บทที่ 18 กลุ่มสามคนที่น่าเป็นห่วง
บทที่ 18 กลุ่มสามคนที่น่าเป็นห่วง
"แค่ก!"
หลี่จิ้งไอออกมา
การสอบข้อเขียน เขายังมั่นใจอยู่บ้าง
แต่ใครจะรู้ว่าแม้แต่เกณฑ์ผ่านก็ยังไม่ถึง ต้องอาศัยคะแนนพิเศษถึงจะผ่านไปได้อย่างหวุดหวิด
จะพูดอะไรได้อีก?
ประคองตัวไว้ก่อน!
หลี่จิ้งยืดตัวตรงแล้วพูด
"คุณผู้คุมสอบคง...เอ่อ! หัวหน้า ได้ร่วมงานกับผู้แข็งแกร่งระดับสามอย่างคุณ ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ผมยินดีเข้าร่วมหน่วยลาดตระเวน หวังว่าคุณจะกรุณาดูแลผมด้วย"
คงอู่ยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของอีกฝ่าย
"ดูแล แน่นอนอยู่แล้ว เพราะในบรรดาผู้เข้าสอบวันนี้ นายนี่แหละที่ทำให้ฉันพอใจที่สุด"
หลี่จิ้งน้ำตาไหล
อะไรกันพอใจที่สุด?
คนผู้นี้ชัดเจนว่าแค่จะแก้แค้น!
คนอื่นๆ ที่เห็นหลี่จิ้งถูก "ดูแล" ต่างก็ก้มหน้าก้มตาไม่กล้าสบตา
สมดังคำโบราณที่ว่า
ขอให้เพื่อนตาย อย่าให้ตัวข้าตาย
การได้ร่วมงานกับคนแปลกๆ อย่างคงอู่ คงไม่มีวันสบายแน่
มีหลี่จิ้งคอยรับกระสุนอยู่ข้างหน้า ก็ดีที่สุดแล้ว
หลังจากคงอู่ "สนทนาอย่างเป็นมิตร" กับหลี่จิ้งแล้ว เขาก็ไม่ได้กดดันมากนัก มองไปที่ทุกคนแล้วพูด
"เมื่อไม่มีใครคัดค้าน ฉันก็จะถือว่าพวกนายยินดีเข้าร่วมหน่วยลาดตระเวนที่เก้า งานลาดตระเวนจะแบ่งเป็นกลุ่มละสามคน การจัดกลุ่มให้พวกนายตัดสินใจกันเอง"
เมื่อได้ยินว่าต้องแบ่งกลุ่มละสามคน ทุกคนต่างมองหน้ากันไปมา แล้วพร้อมใจกันหลีกห่างจากหลี่จิ้ง
แต่มีคนหนึ่งที่เป็นข้อยกเว้น
อี้ซิวจู่เดินไปหาหลี่จิ้งโดยไม่ลังเล
"พี่หลี่ ฉันขออยู่กลุ่มเดียวกับพี่"
"......"
หลี่จิ้ง
คำว่า "พี่หลี่" นี้ ทำให้เขารู้สึกตกใจที่ได้รับเกียรติ
แต่เมื่อเจอกับอี้ซิวจู่ เขาอยากจะพูดแค่ว่า "อย่าเข้ามาใกล้"
ในบรรดาผู้เข้าสอบวันนี้ อี้ซิวจู่เป็นคนที่ผิดปกติที่สุด
ถ้ามีให้เลือก
หลี่จิ้งคงไม่เลือกอี้ซิวจู่แน่
คนที่พูดไม่ทันขาดคำก็ชักกระบี่มาจ่อคอตัวเอง ใครจะรู้ว่าปกติเขาจัดการเรื่องต่างๆ อย่างไร
นอกจากนี้หลี่จิ้งยังสังเกตเห็น
ตั้งแต่ที่เขาใช้ไฟฟ้าจนคงอู่ล้มลง สายตาที่อี้ซิวจู่มองมาที่เขาก็เปลี่ยนไปอย่างประหลาด ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ
หลี่จิ้งฝืนยิ้มแล้วพูด
"ไม่ต้องเรียกพี่หลี่หรอก เรียกหลี่จิ้งก็พอ"
"ได้"
อี้ซิวจู่พยักหน้า
เมื่อเห็นอี้ซิวจู่กับหลี่จิ้งมารวมกัน คนที่เหลือก็รีบจับกลุ่มกัน
การแบ่งกลุ่มคือสามคนต่อกลุ่ม
อี้ซิวจู่กับหลี่จิ้ง
คนหนึ่งไม่ปกติ อีกคนถูกคงอู่ "ดูแลเป็นพิเศษ"
สองคนนี้รวมกัน เรียกได้ว่าดาบคู่รวมพลัง!
