บทที่ 334 : อัพเกรดสายเลือดจันทร์เดือนดับสู่สถานะแปดปีก
บทที่ 334 : อัพเกรดสายเลือดจันทร์เดือนดับสู่สถานะแปดปีก
“ถ้าอย่างนั้นดิโก้, ฉันขอฝากภัตตาคารเรดแมนชั่นให้นายเป็นคนจัดการนะ”
ชูโจวเก็บหนังสือสัญญาลง เเล้วหันไปกล่าวกับดิโก้
“ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะไม่ทำให้มาสเตอร์ผิดหวัง”
ดิโก้เชิดอกและพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น
เขารู้ว่าการที่ชูโจว ปล่อยให้เขาเป็นคนจัดการเรื่องภัตตาคารเรดแมนชั่นนั้นจะเป็นการทดสอบจากชูโจว
ถ้าหากเขาสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ดี ในอนาคต…..ชูโจวย่อมที่จะเชื่อใจเเละปล่อยให้เขาจัดการเรื่องอื่นๆเพิ่มอีก
บางทีเขาอาจจะได้เป็นถึงพ่อบ้านส่วนตัวของชูโจวเลยด้วยซ้ำ
และในทางกลับกันหากเขาไม่สามารถทำหน้าที่ได้ดี, เขาก็จะสูญเสียความเชื่อมั่นที่ชูโจวมีให้เขา และในอนาคตตำแหน่งของเขาในใจของชูโจวก็จะตกลงมาเรื่อยๆ
เช่นนั้นดิโก้จึงได้ตัดสินใจที่จะจัดการภัตตาคารเรดแมนชั่นให้ดีที่สุด เพื่อที่เขาจะได้ก้าวไปเป็นมือขวาของชูโจว
เเละหลังจากที่ชูโจวมอบหมายหน้าที่ในการดูแลภัตตาคารเรดแมนชั่นให้ดิโก้เรียบร้อยแล้ว….เขาก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้อีก
จากนั้นเขาก็บอกดราก้อนและคนที่เหลือว่าเขาจะต้องออกไปข้างนอกซักพัก….เเละหลังจากที่กล่าวเสร็จ ชูโจวก็กลายเป็นภาพติดตาและพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
……
“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าพลังของชูโจวจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง, หลังจากที่เขาออกไปครั้งนี้กัน?”
ธอร์พูดขึ้นพร้อมกับมองไปที่ร่างของชูโจวที่ห่างออกไปเรื่อย ๆ
“ความรู้สึกของนาย…น่าจะถูกแล้วหล่ะ! เจ้าเด็กนี่พัฒนาไวเกินไป จนตอนนี้ฉันแทบจะชินแล้วหล่ะ” ดราก้อนตบไหล่ธอร์พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงขมขื่น
“ถ้าหมอนี่ยังพัฒนาตัวเองได้ไวแบบนี้ และหากพวกเราไม่พยายามหล่ะก็…..ในอนาคตเราอาจจะตามไม่ทันแม้แต่เงาของเขาด้วยซ้ำ”
“ไม่ได้เเล้ว ฉันเองก็จะแข็งแกร่งขึ้นด้วยเหมือนกัน” ธอร์พูดด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“ฉันคิดว่า ‘สงครามไร้จุดจบ’ ในจักรวาลเสมือนจริงนั้นน่าสนใจไม่น้อย ในนั้นมีดันเจี้ยนให้เราลงเต็มไปหมด….ตัวอย่างเช่น ‘สงครามข้ามจักรวาล’ ‘สงครามมนุษย์และเซิร์กส์’ ‘จักรกลล่มสลาย’ และ ‘ภัยพิบัติแห่งมานา’...”
“ดันเจี้ยนพวกนี้เป็นการจำลองสงครามระหว่างมนุษย์กับเผ่าพันธุ์อื่น ๆในจักรวาล….แถมมันยังมีความยากหลายระดับ”
“เเถมหลังจากที่พวกเราผ่านสงครามเสมือนจริงพวกนี้ นอกจากพวกเราจะได้รับประสบการณ์การต่อสู้เเล้ว….พวกเรายังสามารถพัฒนาเทคนิคการต่อสู้ของเราให้อยู่ไปอยู่จุดที่สมบูรณ์ที่สุดได้ แถมยังมีโอกาสได้เห็นเทคนิคของมนุษย์คนอื่นในจักรวาล และเทคนิคของพวกเผ่าอื่น ๆอีกด้วย”
“ดราก้อนทำไมนายกับฉันไม่ลองเข้าร่วม, สงครามไร้จุดจบดูหล่ะ?”
