บทที่ 59 : ทักษะเเสงศักดิ์สิทธิ์อวยพร, งานเลี้ยงประจำปีของตระกูลโอแลนเดอร์!
บทที่ 59 : ทักษะเเสงศักดิ์สิทธิ์อวยพร, งานเลี้ยงประจำปีของตระกูลโอแลนเดอร์!
สำหรับเขาตอนนี้
กองกำลังระดับต่ำภายใต้การบังคับบัญชาของเขา
คุณค่าสูงสุดของพวกเขาและการใช้งานตอนนี้….มันไม่เกี่ยวกับการต่อสู้อีกต่อไป
เพราะมันจะเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย ,การควบคุม, เเละการลาดตระเวน
พลเมืองมากขึ้น…..พฤติกรรมการจัดการขั้นพื้นฐานก็ต้องมากขึ้น!
และในกรณีนี้….มันเป็นความจริงที่ว่าเขาไม่จำเป็นต้องใช้กองทัพจากปราสาทศักดิ์สิทธิ์
ในความเป็นจริง ในหลายแง่มุมและหลายสิ่ง…..คนธรรมดาหรือผู้เชี่ยวชาญระดับต่ำอื่นๆ มีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับงานเหล่านี้
“เอาล่ะ….ตัดสินใจได้เเล้ว!”
“เมื่อการก่อสร้างเมืองใหม่พัฒนาไปถึงระดับหนึ่ง เราจะเริ่มรับสมัครทหารจากพลเมือง” เรย์มอนด์พึมพำ
จากนั้น, เขาก็หันกลับมาและดูรางวัลที่เขาได้รับจากระบบ
รางวัลเพิ่มเติมสำหรับการอัญเชิญยูนิตระดับเจ็ดในครั้งนี้คือ
รางวัลการเพาะปลูกจิตวิญญาณการต่อสู้
ซึ่งสิ่งนี้มันก็แค่ทำให้ความแข็งแกร่งของเขาทะยานขึ้นไปถึงระดับเจ็ด
มันคือ 'การดำเนินงานประจำ' ของระบบอยู่เเล้ว
จากนั้น, รางวัลที่เรียกว่าจิตวิญญาณการต่อสู้ การพิพากษาแสงศักดิ์สิทธิ์
ซึ่งจริงๆ แล้วสิ่งนี้มันก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร….นี่คงจะเป็นเวอร์ชันที่พัฒนาแล้วของจิตวิญญาณการต่อสู้พลังปราณแสงศักดิ์สิทธิ์!
เเละมันก็คือ 'การดำเนินงานประจำ' ของระบบเช่นกัน
สุดท้าย, สายตาของเรย์มอนด์ก็มองไปที่รางวัลเพิ่มเติมสุดท้ายที่เรียกว่า 'ทักษะต้นกำเนิด—เเสงศักดิ์สิทธิ์อวยพร'
เมื่อลองตรวจสอบให้ละเอียดยิ่งขึ้น...
[เเสงศักดิ์สิทธิ์อวยพร]
คำอธิษฐานที่มีพลังเวทย์มนตร์ธาตุแสงอันทรงพลัง
มันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของผู้ใต้บังคับบัญชา ทหาร และแม้แต่กองทัพในวงกว้าง….เช่นเดียวกับความสัมพันธ์และความต้านทานของพลังเวทย์มนตร์ธาตุแสง
ระดับสูงสุดของทักษะนี้คือระดับ 3
ปัจจุบันอยู่ระดับ 1
ช่วงการเติบโตและปริมาณสูงสุดของทักษะนี้คือ 50 ตารางกิโลเมตร, เเละประชากร 100 คน!
“………”
เขาหายใจเข้าลึกๆเพื่อระงับความตื่นเต้น
“จริงๆ แล้วมันเป็นทักษะเพิ่มพลังแบบกลุ่มใช่ไหม?”
“เเบบนี้มันก็ทรงพลังมากเลยไม่ใช่หรือไง?”
“ต้องลองดูก่อน...” เขาบ่นพึมพำแล้วยกมือขึ้น
ทักษะเเสงศักดิ์สิทธิ์อวยพรได้ถูกใช้งานโดยตรง
ครืนน….ครืนน….ครืนน
วินาทีถัดมา
มีเสียงหึ่งมาจากร่างกายของเขา….เเละทันใดนั้น, จิตวิญญาณการต่อสู้การการพิพากษาแสงศักดิ์สิทธิ์ในร่างกายของเขาก็ดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นทันทีและความแข็งแกร่งโดยรวมของเขาก็ดีขึ้นเล็กน้อย!
