ตอนที่ 1074 : ต้นกำเนิดของกาโลมอน!
ตอนที่ 1074 : ต้นกำเนิดของกาโลมอน!
ในขณะที่ราชาไร้มงกุฎผู้นี้กำลังรอคอยการปรากฏตัวของคู่ต่อสู้ โจวโจวก็กำลังยืนอยู่กับเด็กชายในชุดคลุมสีขาวซึ่งสูงไม่ถึงหนึ่งเมตรจากจุดที่สิ่งมีชีวิตในโลกใบนี้ไม่สามารถมองเห็นพวกเขาได้
“เขาคือเทพแท้จริงที่แข็งแกร่งที่สุดที่สามารถเอาชนะแชมเปี้ยนจากงานชุมนุมสังหารได้ 12 คนติดต่อกันเลยงั้นเหรอ?”
โจวโจวมองไปยังอีกฝ่ายและถามออกมาด้วยความสงสัย
“ขอรับเจ้านาย”
เด็กชายในชุดคลุมสีขาวซึ่งก็คือจิตวิญญาณประจำไอเท็มเทวะระดับเทพอาวุโสขั้นกลาง—กระบี่อสูรมหาจันทราพูดออกมาอย่างไม่แยแส
มันไม่ได้จงใจจะไม่แยแสโจวโจว แต่ในฐานะจิตวิญญาณประจำไอเท็มเทวะระดับเทพอาวุโสที่ควบคุมกฎเกณฑ์มหาจันทราและกฎเกณฑ์แห่งการทำลายล้าง มันจึงถูกกำหนดมาแล้วให้ไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมเท่าไร และเมื่อเผชิญหน้ากับเจ้านายที่รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมัน มันจึงไม่จำเป็นต้องเสแสร้งอะไร
“เมื่อเทพแท้จริงผู้นี้อยู่ในระดับตำนาน มันก็มีความเข้าใจในกฎเกณฑ์ที่เทียบได้กับเทพชั้นสูงแล้ว ในอดีต มันได้ชนะในงานชุมนุมสังหารในระดับตำนานและได้กลายเป็นเทพชั้นสูง”
“ต่อมาเมื่อมันกลายเป็นเทพชั้นสูง มันก็ได้ยกระดับความเข้าใจในกฎเกณฑ์ขึ้นไปสู่ระดับเทพแท้จริง และได้กลายเป็นแชมเปี้ยนในงานชุมนุมสังหารระดับเทพชั้นสูง และก็ได้กลายเป็นเทพแท้จริงขั้นสูงในเวลาต่อมา!”
“หลังจากนั้นมันก็ได้ใช้เวลา 100,000 ปีเพื่อฝึกฝนและเข้าร่วมในงานชุมนุมสังหารระดับเทพแท้จริงครั้งต่อมา และมันก็ได้เอาชนะเทพแท้จริงไปถึง 10 ตนจนได้กลายเป็นราชาแห่งการสังหาร”
“หลังจากนั้นมันก็ได้เข้าร่วมในงานชุมนุมสังหารทั้งหมด 12 ครั้ง ใน 12 ครั้งนี้ มันได้เอาชนะเทพแท้จริงทุกคนที่กล้าท้าทายมัน และได้ครองบัลลังก์แชมเปี้ยนของงานชุมนุมสังหารมาโดยตลอด”
“มันคืออันดับหนึ่งทั้งในแง่ของพรสวรรค์และความแข็งแกร่งในบรรดาสมาชิกเผ่าพันธุ์ไร้ชีวาทั้งหมดที่ข้าเคยได้เห็นมาเลย!”
จิตวิญญาณประจำไอเท็มเทวะถอนหายใจออกมา
โจวโจวพยักหน้า
เขาเหลือบมองไปที่อีกฝ่าย และข้อมูลของอีกฝ่ายก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า
ในไม่ช้าเขาก็อ่านข้อมูลของอีกฝ่ายจนจบ
“ศักยภาพของคนผู้นี้อยู่ในระดับเทพอาวุโสขั้นสูงจริงๆ ด้วย”
โจวโจวประหลาดใจ
นี่คือผู้มีศักยภาพในระดับเทพอาวุโสขั้นสูงตั้งแต่กำเนิด!
