บทที่ 58 : อัศวินดาบศักดิ์สิทธิ์ดีโวส, ให้จอมเวทย์ผู้สูงศักดิ์เผาซีเมนต์เหรอ?
บทที่ 58 : อัศวินดาบศักดิ์สิทธิ์ดีโวส, ให้จอมเวทย์ผู้สูงศักดิ์เผาซีเมนต์เหรอ?
เรย์มอนด์เปิดปากของเขาเเต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เพราะตอนนี้นสมองของเขากำลังสับสนอย่างบ้าคลั่ง
สุดท้าย…..เขาก็อดไม่ได้่ที่จะถามซ้ำแล้วซ้ำอีก
“จอมเวทย์เลเลีย… เจ้าแน่ใจเเล้วหรือ?”
"แน่นอน!" เลเลียพยักหน้าโดยไม่มีความลังเล
“นี่คือการเเสดงความจริงใจของเรา….และเรายินดีที่จะเป็นพันธมิตรกับท่านในระยะยาวด้วย”
“เพื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างเราจะไม่ถูกทำลายเพราะความเข้าใจผิดครั้งก่อน…..ต่อไป ข้าจึงยินดีที่จะอยู่และปฏิบัติตามคำสั่งของท่านจนกว่าหนี้ระหว่างเราจะหมดลง!”
เรย์มอนด์เงียบไปครู่หนึ่ง….แล้วเขาก็ถามอีกครั้ง!
"มีอะไรที่เจ้าสามารถทำได้บ้าง?"
"เราทำได้ทุกอย่าง!" เลเลียตอบโดยไม่ลังเลและพูดต่ออย่างมั่นใจ
"บารอนเรย์มอนด์, เรามาที่นี่ด้วยมุ่งมั่น….เมืองเเฮนเซนของเราหวังว่าจะได้เป็นพันธมิตรกับเจ้าจริงๆ ดังนั้นท่านสามารถใช้งานเราได้ทุกอย่าง"
"เอาล่ะ....ข้าเข้าใจเเล้ว"
เรย์มอนด์พยักหน้าและพูดอะไรบางอย่างที่น่าตกตะลึงออกมา
“ถ้าอย่างนั้นพวกเจ้าก็ไปช่วยเผาซีเมนต์เเล้วกัน!”
“เผา….เผาซีเมนต์?” เลเลียถึงกับสตั้นไปครู่หนึ่ง
และไม่ใช่แค่เธอเท่านั้น….คนอื่นๆก็ตกตะลึงและมองเรย์มอนด์ด้วยความประหลาดใจ ราวกับว่าพวกเขาไม่ค่อยเข้าใจว่าคำพูดของเรย์มอนด์หมายถึงอะไร
“เจ้าน่าจะเห็นมันเมื่อตอนเข้ามาในเมืองเเล้วใช่ไหม?”
“หินที่นี่แตกต่างจากที่อื่น…เเละสิ่งนี้เรียกว่าซีเมนต์”
“ไม่ว่าจะในแง่ของความแข็งแกร่ง ความสามารถในการปรับตัว, และประสิทธิภาพในด้านอื่นๆ…..มันก็เหนือกว่าหินธรรมดาอย่างมาก!”
“แต่อย่างไรก็ตาม, วิธีการสร้างซีเมนต์ค่อนข้างลำบาก!”
“มันต้องใช้กระบวนการเผา อบ และสลายตัว…..และทุกกระบวนการต้องใช้ความสม่ำเสมอและความแม่นยำ ของเปลวไฟสูงมาก”
“ดังนั้น, งานนี้จึงเหมาะมาก….สำหรับจอมเวทย์ธาตุไฟเเบบพวกเจ้า!”
“ถ้าอยากอยู่ที่นี่…..ก็เผาซีเมนต์ให้ข้า!” เรย์มอนด์พูดอย่างใจเย็น
อย่างไรก็ตาม คำพูดของเขาทำให้เลเลียและคนอื่นๆ มีสีหน้าดูไม่ดีเลย
เพราะความหมายที่แท้จริงของประโยคนี้…..คือการขอให้พวกเขาไปทำงานเป็นคนงานไม่ใช่หรือ?
พวกเขาคือจอมเวทย์ผู้สูงศักดิ์นะ!
สิ่งนี้หมายความว่า…อีกฝ่ายกำลังทำให้พวกเขาได้รับความอับอายใช่ไหม?
การแสดงออกของเลเลียเปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า
เเละในที่สุดเธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะถาม
“บารอนเรย์มอนด์….ข้าไม่ขัดข้องกับความประสงค์ของท่าน, แต่เราจำเป็นต้องทำสิ่งเล็กๆน้อยๆอย่างนี้จริงๆเหรอ?”
“จอมเวทย์เลเลีย….ข้าเข้าใจเจ้านะ แต่ในเมืองของข้า, ความคิดเเบบนั้นเป็นสิ่งผิด” เรย์มอนด์ส่ายหัวแล้วพูดต่ออย่างใจเย็น
“ข้ารู้ว่าพวกเจ้าทุกคนเป็นจอมเวทย์ผู้สูงศักดิ์และเป็นขุนนาง…..แต่สำหรับที่นี่ ตำเเหน่งของพวกเจ้าไม่มีความหมายใดๆเลย”
“ถ้าพวกเจ้าอยากอยู่ที่นี่ก็ต้องทำงานอะไรสักอย่าง…..ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่มีประโยชน์ที่พวกเจ้าจะอยู่ที่นี่ใช่ไหม?”
“นอกจากนี้ ข้าคิดว่าความคิดของเจ้าก็ควรเปลี่ยนได้เเล้ว”
“มันไม่มีความแตกต่างระหว่างงานเเต่ละอย่าง….เเค่ทำอะไรให้มีความหมายเเละไม่ใช่เรื่องน่าละอายก็พอแล้ว”
“อย่างน้อย…..ข้าก็อยากให้เมืองของข้าเป็นแบบนั้น”
หลังจากที่พูดจบ
เรย์มอนด์ก็เก็บแกนเวทย์มนตร์ระดับเจ็ด เเล้วออกไปโดยตรง
ก่อนออกไป, เขาก็หันหน้ากลับมาเเล้วพูดกับจูกูเลียน!
“ขอแสดงความยินดี เจ้าเป็นอิสระแล้ว….ตอนนี้เจ้าสามารถติดตามพวกเขาและออกไปจากที่นี่ได้!”
แล้วเขาก็เดินจากไปทันที...
ณ ขณะนี้
เรย์มอนด์ได้รับแกนเวทย์มนตร์ระดับเจ็ดมาอยู่ในมือเเล้ว
ดังนั้น, เขาจึงขี้เกียจเกินกว่าจะพูดเรื่องไร้สาระกับคนพวกนี้!
คงจะดีไม่น้อยหากการอัญเชิญยูนิตใหม่ของเขา - อัศวินดาบศักดิ์สิทธิ์จะไม่มีปัญหาอะไร
อย่างไรก็ตาม, มันเป็นประสิทธิภาพการต่อสู้ระดับเจ็ด….หรือก็คือประสิทธิภาพการต่อสู้ระดับใหม่ที่เขายังไม่เคยมีมาก่อน!
สิ่งนี้….ดึงดูดใจเขามากกว่าการพูดคุยกับคนเหล่านี้มากๆ
………
“ท่านเลเลีย เขาทำเกินไปจริงๆ…..เขาตั้งใจทำให้เราอับอายเช่นนี้ได้อย่างไร”
“ข้า….ข้ารับเรื่องเเบบนี้ไม่ได้!”
หลังจากที่เรย์มอนด์จากไป….จอมเวทย์หนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา
ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงและเขาโกรธมากๆ
การให้พวกเขาทำงานต่ำต้อยเช่นคนงานเเบบนี้คืออะไร….ถ้าไม่ใช่การกระทำที่ต้องการให้พวกเขาอับอาย!
เลเลียพยายามเปิดปากของเธอ
แต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเพื่อปลอบใจคนอื่นๆ
เธอรู้สึกว่าอีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่ได้หมายความเช่นนี้….แต่ความเป็นจริงตรงหน้าบอกเธอว่าอีกฝ่ายกำลังจงใจทำให้พวกเธอขายหน้าจริงๆ!
ต้องรู้ก่อนว่าทุกคนที่นี่เป็นจอมเวทย์ผู้สูงศักดิ์….เเล้วจะให้พวกเขาทำงานของคนชั้นเเรงงานเช่นนี้ได้อย่างไร!
