บทที่ 7 : การพัฒนาและการเข้าเมือง
บทที่ 7 : การพัฒนาและการเข้าเมือง
โห่—
เสียงดังก้องทำลายความเงียบในป่าบนภูเขา และลูกธนูก็เจาะทะลุใบไม้อย่างรวดเร็วและฝังตัวเองลงที่คอของกระต่ายท่ามกลางพุ่มไม้
กระต่ายดิ้นรนอยู่สองสามลมหายใจก่อนที่มันจะสงบลง
ลู่หยวนผลักพุ่มไม้ที่อยู่ข้างหน้าเขา เขาหยิบกระต่ายขึ้นมา ดึงลูกธนูออกมาอย่างชำนาญแล้วใส่กลับเข้าไปในกระบอก ก่อนจะโยนเหยื่อลงในตะกร้าบนหลังของเขา
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจทั้งหมดนี้แล้ว เขาก็เหลือบมองทักษะของเขา
[ ทักษะยิงธนูอย่างหยาบ (ขั้นกลาง) ]
เขาอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
“ในเดือนที่ผ่านมา ฉันยิงธนูไปหลายพันลูก ฆ่ากระต่ายและไก่ป่าไปหลายร้อยตัว และทักษะยิงธนูของฉันก็พัฒนาขึ้นไปไกลมาก”
ลู่หยวนครุ่นคิดถึงความรู้สึกของการยิงธนูเมื่อกี้นี้
แม้ว่าขั้นกลางจะไม่ใช่การปรับปรุงที่มากมายอะไรนักเมื่อเทียบกับขั้นต้น
แต่ในขณะที่ยิงธนูเมื่อกี้นี้ เขาก็รู้สึกได้เลยว่าการง้างคันธนูและความเร็วของลูกธนูนั้นพัฒนาขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก
หากประเมินเป็นคะแนน ขั้นต้นก็อาจนับเป็นหนึ่งเต็มสิบ ขณะที่ขั้นกลางนั้นได้สามเต็มสิบ
กล่าวอีกนัยหนึ่ง พัฒนาการของเขาก็เพิ่มขึ้นจากหนึ่งเต็มสิบเป็นสามเต็มสิบ ซึ่งเป็นความก้าวหน้าที่ค่อนข้างน่าทึ่ง
“ไม่เพียงแต่ความแม่นยำของฉันจะพัฒนาขึ้นเท่านั้น แต่การมองเห็นและความแข็งแรงของกล้ามแขนของฉันก็ยังดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน”
ลู่หยวนง้างสายธนูในมือของเขาอย่างตั้งใจและรู้สึกว่ามันไม่มีปัญหาใดๆ
ต้องรู้ว่าก่อนที่เขาจะพัฒนาระดับทักษะขึ้นมาถึงขั้นกลาง เขาก็ต้องใช้แรงพยายามทั้งหมดในการง้างสายรั้งธนู
แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะต้องใช้ความพยายามเพียงประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นต์ในการง้างสายธนูเท่านั้น
“เป็นเพราะระดับทักษะของฉันเพิ่มขึ้นรึเปล่านะ มันจึงทำให้สมรรถภาพทางกายของฉันดีขึ้นด้วย?” ลู่หยวนคิดและตั้งตารอดู
ในเกมที่เขาเตรียมจะเล่นก่อนจะข้ามมิติมา ระดับทักษะโดยพื้นฐานก็มีสี่ขั้น: ขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นปลายและขั้นสมบูรณ์
หากการยิงธนูของเขาขั้นก้าวไปสู่ขั้นปลายหรือขั้นสมบูรณ์ได้ ร่างกายของเขาก็จะพัฒนาไปมากขนาดไหนกัน?
“เมื่อทักษะยิงธนูของฉันพัฒนาไปถึงขั้นสมบูรณ์ได้ ความแข็งแกร่งของฉันก็อาจจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าได้เลยไหม? แต่นี่ก็เป็นเพียงทักษะยิงธนูอย่างหยาบเท่านั้น หากฉันสามารถได้รับคัมภีร์ลับหรือแม้แต่เคล็ดวิชาเซียนศักดิ์สิทธิ์มาครองได้ มันก็จะมีการปรับปรุงมากขนาดไหนกัน?”