“ไม่เอาหรอก…..หากเทียบกันแล้วฉันชอบสนามรบคลั่งสังหารมากกว่า สงครามไร้จุดจบ” ดราก้อนกล่าวพร้อมส่ายหัวปฏิเสธคำเชิญของธอร์
ถึงแม้ว่าสนามรบคลั่งสังหารจะไม่ได้อลังการเท่าสงครามไร้จุดจบ แต่ดราก้อนคิดว่าสนามรบคลั่งสังหารนั้นน่าตื่นเต้นกว่ามาก
ภายในสนามรบคลั่งสังหารนั้น, เขาสามารถตั้งค่าความแข็งแกร่ง หรือความสามารถของคู่ต่อสู้ของเขาได้ตามที่เขาต้องการ…..ดราก้อนชอบที่จะท้าทายคู่ต่อสู่ที่แข็งกว่าเขานิดหน่อย, เพราะถ้าเขาจัดการคู่ต่อสู้ที่เเข็งเเกร่งกว่าเขาได้เรื่อยๆ….ในที่สุดเขาก็จะสามารถข้ามขีดจำกัดของตัวเองได้
“คนนึงชอบสงครามไร้จุดจบ ส่วนอื่กคนชอบสนามรบคลั่งสังหารงั้นหรอ….พวกนายนี่ไม่ยอมหยุดพัฒนาตัวเองเลยจริงๆ”
“เเล้วเเบบนี้, ฉันจะปล่อยให้พวกนายนำหน้าฉันไปได้ไง”
“อย่างไรก็ตาม, แผนของฉันไม่เหมือนพวกนาย…..ฉันได้จองคลาสเรียนกับอาจารย์ภาพลวงตาชื่อดังอย่างมาสเตอร์หลานรัวไว้”
“คลาสเรียนนี้จะเริ่มในอีกครึ่งชั่วโมง …..เพราะงั้นฉันขอเข้าจักรวาลเสมือนเพื่อไปฟังก่อนแล้วกันนะ”
อาปาซากล่าว….ก่อนจะหันหลังเเล้วจากไป
เมื่อเห็นเช่นนี้, ดราก้อนกับธอร์ก็ได้แต่อมยิ้มเงียบๆ เเล้วกลับไปที่พักของตัวเอง
……
อีกด้านหนึ่ง
ในกลุ่มดาวหางที่ห่างไปจากดาวเบต้า ไปประมาณ 600 ล้านกิโลเมตร
ท่ามกลางความว่างเปล่า….จู่ๆก็มีการกระเพื่อมขึ้นก่อนที่มีจะร่างร่างนึงเดินออกมาจากความว่างเปล่า
“ที่นี่แหละ!”
ชูโจวนั่งลงขัดสมาธิท่ามกลางกลุ่มดางหางที่แผ่กว้างออกไปหลายสิบกิโลเมตร
“อัพเกรดสายเลือดจันทร์เดือนดับ!”
เขาทำการสั่งการเเผงคุณสมบัติทันที
ทันใดนั้นแผงคุณสมบัติของเขาก็กระพริบอย่างบ้าคลั่ง
พลังงานมหาศาลจากแผงคุณสมบัติได้ปรากฏเเละพุ่งเข้าสู่ร่างกายของชูโจวร่างกับคลื่นยักษ์
“อ้ากกก!”
ปีกแห่งดวงดาวสีเงินทั้งหกได้โผล่ออกมาจากหลังของชูโจวและแผ่ออกไปหลายร้อยกิโลเมตร
อักษรโบราณ และตัวอักษรลึกลับมากมายโผล่ขึ้นมาที่ปีกของชูโจวทีละข้าง
ร่องรอยออร่าจากยุคโบราณที่เต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่ประทุขึ้นราวกับพายุ
แม้ว่าชูโจวจะกำลังรอยอยู่กลางอวกาศ
แต่ในตอนนี้มันกลับมีภาพมายาของอวกาศในยุคโบราณโผล่ขึ้นมารอบๆ ตัวของเขา
แสงจากกลุ่มหลายพันล้านดวงส่องสว่างออกมาจากภาพมายาเหล่านั้น
บูมมมมม…
แสงจากกลุ่มดาวตัดผ่านความมืดมิดและมาหยุดลงที่ร่างของชูโจว
ร่างกายของชูโจวในตอนนี้เต็มไปแสงสว่างจากดวงดาวหลายพันล้านดวง
แคร่ก!
