงเดินออกไปข้างนอก ทำสิ่งที่เขาก็ไม่รู้จัก
โซลยืนรออยู่ในห้องของหญิงสาว
เขาพบว่าสถานที่แห่งนี้ใหญ่กว่าบ้าน 2 ชั้นที่พวกเขาอาศัยอยู่หลายสิบคน แถมยังมีห้องที่ดูหรูหราอีกด้วย
ภายในห้องนั่งเล่น มีตะเกียงน้ำมันเผ่าไหม้อยู่ แสงไฟถูกทำให้มั่นคงด้วยความสามารถของคาถา
บนโต๊ะยาวกลางห้องนั่งเล่น มีอุปกรณ์ต่างๆและ วัสดุมากมายที่เขาไม่รู้จัก
สิ่งที่โดนเด่นที่สุดคือ เต้าหลอมขนาดเล็กอยู่ตรงกลาง โดยมีหม้อที่มีของเหลวสีดำเดือด ปุๆ อยู่ในนั้น
"นั้นคือสิ่งที่เจ้าต้องทำ" หญิงสาวคนนั้นเดินเข้ามา
โซลมองย้อนกลับไปเห็นว่าประตูปิดสนิทอยู่ เขาไม่รู้ว่าเลือดที่ไหลนองออกมาถูกจัดการหรือเปล่า
"ข้าต้องการให้เจ้าเอามือของเจ้าเข้าไปในหม้อใบนั้น แล้วเอามันออกมาและบอกข้าว่าเจ้ารู้สึกอย่างไร"
หญิงสาวคนนั้น ดึงม้านั่งออกมาและลงฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ นางนั่งไขว้ห้างและรอดูการต่อสนองของโซล
โซลรู้ว่าตัวเขาไม่มีอำนาจที่จะต่อรอง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ร้องขอความเมตตา
เขาพับแขนเสื้อมือซ้ายขึ้น สูดหายใจเข้าลึก ๆ และก้าวไปข้างหน้า ยื่นมือลงไปในของเหลวสีดำ
เขาไม่ได้ทดสอบด้วยการใช้นิ้วมือจุ่มลงไปก่อน เพราะกลัวการตอบสนองของเขาจะทำให้หญิงสาวไม่พอใจ
"ฟู่----" โซลสูดหายใจเข้าลึกๆ
แต่เขาไม่ได้ถูกไฟไหม้ เขากลับรู้สึกหนาว
เขาหนาวจนสั่นสะท้านไปถึงกระดูก
"คิคิ"
โซล หนาวจนฟันสั่น
"เจ้าเอามันออกมาได้แล้ว"
เมื่อได้ยินเสียงของหญิงสาว โซลก็รีบดึงมือของเขาออก
แต่เมื่อเขาเห็นมือของเขา ลมหายใจของเขาที่พ่นออกมาด้วยความผ่อนคลายก็ถูกสูดกลับ
เนื้อและผิวหนังบนมือของเขาหายไปจนหมด
มือซ้ายที่เหลือของโซลมีเพียงโครงกระดูก มันดูสะอาดราวกับหุ่นจำลองในห้องศิลปะ
สิ่งที่น่ากลัวคือโซลไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยในตอนนี้
"ฟู่... ฟู่...."
โซลหายใจหอบ เขาจับข้อมือซ้ายด้วยมือขวา มือทั้ง 2 ข้างของเขาสั่นสะท้าน
มือซ้ายของเขาที่สั่นมีเสียงกระดูกกร๊อบแกร๊บ
หญิงสาวที่อยู่ตรงข้าม ไม่ได้ปลอบขวัญโซล นางยืนขึ้นและชี้นิ้วไปที่คางของนาง
"ดูเหมือนว่างูเหลือม เซชีเลียน จะปล่อยน้ำย่อยออกมามากเกินไป ตอนนี้มือซ้ายรู้สึกอย่างไรบ้าง"
"มันส่งเสียงดังกึกก้อง... หนาว... แต่ไม่เจ็บปวด"
โซลอดทนต่อความต่อความกลัวและความหนาวเย็น พยายามอธิบายอย่างดีที่สุด
"ดูเหมือนข้ายังควบคุมมันได้"
ขณะที่เขาพูด เขาก็ขยับนิ้วมือซ้ายของเขา
แม้ว่าจะยากซักหน่อยแต่ก็ได้ผล
นางเดินไปรอบๆ หยิ่งวัสดุ 2 3 ขึ้นมาจากบนโต๊ะ และโยนลงไปในหม้ออย่างไม่ใส่ใจ
หม้อส่งเสียง "ชิชิ" ปล่อยไอน้ำสีขาวออกมา จากนั้นก็กลับมาสงบหลักจากที่มันเพิ่งเดือด
"เอาละ" หญิงสาวคนนั้นนั่งลง เงยหน้าขึ้นด้วยความสนใจ ชี้ไปยังหม้อ "ยืนมืออีกข้างลงไปสิ"
โซลสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาคิดเอาไว้แล้ว
การทดลองครั้งแรกไม่ประสบผลสำเร็จอย่างเห็นได้ชัด
การทดสอบครั้งที่ 2 ต้องผ่านอย่างแน่นอน
โซลปล่อยมือมือซ้ายของเขา จากนั้นก็เอามือขวาจุ่มลงไปในหม้ออย่างเด็ดเดี่ยว
"เฮือก"
จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าแขนของเขานั้นแข็งไปหมด
มือขวาของเขาซึ่งจมอยู่ในของเหลวสีดำไม่รู้สึกอะไรเลย
"เอาขึ้นมา"
เมื่อได้ยินเสียงของหญิงสาวคนนั้น โซลก็ดึงมือขวาของเขาขึ้นมาทันที
สิ่งที่ทำให้เขาดีใจคือมือที่เขาเอาลงไปจุ่มในครั้งนี้ไม่กลายเป็นโครงกระดูก
ไม่เพียงเท่านั้น ฝ่ามือของเขาที่แต่เดิมเต็มไปด้วยรอยแผลและหนังด้านๆ กลับเรียบเนียนและมีสีขาวอีกด้วย
โดยไม่รอให้หญิงสาวเร่งเร้าเขา โซลก็เริ่มพูดทันที "เอ่อ... มันยังคงหนาวอยู่ แถมมันยังหนาวกว่าเดิมอีกด้วย... แก๊กก..."
เขาพยายามอย่างหนักเพื่อควบคุมไม่ให้ฟันกระทบกัน
"..มันไม่เจ็บ และสามารถควบคุมได้..."
โซลยกมือขึ้นมาให้หญิงสาวที่ฝั่งตรงข้ามมองเห็นได้ชัดเจน
หญิงสาวคนนั้นยิ้มออกมาอีกครั้ง คราวนี้นางมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด โซลเห็นฟันสีขาวภายใต้ริมฝีปากสีแดงของนาง
"เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจจริงๆ"
นางเดินไปอีกด้านหนึ่งของห้อง หยิบ ขวดคริสตัลออกมาจากตู้และยื่นให้โซล "ดื่มสิ"
เมื่อเห็นสีหน้าที่น่าเกลียดของโซลเธอก็หัวเราะออกมา ของเหลวสีขาวขุ่นบนหัวของนาง แกว่งไปมา ตามการเคลื่อนไหว
"ไม่ต้องกังวล นี่ไม่ใช่การทดลอง แต่มันเป็นยารักษา"