ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 2 การทดลองสิ่งมีชีวิต

บทที่ 1 สมุดบันทึกลวงตา


บทที่ 1 สมุดบันทึกลวงตา

ณ ห้องเล็กๆ อันมืดมิด

เด็กหลายสิบคนนอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่

พวกเขาทั้งหมดเป็นเด็กผู้ชายอายุ 12-13 ปี

พวกเขาแต่ละคนมานอนรวมกัน ไม่กล้าแม้แต่จะยื่นขาออกมานอกผ้าห่มด้วยซ้ำ

"สวัสดี!"

ทันใดนั้นแสงเทียนที่ผนังห้องด้านซ้ายก็สว่างขึ้น

เด็กชายที่นอนอยู่ซ้ายสุดก็ตื่นขึ้นเพราะแสงเทียน เขาขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มและเตะเด็กอีกคนที่อยู่ทางขวามือ

เด็กคนทางขวาที่ถูกเตะ ก็เตะคนทางขวาต่อไปด้วยความงุนงง

เป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเขาเตะเด็กคนที่อยู่ทางขวาต่อไปเรื่อยๆ จนสุดกำแพง

"อั่ก..."

โซลได้ร้องออกมา ลูบเข่าที่หมองคล้ำของเขา ลุกขึ้นด้วยความงัวเงีย พยายามปลุกตัวเองให้ตื่น

"เร็วเข้า... ถ้าช้า ท่านพ่อมดได้เอาเจ้าทำเป็นปุ๋ยแน่" เด็กชายที่อยู่ข้างๆ เขาพูดขึ้น

โซล กดยังไปแผลเก่าที่อยู่บนหน้าผากของเขา อาการเจ็บแสบก็ทำให้เขาตื่นขึ้น ในที่สุดการเคลื่อนไหวของเขาก็รวดเร็วขึ้น

เขารีบลึกขึ้นจากเตียง สวมชุดข้ารับใช้ที่แขวนอยู่ผนังเปิดประตูห้องแล้วเดินออกไป

ด้านนอกประตูเป็นทางเดินโค้งยาว มีประตูอยู่ทุกๆ 2 3 เมตรทั้ง 2 ด้านของทางเดิน มีเชิงเทียนตั้งอยู่ทั้ง 2 ข้างของประตู พวกเขาใช้แสงอ่อนๆสลัวๆ พยายามปัดเป่าความมืดมิดให้ออกไปจากทางเดินที่หนาวเย็น

โซลมองไปยังไหล่ซ้ายของเขาด้วยแสงจากเทียน

มีสมุดปกแข็งเล่มหนึ่งที่มีขนาดเล็กกว่าฝ่ามือลอยอยู่ตรงนั้น

"มันยังไม่หายไปงั้นเหรอ? หรือว่าข้าจะประสาทหลอนไปเอง"

ตั้งแต่เดินทางข้ามกาลเวลามาเมื่อไม่กี่วันก่อน สมุดเล่มนี้ก็ลอยอยู่เหนือไหล่ซ้ายของโซลมาตลอด

เขามองเห็นแต่จับต้องไม่ได้ รวมถึงคนอื่นก็ไม่เห็นมันเช่นกัน

โซล สถบออกมาแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ สุดท้ายแล้วมันอาจจะเป็นอาการประสาทหลอนที่เกิดจากอาการบาดเจ็บทางศรีษะเท่านั้นเอง

แต่ภาพหลอน ไม่น่าจะอยู่หลายวันแบบนี้

ไม่ว่ามันจะเป็นภาพหลอนหรือไม่ก็ตาม โซลยังมีสิ่งที่ต้องทำและไม่มีเวลาคอยศึกษามัน

สถานที่ๆเขาอยู่ในตอนนี้ คือ หอคอยพ่อมด

นับตั้งแต่ โซลได้เดินทางข้ามเวลามา เขาไม่เคยออกไปจากหอคอยแห่งนี้เลย

ยิ่งกว่านั้นในฐานะข้ารับใช้ที่นี่ เขาต้องตื่น ตีสี่ในทุกๆวัน ทำความสะอาดทางเดินตั้งแต่ชั้น 11 ถึง ชั้น 13 ห้ามมีสิ่งสกปรกหรือขยะให้เห็น ไม่อย่างนั้นเขาจะถูกสับกลายเป็นปุ๋ยให้กับดอกไม้