แต่ ณ เวลานี้
พวกเขาก็ได้ยินเสียงของจูกูเลียนดังมาจากด้านข้าง
“เลเลีย, ทุกคน....บางทีพวกเจ้าน่าจะเข้าใจเขาผิดนะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้, ทุกคนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง….จากนั้นพวกเขาก็มองดูจูกูเลียนด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“ลุงจูกูเลียน....ลุงหมายความว่าอย่างไร?” เลเลียเอ่ยอย่างสับสน
เธอไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมจูเลียนถึงอยากพูดแทนคนที่จับตัวเขามาขังไว้
“ข้าเข้าใจสิ่งที่เจ้าคิด เลเลีย….แต่เด็กคนนี้เป็นคนที่แปลกและมีมนต์ขลังมาก”
“ดังนั้น….บางทีเเนวคิดของเขาอาจจะแตกต่างจากเเนวคิดปกติของพวกเรา” จูกูเลียนอธิบายอย่างสงบ
เมื่อได้ยินเช่นนี้, เลเลียและคนอื่นๆตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง….จากนั้นก็เงียบไป
เพราะจู่ๆพวกเขาก็นึกถึงตอนที่พึ่งได้เข้ามาในหมู่บ้านนี้
สิ่งต่างๆในดินเเดนนี้ล้วนแปลกประหลาดและมหัศจรรย์
เเนวคิดของเขา….อาจจะไม่เหมือนกับพวกเรา
"อัศวินแมตต์-เยอร์มัน ข้าขอสอบถามได้ใหม….ว่าตอนนี้ใครเป็นผู้รับผิดชอบงานผลิตปูนซีเมนต์ของเจ้า"
ทันใดนั้น ฟอกเกอร์ก็หันไปทางเเมตต์-เยอร์มันแล้วถามทันที
แมตต์-เยอร์มันยกยิ้มแล้วตอบอย่างไม่ลังเล
“พวกเขาล้วนเป็นจอมเวทย์ธาตุไฟเหมือนพวกเจ้านี่เเหละ….เเต่แน่นอนว่ายังต้องมีคนธรรมดาที่คอยเป็นผู้ช่วยอยู่ด้วย!”
ทันทีที่ข้อความนี้ออกมา….ทั้งสถานที่นี่ก็เงียบกริบทันที
"บ้ากันไปหมดเเล้วหรอ??!"
จอมเวทย์หนุ่มพึมพำด้วยความไม่อยากจะเชื่ออีกครั้ง
“พวกเจ้า….พวกเจ้าใช้จอมเวทย์ผู้สูงศักดิ์ไปทำงานเเบบนั้นจริงๆหรือ พวกเจ้าบ้าไปแล้วเหรอ!”
“มันก็แค่งาน...”
“ไม่มีความแตกต่างระหว่างงานสูงและต่ำ!”
“อย่างน้อยนั่นก็คือวิธีการทำงานของที่นี่!”
แมตต์-เยอร์มันยกยิ้มเเละไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านี้อีกเเล้ว
“เอาล่ะ.....พวกเจ้าทุกคนต้องการออกไปจากหมู่บ้านนี้ไหม?”
“หากต้องการ ข้าจะพาพวกเจ้าออกไปเอง”
เมื่อได้ยินคำถามเเบบนี้….เลเลียก็เงียบไปครู่หนึ่ง
แล้วจู่ๆ เธอก็พูดขึ้นมา!
“ท่านช่วยพาเราไปที่โรงงานผลิตปูนซีเมนต์หน่อยได้ไหม”
“ท่านหญิงเลเลีย….ท่านจะทำงานนี้จริงๆหรือ?” การแสดงออกของจอมเวทย์หนุ่มเปลี่ยนไปอีกครั้ง
“ถ้าอยากกลับ เจ้าก็กลับได้เลย….ไม่เป็นไรบ๊อบบิตต์” เลเลียพูดอย่างสงบ
ใบหน้าของจอมเวทย์หนุ่มที่รู้จักกันในชื่อบ๊อบบิตต์เปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า….เเต่สุดท้ายเขาก็ทำได้เพียงรู้สึกหมดหนทาง, ก้มหน้าลงและเงียบไป
"ท่านแมตต์-เยอร์มัน ท่านช่วยพาเราไปที่โรงงานผลิตปูนซีเมนต์ของท่านได้ไหม?" เลเลียบอกความต้องการอีกครั้ง
ด้านเเมตต์-เยอร์มันก็ไม่ได้ปฏิเสธเช่นกัน
“พวกเจ้าทั้งหมด….เชิญตามข้ามาได้เลย”
……..
