Chapter 175 Ambush Shadow Demon Sect Foundation Building, Rank Two Gu Worm Army
ป่าวงกต หุบเขาแห่งหนึ่ง
ผู้บ่มเพาะการสร้างรากฐานสี่คนซุ่มโจมตีสถานที่แห่งนี้ สามคนอยู่งการสร้างรากฐานขั้นแรก และอีกหนึ่งคนอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นกลาง
พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้อาวุโสของ นิกายเงาปิศาจ
ได้รับคำสั่งให้มาซุ่มโจมตีโจวสุ่ย
คังหยวน ผู้บ่มเพาะปีศาจที่มีชื่อเสียง เป็นผู้บ่มเพาะระดับสร้างรากฐานขั้นกลาง และเป็นผู้นำการโจมตีครั้งนี้
“ผู้อาวุโสคัง คิดว่าเด็กคนนั้นจะหลงกลหรือไม่”
ผู้บ่มเพาะสร้างรากฐานขั้นต้น ชุดดำถาม
“ไม่แน่ใจ ว่าจะหลงกลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าเด็กคนนั้นให้ความสำคัญกับหญ้าว่างเปล่ามากน้อยแค่ไหน”
คัง หยวน ตอบ
“ถ้าจำเป็นจะต้องได้หญ้าว่างเปล่า แน่นอนว่าเขาจะออกมาเจรจากับเรา”
“ถ้าเขาไม่สนใจหญ้าว่างเปล่า เขาอาจจะไม่มา”
คังหยวนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
“ถ้าเด็กคนนั้นไม่ออกมา งั้นเราก็เสียเวลาเปล่าๆ สิ”
ผู้บ่มเพาะในชุดคลุมสีเหลืองขมวดคิ้ว
ท้ายที่สุดแล้ว เวลาของเขามีค่ามาก และเขาก็ไม่อยากเสียเวลากับเรื่องนี้
ถ้าเขามีเวลาว่างมาก เขาก็อาจจะบ่มเพาะแบบสันโดษเพื่อเพิ่มพลังปราณในร่างกาย
“ก็ทำอะไรไม่ได้ นี่เป็นแผน ที่ไหนจะราบรื่นเหมือนที่คิดไว้”
“ความล้มเหลวก็เป็นเรื่องปกติ”
“แต่ตราบใดที่เราประสบความสำเร็จเพียงครั้งเดียว เราจะทำกำไรมหาศาล”
“ฉันเชื่อว่าพวกคุณทุกคนรู้ดีว่าเราจะได้รับรางวัลมากมายจากเจ้านิกายหากเราสามารถฆ่าเด็กคนนั้นได้”
คังหยวนยิ้มอย่างมีเลศนัย
“จริงด้วย”
ผู้บ่มเพาะทั้งสามคนระดับการสร้างรากฐานขั้นแรกพยักหน้าเห็นด้วย ถ้าไม่ใช่เพื่อรางวัลจาก เจ้านิกายเงาปิศาจ พวกเขาคงไม่เสี่ยงและมาที่นี่
“เขาอยู่ที่นี่ เด็กคนนั้นติดตาม อวี่เหรินอี้ มาที่นี่จริงๆ”
“แถมไม่ได้พาใครมาด้วย มาด้วยตัวคนเดียว”
ในขณะนี้ ผู้บ่มเพาะในชุดคลุมสีดำได้รับข้อความจากยันต์สื่อสาร และอุทานด้วยความตื่นเต้นทันที
“ไม่น่าเชื่อ ไอ้เด็กนั่นกล้าขนาดนั้นเลยเหรอ? กล้ามาคนเดียวแบบนี้?”