งานทำความสะอาดทางเดินจะต้องเสร็จสิ้นก่อนที่ แสงเทียนจะเปลี่ยนจาก สีเหลืองสลัวกลายเป็นสีขาว ไม่อย่างนั้น หากเขาบังเอิญได้พบกับพ่อมดฝึกหัดที่กำลังออกไปข้างนอก เขาอาจถูกจับเข้าไปทดลอง

พ่อมดฝึกหัดเหล่านั้นล้วนแต่มีนิสัยแปลกประหลาด อารมณ์ร้าย และใจร้อน ราวกับพวกเขากำลังถูกความตายไล่ล่าในทุกๆวัน

เจ้าของร่างเดิมของ โซล ถูกพ่อมดฝึกหัดสังหาร ศพถูกนำไปทิ้งในห้องเก็บของเขา จนดูราวกับเป็นเศษขยะ

เมื่อเขาคลานออกมาจากห้องเก็บของเขา ด้วยเลือดที่อาบไปทั่วใบหน้า แม้แต่แม่บ้านก็ยังคิดว่าเขาเป็นผี

หลังจากยืนยันแล้วว่าเขายังไม่ตาย แม่บ้านก็ได้มอบหมายงานให้เขาทันที โดยโซลถูกส่งไปทำงานก่อนที่อาการบาดเจ็บจะหายด้วยซ้ำ

จนกระทั่งวันนี้

หลังจากหวนรำลึกความหลังแล้ว อันดับแรก โซล เดินไปยังห้องเก็บของที่อยู่ถัดจากห้องทดลอง หยิบไม้ถูพื้น ถังน้ำ และถังขยะ จากนั้นก็นำไปวางบนรถเข็นขนาดเล็ก ดันมันออกไปข้างหน้า

ว่ากันว่าล้อของรถเข็นคันนี้ถูก สลักด้วยคาถาเก็บเสียงเพื่อป้องกันไม่ให้รบกวนพ่อมดฝึกหัด

โซล ได้สังเกตอาการของตัวเองในช่วง 2 วันก่อนหน้านี้ แต่เขาไม่พบสิ่งผิดปกตินอกจากอาการเวียนหัวเล็กน้อย

เขาหาวออกมาก่อนจะเริ่มงานในวันใหม่ ที่อากาศเย็นสบายใจยามเช้า

ทางเดินจะเป็นทรงครึ่งวงกลม จะมีประตู อยู่ทุกๆ 2-3 เมตรทั้ง ซ้ายและขวา

มีหมายเลขกำกับอยู่บนบานประตูเหล่านั้น ตัวอักษรบนประตูนั้นแสดงถึงหมายเลขห้อง

ตัวธอร์ที่เดินไปตามทางคอยจดจำ หลังจากสำรวจไป 2-3 วัน เขาก็ฟื้นคืนความจำบางอย่างขึ้นมาได้ ท่ามกลางความทรงจำที่พังทลาย

ขณะที่กำลังทำความสะอาดชั้นที่ 11 โซล ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ดังออกมาจากหลังประตู

เมื่อใดก็ตาม ที่มีเสียงร้องไห้ เทียนที่อยู่บนประตูทั้ง 2 ข้างจะแกว่งไปมากอย่างแผ่วเบา เงาจากแสงเทียนสะบัดไปมาอย่างต่อเนื่อง

โซลกระชับคอเสื้อของเขา ความง่วงทั้งหมดถูกปลุกให้ตื่นด้วยความหนาวเย็น

เขาแสร้งทำเป็นไม่รู้ ไม่ได้ยินสิ่งใด รีบทำความสะอาดให้เสร็จ

บนชั้น 12 มีตัวประหลาดชอบทิ้งขยะที่หน้าประตู

เส้นผม กระดาษที่ถูกฉีก เศษเนื้อบางอย่าง...