อีกด้านหนึ่งในเวลาเดียวกัน
ในที่สุด เรย์มอนด์ก็กำลังจะได้รับยูนิตตนใหม่และสิ่งนี้ทำให้เขาตื่นเต้นอย่างมาก!
“ติ๊ง!”
“ตรวจพบทรัพยากรการอัญเชิญ โฮสต์ต้องการอัญเชิญยูนิตระดับเจ็ด - [อัศวินดาบศักดิ์สิทธิ์หรือไม่] หรือไม่!”
หลังจากได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบอันไพเราะนี้
เรย์มอนด์ก็รู้สึกมีความสุขอย่างมาก….ในที่สุดอัศวินดาบศักดิ์สิทธิ์ก็กำลังจะมาอยู่ในมือเขาแล้ว!
"อัญเชิญ!"
“ติ๊ง!”
“ติ๊ง! โฮสต์เรย์มอนด์อัญเชิญยูนิตระดับเจ็ด - [อัศวินดาบศักดิ์สิทธิ์] สำเร็จ!!”
“โฮสต์ได้รับการฝึกฝนจิตวิญญาณการต่อสู้เป็นเวลาหนึ่งร้อยห้าสิบปี…….จิตวิญญาณการต่อสู้พลังปราณแสงศักดิ์สิทธิ์ได้รับการเสริมสร้างและพัฒนาเป็นจิตวิญญาณการต่อสู้ [การพิพากษาแสงศักดิ์สิทธิ์!]”
“โฮสต์ได้รับ 'ทักษะต้นกำเนิด….[เเสงศักดิ์สิทธิ์อวยพร]”
ครืนนนนน!!!!
ในขณะนี้
พลังในร่างกายของเรย์มอนด์ก็ค่อยๆเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ!
ทันใดนั้น….ร่างกายของเรย์มอนด์ก็เริ่มเปล่งประกาย, เเละกลายเป็นลูกบอลแสงศักดิ์สิทธ์
ภายใต้พลังของระบบ….จิตวิญญาณการต่อสู้ในร่างกายของเรย์มอนด์ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างรวดเร็ว!
ในที่สุด, มันก็พัฒนาไปสู่ระดับที่สูงขึ้นและกลายเป็น - จิตวิญญาณการต่อสู้, การพิพากษาแสงศักดิ์สิทธิ์!
ในเวลาเดียวกัน ความแข็งแกร่งร่างกายของเขาก็เริ่มพัฒนา…..และในที่สุด, มันก็ทะลวงไปสู่อัศวินดวงดาวระดับเจ็ด!
ความพยายามครั้งนี้ ทำให้ความแข็งแกร่งของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
อย่างน้อยมันก็แข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่าตัว!
……..
"ยอดเยี่ยมมาก!"
"ในที่สุดเราก็มาถึงระดับเจ็ด" เรย์มอนด์พึมพำอย่างมีความสุข
เขามีความตื่นเต้นเล็กน้อย และดูเหมือนจะมีความโล่งใจไปพร้อมๆกัน
เพราะคราวนี้ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขาได้มาถึงระดับเจ็ดเเล้ว
และด้วยวิธีนี้ ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา….มันก็ทำให้เขามีรากฐานที่เพียงพออย่างแน่นอน!
แม้ว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญระดับแปดในนครรัฐเลนที่ทรงพลังมากกว่าเขา…..แต่จำนวนของพวกนั้นก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น!