พวกเขาไม่ใช่คนที่มีศักยภาพในระดับเทพอาวุโสขั้นสูงในภายหลังเหมือนอย่างชาวเมืองในดินแดนของเขาที่ได้รับผลมาจากกระบี่ซวนหยวน คัมภีร์จิตวิญญาณเทพเจ้า และสมบัติอื่นๆ
แม้ว่าทั้งสองแบบนี้จะไม่มีความแตกต่างอะไรกัน แต่มันก็ยังทำให้โจวโจวประเมินอีกฝ่ายสูงขึ้นมาได้อยู่ดี
“โลกของเจ้าให้กำเนิดสมบัติขึ้นมาแล้ว”
โจวโจวยิ้มและเหลือบมองไปยังจิตวิญญาณประจำไอเท็มเทวะ
“ถ้ามันมีประโยชน์ต่อเจ้านายก็ถือว่าดีแล้วขอรับ”
จิตวิญญาณประจำไอเท็มเทวะดูเชื่อฟังมากเมื่อมันพูดหรือทำอะไร แต่ดวงตาและสีหน้าของมันก็ยังดูไม่แยแสมากเช่นกัน ทำให้มันดูน่ารักมากเลย
“งั้นราชาผู้นี้จะมอบเสบียงเสริมด้านกฎเกณฑ์ระดับเทพอาวุโสเพื่อหล่อเลี้ยงโลกใบนี้ให้เจ้าละกัน”
โจวโจวหัวเราะและพูดออกมาอย่างใจกว้าง
“ขอบคุณขอรับเจ้านาย”
ดวงตาที่ไม่แยแสของเด็กชายชุดขาวเผยความผันผวนออกมาเล็กน้อย สุดท้ายมันก็พูดออกมาอย่างมีความสุข
โจวโจวยิ้ม
เขาคิดอยู่ชั่วขณะพูดออกมา
“จากนี้เป็นต้นไป ข้าจะเรียกเจ้าว่าเด็กไร้ชีวิตละกัน มันคงไม่ดีเท่าไรที่จะเรียกเจ้าว่าจิตวิญญาณประจำไอเท็มเทวะ”
“ขอบคุณที่ตั้งชื่อให้ข้าขอรับเจ้านาย”
เด็กไร้ชีวิตตอบกลับอย่างมีความสุข
โจวโจวพยักหน้าและถาม “ข้าสามารถพาเทพแท้จริงและเทพชั้นสูงออกไปจากโลกนี้ได้กี่คน?”
“ได้ทุกคนขอรับ แต่ข้าหวังว่าเจ้านายจะไม่เอาตัวตนที่มีพลังพิเศษคนอื่นๆ ไปด้วยในตอนนี้”
“ประการแรก พลังงานของโลกส่วนใหญ่ได้ควบแน่นอยู่ในร่างกายของพวกมัน ถ้าเจ้านายพาคนที่มีพลังพิเศษที่อยู่ต่ำกว่าระดับจิตวิญญาณเทพเจ้าออกไปทั้งหมด จักรวาลมหาจันทราทำลายล้างอันไร้ขอบเขตจะเข้าสู่สถานะอ่อนแอทันทีเพราะการขาดแคลนพลังงานของโลก มันจะทำให้กระบี่อสูรมหาจันทราตกอยู่ในสถานะอ่อนแอด้วยเช่นกัน และมีความเสี่ยงที่ระดับของมันจะลดลง”
“ประการที่สอง ร่างกายของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ต่ำกว่าระดับจิตวิญญาณเทพเจ้ายังไม่มีความสามารถในการจุติ ถ้าเจ้านายพาพวกมันออกไป พวกมันก็อาจจะได้รับความเสี่ยงเป็นอย่างมากก็ได้”
“ประการที่สาม เหล่าผู้มีพลังพิเศษที่อยู่ต่ำกว่าระดับจิตวิญญาณเทพเจ้านั้นสามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างรวดเร็วผ่านการเข่นฆ่าในโลกของข้า นอกจากนี้ อัตราการไหลของเวลาในโลกของข้าและทวีปจื้อเกาของฝ่าบาทยังเป็น 10,000 ต่อ 1 ถ้าเจ้านายเก็บพวกมันไว้ในโลกของข้า ข้าก็จะสามารถจัดหายอดฝีมือระดับจิตวิญญาณเทพเจ้าให้กับท่านได้แบบไม่มีที่สิ้นสุดในอนาคต”