….มันน่าจะดีขึ้นประมาณ 20%
"ยอดเยี่ยมมาก, สมเป็นรางวัลที่ผลิตโดยระบบ….มันเป็นทักษะที่ทรงพลังมากจริงๆ" เรย์มอนด์พึมพำด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย
แน่นอนว่าเขารู้อยู่แล้ว
ถ้าพลังของคนคนเดียวเพิ่มขึ้นประมาณ 20% มันก็ไม่มีนัยยะอะไร
……แต่ถ้าเป็นผลของการเพิ่มเเบบกลุ่ม, แนวคิดนี้ก็จะแตกต่างไปอย่างมาก!
ท้ายที่สุดแล้วพลังของกองทัพ….มันก็ยิ่งใหญ่กว่าตัวบุคคลเสมอ!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับระบบอาณาจักรศักดิ์สิทธ์ของเขาที่สามารถอัญเชิญกองทัพจากวิหารศักดิ์สิทธิ์ได้
ดังนั้น, ความได้เปรียบจากทักษะการเพิ่มพลังเเบบกลุ่มใดๆ จะถูกขยายอย่างไร้ขีดจำกัด
ดังนั้น….ทักษะนี้จึงเป็นตัวเเปรสำคัญอย่างถึงที่สุด
ไม่กี่วันถัดมา, มันก็แทบไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น
เนื่องจากโครงการดำเนินงานหลักๆ ทั้งหมดต้องรอจนกว่าวิงเกอร์แมนจะสามารถสั่งซื้อหินและวัสดุก่อสร้างอื่นๆได้ก่อนจึงจะสามารถดำเนินการขั้นต่อไปได้
เเต่เนื่องจากเขาต้องแก้ปัญหาในเมืองบิตันก่อน
เเละสิ่งนี้ต้องใช้เวลาพอสมควร
ดังนั้น, พวกเขาทั้งหมดยังคงต้องรออย่างอดทน
แต่ในขณะเดียวกัน
สถานการณ์และความเคลื่อนไหวทางฝั่งพวกเขา
ก็เริ่มมีหลายคนค้นพบเเล้วเช่นกัน...
…….
ณ เมืองอัมคุนเซต
ปราสาทแห่งตระกูลโอแลนเดอร์!
ในห้องประชุมที่หรูหราและใหญ่โต
ในเวลานี้มีผู้คนมากมายในชุดสวยๆ ได้มานั่งอยู่ที่นี่ พวกเขาทั้งหมดเป็นสมาชิกภายในของตระกูลโอแลนเดอร์….เหล่าขุนนาง, ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ง, และแม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูง
เเล้วทำไมพวกเขาถึงมารวมตัวกันที่นี่ในตอนนี้?
นั่นก็เป็นเพราะว่าวันนี้เป็นวันประชุมประจำปีของตระกูล, ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิของทุกปี….เพื่อทบทวนอดีตของตระกูลและมุ่งสู่การวางเเผนในอนาคต
นี่เป็นกิจวัตรของพวกเขามาหลายปีแล้ว!
หลังจากการประชุมเริ่มต้นขึ้น
เรื่องเล็กเเละเรื่องใหญ่ทุกเรื่องก็จะถูกเปิดเผย
เอามาวางไว้บนโต๊ะเพื่อหารือและแก้ไขร่วมกัน
จนกระทั่งตกกลางคืน
จู่ๆก็มีคนตะโกนขึ้นมาว่า!
“ท่านลอร์ด….ข้ามีเรื่องจะรายงาน!” คนพูดสวมเสื้อคลุมขุนนางสีแดงเพลิง
แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของเขาจะไม่โดดเด่น….แต่เขาก็มีอารมณ์ของชนชั้นสูง, ราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นผู้นำ
ชื่อของเขาคือเบลลามี่, เขาเป็นจอมเวทย์ธาตุแสงระดับสี่…..เป็นสมาชิกคนสำคัญของตระกูลโอแลนเดอร์ และเป็นหนึ่งในหกไวเคานต์ของตระกูล
สถานะของเขาสูงมาก!
เเละสำหรับผู้นำตระกูลที่เขาพูดถึงนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น
เขาคือหัวหน้าตระกูลโอแลนเดอร์ในปัจจุบันของพวกเขา และเป็นหนึ่งในสองเอิร์ลของตระกูลโอแลนเดอร์
ลอร์ดแห่งเมืองอัมคุนเซต, เอิร์ลบรูโนส-โอแลนเดอร์!