กล่าวอีกนัยหนึ่ง….ยกเว้นคนไม่กี่คนเหล่านั้น
ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา…..เขาไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวใครอีกต่อไป
ต้องบอกว่า….เลเลียและคนอื่นๆเป็นเหมือนพรอันยิ่งใหญ่ของเขาจริงๆ
แม้ว่าสิ่งที่พวกเขานำมาในครั้งนี้, มันจะเป็นเพียงแกนเวทย์มนตร์ระดับเจ็ด
แต่มูลค่าของแกนเวทย์มนตร์ระดับเจ็ดนี้ประเมินค่าไม่ได้สำหรับเขา
มันได้เพิ่มแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขาให้ไปสู่ระดับใหม่อย่างสมบูรณ์
เรย์มอนด์ยิ้มแย้มเเละหัวเราะอยู่ในใจ
จากนั้น, เขาก็มองไปยังร่างที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา
ซึ่งร่างนี้เต็มไปด้วยแรงกดดันอันสง่างามและเปล่งประกายของนักดาบ
นี่คือนักดาบที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์เเละมีความสูงเกินสองเมตร
เขามีผมสีทองยาวและพลิ้วไหวไปตามสายลม, ร่างทั้งร่างของเขาราวกับถูกปกคลุมไปด้วยพลังแสงศักดิ์สิทธิ์….ซึ่งมันทำให้เขาน่าเลื่อมใสเป็นพิเศษ
ใบหน้าของเขาเย็นชาและสุขุม, เขาสวมชุดเกราะขนาดใหญ่ซึ่งปกคลุมไปด้วยพลังเเสงศักดิ์สิทธิ์
นอกจากนี้ เขายังถือดาบยาวขนาดยักษ์ซึ่งสะดุดตาเป็นพิเศษ
ดาบเล่มนี้ส่องแสงเจิดจ้า และอัดเเน่นไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
ซึ่งเรย์มอนด์ก็จำจิตวิญญาณการต่อสู้นี้ได้ในทันที
มันคือจิตวิญญาณการต่อสู้…การพิพากษาเเสงศักดิ์สิทธิ์!
นั่นเป็นพลังจิตวิญญาณการต่อสู้ที่เขาพึ่งได้รับมาครอบครองก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน
"บูม!"
ณ เวลานี้
ร่างที่พึ่งปรากฏขึ้นก็คุกเข่าลงตรงหน้าเรย์มอนด์เสียงดัง!
ในเวลาเดียวกัน ใบหน้าและน้ำเสียงของเขาก็เคร่งขรึมเป็นอย่างยิ่ง!
"อัศวินดาบศักดิ์สิทธิ์, ดีโวส….ยินดีรับใช้ท่านลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่”
“ขอพลังแสงศักดิ์สิทธ์คงอยู่กับท่านตลอดไป!”
“ลุกขึ้น….ดีโวส!”
"ข้ายินดีต้อนรับเจ้า เข้าร่วมกองทัพศักดิ์สิทธ์ของข้า" เรย์มอนด์เอื้อมมือออกไปดึงดีโวสขึ้นมา
จากนั้น, เขาก็พูดด้วยรอยยิ้ม
“สถานที่ด้านนอกเป็นอาณาเขตของข้าทั้งหมด…..เจ้าสามารถเคลื่อนไหวรอบๆนี้ได้อย่างอิสระ”
“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น…..ข้าจะเรียกเจ้าเอง”
"รับคำสั่งท่านลอร์ด!"
"ข้าจะเตรียมพร้อมเสมอ, เพื่อรอคำเรียกขานของท่านลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่”
"ไปเถอะ"
ดีโวสพยักหน้าแล้วหันหลังออกไปจากที่นี่
……..
หลังจากนั้น
เรย์มอนด์ก็เริ่มคำนวณในใจของเขา
ถึงตอนนี้, ความแข็งแกร่งทางทหารในปัจจุบันของเขาก็ควรจะเป็น
อัศวินดาบศักดิ์สิทธิ์ x1, รอยัลกริฟฟอน x3, กริฟฟอน x11, นักธนูแห่งวิหารศักดิ์สิทธิ์ x13, นักธนูเทมพลาร์ x42, อัศวินเเห่งวิหารศักดิ์สิทธิ์ x123, อัศวินเทมพลาร์ x194
"เอาล่ะ……ตอนนี้ข้าไม่น่าจะขาดพลังการต่อสู้ระดับสูงแล้ว แต่พลังการต่อสู้ระดับธรรมดาดูเหมือนจะขาดไปเล็กน้อย"
เรย์มอนด์คิดอยู่ครู่หนึ่ง
จากนั้นความคิดและแผนบางอย่างก็ปรากฏขึ้นมาในจิตใจของเขา
"นั่นสินะ"
“ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้วจริงๆ”
“เมื่อขนาดของเมืองใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ…..ช่องว่างของจำนวนทหารที่อยู่ด้านล่างก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
“เเละมันจะเป็นการดีที่สุด….ที่จะแก้ไขปัญหานี้โดยเร็ว”
“คงถึงเวลาที่เรา…..ควรจะเริ่มรับสมัครทหารจากพลเมืองได้เเล้ว”
………………………………….