โซลมักจะเริ่มทำความสะอาดเมื่อเขาเดินผ่านที่นี้

เขาเก็บขยะทั้งหมดด้วยที่โกยเล็กๆ ที่ห้อยอยู่ข้างถังขยะ เมื่อเขาหันเก็บขยะออกไป เขาก็ได้ยินเสียงบดเนื้อเบาๆ

เขาหันกลับมาอย่างรวดเร็ว และเห็นว่าประตู ที่อยู่ข้างหลังเขาเปิดออกมีรอยแยกเล็กๆ ด้านหลังประตูเต็มไปด้วยความมืดมิด ไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้เลย

โซลสัมผัสได้ทันทีว่าขนทั้งหมดบนร่างกายของเขาลุกชัน มือของเขาสั่นเล็กน้อย เขาอยากจะวิ่งหนีออกไป แต่เขาก็กลัวว่าพ่อมดฝึกหัดในห้องจะคิดว่าเขาไร้มารยาท

เขาเพิ่งมาถึงสถานที่แปลกประหลาดและน่าสะพรึงกลัวนี้ได้เพียงไม่กี่วัน แต่สิ่งที่เขาได้รับการสอนบ่อยครั้งคือต้องเคารพและอ้อมน้อยต่อพ่อมดฝึกหัดทุกคน

ตอนนี้โซลเป็นเพียง เด็กอายุ 12 ปี ที่ไม่มีความสามารถใดๆและมีร่างกายเล็กจ้อย

พ่อมดฝึกหัดผู้ทรงพลังทุกคนสามารถสังหารเขาได้ด้วยนิ้วมือเพียงไม่กี่นิ้ว

สำหรับพ่อมดที่แท้จริงแล้ว เมื่อพิจารณาจากสถานะของเขาแล้ว ตัวเขายังไม่มีสิทธิ์ที่จะได้เจอพ่อมดที่แท้จริง

โซล รอด้วยความหวาดกลัวอยู่พักหนึ่ง

แต่ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ที่หลังประตู

เวลากำลังจะหมดลง แต่ตัวเขายังต้องระมัดระวังกับสิ่งที่อยู่หลังประตู โดยเขาถูพื้นพลางจากมองไปยังรอยแยกระหว่างประตูอย่างใกล้ชิด

ในที่สุดเขาก็เดินผ่านไป ประตูก็ถูกกั้นด้วยทางโค้ง

ร่างกายที่ตึงเครียดของโซล ก็ผ่อนคลายลง เขาเข็นรถไปยังทางลาดมุ่งหน้าไปยังชั้นบน

ชั้นที่ 13

ในฐานะนักเดินทางข้ามเวลา โซล มีความรู้สึกไวต่อตัวเลขเหล่านี้

แม้ว่าเดิมทีตัวเขาเป็นนักสะสม แต่เมื่อเขามายังโลกที่แปลกประหลาดนี้ เขาก็ได้เจอทั้งพ่อมดและสัตว์ประหลาด มันทำให้เขาต้องระวังตัวให้มากขึ้น

ว่ากันว่าข้ารับใช้คนสุดท้าย ที่รับผิดชอบทำความสะอาด ได้ตายลงบนชั้นที่ 13 นี้

โซลได้เข้ามาทำความสะอาด ณ ที่แห่งนี้ เมื่อ 2 วันก่อนและไม่ได้พบสิ่งผิดปกติใดๆ แต่มันก็ยังทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ

มันเป็นความกลัวแบบที่ว่าแม้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ยังทำให้ขนแขนของเขาตั้งชัน นิ้วมือสั่นสะท้านอย่างช่วยไม่ได้

โซลก้มหัวลงและถูกพื้นอย่างแรง ใช้เรียวแรงเพื่อขจัดความไม่สบายใจของเขา

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขากลัวที่สุดก็ได้เกิดขึ้น

เมื่อผ่านประตูที่ 3 ประตูหน้าทางขวามือของโซล... ก็ได้มีเลือดสีแดงสดไหลออกมาจากใต้ประตู