“โอ้….เบลลามีที่รัก พูดในสิ่งที่เจ้าต้องการได้เลย….ไม่ต้องสุภาพกันขนาดนั้น” บรูโนสเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
เขาดูเป็นมิตรและใจดีมาก
“ท่านลอร์ด, ทุกคน….ข้าเพิ่งค้นพบว่ามีคนย้ายมาที่หุบเขาโฟโด้ และดูเหมือนว่าพวกเขากำลังวางแผนที่จะสร้างเมืองใหม่ที่นั่น” เบลลามีพูดเข้าประเด็นทันที
เเละทันทีที่ข้อความนี้ออกมา….ทุกคนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
"หุบเขาโฟโด้….มันคือที่ใหนหรือ?"
“เจ้าบ้าหรือเปล่า, ฮันส์….เจ้าจำหุบเขาโฟโด้ที่น่ากลัวนั่นไม่ได้หรือ”
“ฟู่….ที่น่ากลัวนั่นซินะ, ใครมันจะโง่ขนาดนี้เนี่ย….กล้าจะไปตั้งเมืองที่นั่นโดยไม่กลัวว่าจะถูกปล้นและคุกคามจนตายโดยมนุษย์ปลาที่น่ารังเกียจพวกนั้นเหรอ!”
“เฮ้….ครั้งสุดท้ายที่มีคนงี่เง่าแบบนี้คือเมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว เกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายคนนั้นนะ?..... ดูเหมือนว่าเขาจะถูกมนุษย์ปลาพวกนั้นลอบสังหารตอนหลับ”
“ใช่….ข้ายังจำเรื่องนี้ได้ ผู้ชายคนนั้นชื่ออะไรนะ, โม? โมโด?”
“เขาชื่อโมเรโด!”
“คนงี่เง่าเมื่อสิบปีที่แล้วชื่อโมเรโด”
“จริงๆแล้วเขาเป็นไวเคานต์ที่ทรงพลังมาก, เขามีลูกน้องระดับหกถึงสองคน….เเต่น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วเขาก็ยังไม่สามารถรอดจากสิ่งเลวร้ายเหล่านั้นได้”
“เฮ้….มนุษย์ปลาที่น่ารังเกียจพวกนั้นช่างเป็นปัญหาและร้ายกาจจริงๆ”
“พวกมันไม่เคยสู้ตรงๆเเต่จะใช้การลอบโจมตีเท่านั้น, และเมื่อสถานการณ์ผิดพลาด พวกมันก็จะวิ่งหนีลงเเม่น้ำทันที!”
ทุกคนเริ่มพูดถึงเรื่องนี้
แน่นอนว่าพวกเขาล้วนคุ้นเคยกับเรื่องราวของหุบเขาโฟโด้เป็นอย่างดี
เเละหลังจากที่การสนทนาของทุกคนสงบลง…..เอิร์ลบรูโนสก็มองมาที่ไวเคานต์เบลลามีคอย่างสงบ
เเล้วเอ่ยถามอีกครั้ง!
“เบลลามี, เจ้ารู้ไหมว่าเป็นใคร”
“บอกตามตรง ตอนนี้ข้าค่อนข้างอยากรู้…..ใครกันที่กล้าไปยังสถานที่อย่างหุบเขาโฟโด้, เขากำลังมองหาความตายอยู่หรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินคำถามนี้, เบลลามีก็ตอบด้วยสีหน้าแปลกๆ
“ท่านลอร์ด, ข้าทราบชื่อเขาแล้ว…..แต่ผลลัพธ์มันแปลกอยู่เล็กน้อย”
“แปลก?......มีอะไรแปลก?”
"ตามข้อมูลที่ข้าตรวจพบ, ชายที่กำลังสร้างเมืองในหุบเขาโฟโด้มีชื่อว่าบารอนเรย์มอนด์”
“ใช่แล้ว….เขาเป็นเพียงบารอนตัวเล็กๆเท่านั้น” เบลลามิกพูดด้วยสีหน้าแปลกๆ
แต่หลังจากนั้น….การแสดงออกของทุกคนก็เริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย
บารอน?
แค่บารอนเหรอ?
เอาจริงดิ?