“คงคิดว่าตัวเองเลื่อนระดับเป็นสร้างรากฐานแล้ว ฝีมือสูงแล้ว เลยกล้าทำแบบนี้มั้ง”
“นั่นอาจเป็นกรณีนี้ มันเป็นเพียงการแลกเปลี่ยนกับผู้บ่มเพาะรวมลมปราณคนเดียวเอง ถ้ายังพาพวกมาด้วยอีก มันก็ดูขำเกินไป ไอ้เด็กนั่นคงไม่รู้ว่า อยู่เบื้องหลังมัน มีผู้บ่มเพาะการสร้างรากฐานสี่คนแอบเฝ้าดูเขาอยู่”
“โชคชะตาเข้าข้างเราจริงๆ แผนของเราราบรื่นเกินคาด ภารกิจของนิกายน่าจะเสร็จสิ้นในไม่ช้า”
ผู้บ่มเพาะสร้างรากฐาน นิกายเงาปิศาจ ทั้งสามคนหัวเราะร่าด้วยความยินดี
พวกเขารู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่แผนของพวกเขาดำเนินไปอย่างราบรื่น
พวกเขาเคยทำแผนสำรองมากมายไว้เผื่อแผนหลักไม่สำเร็จ แต่ตอนนี้แผนหลักก็ประสบความสำเร็จแล้ว แผนสำรองเหล่านั้นจึงกลายเป็นสิ่งไม่จำเป็น
โจวสุ่ย หน้าขาวคนนั้นตกหลุมพลางมันอย่างง่ายดายจริงๆ และติดตามสายลับของพวกเขาเพื่อออกจากนิกายหมอกศักดิ์สิทธิ์
สิ่งนี้เหนือความคาดหมายของพวกเขา
“มีบางอย่างไม่ถูกต้อง ยกเลิกแผนและยกเลิกการติดต่อกับเป้าหมาย”
คิ้วของคังหยวนขมวดเข้าหากัน ดวงตาของเขาฉายแววความกังวล เขารู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่าง
"ผู้อาวุโสคัง หมายความว่าอย่างไรกัน? เราพบเด็กคนนั้นแล้ว ทำไมท่านถึงบอกว่าเราควรยอมแพ้เล่า? ท่านบ้าไปแล้วหรือ?" ผู้บ่มเพาะปีศาจสร้างรากฐานทั้งสามตกตะลึง มองคังหยวนด้วยความไม่เชื่อ ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
"พวกโง่!" คังหยวนสาปแช่ง
"พวกแกไม่เข้าใจอะไรเลย เด็กคนนั้นเป็นผู้บ่มเพาะอิสระย่อมระมัดระวังตัว เขาจะไปติดตามคนแปลกหน้าไปยังสถานที่ไม่คุ้นเคยได้อย่างไร?
ถ้าเขาไม่มั่นใจก็ไม่ทำ บางทีอาจมีผู้บ่มเพาะระดับแกนทอง เช่น เล่งอวี้ซี คอยหนุนหลังอยู่ แบบนี้พวกเราก็จะตายกันทั้งหมด”
“นั่นมันไม่มีทางเป็นไปได้”
“ใช่แล้ว นั่นคือผู้บ่มเพาะ แกนทอง เชียวน่ะ ทำไมถึงยอมให้ไอ้หน้าอ่อนนั่นสั่งได้อยู่หมัด เขาคิดว่าตัวเองเป็นสามีของผู้บ่มเพาะแกนทองจริงๆ รึไง แกก็เอาเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มาเป็นเรื่องใหญ่เกินไปได้”
"ใช่ๆ ฉันเพิ่งสำรวจรอบๆ มาแล้ว ไม่เห็นมีศิษย์นิกายหมอกศักดิ์สิทธิ์คนอื่นเลย นอกจากไอ้นั่นคนเดียว น่าจะมาคนเดียวจริงๆ"
"แกก็อย่าตื่นตระหนกไปสิ ยังไงตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้ว จะให้ถอยหนีไปตอนนี้ได้ยังไง"
ผู้บ่มเพาะปีศาจระดับสร้างรากฐานหลายคนมองคัง หยวนด้วยสายตาดูถูก พวกเขาคิดว่าคัง หยวนช่างคิดเล็กคิดน้อย ช่างระแวงเกินเหตุ และขี้ขลาดเกินไป
พวกเขาไม่เห็นว่าสถานการณ์นั้นมีอะไรผิดปกติ
“ฉันไม่สนใจว่าพวกแกจะคิดยังไง ฉันจะถอนตัวจากภารกิจครั้งนี้”
คังหยวนถอนตัวทันที โดยไม่สนใจสายตาใคร
สาเหตุที่เขารู้สึกถึงอันตรายเช่นนี้ ก็เป็นเพราะเขาฝึกฝนวิชาเสริมดวงชะตา ทุกครั้งที่เจออันตรายจะมีลางสังหรณ์บอกทุกครั้ง อาศัยลางสังหรณ์นี้ เขาไม่รู้ว่าหลบหลีกภัยร้ายไปมากี่ครั้งแล้ว
(วิชาเสริมดวงชะตา ชื่อจีนแบบแปลตรงตัวคือ วิชาหลบหลีกโชคร้ายและมุ่งสู่โชคดี แต่ผมแปลแบบไทยถ้าใครมีคำแนะนำแนะได้ครับ )
ครั้งนี้ก็เช่นกัน ลางสังหรณ์บอกเขาว่าอันตรายกำลังคืบคลานเข้ามา เขารู้สึกกระวนกระวายใจจนแทบลุกไม่ขึ้น นึกเสียดายที่มารับภารกิจครั้งนี้
“น่าสนใจมาก คุณสามารถสัมผัสได้ถึงอันตรายจริงๆ”
“งั้นก็ยิ่งไม่ควรปล่อยให้พวกแกหนีไปได้”
ทันใดนั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นกลางหุบเขา
เจ้าของเสียงนี้คือโจวสุ่ย
หลังจากทราบสถานที่นัดพบแล้ว โจวสุ่ยก็ส่งร่างแยกของเขาเข้าไปในป่าวงกตทันทีเพื่อทำการค้นหาอย่างละเอียด
ท้ายที่สุด หลังจากที่ไปถึงระดับสร้างรากฐานขั้นแรกแล้ว เขาสามารถสร้างร่างแยกได้ทั้งหมดสิบแปดร่าง
ดังนั้น ด้วยพลังของร่างแยกทั้ง 18 ร่าง ในการค้นหาป่ารอบๆ
เขาสัมผัสได้ทันทีถึงการปรากฏตัวของผู้บ่มเพาะปีศาจสร้างรากฐานทั้งสี่คน
จากนั้นร่างแยกตัวหนึ่งของเขาก็นำกองทัพกู่หนอนและรีบวิ่งเข้าไปในหุบเขา
บูม~~
ทันทีที่เสียงดังขึ้น พลังของกู่วิญญาณแห่งความฝันก็ระเบิดออกมาทันที
ทักษะ - ฝันร้าย!
กู่วิญญาณแห่งความฝัน ซึ่งมาถึงระดับสองขั้นกลาง ตอนนี้พลังของมันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมถึงสิบเท่า
หากรวมพลังวิญญาณอันทรงพลังของ โจวสุ่ย เปรียบเสมือนพายุร้ายที่แม้แต่ผู้บ่มเพาะในสร้างรากฐานขั้นปลายก็ไม่สามารถต้านทานได้
ไม่ต้องพูดถึงผู้บ่มเพาะระดับการสร้างรากฐานขั้นแรกและขั้นปลาย
บัซ~~ บัซ~~
ทันใดนั้น คัง หยวน และผู้บ่มเพาะสร้างรากฐานนิกายเงาปิศาจ อีกสี่คนก็รู้สึกมึนงง รู้สึกราวกับว่าจิตวิญญาณของพวกเขาถูกแรงดึงดูดที่มองไม่เห็นดึงเข้าไปในโลกแห่งความฝัน
มันเหมือนกับเข้าสู่โลกแห่งความฝันอันลึกล้ำ
แม้ว่าพวกเขาจะถูกโจมตีจากภายนอก พวกเขาก็คงไม่ตื่นง่ายๆ
“ไม่ดี”
ผมของคังหยวนตั้งชัน ในฐานะผู้บ่มเพาะการสร้างรากฐานขั้นกลาง เขามีอาวุธจิตวิญญาณป้องกันวิญญาณระดับกลาง - สร้อยข้อมือฝันร้าย ซึ่งสามารถทนต่อภาพลวงตาอันทรงพลังได้
ดังนั้นเขาจึงไม่ถูกดึงเข้าสู่โลกแห่งความฝันเหมือนกับผู้บ่มเพาะการสร้างรากฐานคนอื่นๆ ในช่วงเริ่มต้น
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังรู้สึกมึนงง
เหมือนสมองถูกคนใช้ค้อนเหล็กทุบอย่างแรง
ทันใดนั้นก็รู้สึกเวียนหัวและเกือบจะหมดสติ
บัซ~~
แต่ในเวลานี้ ทันใดนั้นก็มีหนอนกินทองหนึ่งร้อยตัวปรากฏขึ้นกลางอากาศ หนอนเหล่านี้กระพือปีกบินอยู่ในอากาศ เผยให้เห็นเขี้ยวและกรงเล็บอันน่าสะพรึงกลัว ร่างกายถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทองอำพัน แผ่ซ่านพลังอันโหดร้าย
พวกนี้มันคือกู่หนอนทองคำกลืนกินระดับสอง!
(จบบทนี้)