กลุ่มยังขาดอีกหนึ่งคน ใครจะยอมร่วมกลุ่มกับพวกเขา?
เป็นธรรมชาติที่ลู่หยางเฉิงเหลือเป็นคนสุดท้าย
"......"
ลู่หยางเฉิง
มองดูเพื่อนร่วมงานที่จับกลุ่มกันครบสามคนไปแล้วสองกลุ่ม เขากระตุกมุมปาก แล้วเดินไปหาหลี่จิ้งกับอี้ซิวจู่อย่างเงียบๆ
"ทั้งสองคน ฉันขอร่วมกลุ่มด้วย"
อี้ซิวจู่ไม่ค่อยสนใจลู่หยางเฉิง
แต่เนื่องจากต่อไปต้องทำงานร่วมกัน เขาจึงจำใจพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้
หลี่จิ้งมองลู่หยางเฉิงที่จำใจเข้ามาร่วมกลุ่ม รู้สึกทั้งขำทั้งเศร้า
ที่คนผู้นี้เหลือเป็นคนสุดท้าย เขาก็ไม่ค่อยแปลกใจ
ในเก้าคนที่คงอู่เก็บไว้ ลู่หยางเฉิงเป็นคนเดียวที่มีคาถาโจมตีแค่ระดับเริ่มต้น
ถ้ามีให้เลือก แน่นอนว่าไม่มีใครจะเลือกเขา
คาถาโจมตีที่มีความชำนาญแค่ระดับเริ่มต้น พลังทำลายล้างแทบจะไม่มีเลย อย่างมากก็ใช้ขู่คนได้เท่านั้น
คิดว่าคนผู้นี้อย่างน้อยก็เป็นคนปกติ หลี่จิ้งก็กำลังจะทักทาย
แต่ยังไม่ทันได้พูด คงอู่ก็มองมา
"หลี่จิ้ง กลุ่มของนาย ให้นายเป็นหัวหน้ากลุ่ชั่วคราวม อี้ซิวจู่ไม่มีปัญหาอะไร แต่ลู่หยางเฉิงนายต้องดูแลหน่อย"
?
หลี่จิ้งเอียงหัว
?
อี้ซิวจู่หันหน้าตาม
?
ลู่หยางเฉิงขมวดคิ้วแน่น
เมื่อเผชิญกับสายตาของทั้งสามคน คงอู่พูดเรียบๆ
"หลี่จิ้ง การสอบข้อเขียนของนายอย่างน้อยก็นับคะแนนพิเศษแล้วผ่านเกณฑ์ ส่วนลู่หยางเฉิงเป็นหนึ่งในหกคนที่ฉันเพิ่งพูดถึงว่าสอบไม่ผ่าน แถมยังได้ห้าคะแนนต่ำสุดด้วย"
"......"
หลี่จิ้งหันไปมองลู่หยางเฉิงอย่างไม่อยากเชื่อ
ห้าคะแนน?
จริงดิ?
เป็นข้อสอบปรนัยทั้งนั้น แม้แต่เดาก็ไม่ควรได้แค่ห้าคะแนนนี่หว่า
อี้ซิวจู่ที่อยู่ข้างๆ ก็มองลู่หยางเฉิงด้วยสีหน้าประหลาด
ลู่หยางเฉิงถูกประจานต่อหน้า หน้าเปลี่ยนสีไปมาระหว่างเขียวกับขาว ยิ้มแหยๆ พูด
"พวกนายอย่ามองฉันแบบนั้น วันนี้ฉันแค่สภาพไม่ค่อยดี ถ้าเป็นปกติ ผ่านเกณฑ์ไม่มีปัญหาแน่นอน"
"......"
หลี่จิ้งพูดไม่ออก
เขารู้สึกว่าจำเป็นต้องถอนคำพูดก่อนหน้าที่ประเมินลู่หยางเฉิง
ไอ้หมอนี่ก็ไม่ใช่คนปกติ
สอบข้อเขียนได้ห้าคะแนน!
หมอนี่มาสอบ ชัดเจนว่าไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย!
หลี่จิ้งไม่เข้าใจ
ทำไมคงอู่ถึงปล่อยให้หมอนี่อยู่
จริงอยู่ที่เกณฑ์ผู้ช่วยตรวจการค่อนข้างต่ำ แต่อย่างน้อยก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบ
ไม่แม้แต่จะศึกษากฎหมายพื้นฐาน แบบนี้จะไหวเหรอ?
สองกลุ่มที่เหลือมองลู่หยางเฉิง ในขณะที่ดีใจที่ไม่ได้เลือกร่วมกลุ่มกับเขา ก็รู้สึกสงสัยในเรื่องนี้ด้วย
ตอนนี้ คงอู่เอ่ยปาก
"อย่าคิดว่าวันนี้ได้อยู่แล้วจะทำตามใจชอบในแผนกผู้ช่วยตรวจการได้ ทุกสิ้นเดือนแผนกผู้ช่วยตรวจการจะมีการสอบภายในสำหรับพนักงานใหม่หนึ่งครั้ง การสอบกฎหมายพื้นฐานเป็นส่วนสำคัญที่สุด และยากกว่าข้อสอบวันนี้มาก ใครที่สอบภายในไม่ผ่านจะถูกไล่ออก ไม่มีข้อยกเว้น"
พูดจบ เขายังพูดต่อ
"คะแนนสอบข้อเขียนของคนอื่นๆ ฉันไม่ขอเปิดเผยทีละคน แต่ฉันบอกพวกนายได้ว่า รวมถึงคนที่ไปรายงานตัวกับผู้ช่วยตรวจการชูแล้ว ในบรรดาผู้เข้าสอบวันนี้ ถ้าไม่ตั้งใจศึกษากฎหมายพื้นฐานต่างๆ อย่างจริงจัง สิ้นเดือนคงไม่มีใครผ่านการสอบภายในสำหรับพนักงานใหม่"
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นต่างรู้สึกถึงวิกฤต
พวกเขาที่มาลองดวง ไม่มีใครกล้าพูดว่าได้ศึกษากฎหมายพื้นฐานอย่างถี่ถ้วน
ตามที่คงอู่พูด
การสอบวันนี้เป็นเพียง "อาหารเรียกน้ำย่อย"
จุดสำคัญที่แท้จริงคือการสอบภายในสำหรับพนักงานใหม่ปลายเดือน
ถ้าผ่านไม่ได้ ทุกคนต้องเก็บข้าวของกลับบ้าน
เห็นทุกคนสีหน้าเปลี่ยน คงอู่ยิ้มอย่างสะใจ
"ยังไงก็พยายามให้เต็มที่ในเดือนนี้ ฉันไม่พูดอะไรมากแล้ว คืนนี้สิบโมงมารวมตัวที่นี่ ตอนนั้นฉันจะมอบหมายงานลาดตระเวน และแจกบัตรประจำตัว เครื่องแบบ รวมถึงอุปกรณ์มาตรฐาน"
......
ไม่กี่นาทีต่อมา
หลี่จิ้ง อี้ซิวจู่ และลู่หยางเฉิงเดินออกจากสำนักงานผู้ช่วยตรวจการด้วยกัน
พอออกมาถึงประตู ลู่หยางเฉิงมองไปที่ทั้งสอง
"ตอนนี้พอดีเป็นเวลาอาหาร ไปกินข้าวด้วยกันไหม? ผมเลี้ยงเอง"
"ไม่ต้องกินข้าวหรอก รอให้ผ่านการสอบปลายเดือนก่อนค่อยว่ากัน"
อี้ซิวจู่ตอบอย่างเย็นชา มองไปที่หลี่จิ้ง
"ฉันกลับไปพักก่อน เจอกันสิบโมง"
พูดจบ เขาก็เดินตรงไปที่ริมถนนเรียกแท็กซี่ ขึ้นรถจากไป
เห็นอี้ซิวจู่แม้แต่จะพูดกับตัวเองสักหน่อยยังไม่อยากจะพูด สีหน้าลู่หยางเฉิงไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่ได้โกรธเขา
"เทียนหวังว่าไง?"
"......"
หลี่จิ้งกระตุกมุมปาก
เขาชินกับการถูกเรียกว่าเทียนหวังแล้ว
ใครใช้ให้เขาชื่อหลี่จิ้งล่ะ?
ไม่ว่าก่อนหรือหลังข้ามมิติ คนคุ้นเคยส่วนใหญ่ก็เรียกเขาแบบนี้
ปัญหาคือเขากับลู่หยางเฉิงเพิ่งรู้จักกันไม่ใช่หรือ?
มองดูลู่หยางเฉิง แล้วมองไปทางที่อี้ซิวจู่นั่งรถจากไป หลี่จิ้งรู้สึกเหนื่อยใจมาก
ไม่พูดถึงการสอบพนักงานใหม่ กลุ่มสามคนของเขานี่มันแย่จริงๆ อนาคตน่าเป็นห่วง
ถอนหายใจเบาๆ หลี่จิ้งตอบแบบขอไปที
"ฉันก็จะกลับไปพักเหมือนกัน เมื่อคืนไม่ได้นอนเลยเพื่อเตรียมสอบวันนี้ ต้องกลับไปพักผ่อนหน่อย"
"ได้ เจอกันตอนกลางคืน"
ลู่หยางเฉิงรับคำ แล้วก็เรียกแท็กซี่ที่ริมถนนเช่นกัน
หลี่จิ้งไม่หรูหราเหมือนลู่หยางเฉิงกับอี้ซิวจู่ เลือกที่จะเดินกลับสวนจันทราลับ
แท็กซี่แพงมาก
ระหว่างเดินกลับสวนจันทราลับ เขาหยิบมือถือออกมา
พอเปิดหน้าจอ เขาก็พบว่ามีอั่งเปาห้าสิบหยวนจากเฉินอวี่หรานในเซียนซิ่น พร้อมด้วยข้อความหนึ่ง
"อาหารเช้าใช้ได้ ให้ค่าอาหารนาย ฉันยังไม่ได้นอนทั้งวันเลย จะนอนพักก่อน นายกลับมาอย่าทำเสียงดังรบกวนฉัน ฉันมักอารมณ์ไม่ดีตอนตื่นนอน"
เห็นในข้อความเฉินอวี่หรานเน้นย้ำว่าตัวเองมักอารมณ์ไม่ดีตอนตื่นนอน หลี่จิ้งยิ้ม รับอั่งเปาแล้วไม่ได้ตอบกลับไป
เปิดรายชื่อเพื่อนหาหลิวซือซือ หลี่จิ้งพิมพ์ข้อความ
"พี่ซือซือ ผมผ่านการสอบผู้ช่วยตรวจการแล้วครับ แต่จะอยู่ได้หรือไม่ ต้องดูการสอบพนักงานใหม่ปลายเดือนอีกที"
ไม่รู้ว่าหลิวซือซือเปิดร้านไม่ได้หรือไง อยู่บ้านว่างๆ เลยถือมือถือ
หลี่จิ้งเพิ่งส่งข้อความไป หลิวซือซือก็ตอบกลับทันที
"เพิ่งผ่านไปไม่กี่วัน นายก็ไปสอบผู้ช่วยตรวจการแล้ว? น่าทึ่งที่ผ่านได้!"
"ช่วงนี้เขตเป่ยเฉิงไม่ค่อยสงบ นายเลือกช่วงเวลานี้มาสอบผู้ช่วยตรวจการ หลังเข้าทำงานคงจะยุ่งมากๆ"
"ตอนนี้ฉันยังนอนอยู่บนเตียง ยังไม่ได้กินมื้อเที่ยง ให้โอกาสนายเลี้ยงฉันสักมื้อ ถือว่าฉลองที่นายเข้าทำงานได้ไง?"
หลิวซือซือส่งข้อความรัวสามข้อความ ทำเอาหลี่จิ้งงงไปเลย
สองข้อความแรกไม่มีปัญหา
แต่ข้อความสุดท้ายคืออะไร?
ฉลองที่เขาเข้าทำงานได้ แล้วเขาต้องเลี้ยง?
ยกมือขยี้หว่างคิ้ว หลี่จิ้งเปิดดูบัญชีของตัวเอง
ยอดเงินคงเหลือ: 4,234
รายการธุรกรรมล่าสุด: อั่งเปา +50
คิดว่ารู้จักกันมานาน ตัวเองยังไม่เคยเลี้ยงหลิวซือซือกินข้าวเลย หลี่จิ้งลังเลสักครู่ แล้วตอบกลับ
"ได้ แต่ต้องไม่แพงเกินไป"
"จุ๊! ขี้งก!"
หลิวซือซือตอบกลับอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ส่งข้อความมาอีก
"ถนนเทียนเป่ย เลขที่ 1088 อพาร์ตเมนต์จิงเซียง ตึก 9 ชั้น 6 ห้อง 601 มารับฉัน"
"......"
หลี่จิ้ง
(จบบท)