ทันใดนั้นเอง, ปีกสีเงินขนาดใหญ่อีกสองปีกก็งอกออกมาจากหลังของเขา
ปีกสีเงินขนาดใหญ่ทั้งแปดกระพือปีกอยู่ที่หลังของชูโจวจนก่อให้เกิดพายุท่ามกลางห้วงอวกาศ
ทำให้กลุ่มดาวหางบริเวณโดยรอบถูกถลายทิ้งจนเหลือเพียงแค่เศษฝุ่น
……
[คะเเนนคุณสมบัติ: 3.437 แสนล้าน]
[กฎเเห่งอวกาศ: 13.1% (ศาสตร์ลึกลับพื้นที่มิติระดับความสําเร็จเล็กน้อย, ศาสตร์ลึกลับตัดมิติระดับความสําเร็จอันยิ่งใหญ่, ศาสตร์ลึกลับโล่อวกาศระดับความสําเร็จอันยิ่งใหญ่)]
[สายเลือดจันทร์เดือนดับ: สถานะแปดปีก]
……
ข้อมูลแผงคุณสมบัติของเขาเปลี่ยนไปอีกครั้ง
ครั้งนี้คะเเนนคุณสมบัติที่เขาใช้ในการอัพเกรดสายเลือดจันทร์เดือนดับนั้นไม่เยอะมากเท่าไหร่…เพียงแค่หนึ่งหมื่นล้านคะแนนเท่านั้น
ความจริงแล้วนั้นชูโจวสามารถเลื่อนระดับ สายเลือดจันทร์เดือนดับได้ตั้งนานแล้ว…..แต่เพราะเขาต้องการที่จะเพิ่มความเข้าใจในปลูกฝังศาสตร์ลึกลับที่เขาได้มาให้ไวที่สุด เขาจึงเลือกที่จะยังไม่ใช้คะเเนนคุณสมบัติไปกับอย่างอื่นก่อน
ในครั้งนี้
การอัพเกรดสายเลือดจันทร์เดือนดับนอกจากจะทำให้ชูโจวเลื่อนเข้าสู่สถานะแปดปีกได้เเล้ว…..มันยังปลุกศาสตร์ลึกลับอีกสามอย่างนั่นคือ, การฉีกมิติ, การบิดเบือนมิต, และการพับมิติ
นอกจากนี้การอัพเกรดยังเพิ่มความเข้าของกฎเเห่งอวกาศของเขาขึ้นอีก 0.3% จาก 12.8% เป็น 13.1%.
หลังจากที่ชูโจวปลุกศาสตร์ลึกลับด้านมิติทั้งสามนี้….มันก็ทำให้ความเข้าใจของเขาในกฎเเห่งอวกาศลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปอีก
“การผสานศาสตร์ลึกลับต้องใช้คะเเนนคุณสมบัติเป็นจำนวนมหาศาล”
“แม้แต่การผสานศาสตร์ลึกลับระดับความสําเร็จเล็กน้อยสองชนิด ยังต้องใช้คะแนนคุณสมบัติมากกว่าหนึ่งล้านล้านคะแนน”
“คะเเนนคุณสมบัติของเรายังขาดอีกมาก”
“ถ้าเป็นแบบนั้น, คงต้องอัพเกรดศาสตร์ลึกลับใหม่ทั้งสามก่อนจะดีกว่า”
หลังจากที่ตัดสินได้เช่นนั้น…
ชูโจวก็เปิดแผงคุณสมบัติและทำการอัพเกรด, ศาสตร์ลึกลับฉีกมิติ, บิดเบือนมิต, และการพับมิติเป็นระดับความสำเร็จเล็กน้อย
ทันใดนั้นคลื่นพลังงานโบราณจำนวนมาก็เข้ามาปกคลุมรอบตัวชูโจว
มิติรอบๆกลุ่มดาวหางที่ชูโจวอยู่ค่อยๆบิดเบือนไปจนหมด
หลังจากที่เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ศาสตร์ลึกลับทั้งสามก็ได้ถูกอัพเกรด
[คะเเนนคุณสมบัติ: 1.37 แสนล้าน]