“เบลลามี่, ภูมิหลังของผู้ชายคนนั้นเป็นยังไงบ้าง……เขามาจากตระกูลใหญ่ตระกูลไหนหรือเปล่า?” เอิร์ลบรูโนสถามด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
“ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีเชื้อสายจากตระกูลใหญ่ตระกูลใหนเลยครับ”
"ไม่มีเลยหรือ?!"
"ใช่ครับ......"
……..
ทันใดนั้น, เบลลามีก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า
“ท่านลอร์ด, จากการสืบสวนของข้า…..ดูเหมือนว่าชายคนนี้จะเป็นเพียงผู้โชคดีเท่านั้น”
"เจ้าหมายความว่าอย่างไร?" เอิร์ลบรูโนสขมวดคิ้วเล็กน้อย
“บารอนเรย์มอนด์เป็นเพียงเด็กน้อยที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี, แม้แต่ศักดินาของเขาก็ยังสืบทอดมาจากบิดาที่เสียชีวิตไปแล้วเท่านั้น”
"อย่างไรก็ตาม ข้าได้ตรวจพบบางอย่าง”
“ก่อนฤดูหนาวที่แล้วและต้นฤดูใบไม้ผลิของปีนี้…..ความแข็งแกร่งกองทัพของเขาเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติและลึกลับ!”
“ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ?” ใบหน้าของเอิร์ลบรูโนสเข้มขึ้นเล็กน้อย
“เบลลามี เจ้าหมายถึงอะไร”
“ท่านลอร์ด, ข้าพบว่ามีสัตว์เวทย์บินได้ที่เราไม่เคยมีมาก่อนในกองทัพของผู้ชายคนนั้น…..และสัตว์เวทย์บินเหล่านั้นทรงพลังมาก, เกือบทั้งหมดอยู่ระดับห้า!” เบลลามีกกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“สัตว์เวทย์บินได้?!”
“และพวกมันทั้งหมดมีระดับห้า?.....นี่เรื่องจริงเหรอ?”
ข้อมูลนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงไปครู่หนึ่ง
เห็นได้ชัดว่าสัตว์เวทย์ที่บินได้ยังคงเป็นอุปสรรคต่อพวกเขา
ท้ายที่สุดสิ่งนี้, มันเป็นเรื่องยากที่จะจัดการ!
“เบลลามี….เจ้ากำลังสงสัยใช่ไหมว่ามีคนคอยสนับสนุนเขาอย่างลับๆอยู่?” เอิร์ลบรูโนสถามเข้าประเด็น
"ถูกต้อง!" เบลลามีพยักหน้าและพูดด้วยดวงตาเป็นประกาย!
“ท่านลอร์ด, ทุกคน….ข้าสงสัยว่าน่าจะมีคนคอยสนับสนุนเขาอยู่เบื้องหลัง และความสงสัยนี้ได้รับการยืนยันจากข่าวกรองที่ข้าเพิ่งได้รับเมื่อวานนี้”
“เมื่อไม่กี่วันก่อน จู่ๆคนของข้าก็ได้ส่งข่าวมาว่าจอมเวทย์เลเลียแห่งเมืองแฮนเซนได้ออกจากเมืองแฮนเซนอย่างเงียบๆ”
“ต่อมา, คนของข้าก็พบว่าจริงๆแล้วเธอได้เดินทางมาที่ดินเเดนตระกูลของเรา…..และจุดหมายปลายทางที่เธอปรากฏตัว”
"มันก็คือเมืองใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นใน หุบเขาโฟโด้!"
“ดังนั้น, ข้าจึงสงสัยว่าเบื้องหลังของบารอนเรย์มอนด์….คือเอิร์ลกูตัน!”
ทันทีที่ถ้อยคำเหล่านี้หลุดออกมา, ทั่วทั้งสถานที่ก็เงียบเสียงลงทันที
ใบหน้าและดวงตาของทุกคนสับสน, มืดมน, และระเเวดระวัง
……เอิร์ลกูตัน?
แน่นอนว่าพวกเขาคุ้นเคยกับชื่อนี้
นี่คือคนรู้จักเก่าและเป็นคู่แข่งเก่าของพวกเขา
ท้ายที่สุดแล้ว, ดินแดนศักดินาทั้งสองของพวกเขาอยู่ใกล้กันมากที่สุด
และยังเป็นพรมแดนขนาดใหญ่กันทั้งคู่อีกด้วย
ดังนั้น, มันย่อมมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาโดยธรรมชาติ!
ด้วยเหตุนี้ หากอีกฝ่ายสนับสนุนคนในดินแดนของพวกเขาจริงๆ…ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาก็ต้องใส่ใจกับเรื่องนี้
เเละทันใดนั้นเอง, มันก็มีคนตะโกนออกมาด้วยเจตนาฆ่า
“ท่านลอร์ด, โปรดอนุญาตให้ข้าเป็นคนจัดการเรื่องนี้เถอะ”
“อาณาเขตของข้าอยู่ใกล้กับหุบเขาฟิโด้มาก…..ข้าจะนำคนของข้าไปจัดการพวกมันโดยตรง, ดินแดนของตระกูลโอแลนเดอร์ของเราไม่อนุญาตให้หนูเหล่านี้สามารถเดินเตร็ดเตร่ไปมาได้”
ชื่อของคนที่ตะโกนออกมานี้คือเดวิด, หนึ่งในหกไวเคานต์ของตระกูลโอแลนเดอร์, และเขายังเป็นอัศวินระดับหกอีกด้วย
ชายคนนี้เชื่อเรื่องความเเข็งเเกร่ง, ดังนั้นเขาจึงพัฒนากองทัพของเขาอย่างจริงจัง และเขายังได้รับการสนับสนุนจากตระกูลโอแลนเดอร์อย่างเต็มที่อีกด้วย
ดังนั้น…..หากเราพูดถึงไวเคานต์ทั้งหกของตระกูลโอแลนเดอร์, ไวเคานต์เดวิดสันก็คือขุนนางที่มีกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างแน่นอน!
“ท่านลอร์ด, ข้าก็เห็นด้วยกับเดวิด, ไม่ว่าจุดประสงค์ของพวกเขาจะเป็นอะไร…..แต่นี่คือดินแดนของตระกูลโอแลนเดอร์ของเรา, พวกเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งวุ่นวาย”
“โปรดส่งทหารไปสังหารพวกเขาโดยตรง….และข้าจะใช้เงินของข้าเพื่อสนับสนุนเรื่องนี้เอง”
มีคนพูดขึ้นอีกครั้ง
เเละนี่คือไวเคานต์อีกคนของตระกูล โอแลนเดอร์
เขามีชื่อว่าโคดี้, ในเวลาเดียวกันเขาเป็นไวเคานต์ที่ร่ำรวยที่สุดในบรรดาไวเคานต์ทั้งหกของตระกูลโอแลนเดอร์
เเละนั่นก็เป็นเพราะอาณาเขตของเขาอยู่ติดกับแม่น้ำลองตันตะวันตก!
บนฝั่งแม่น้ำลองตันตะวันตกเเละพื้นที่บริเวณใกล้เคียง….นอกเหนือจาก กลุ่มพันธมิตรเคลย์เเล้ว, ก็เป็นไวเคานต์โคดี้นี่เเหละ ที่เป็นผู้ที่ร่ำรวยมากที่สุด
"เข้าใจเเล้ว" เอิร์ลบรูโนสเองก็พยักหน้าในเวลานี้
ดูเหมือนเขาก็เก็บตัวเลือกนี้ไว้…..แต่เขาอย่างไรก็ตามเขาก็ยังไม่ได้ตัดสินในทันที
เขาเหลือบมองไปที่ผู้ชายอีกคนที่เงียบอยู่ตลอดเวลาแล้วเอ่ยถาม
“เฮเต…..เจ้าไม่ต้องแกล้งทำเป็นตายเลย, ลองบอกความเห็นของเจ้ามาหน่อย เจ้ามีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง”
ทันทีที่ข้อความนี้ออกมา….ทุกสายตาก็จับจ้องไปที่ชายคนนี้ทันที
เเต่อย่างไรก็ตาม, ทุกคนที่นี่ยังคงยับยั้งและดูให้เกียรติเล็กน้อย
เเละที่เป็นเเบบนั้น, เพราะสถานะของบุคคลที่เรียกว่าเฮเตนั้นไม่ธรรมดาเลย
เขาเป็นขุนนางระดับเอิร์ลอีกคนของตระกูลออร์แลนด์
นอกจากนี้, เขายังเป็นจุดสูงสุดของอัศวินระดับหกอีกด้วย!
เเถมนอกเหนือจากความแข็งแกร่งของเขาจะไปถึงจุดสูงสุดของระดับหกแล้ว…..เขายังมีพาหนะเป็นสัตว์เวทย์ระดับหกที่ทรงพลังพอๆกับตัวเขาเอง
เเละนั่นคือ…..ราชาหมาป่าสีเงิน, สโนว์
……………..