“งั้นก็เอาตามที่เจ้าว่าละกัน”
โจวโจวคิดอยู่ชั่วขณะและตกลงในทันที
ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่ได้ขาดแคลนทหารธรรมดาที่อยู่ต่ำกว่าระดับจิตวิญญาณเทพเจ้าอยู่แล้ว สิ่งที่เขาขาดแคลนก็คือตัวตนในระดับจิตวิญญาณเทพเจ้าและเทพแท้จริงเท่านั้น
คำขอของเด็กไร้ชีวิตไม่ได้ขัดต่อความต้องการของเขาเลย
“ขอบคุณที่เข้าใจขอรับเจ้านาย”
เด็กไร้ชีวิตตอบกลับด้วยความเคารพ
“เจ้าไปเรียนรู้มารยาทมากมายตั้งแต่อายุยังน้อยเช่นนี้มาจากไหน?”
โจวโจวล้อเลียนแบบติดตลก
“ข้าไม่ใช่เด็กแล้วขอรับ นอกจากนี้ข้ายังได้เรียนรู้มารยาทพวกนี้มาจากเผ่าพันธุ์ไร้ชีวาพวกนี้”
เด็กไร้ชีวิตอธิบายอย่างจริงจัง
“เอาเถอะๆ”
เมื่อโจวโจวได้ยินเช่นนี้ เขาก็โบกมือและไม่ได้สนใจอะไรอีก
จากนั้นเขาก็มองไปยังการต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้าต่อ
…
ในหนึ่งเดือนต่อมา ซึ่งก็คือเวลาประมาณ 25 นาทีในโลกแห่งความเป็นจริง โจวโจวก็ยังอยู่ภายในจักรวาลมหาจันทราทำลายล้างอันไร้ขอบเขตอยู่
เด็กไร้ชีวิตและเขาเฝ้าดูการต่อสู้ในฐานะผู้ชมทั่วไป และพวกเขาก็มีความเข้าใจในเผ่าพันธุ์ไร้ชีวาและพรสวรรค์ในการต่อสู้ของพวกมันมากยิ่งขึ้น
“เผ่าไร้ชีวานี้คือเผ่าพันธุ์บรรพกาลที่มีอารยธรรมการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์จริงๆ พวกมันได้สลักกฎเกณฑ์ทั้งหมดที่พวกมันเข้าใจลงไปในยีนเพื่อสร้างร่างกายแห่งการต่อสู้ที่มีกฎเกณฑ์อันเป็นเอกลักษณ์ จากนั้นพวกมันก็หลอมรวมพลังแห่งกฎเกณฑ์เหล่านั้นเข้ากับการต่อสู้ในระยะประชิดที่เรียบง่าย”
“สิ่งนี้ทำให้การเตะและการต่อยของพวกมันมีพลังพอที่จะโยกคลอนโลกและทำลายกฎเกณฑ์ได้เลย นอกจากนี้วิธีการต่อสู้ที่ใช้การต่อสู้ระยะประชิดเป็นแกนหลักยังทำให้เกิดการพัฒนาด้านอุปกรณ์สวมใส่ อาวุธ ยาฟื้นพลัง เคล็ดวิชา รวมถึงสิ่งต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับเผ่าพันธุ์ไร้ชีวาด้วย”
“จากสามอาชีพพื้นฐานบนทวีปจื้อเกาอย่างผู้ฝึกยุทธ์ อารยธรรมการต่อสู้ของเผ่าพันธุ์ไร้ชีวาอาจจะเป็นเส้นทางไปสู่การเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูงก็ได้”
โจวโจวคิดในขณะที่เขามองดูการต่อสู้