ลู่หยวนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นเมื่อคิดถึงมัน
แม้ว่าการข้ามมิติมาในตอนแรกจะดูเหมือนเป็นเหตุการณ์ที่โชคร้ายสำหรับเขา แต่เมื่อค้นพบประสิทธิภาพของระบบแล้ว ลู่หยวนก็รู้สึกว่าสิ่งต่างๆ อาจไม่ได้เลวร้ายมากขนาดนั้น
มันแค่แย่ที่เขาต้องมาเป็นนายพรานและต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดอย่างทุลักทุเลเช่นนี้
ถ้าเขาได้เกิดใหม่เป็นเซียนที่สามารถเดินทางผ่านสวรรค์และโลก บินขึ้นภูเขา ลอยข้ามทะเลและมีอายุยืนยาวและมีอิสรภาพได้ นั่นก็คงจะวิเศษมาก
“ดังนั้นในอนาคตข้างหน้า ฉันจะต้องฝึกยิงธนูต่อไป”
ลู่หยวนเก็บธนูและมองไปที่ป่าโดยรอบที่เงียบสงบและขมวดคิ้ว “แต่กระต่ายทางฝั่งตะวันตกของภูเขาถูกฉันล่าไปเกือบหมดแล้ว ต่อไปฉันจะต้องฝึกยิงธนูทางทิศตะวันออกของภูเขาบ้าง”
เจ็ดวันต่อมา ลู่หยวนต้องวางธนูและลูกธนูลงเพื่อยุติกิจวัตรการล่ากระต่ายของเขาไว้ชั่วคราว ซึ่งนั่นก็ทำให้กระต่ายที่อยู่ทางด้านตะวันออกของภูเขาสามารถถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกได้
หลังจากนั้นเขาก็ถือเพียงมีดสั้นและตะกร้าใบใหญ่ก่อนจะเดินออกจากภูเขาที่เขาอาศัยอยู่มานานกว่าหนึ่งเดือน
คราวนี้ ลู่หยวนวางแผนที่จะไปที่เมืองมณฑลต้าหยูที่ตีนเขา
เนื่องจากเขาข้ามมิติมาเป็นเวลานานแล้ว ข้าวสารเดิมจึงหมดแล้วเมื่อวานนี้
สำหรับเกลือ ส่วนใหญ่มันก็ถูกใช้ไปหมดแล้วตั้งแต่ตอนที่เขาทำเนื้อรมควันก่อนหน้านี้ และแม้ว่าเขาจะประหยัด แต่มันก็ยังหมดลงไปเมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว
เมื่อปราศจากเกลือ แม้แต่ชายที่แข็งแกร่งและมีร่างกายแข็งแรงดีก็ยังสามารถสูญเสียพละกำลังและอ่อนแอลงได้
สถานการณ์นี้ค่อนข้างร้ายแรงสำหรับลู่หยวนซึ่งอาศัยอยู่ในป่าลึกและมักจะมาพร้อมกับสัตว์ป่าอยู่เสมอ
เขาสามารถหิวได้ แต่เขาขาดกำลังไม่ได้เพราะนั่นอาจนำไปสู่ความตายได้
เมืองมณฑลต้าหยูตั้งอยู่ที่เชิงเขาต้าหยู และมันก็ตั้งอยู่ติดกับริมแม่น้ำสายใหญ่ซึ่งห่างจากภูเขาไปประมาณสิบกิโล
อย่างไรก็ตาม สถานที่ที่ลู่หยวนอาศัยอยู่นั้นก็ค่อนข้างห่างไกล และเพื่อที่จะไปถึงเมือง เขาจึงต้องใช้ทางอ้อมมากกว่าสิบกิโล รวมเป็นระยะทางมากกว่า 30 กิโล
ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืดและมาถึงเทศมณฑลในอีกสองชั่วโมงต่อมาในเวลาประมาณสิบโมงเช้า
หลู่ยวนถือตะกร้าปาดเหงื่อออกจากหน้าผากและเข้าแถวที่หน้าประตูเมือง
ยามเฝ้าประตูเมืองทั้งสองคนมองดูเสื้อผ้าของเขาและตรวจดูตะกร้าของเขา เมื่อเห็นว่ามันเต็มไปด้วยหนังสัตว์ พวกเขาจึงพูดด้วยความรังเกียจว่า “ค่าธรรมเนียมเข้าเมืองหนึ่งร้อยเหรียญ”
ลู่หยวนหยิบเหรียญจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าของเขาแล้วจ่ายไป
ที่จริงแล้วค่าธรรมเนียมเข้าเมืองโดยปกติแล้วก็ไม่ได้มากถึงร้อยเหรียญ
คนทั่วไปมักจะถูกเรียกเก็บเพียงไม่กี่เหรียญหรือไม่เกินสิบเหรียญ ซึ่งนั่นก็เป็นจำนวนเงินสูงสุดแล้ว
อย่างไรก็ตาม สถานะในปัจจุบันของลู่หยวนก็คือนายพรานภูเขาหรือเรียกอีกชื่อ พรานเถื่อนแห่งต้าหยู!!!
