บทที่ 1532 : มาได้ไกลเท่านี้ (ตอนฟรี)
บทที่ 1532 : มาได้ไกลเท่านี้ (ตอนฟรี)
“ฉันคิดว่าหวังเต็งกำลังอุ้มเขาอย่างตั้งใจนะ ฉันรู้สึกว่าเขาอยากให้ทุกคนเห็นศพของมัลธัส”
ความเงียบ....
หวังเต็งบินกลับมาที่ที่นั่งของเขาและใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อเก็บฟองสบู่
น่าเสียดายที่มันไม่มีอะไรให้เก็บได้มากนัก
ส่วนใหญ่เป็นพลังฟอร์ส พลังวิญญาณและความรู้แจ้งเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น กายาโลหิตมังกรของมัลธัสก็ยังอยู่ที่ขั้นสองเท่านั้น แต่ของหวังเต็งอยู่ที่ขั้นสี่แล้ว
ถึงกระนั้น มันก็ยังมีฟองสบู่เปลวเพลิงวาฬสมุทรที่ทำให้เปลวเพลิงของเขาขยายใหญ่ขึ้น
กระนั้นมันก็ยังไร้ประโยชน์ หวังเต็งส่ายหัวด้วยความดูถูก
มัลธัสผู้น่าสงสาร ถ้าเขารู้ว่านั่นเป็นความคิดเห็นของหวังเต็งหลังจากที่เขาตาย เขาก็คงจะคลานออกมาจากนรกแล้ว
องค์ชายรอง จื่อห่าวเฉินและคนอื่นๆ รู้สึกพูดไม่ออก พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าหวังเต็งจะยังคงทำการสังหารต่อไป เขากำจัดสมาชิกอีกคนของตระกูลปาร์คเกอร์ลงไปแล้ว!
ในความเป็นจริง ไม่มีใครที่จะโหดเหี้ยมและกล้าหาญเท่าหวังเต็งได้หากพวกเขาอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับเขา
ท้ายที่สุดแล้ว ตระกูลปาร์คเกอร์ก็น่าเกรงขาม ดังนั้นการประนีประนอมจึงดีกว่า
นั่นคือกฎแห่งการเอาชีวิตรอดระหว่างตระกูลใหญ่ ไม่มีใครจะบีบคอคนอื่นจนตาย
ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาที่ไม่รู้ว่าตระกูลปาร์คเกอร์ปฏิบัติต่อหวังเต็งอย่างไรจึงสงสัยว่าพวกเขาไปทำอะไรมา
องค์ชายรองและคนอื่นๆ ไม่รู้ว่าตระกูลขุนนางนี้ได้ส่งนักฆ่ามาสังหารชายหนุ่มอยู่หลายครั้ง และความแค้นของพวกเขาก็มาถึงขั้นเป็นตาย
ไม่นานหลังจากที่หวังเต็งจบการแข่งขัน องค์รัชทายาทก็ก้าวเข้าสู่สนามประลอง
คู่ต่อสู้ของเขาคือผู้ถือครองอันดับหนึ่งของโซน 8 หวงซิงฮัว
หลายคนตกตะลึง
การต่อสู้อันดุเดือดกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม หวงซิงฮัวก็ไม่ได้รับความนิยมมากนัก จริงๆ แล้ว ผู้ที่อยู่ในอันดับหนึ่งจากโซน 8, 9 และ 10 นั้นไม่ได้ทำผลงานได้โดดเด่นเป็นพิเศษ
การแข่งขันภายในสามโซนนั้นไม่ได้รุนแรง ความสำเร็จของพวกเขาไม่ได้มีความหมายมากนัก
นักสู้ชั้นนำคนอื่นๆ จากโซนอื่นๆ ไม่ได้มองว่าพวกเขาเป็นคู่แข่ง
จริงๆ แล้ว ถ้าร่างโคลนของหวังเต็งไม่ได้ไปที่โซน 7 สถานที่แห่งนั้นเองก็คงจะไม่ได้รับความสนใจมากนักด้วยเช่นกัน
ร่างโคลนของหวังเต็งเพียงอย่างเดียวก็ทำให้ความนิยมของโซนนั้นเพิ่มขึ้นได้แล้ว มันมากจนเพียงพอที่จะเปรียบเทียบกับโซนหลักได้
หวงซิงฮัวมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา เขาสืบสายเลือดตรงมาจากตระกูลโบราณของจักรวรรดิต้าเฉียน
ตระกูลหวงเคยสร้างนักสู้ระดับนิรันดร์ขึ้นมาได้ในอดีต แต่เมื่อนักสู้ของพวกเขาเสียชีวิตลง มันก็มีเพียงนักสู้ระดับเอกภพเท่านั้นที่ยังคอยช่วยเหลือตระกูลนี้ตลอดหลายหมื่นปีที่ผ่านมา
หวงซิงฮัวเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่โดดเด่นที่สุดที่พวกเขามีในช่วงสหัสวรรษที่ผ่านมา เขาได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีตั้งแต่อายุยังน้อยโดยนักสู้ระดับเอกภพในครอบครัวของเขา ทั้งความสามารถและพรสวรรค์ของเขาล้วนน่ายกย่อง
นั่นคือเหตุผลที่เขาสามารถเข้าสู่งานชุมนุมผู้มีพรสวรรค์ได้
เขาไม่ได้ทำให้ญาติของเขาผิดหวังเลย และก้าวเข้าสู่ร้อยอันดับแรกได้ และจนถึงตอนนี้ นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะดึงดูดความสนใจของสถาบันเจ็ดดาวฤกษ์ได้
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา นอกเหนือจากสิบอันดับแรกแล้ว ทางสถาบันก็ยังสังเกตความสามารถและศักยภาพของผู้เข้าร่วมพันอันดับแรกเพื่อตัดสินใจว่าจะยอมรับพวกเขาดีหรือไม่ด้วย
สิ่งที่น่าเสียดายเพียงอย่างเดียวก็คือ หวงซิงฮัวถูกจับคู่กับองค์รัชทายาท ดังนั้นการเดินทางของเขาจึงได้มาถึงจุดสิ้นสุดเพียงแค่นั้น
สมาชิกตระกูลหวงถอนหายใจเมื่อเห็นสิ่งนี้
ขุนนางผู้เป็นที่โปรดปรานปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้าพร้อมกับการจ้องมองอย่างสงบ
คู่ต่อสู้ของเขาเดินเข้ามาและลอยขึ้นไปในอากาศ เผชิญหน้ากับเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เขาเป็นเด็กที่มีรูปร่างหน้าตาและออร่าที่โดดเด่น สวมชุดเกราะสีเหลืองและถือดาบ เขาอาจจะกำลังเผชิญหน้ากับตัวเต็งก็จริง แต่เขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวเลย
การแข่งขันเริ่มขึ้นแล้ว!
บู้มมมม!
มีเสียงระเบิดดังขึ้น หวงซิงฮัวเป็นคนแรกที่โจมตี ดาบเฉือนผ่านอากาศด้วยเสียงหวีดอันแหลมคม มันทิ้งร่องรอยพลังฟอร์สที่ส่องแสงระยิบระยับไว้เบื้องหลัง
องค์รัชทายาทไม่ได้ใช้ดัชนีทรราชของเขา แต่เขากลับชักดาบออกมาและเคลื่อนไหวอย่างราบลื่น ออร่าดาบสะบัดออกไปด้วยความรุนแรง มันพุ่งออกมาราวกับสัญญาณแห่งความตาย
แสงดาบที่พุ่งออกมาก่อนถูกทำลายลงโดยทันที และองค์รัชทายาทก็ก้าวเข้ามาและวางดาบลงบนคอของคู่ต่อสู้
หวงซิงฮัวแพ้!
ห่างไปไม่ไกล..
ซูเจียนเฉินลืมตาขึ้นและจ้องมองไปที่องค์รัชทายาทด้วยสายตาจริงจัง..2.