[กฎเเห่งอวกาศ: 21.8% (ศาสตร์ลึกลับพื้นที่มิติระดับความสําเร็จเล็กน้อย, ศาสตร์ลึกลับตัดมิติระดับความสําเร็จอันยิ่งใหญ่, ศาสตร์ลึกลับโล่อวกาศระดับความสําเร็จอันยิ่งใหญ่, ศาสตร์ลึกลับฉีกมิติระดับความสําเร็จเล็กน้อย, ศาสตร์ลึกลับบิดเบือนมิติระดับความสําเร็จเล็กน้อย, ศาสตร์ลึกลับพับมิติระดับความสําเร็จเล็กน้อย)]
ชูโจวใช้คะเเนนคุณสมบัติไป 3.30 แสนล้านคะแนนในการยกระดับศาสตร์ลึกลับทั้งสาม
แต่ยิ่งใช้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งได้ความเเข็งเเกร่งกลับมามากขึ้นเท่านั้น
เเละไม่ใช่เพิ่งแค่ศาสตร์ลึกลับใหม่ทั้งสามยกระดับมาถึงระดับความสําเร็จเล็กน้อยเท่านั้น
ที่สำคัญกว่านั้น, คือระดับความเข้าใจใจกฎเเห่งอวกาศของเขายังเพิ่มขึ้นถึงระดับ 21.8% อีกด้วย!
ในตอนนี้ชูโจวสามารถสัมผัสได้เลยว่าห้วงอวกาศอันไร้ที่สิ้นสุดเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของเขาเเล้ว….เขาสามารถใช้พลังมิติของอวกาศได้อย่างง่ายดาย
ตอนนี้….ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มมากกว่าเดิมถึงเท่าตัว
……
“ถึงแม้ว่าเรายังไม่สามารถผสานศาสตร์ลึกลับได้ก็เถอะ… แต่ระดับความเข้าใจของเรากับกฎเเห่งอวกาศได้ก้าวถึงขั้นที่สี่ของปรมาจารย์อาณาเขตเรียบร้อยแล้ว”
“รากฐานของเราตอนนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่านักรบเก้าดวงดาวที่ผสานสอง หรือสามศาสตร์ลึกลับในระดับความสําเร็จเล็กน้อย…..บางที, เราอาจจะแข็งแกร่งกว่าด้วยซ้ำ”
ชูโจวรู้สึกมั่นใจในพลังของตนขึ้นไม่น้อย
“หืม? ดูเหมือนจะมีกลุ่มโจรสลัดอวกาศห่าง 30,000 กิโลเมตรจากที่ตรงนี้…”
หัวใจของเขาหยุดเต้นไปชั่วครู่…..สัมผัสทางจิตวิญญาณผสามรวมกับห้วงอวกาศอันไร้ที่สิ้นสุดและรวมตัวกับเป็นเนตรไร้ที่สิ้นสุด
เพราะกฎเเห่งอวกาศที่ถูกยกระดับไปถึง 21.8% ทำให้ชูโจวเรียนรู้ทักษะต่างๆที่เกี่ยวข้องกับอวกาศและมิติได้
ทักษะ, เนตรไร้ที่สิ้นสุดก็เป็นหนึ่งในนั้น
ผ่านเนตรไร้ที่สิ้นสุด…..ชูโจวสามารถตรวจจับสิ่งที่อยู่ห่างออกไปมากๆได้อย่างง่ายดาย
ยิ่งไปกว่านั้นระยะการทำงานของทักษะนี้คือ 10 เท่าของสัมผัสทางจิตวิญญาณที่เขามี
และเมื่อมองผ่านทักษะเนตรไร้ที่สิ้นสุด…..ชูโจวจึงได้เห็นฉากที่ทำให้เขาอดแปลกใจไม่ได้
ตอนแรกเขาคิดว่าเขาพบเข้ากับกลุ่มโจรสลัดอวกาศที่กำลังออกปล้น
แต่ความจริงกลับเป็นกลุ่มโจรสลัดอวกาศ สองกลุ่มที่กำลังต่อสู้กัน
โจรสลัดอวกาศแต่ละฝั่งมีสมาชิกมากกว่า 300 คน จำนวนสมาชิกของกลุ่มโจรสลัดอวกาศพวกนนี้มีมากกว่ากลุ่มของอู่เมิงที่ ชูโจวเพิ่งทำลายไปก่อนหน้านี้