เขาย่อมไม่ลืมว่านอกจากอาชีพที่หายากมากๆ อย่างลอร์ดแห่งจุดจบแล้ว เขายังมีอาชีพอย่างผู้ฝึกยุทธ์อยู่ด้วย
อาชีพนี้อาจจะดูธรรมดา แต่ก็เพราะความธรรมดาของมันนี้เองจึงทำให้มีสิ่งมีชีวิตจำนวนมากมายหรือกระทั่งเหล่าจิตวิญญาณเทพเจ้าได้เลือกเดินไปบนเส้นทางของอาชีพนี้
ในความเป็นจริงแล้ว แม้แต่จิตวิญญาณเทพเจ้า เทพแท้จริง และกระทั่งเทพอาวุโสก็ยังได้เดินไปบนเส้นทางของผู้ฝึกยุทธ์เลย
ก่อนหน้านี้ เขาได้มุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนกฎเกณฑ์แห่งลอร์ด ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ทุ่มความพยายามไปกับเส้นทางของผู้ฝึกยุทธ์เลย
แต่ตอนนี้ที่เขาได้เห็นอารยธรรมการต่อสู้ของเผ่าไร้ชีวาแล้ว เขาจึงเกิดไอเดียใหม่สำหรับเส้นทางนี้ขึ้นมา
“ถ้าฉันหลอมรวมกฎเกณฑ์แห่งลอร์ดเข้ากับเส้นทางของผู้ฝึกยุทธ์ มันจะเป็นยังไงกันนะ?”
โจวโจวเกิดความคิดขึ้นมา
แต่ก่อนที่เขาจะทันได้คิดต่อ เขาก็ได้ยินเสียงผู้ชมโดยรอบโห่ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้นในทันใด
“เจ้านาย ผู้ชนะจากงานชุมนุมสังหารระดับเทพชั้นสูงได้ถูกตัดสินใจแล้ว มันได้รับพรจากข้าเรียบร้อยแล้วและได้กลายเป็นเทพแท้จริงขั้นสูงแล้ว”
“ต่อไปแชมเปี้ยนผู้นี้ก็จะมีโอกาสท้าทายเทพแท้จริงคนล่าสุดเพื่อคว้าโอกาสในการครอบครองความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย ซึ่งนี่ก็เป็นเพราะขีดจำกัดของจักรวาลอันไร้ขอบเขตของข้าที่ไม่สามารถรองรับเทพแท้จริงได้เป็นจำนวนมากเกินไป ดังนั้นเมื่อมีใครคนใดคนหนึ่งเลื่อนระดับขึ้นมาเป็นเทพแท้จริง มันก็จะต้องมีเทพแท้จริงหนึ่งตนที่ต้องตายหรือยอมสละความแข็งแกร่งของมันไป”
“หลังจากการท้าทายนี้จบลง งานชุมนุมสังหารระดับเทพแท้จริงก็จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ”
เสียงอันไม่แยแสของเด็กไร้ชีวิตดังขึ้น
โจวโจวอึ้งไปชั่วขณะก่อนที่ความสนใจของเขาจะเพิ่มขึ้นมา
“งั้นก็มารอดูกันเถอะ”
เขายิ้มออกมา
เขาไม่ได้สนใจในสิ่งที่เรียกว่าการท้าทายเท่าไรนัก แต่เขาก็สนใจมากในงานชุมนุมสังหารระดับเทพแท้จริง
“เทพแท้จริงที่แข็งแกร่งที่สุดงั้นเหรอ? ให้ข้าได้เห็นหน่อยว่าลูกน้องของราชาผู้นี้จะแข็งแกร่งแค่ไหน”
“และจากนั้น… ราชาผู้นี้ก็จะลงมือด้วยเหมือนกัน”
โจวโจวยอมรับว่าเขาเองก็คันไม้คันมือขึ้นมาด้วยเหมือนกัน