นายพรานภูเขาเป็นพลเมืองที่ไม่ได้ลงทะเบียนกับรัฐเอาไว้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้อยู่ในรายชื่อสำมะโนประชากรของรัฐ เขาไม่มีตัวตนและเป็นเพียงคนนอก
ด้วยสถานะเช่นนี้ ถึงแม้จะมีคนฆ่าเขา แต่รัฐก็จะไม่เข้ามายุ่ง
อย่างไรก็ตาม ภายใต้สถานการณ์ปกติ มันก็ไม่มีใครคิดจะมุ่งเป้าไปที่นายพรานภูเขาโดยเฉพาะเพื่อความสนุกสนาน ท้ายที่สุดแล้ว ฆาตกรโรคจิตก็เป็นเพียงคนส่วนน้อยในหมู่ฝูงชนจำนวนมหาศาล
นอกจากนี้ มันก็จะไม่มีใครกำหนดเป้าหมายไปที่คุณ หากคุณยังคงทำตัวตามสถานะของคุณ
เช่นเดียวกับในตอนนี้ ทหารยามทั้งสองคนนี้ใช้ประโยชน์จากความไร้สัญชาติของเขาและเก็บค่าธรรมเนียมเข้าเมืองแพงกว่าปกติถึงสิบเท่า แบบนี้แล้วเป็นคุณคุณจะจ่ายไหม?
ถ้าคุณจ่าย คุณก็จะไม่ต้องลำบากใจอีก
แต่ถ้าคุณไม่จ่าย พวกเขาก็จะจับกุมคุณโดยทันที พวกเขาจะกล่าวหาว่าคุณเป็นพวกไร้สัญชาติและเป็นคนเถื่อน ซึ่งข้อกล่าวหาเพียงแค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับคุณที่จะได้ไปเยี่ยมเรือนจำ
และหากคุณยังกล้าต่อต้านอีก คุณก็จะถูกจับไปประหารชีวิตแน่
และไม่ว่านายพรานหนุ่มจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน แต่เขาเพียงคนเดียวจะไปสู้กับกองทหารยามได้ยังไง?
บทเรียนจากอดีตนั้นเจ็บปวด และลู่หยวนก็ไม่ต้องการจะเสี่ยงชีวิตเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ซ้ำอีกครั้ง
หลังจากจ่ายเงินตามความเป็นจริงแล้ว ทหารยามทั้งสองก็ไม่ได้ทำอะไรเขาอีกและปล่อยเขาไป
ตลาดในเมืองตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก มีพ่อค้าแม่ค้ามากมายมารวมตัวกันที่นั่น
ลู่หยวนจำเป็นต้องไปที่นั่นเพื่อขายหนังสัตว์ของเขา
เขารู้ทางไปตลาดจากในความทรงจำ และหลังจากตระเวนไปทั่วเมืองได้สักพัก เขาก็มาถึงตลาด
แต่ขณะที่เขากำลังจะมุ่งหน้าไปยังร้านค้าที่รับซื้อหนังสัตว์ในตลาดนั้นเอง มันก็ได้มีร่างหนึ่งเดินเข้ามาหาเขาก่อน
“เปียวเย่”
เมื่อเห็นผู้นำที่เป็นชายร่างกำยำสวมแจ็กเก็ตตัวใหญ่เดินเข้ามา ลู่หยวนก็ยิ้มและทักทายอีกฝ่ายก่อน
ชายคนนี้ชื่อ “เปียวเย่” และเขากับพวกก็ล้วนเป็นสมาชิกของแก๊งหมาป่าทมิฬแห่งมณฑลต้าหยู
แก๊งนี้ควบคุมการค้าในมณฑล และทุกคนที่หาเลี้ยงชีพอยู่ในมณฑลก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการคุ้มครองให้กับพวกเขา
และตอนนี้ คนเหล่านี้ก็ได้มาที่นี่เพื่อเก็บเงินเขาอย่างแน่นอน...