เลือดสดๆสีแดงเข้ม มีกลิ่นคาวที่รุนแรง

เมื่อมองแวบแรก มันดูน่ากลัวสุดๆ

เลือดไหลไปถึงกลางทางเดิน และหยุดลงในที่สุด

ตามคำสั่งของพ่อบ้าน โซลต้องทำความสะอาดสิ่งสกปรกทั้งหมดที่อยู่บนทางเดิน

เขากำไม้ถูพื้น กัดฟันแน่น เตรียมก้าวไปข้างหน้า

ในตอนนั้นเอง สมุดปกแข็งเหนือไหล่ซ้ายของเขาก็ลอยออกไปตรงหน้าและเปิดออกด้วยเสียงที่หนักอึ้ง

โซลตกตะลึงทันที นี่เป็นครั้งแรกที่สมุดเล่มนี้มีการเปลี่ยนแปลง

เขามีความสุขอย่างมาก เขารู้ได้ทันทีว่ามันเป็นสมบัติที่คอยช่วยเหลือเขาในช่วงเวลาวิกฤต

โซลเหลือบมองเลือดที่นองอยู่บนพื้นด้วยสายตาที่เป็นกังวล ก่อนจะกลับมาเพ่งความสนใจไปที่หนังสือ

สมุดปกแข็งพลิกไปยังหน้าที่ว่างเปล่า มีข้อความปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว

[ในวันที่ 21 พฤกษาคม ปี 314 ของปฏิทินพระจันทร์ใหม่

ขณะที่โซลกำลังทำความสะอาดทางเดิน โซลได้เหลือบไปเห็นเลือดที่ไหลออกมาจากด้านหลังของประตู แม้ว่ามันจะรู้สึกน่ากลัว แต่เพื่อให้งานเสร็จสิ้นและไม่ถูกทำให้กลายเป็นปุ๋ย โซลกัดฟันเดินหน้าถูพื้นต่อไป

แต่พื้นที่เต็มไปด้วยเลือดนี้ เช็ดยากจริงๆยิ่งเช็ดเลือดบนพื้นก็ยิ่งมากขึ้น?

เมื่อโซลมองลงไปและพบว่าตัวเขามีเลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง

เช้าวันรุ่งขึ้น ได้มีร่างมัมมี่ถูกนำมาไว้ในห้องเก็บของของหอคอยพ่อมด]

ขาของโซลอ่อนแรงเขาเกือบจะตกลงไปในถังขยะที่อยู่ด้านหลังของเขา

เขาพยุงตัวเองขึ้นด้วยไม้ถูพื้นมองไปยังเลือดที่ไหลนองออกมาด้วยความหวาดกลัว

ปรากฏสมบัติชิ้นนี้เตือนเขาถึงช่วงเวลาแห่งความตาย ภายในสถานที่อันมืดมนและน่าสะพรึงกลัวแห่งนี้ มันเป็นสมบัติล้ำค่าดีๆ นี้เอง

เขาไม่คิดว่าหนังสือปกแข็งเล่มนี้จะโกลาหล

เขามีค่าอะไรทำไมถึงต้องหลอกด้วย

โซลเข็นรถเข็มออกไป พยายามหลีกเลี่ยงเลือดที่ไหลออกมา ในตอนนั้นเอง สมุดปกแข็งตรงหน้าเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง

[โซลหวาดกลัวเลือดที่ไม่รู้จักนี้และตัดสินใจไม่ทำความสะอาด

ในตอนเช้าเขาถูกแม่บ้านเรียกไปพบเพราะทำความสะอาดทางเดินไม่เรียบร้อย

เช้าวันรุ่งขึ้น มีการใส่ปุ๋ยให้กับดอกไม้ใหม่ในเรือนกระจก โซลถูกสับให้อยู่ในรูปทรงใหม่ที่มีกลิ่นเหม็นบัดซบ!]

โซล : "..."

ให้ตายเถอะ!

ไม่ว่าเขาจะเลือกอะไร เขาก็ตายงั้นหรือ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด