ตอนที่ 50 ไพ่ตายของซูเฉิน

ใบหน้าของรองหน่วยป้องกันเมืองก็ซีดลงทันที เขานั้นมักจะสงสัยมาโดยตลอดว่าทำไมฐานทัพทหารถึงมาโจมตีเมืองฐานทัพในตอนนี้ ตอนแรก เขานั้นคิดว่าพวกฐานทัพทหารนั้นแค่อยากจะทดสอบพวกเขา แต่การโจมตีอันดุเดือดนี้กลับแสดงให้เห็นเลยว่าไม่ใช่

อย่างไรก็ตาม เขานั้นพึ่งจะเห็นคน 6 คนจากทีมคนเหนือมนุษย์เดินออกจากกลุ่มและมุ่งหน้าไปด้านหลังของทหารศัตรูอย่างง่ายดาย และดูเหมือนว่าทหารศัตรูจะไม่สนใจด้วย นี่มันทำให้รองหน่วยป้องกันเมืองคิดอะไรขึ้นมาได้

เป้าหมายของศัตรูนั้นคือการช่วย 6 คนนี้ และการโจมตีกำแพงเมืองนั้นก็แค่แผนล่อเป้า!

ด้วยความเป็นไปได้นี้ รองหัวหน้าหน่วยป้องกันเมืองจึงหยิบโทรศัพท์ออกมารายงานสถานการณ์ แต่จากนั้นแล้ว ก็มีคนหนึ่งคว้ามือถือของเขาไป และทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเจ็บปวดที่หน้าอก ก่อนที่เขาจะตายลง เขาก็พบว่าคนที่ฆ่าเขานั้นคือคนที่เขาชื่อใจมากที่สุด

“ทำไมกัน…?”ในฐานะคนเหนือมนุษย์ เขานั้นไม่ได้ตายในทันทีแต่จะค่อยๆตายลง

“ไม่มีอะไรมากหรอก นายก็แค่โชคร้ายเอง”คนๆนั้นก็ยิ้มออกมาแล้วใช้มีดแทงใส่เขาอีกครั้ง และในครั้งน้รองหัวหน้าหน่วยป้องกันเมืองก็ได้ตายลงอย่างจริงๆ

เพราะทั้งสองนั้นอยู่ในสถานที่ค่อนข้างปิดมิดชิต และทุกคนก็กำลังจดจ่ออยู่กับสงครามข้างล่าง จึงไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีคนลอบโจมตีรองหัวหน้าหน่วยป้องกันเมืองที่อยู่บนกำแพง

นักฆ่านั้นก็นำร่างของรองหัวหน้าหน่วยป้องกันเมืองไปซ่อนแล้วมายืนตรงเหมือนเดิม ด้วยการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและหน้าตายจนคล้ายกับรองหัวหน้าหน่วยป้องกันเมืองที่ตายไป!!

ถ้าหากใครมาเห็น พวกเขาจะต้องตกใจจนไม่อยากจะเชื่อเนื่อ นี่หรอคือพลังของการปลอมแปลง?

“ผู้บัญชการตกอยู่ในอันตราย พวกเราไม่สามารถปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปได้”นักฆ่าก็พึมพำขึ้นมา

วินาทีต่อมา เขาก็ได้สั่งการให้คนเหนือมนุษย์ทั้งหมดถอยกลับ!!

เมื่อหัวหน้าหน่วยป้องกันเมืองได้รับคำสั่ง เขาก็สับสน ทำไมรองหัวหน้าถึงสั่งการแบบนี้มา? หมอนั่นไม่เห็นหรอว่าพวกเขากำลังได้เปรียบหน่ะ?

เพราะพวกเขาต่อสู้กันในระยะประชิต รถถังและเฮลิคอปเตอร์จู่โจมของซูเฉินจึงไม่สามารถจู่โจมในพื้นที่นี้เพราะต้องการไม่ให้ยิงโดนฝ่ายเดียวกัน แม้ว่าทหารเร้ดอะเริ้ทจะมีพลังอยู่ในระดับ 3 ดาวสูงสุด แต่หัวหน้าหน่วยป้องกันเมืองและชายอ้วน ทั้งสองนั้นเป็นคนเหนือมนุษย์ระดับ 5 ดาวและทรงพลังมากซึ่งสร้างความเสียหายอันใหญ่หลวงให้กับทหารของเขา นอกจากนี้ในหมู่คนเหนือมนุษย์นั้นก็ยังมีระดับ 3 ดาว และ 4 ดาวที่สามารถสร้างผลกระทบให้ทหารของเขาได้ด้วย

ในการต่อสู้ไม่กี่นาที ทหารเร้ดอะเริ้ทก็ได้เสียคนไปหลายร้อยคน ส่วนทางฝั่งคนเหนอมนุษย์นั้นก็เสียคนไปเกือบร้อยคน

ถ้าหากเป็นอย่างนี้ต่อไป ผลสุดท้ายนั้นต้องกลายเป็นจุดจบของทหารเร้ดอะเริ้ท ส่วนอีกฝั่งคงเหลือแค่เพียงคนเหนือมนุษย์ระดับ 5 ดาวสองคนเป็นแน่

ดังนั้นแล้ว แม้ว่าหัวหน้าหน่วยป้องกันเมืองจะไม่สบอารมณ์กับคำสั่งของรองหัวหน้าหน่อย แต่เขาก็ยังทำตามไป ยังไงซะ เขาก็มอบอำนาจสั่งการไปแล้วและในตอนนี้รองหัวหน้าหน่วยก็ถืออำนาจสั่งการนั้นไว้

“ถอย!!”

เมื่อได้ยินคำสั่งของหัวหน้าหน่วยป้องกันเมือง เหล่าคนเหนือมนุษย์ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้ววิ่งหนีกลับไป ใครกันอยากจะอยู๋ต่อในสงครามเสี่ยงตายแบบนี้?

หัวหน้าหน่วยป้องกันเมืองก็เดินขึ้นมาบนกำแพงเมืองด้วยความโมโหพร้อมกับจ้องมองหารองหัวหน้าหน่วยป้องกันเมือง แต่เมื่อเขามาถึงแล้วมองหา ใหนหล่ะรองหัวหน้าหน่วย?

“แล้วรองหัวหน้าหน่วยหล่ะ?”หัวหน้าหน่วยป้องกันเมืองก็คว้าคนมาถาม

“หัวหน้าหน่วยครับ หลังจากรองหัวหน้าหน่วยออกคำสั่ง เขาก็ไปจากกำแพงเมือง ส่วนผมไม่รู้ว่าเขาไปใหน”

แต่หลังจากนั้นสักพัก ก็มีคนพบร่างของรองหัวหน้าหน่วยในสถานที่ซ่อนเร้น ทุกคนต่างก็ตกตะลึงเลย ตามการตรวจสอบ รองหัวหน้าหน่วยนั้นตายก่อนที่จะออกคำสั่ง แล้วไอ้รองหัวหน้าหน่วยที่ออกคำสั่งมันใครกัน?

ในเวลาเดียวกัน ในมุมมืดหนึ่งของเมืองฐานทัพ ชายที่ดูธรรมดาก็ติดต่อซูเฉิน “ผู้บัญชาการครับ ผมได้หลบหนีออกมาอย่างปลอดภัยแล้วครับ ไม่มีใครค้นพบตัวผมครับ”

“ดีมาก ขอบใจ หลังจากนี้หาวิธีแทรกซึมเข้าไปในกลุ่มคนระดับสูงของเมืองฐานทัพ แน่นอนว่าอย่าดึงดูดความสนใจนักหล่ะ จำไว้ด้วยว่าจนกว่าความแข็งแกร่งของนายจะไปถึงระดับ 6 ดาว พยายามอย่าติดต่อกับคนเหนือมนุษย์ระดับ 6 หรือ 7 มีความเป็นไปได้ที่พวกนั้นจะมองการปลอมตัวของนายออก”

“ได้ครับ ผู้บัญชาการ”

การติดต่อก็ได้สิ้นสุดลง และชายคนนั้นก็ปรับหมวกแล้วเดินเข้าไปในฝูงชน

ชายคนนี้ก็คือไพ่ตายของซูเฉิน สายลับที่เขาได้รับในล็อตเตอรี่สุ่ม มีเพียงซูเฉินเท่านั้นที่รู้จักตัวตนของเขา และซูเฉินก็ไม่เคยบอกใครด้วย ในฐานะสายลับ ตัวตนของเขานั้นถูกเก็บไว้เป็นความลับ

ความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุดของสายลับก็คือการปลอมตัว หมอนี่สามารถปลอมตัวเป็นใครก็ได้ แต่เงื่อนไขคืออีกฝ่ายจะต้องไม่แข็งแกร่งเกินไป ถ้าหากเขาปลอมตัวเป็นคนเหนือมนุษย์ระดับ 6 หรือ 7 ดาว เขาก็จะถูกเปิดโปงได้โดยง่าย เพราะเขานั้นอยู่แค่ระดับ 5 ดาวเอง

ซูเฉินนั้นได้ให้สายลับปลอมตัวเป็นทหารที่ประตูเมือง และในช่วงสำคัญ หมอนี่ก็จะสามารถฆ่าพวกคนที่มีอำนาจคอยสั่งการบนกำแพงเมืองและยึดตัวตนของคนที่ฆ่ามาใช้

ในตอนแรกเป้าหมายของซูเฉินก็คือหัวหน้าหน่วยป้องกันเมือง แต่โชคร้ายที่หัวหน้าหน่วยป้องกันเมืองลงมาสนามรบด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม ยึดตัวตนของรองหัวหน้าหน่วยมาก็ถือว่าดี เพราะเขาสามารถสั่งการได้

ด้วยการที่ไม่มีคนเหนือมนุษย์คอยขัดขวาง ทหารเร้ดอะเริ้ทจึงสามารถพาตัวซูเฉินและพรรคพวกกลับไปยังกองทัพรถถังแล้วค่อยให้เฮลิคอปเตอร์มารับพวกเขาก่อนที่กองทัพจะเริ่มล่าถอยไป

ยุทธการนี้เริ่มต้นอย่างยิ่งใหญ่จบลงอย่างเงียบงันโดยทิ้งความสับสนให้กับเมืองฐานทัพ ไอ้พวกฐานทัพทหารมันต้องการอะไรกัน?

เนื่องจากคนที่รู้ความจริง รองหัวหน่วยถูกสายลับฆ่าไป คนที่เหลือจึงไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และเหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นเรื่องลึกลับไป

การกระทำของฐานทัพทหารในคราวนี้มันเหมือบกับการตบหน้าเมืองฐานทัพซึ่งทำให้เหล่าคนใหญ่คนโตต่างหัวเสียกันมาก

นี่มันตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เมืองหวังฉางกลายเป็นสถานที่ที่อีกฝ่ายจะไปมาตามใจชอบหน่ะ?

ถ้าหากเป็นแบบนี้ต่อไป เหล่าผู้คนในเมืองฐานทัพคงขาดความเชื่อมั่นต่อเมืองแน่

เพื่อใบหน้าของเมืองฐานทัพ พวกเขาจะต้องลงมือจัดการ!!

“ผู้ควบคุมเมืองบอกไว้ว่าการปิดประตูฝึกตนของเขานั้นจะไม่เกินหนึ่งปี ตอนนี้ เหลือไม่ถึงเดือนก็จะครบปีแล้ว เมื่อผู้ควบคุมเมืองออกมา พวกฐานทัพทหารทั้งหมดได้ตายแน่ ถายใต้ความยิ่งใหญ่ของผู้ควบคุมเมือง อาวุธพวกนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับของเล่น!!”พวกคนอิทธิพลก็พูดเยาะเย้ย

พวกเขานั้นเข้าใจถึงพลังของผู้ควบคุมเมืองเป็นอย่างดี แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีอาวุธมากกว่า แต่พวกนั้นก็ไม่สามารถทัดเทียมกับพลังของผู้ควบคุมเมืองได้

"ปล่อยให้มันหยิ่งยโสไปก่อน ในช่วงนี้ คนของพวกเราไม่ควรจะไปหาเรื่องพวกมัน คอยจับตาดูสถานการณ์ในบริเวณนั้นให้ดีและจะต้องไม่ปล่อยให้เหตุการณ์แบบวันนี้เกิดขึ้นได้อีก!!"

ในช่วงนี้ เมืองฐานทัพและฐานทัพทหารนั้นก็นิ่งเงียบไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆราวกับทั้งสองฝ่ายนั้นไม่สนใจอะไร อย่างไรก็ตาม คนที่ฉลาดบางคนนั้นก็รู้สึกว่าพายุกำลังจะมา

ลั่วฮางนั้นก็แพล่มไม่รู้จบในขณะเดินทางกลับฐาน

กล่าวได้ว่าเขานั้นตื่นเต้นมาก ตอนแรกเขานั้นคิดว่าพวกเขานั้นคงจบสิ้นแล้วแต่เขานั้นไม่คิดว่าพวกเขาจะหนีรอดจากเมืองฐานทัพด้วยวิธีนี้

ถ้าหากเอาเรื่องนี้ไปพูดหล่ะก็ เขากลัวว่าจะไม่มีใครเชื่อหน่ะสิ