แต่สำหรับกลุ่มโจรสลัดอวกาศ, ความแข็งแกร่งไม่วัดที่จำนวนคน….แต่เป็นคุณภาพของสมาชิก
ถึงแม้ว่ากลุ่มโจรสลัดอวกาศสองกลุ่มนี้จะมีจำนวนมากกว่า แต่ความแข็งแกร่งนั้นอ่อนกว่ากลุ่มของอู่เมิงอย่างมาก
หัวหน้าของกลุ่มโจรสลัดอวกาศทั้งสองนั้นเป็นนักรบระดับแปดดวงดาว และมีสมาชิกอีก 30 ถึง 40 คนที่ก้าวเข้าสู่ขั้นนักรบขั้นดวงดาว…..แถมทั้งหมดอยู่ที่นักรบหนึ่งดวงดาวเท่านั้น
ส่วนพวกที่เหลือนั้นอยู่ที่ระดับความว่างเปล่า
เห็นได้ชัดความแข็งแกร่งของกลุ่มโจรสลัดอวกาศทั้งสองกลุ่มนั้นอยู่แค่ระดับทั่วไปเท่านั้น
เเต่ถึงเป็นเช่นนั้น…ชูโจวก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก
“ถึงแม้ว่าพวกนี้จะอ่อนแอไปหน่อย แต่ต่อให้เนื้อน้อย ยังไงก็ยังเป็นเนื้อ…”
ชูโจวพึมพำกับตัวเองและเตรียมตัวที่จะเข้าโจมตีกลุ่มโจรสลัดอวกาศทั้งสองกลุ่ม
ตอนนี้เขาต้องการคะเเนนคุณสมบัติจำนวนมหาศาล
ในเมื่อกลุ่มโจรสลัดอวกาศสองกลุ่มนี้นำคะแนนคุณสมบัติมามอบให้ถึงที่
มีหรือที่ชูโจวจะปฏิเสธได้ลง?
เเต่ในขณะที่ชูโจวกำลังจะโจมตีนั้นเอง ยานอวกาศรูปร่างเหมือนมังกรสีทองก็ปรากฏตัวขึ้นมา
เเละกลุ่มโจรสลัดอวกาศที่กำลังสู้กันอยู่นั้น…..ก็บังเอิญขวางทางผ่านของยานอวกาศรูปร่างมังกรสีทองพอดี
“เอ๋……ไม่คิดเลยว่าจะมีสมบัติมาส่งถึงมือเราแบบนี้?”
เมื่อกลุ่มโจรสลัดอวกาศทั้งสองเห็นยานอวกาศรูปร่างมังกรสีทอง…..ทั้งสองฝ่ายต่างเรียกที่จะหยุดสู้และพุ่งเข้าไปล้อมยานอวกาศรูปร่างมังกรสีทองทันที
กลุ่มโจรสลัดอวกาศเป็นพวกที่วิ่งตามผลประโยชน์
พวกมันพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อเงิน
และนั้นก็หมายถึงการหยุดสู้กันเองด้วยเช่นกัน
ในตอนนี้, เมื่อมีขุมสมบัติลอยมาอยู่ข้างหน้า…….ทั้งสองฝ่ายจึงเลือกที่จะหยุดสู้และหันเป้าหมายมาที่เหยื่อคนใหม่เเทน
แต่ยังไม่ทันไร
มันก็มีชายในชุดเกราะสีดำพุ่งออกมาจากยานอวกาศรูปร่างมังกรสีทอง
หลังจากนั้น, เขาก็เหลือบตาไปมองกลุ่มโจรสลัดอวกาศด้วยสายตาเย็นชา ก่อนที่จะตะโกนออกมาว่า
“ออกไปให้พ้น!”
ทันทีที่หัวหน้ากลุ่มโจรสลัดอวกาศทั้งสองเห็นสัญญาลักษณ์ที่อกของชายในชุดเกราะ, สีหน้าของทั้งสองฝ่ายก็ซีดลงราวกับเห็นผี
เพราะที่อกของชายชุดเกราะมีเข็มกลัดสีเลือดพร้อมกับดาวห้าแฉกสีฟ้าติดไว้อยู่
“นะ-นั่นมัน… สัญญาลักษณ์ของนักท่องอวกาศขั้นหนึ่งดาว” หัวหน้ากลุ่มโจรสลัดอวกาศกล่าวขึ้นด้วยเสียงสั่น
“หนี……หนีเร็วเข้า!”
หลังจากพูดจบร่างของหัวหน้ากลุ่มโจรสลัดอวกาศก็ได้เปลี่ยนเป็นเงาละพุ่งหนีไปสู่ห้วงลึกของอวกาศทันที
เเละเมื่อสมาชิกกลุ่มโจรสลัดอวกาศที่เหลือเห็นเข็มกลัดสีเลือดของชายชุดเกราะสีดำ….ต่างก็ทำเเบบเดียวกับหัวหน้าของตน
พวกมันรีบเเยกย้ายหนีกันไปคนละทางทันที
…….
หลังจากที่ชายชุดเกราะสีดำเห็นกลุ่มโจรสลัดอวกาศเผ่นหนีไปเเล้ว
เขาก็เลิกสนใจพวกนั้นและบินกลับเข้าไปยังยานอวกาศรูปร่างมังกรสีทอง…..ก่อนจะมุ่งหน้าต่อไป
เพียงแต่…
ก่อนที่จะเข้าไปในยานนั้น เขาก็หันมามองทางชูโจวด้วยสีหน้าเฉยเมิน
ชูโจวที่สบตากับชายชุดเกราะดำผ่านเนตรไร้ที่สิ้นสุดนั้น
ถึงแม้ว่าจะมีระยะทางห่างกันมากกว่า 300,000 กิโลเมตร, เขาก็อดไม่ได้ที่จะยืนแข็งราวกับถูกหยุดเวลาไว้
“เป็นคนที่หน้ากลัวอะไรแบบนี้… หากเราต้องสู้กับเขา, ผลลัพธ์คงมีเพียงแค่ความตายเท่านั้น” ชูโจวได้แต่พึมพำในใจด้วยความกลัว
และเมื่อนึกถึงสิ่งที่หัวหน้ากลุ่มโจรสลัดอวกาศพูดตอนที่เขาเห็นชายชุดเกราะสีดำ
“นักท่องอวกาศขั้นหนึ่งดาว… ชายคนนั้นเป็นนักท่องอวกาศขั้นหนึ่งดาวงั้นหรอ? ไม่แปลกเลยที่หมอนั่นจะน่ากลัวแบบนี้”
ชูโจวพึมพำกับตัวเองในขณะที่พยายามนึกถึงข้อมูลของนักท่องอวกาศ
นักท่องอวกาศนั้นเป็นฉายาที่จะมอบให้แก่นักสู้ที่แข็งแกร่งภายใต้สมาพันธ์นักท่องอวกาศ
นักสู้ทุกคนที่ผ่านการทดสอบจากสมาพันธ์นักท่องอวกาศ จะได้รับเข็มกลัดซึ่งเป็นสัญญาลักษณ์ที่บ่งบอกถึงสถานะของนักท่องอวกาศ
มีตั้งแต่ขั้นหนึ่งดาว….ถึงขั้นเจ็ดดาว
ยิ่งจำนวนดาวสูงขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของเจ้าของเท่านั้น
เพียงแต่…
ถึงแม้ว่าชายชุดเกราะจะเป็นแค่ขั้นหนึ่งดาว….และดูอ่อนแอเมื่อเทียบกับคนที่อยู่ขั้นเจ็ดดาว
แต่ความจริงแล้ว, เขานั้นเป็นถึงนักรบระดับปรมาจารย์อาณาเขต
การผ่านการทดสอบจากสมาพันธ์นักท่องอวกาศนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
นักสู้ระดับความว่างเปล่า และระดับดวงดาวนั้นไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งการสมัครเข้าทดสอบกับสมาพันธ์นักท่องอวกาศด้วยซ้ำ
เพิ่งแค่นักสู้ที่ก้าวเข้าสู่ปรมาจารย์อาณาเขตเท่านั้นที่จะมีสิทธ์ในการเข้าร่วมการทดสอบ
เเละเมื่อผ่านการทดสอบระดับหนึ่งดาวจากสมาพันธ์นักท่องอวกาศ ก็จะได้รับเข็มกลัดหนึ่งดาว
และเมื่อผ่านการทดสอบระดับเจ็ดดาวจากสมาพันธ์นักท่องอวกาศ ก็จะได้รับเข็มกลัดเจ็ดดาว
แต่การทดสอบของสมาพันธ์นักท่องอวกาศนั้นอันตรายอย่างมาก ว่ากันว่าจากคนที่เข้าร่วมการทดสอบมีเพียงแค่ 5% เท่านั้นที่สามารถรอดออกมาได้
เพราะงั้นนักท่องอวกาศทุกคนที่ได้รับเข็มกลัดถือว่าเป็นนักรบระดับสูงของเผ่าพันธ์
เข็มกลัดของนักท่องอวกาศนั่นไม่ได้แสดงถึงเกรียติยศ แต่เป็นสิ่งที่แสดงถึงพลังของเจ้าของ
เพราะอย่างงั้นเมื่อกลุ่มโจรสลัดอวกาศรู้ว่าชายชุดเกราะดำเป็นนักท่องอวกาศ…..พวกนั้นเลยเลือกที่จะหนีโดยไม่คิดอะไรอีก
“น่าเสียดายที่นักท่องอวกาศนั้นสามารถทดสอบได้ก็ต่อเมื่อเราก้าวเข้าสู่ระดับปรมาจารย์อาณาเขตเท่านั้น… ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เราจะเข้าทดสอบได้!”
ชูโจวถอนหายใจ, แต่เขาไม่ได้หยุดใช้งานเนตรไร้ที่สิ้นสุด
ในทางกลับกันเขาเร่งใช้เนตรไร้ที่สิ้นสุดเพื่อหาร่องรอยของกลุ่มโจรสลัดอวกาศก่อนหน้านี้
และในเวลาเดียวกันมีคำถามนึงที่เข้าไม่สามารถหาคำตอบได้
นั่นคือทำไมถึงมีนักท่องอวกาศถึงมาแถวดวงดาวรอบนอกอย่างดวงดาวเบต้ากัน?
ต้องรู้ก่อนว่า, ต่อให้เป็นนักท่องอวกาศที่อ่อนแอที่สุด…..แต่นั่นก็ยังเป็นระดับปรมาจารย์อาณาเขต แถมยังเป็นปรมาจารย์อาณาเขตที่อยู่บนจุดสูงสุดอีกด้วย
ปกติคนระดับนี้มักจะอยู่ในกลุ่มดาวที่นักสู้ระดับสูงมารวมตัวกัน
ดังนั้น, การที่นักรบระดับสูงโผล่ออกมาในที่แบบนี้นั่นเป็นเรื่องแปลกมาก ๆ
ทันใดนั้น, ชูโจวก็หยุดคิดเรื่องนักท่องอวกาศลง
เพราะตอนนี้เขาพวกร่องรอยของกลุ่มโจรสลัดอวกาศทั้งสองกลุ่มผ่านเนตรไร้ที่สิ้นสุดเเล้ว
จากนั้น, เขาก็ใช้ศาสตร์ลึกลับตัดมิติเพื่อมุ่งหน้าไปหาโจรสลัดพวกนั้นทันที
ไม่กี่นาทีต่อมา….กลุ่มโจรสลัดอวกาศทั้งสองก็ถูกชูโจวจัดการลงอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้กลุ่มโจรสลัดอวกาศทั้งสองจะไม่ได้แข็งแกร่งมากนั่งแต่ว่าทั้งสองกลุ่มก็มีสมาชิกเป็นจำนวนมาก
ดังนั้นพวกเขาจึงช่วย “สนับสนุน” ชูโจว…..เเละมอบคะเเนนคุณสมบัติให้ถึง 1.10 แสนล้านคะแนน
นี่เป็นตัวอย่างของการเสียสละตัวเองเพื่อผู้อื่นอย่างแท้จริง
“ใช่แล้ว….เพราะจักรวลานี้เต็มไปด้วยคนที่พร้อมที่จะ ‘เสียสละตัวเองเพื่อผู้อื่น’.......เเละฉันก็ชอบที่จะเป็นเพื่อนกับคนพวกนี้มากที่สุด”
ชูโจวรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่งหลังจากที่เขาเห็นคะเเนนคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นมา……หลังจากนั้นเขาจึงทำการหา ‘เพื่อน’ รอบๆดาวเบต้าและทั่วทั้งอวกาศเพิ่มอีก
……………..